ทะเลเป็นสรวงสวรรค์อย่างแท้จริง
นอกจากสาหร่ายฮิบามาตะซึ่งเหมาะสำหรับทำสบู่แล้ว ยังมีสาหร่ายวากาเมะที่ขึ้นอยู่รอบๆด้วย
ที่นี่มีแม้กระทั่งกรีนคาเวียร์ หรือที่รู้จักกันทั่วไปว่าเป็นสาหร่ายพวงองุ่น
แน่นอนว่ายังมีปลาที่กินได้ว่ายอยู่รอบๆ
(แถวนี้มีของที่จำเป็นต่อการอยู่รอดมากมาย)
ผมหวนนึกถึงสภาพแวดล้อมที่ดีเกินควรของเกาะนี้
ถ้าในเกมมีโหมดโกง เกาะนี้ก็เหมือนเป็นหนึ่งในโหมดนั้น
นี่เกือบจะรู้สึกเหมือนเวลาเริ่มเกมใหม่แล้วเปิดโหมดโกง เกาะนี้มันช่างโกงอะไรอย่างนี้
นั่นเป็นเหตุผลที่ผมแน่ใจว่านี่คือต่างโลก
ไม่ว่าจะมองไปทางไหนทั่วญี่ปุ่น หรือแม้แต่ทั่วโลก ก็ไม่มีทางเจอเกาะแบบนี้
ถ้าใช่คงมีการทะเลาะแย่งดินแดนกันแล้ว
「 –ตามที่นายว่ามาทั้งหมด… 」
ผมรายงานสถานการณ์หลังขึ้นจากน้ำ
เกาะนี้มีสภาพแวดล้อมที่ดีมากซึ่งมีโอกาสสูงที่มันจะเป็นโลกคู่ขนาน
「เราควรดีใจกับมัน? 」
「ฉันแค่ดีใจ แต่ฉันคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ซับซ้อนสำหรับมานะและทุกคน」
「ใช่」
มานะและสาวๆ อยากกลับไปญี่ปุ่น
พวกเธอต้องการกลับไปโลกเดิมเป็นที่สุด
การค้นพบใดๆที่สนับสนุนว่านี่คือโลกคู่ขนานจะเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยส่งผลดีนัก
「แต่สำหรับตอนนี้เรามาฉลองกันก่อนดีกว่า」
「เอาจริงดิ? 」
「ที่ฉันหมายถึงคือถ้าเราอยู่บนโลก เราจะต้องเอาชีวิตรอดจนกว่าเราจะสามารถกลับไปญี่ปุ่นได้ นอกจากนี้ แม้ว่าเราจะอยู่ในโลกคู่ขนาน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะกลับไปญี่ปุ่นไม่ได้ ถ้าเรามาที่นี่จากญี่ปุ่น สิ่งที่ตรงกันข้ามควรจะเป็นความจริง ถ้าคิดแบบนั้น การใช้ชีวิตสบายๆอยู่ที่นี่ก็คงเป็นเรื่องที่ดี」
「ฉันเข้าใจแล้ว! ถ้าเรามาที่นี่จากญี่ปุ่น เราก็สามารถกลับไปจากที่นี่ได้」
「ยังมีข้อดีอื่นๆอีก แต่ฉันไม่ยังต้องการพูดมากไปกว่านี้」
「โอเค ตอนนี้ไม่เป็นไรแล้ว ขอโทษและขอบคุณนะ」
เรากลับไปที่ถ้ำทันทีที่การสนทนาของเราจบลง
ถ้วยที่ผมถืออยู่มีสาหร่ายและน้ำทะเล
ในขณะเดียวกัน มานะกำลังถือเปลือกหอยอยู่ในถ้วยของเธอ
ดูเหมือนว่าริต้า ลิงจอมกวนตีนจะทำงานหนักใช่ย่อย
「ขอบคุณนะริต้า แล้วเจอกันใหม่นะ」
「อุกิกิกิ!! 」
ริต้ากอดมานะและฝังใบหน้าบนหน้าอกของเธอ
มันยิ้มให้ผมแล้วปีนต้นไม้ออกไป
◇
ทักษะของพี่น้องอาซากุระนั้นเหนือกว่าที่ผมคาดไว้
「วันเดียวพวกเธอสองคนทำได้ขนาดนี้เลยเหรอ ฉันขอโทษนะ」
「เราใช้อุปกรณ์ที่เรามีในกระเป๋าของเรา ดังนั้นคุณภาพของมันจึงออกมาคุณภาพดี」
「อย่าถ่อมตัวเลยนะ นี่มันยอดเยี่ยมมาก」
พวกเธอจัดเครื่องนอนของทุกคนเสร็จในตอนพลบค่ำ
นอกจากนี้ยังเป็นทั้งฟูกและผ้าปูที่นอน
มันเป็นฟูกญี่ปุ่นคุณภาพสูงที่คุณไม่มีทางจะเจอได้ ณ ที่แห่งนี้
มันดูเป็นแผ่นแข็งๆมากกว่าฟูก แต่ก็ดีเพียงพอ
「หินนั่นก็ดีนะ แต่มันแข็งจนปวดไปหมด」
มานะลองใช้งานฟูกที่เพิ่งทำเสร็จใหม่ๆ และเธอก็อมยิ้มออกมา
พี่น้องอาซากุระยิ้มเมื่อมองดูมานะ
「ฉันเข้าใจล่ะ มันเป็นผ้าปูที่นอนจากฟาง นั่นเป็นความคิดที่ดีเลยนะ」
「ฉันคิดมันขึ้นมาเอง เลยไม่รู้จะเรียกว่าอะไร」
เราลองชุดเครื่องนอนที่พี่น้องอาซากุระทำแลวางอาหารเย็นไว้ข้างๆ
หลังจากสนุกกันพอสมควรแล้ว เราก็เริ่มทานอาหารเย็นกันต่อ
「ไม่ใช่แค่เมย์โกะนะที่ทำงานหนัก」
อาริสะพูดด้วยท่าทางไม่พอใจ
วันนี้เธอสามารถตกปลาได้สิบตัว
เธอออกไปตกปลาทันทีหลังอาหารกลางวัน หมายความว่า ตั้งแต่เช้าเป็นเวลาประมาณเจ็ดชั่วโมง เธอตกปลาจนเริ่มชำนาญแล้ว
「อาริสะทำดีมาก ทุกคนก็เหมือนกัน」
เอริเองก็เก็บของกินมาเต็มกระเป๋า
ส่วนใหญ่เป็นเห็ด แต่เธอยังเจอผลไม้และพืชป่าอื่นๆ ที่กินได้อีกมากมาย
ปริมาณอาจจะไม่เยอะ แต่สิ่งที่น่าสนใจคือน้อยหน่าออสเตรเลีย(เชอโมริย่า ไม่ต่างต่างจากน้อยหน่าไทยมาก เพียงแต่เป็นชื่อสายพันธุ์ของมัน จากนี้จะขอเรียกย่อๆว่าน้อยหน้า)
「นี่กินได้ไหม? ฉันเพิ่งเก็บมันมา」
「ไม่ใช่แค่กินได้ แถมมันยังอร่อยอีกด้วย เพียงแต่มันไม่ค่อยนิยมในญี่ปุ่น」
「เฮ้ ดูสิ มาฉลองกันเถอะ เอริประสบความสำเร็จบางอย่าง! 」
คารินกับผมตื่นเต้นมากที่ได้เห็นน้อยหน่า
ดูเหมือนว่าเอริจะเก็บเกี่ยวมาไม่มาก
น้อยหน่าเป็นผลไม้ที่มีรูปทรงคล้ายแอปเปิ้ล
นั่นคือจุดที่ความคล้ายคลึงเดียวที่มี เนื่องจากเนื้อในของมันแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง
มีลักษณะเป็นใบเป็นชั้นๆ
เนื้อของมันมีสีขาวและรสที่เข้มข้น จุดเด่นของมันคือความหวานและความเปรี้ยวที่รุนแรง
ฉายาของมันคือไอศกรีมแห่งผืนป่า
「น้อยหน่าส่วนใหญ่ที่อยู่รอบยังไม่สุกดี แต่ดูเหมือนลูกเอริเก็บมานั้นสุกได้ที่พร้อมทานแล้ว」
「จริงเหรอ? ถ้าโฮคาเงะคุงตื่นเต้นกับมันขนาดนี้ ฉันเดาว่าผลไม้นี้คงอร่อยมาก」
「ฉันคิดว่าเรากินมันนี้ได้แล้ว แต่เรามีแค่สี่ลูกเท่านั้น เรามาผ่าครึ่งกันเถอะ」
ผมตัดแบ่งน้อยหน่าด้วยมีดหินที่ผมสร้างขึ้นเมื่อวานนี้
มันโดนลับคมมาอย่างดีจนไม่ทำให้ส่วนที่โดนผ่าเสียรสชาติ
ผมหั่นน้อยหน่าในมีดเดียว
「ใครจะรู้ว่าที่นี่มีอะไรอีกบ้าง เพราะฉะนั้นอย่ากินมันนะ」
เราล้างมันอย่างระมัดระวัง แต่ถึงแบบนั้นอันตรายจากอาหารเป็นพิษก็ไม่สามารถละเลยได้
ท้ายที่สุดแล้ว คนญี่ปุ่นมีร่างกายที่บอบบางกว่าคนชาติอื่นๆ
เมื่อพูดอย่างนั้น ผมหยิบช้อนหินที่ผมทำไว้เมื่อวานนี้
กลิ่นหอมหวานที่ลอยอยู่ในอากาศและเนื้อสีขาวของมันบ่งบอกว่ามันต้องอร่อยแน่ๆ
พอได้กินจริงๆแล้วนั้น…
「นี่มันอร่อยสุดๆไปเลย」
อร่อยมากจนผมเผลอพูดออกไป
「จริงเหรอเนี่ย?! นี่มันผลไม้อะไรกัน! มันอร่อยสุดๆไปเลย!! 」
อาริสะบอกมันว่าแซ่บแค่ไหน
มานะและคารินและพี่น้องอาซากุระก็มีรอยยิ้มมาตามๆกัน
「ฉันแปลกใจจริงๆที่ผลไม้หน้าตาประหลาดแบบนี้จะอร่อยขนาดนี้」
เอริที่เป็นคนเก็บมันมาด้วยตัวเองก็มีความสุข
จากนั้นเราก็ทานอาหารเย็นกันอย่างมีความสุข
การทำอาหารหรือผมควรจะพูดว่าการย่างคืองานของสาวๆ
ส่วนผมนั้นกำลังเตรียมถนอมอาหาร
เริ่มจากรมควันปลา ทำให้เรามีอาหารที่เราสามารถเก็บไว้ได้
เราแบ่งปลาถนอมได้ง่ายเพราะอาริสะตกปลาได้เยอะ
ผมเตรียมเครื่องปั้นดินเผาไว้สามขนาด
อันใหญ่คือเหยือกน้ำ นี่คือที่ที่เราใส่น้ำในแม่น้ำ
ขนาดกลางสำหรับผลไม้และวัตถุดิบในการปรุงอาหาร
ขนาดเล็กสำหรับสกัดน้ำทะเล
「วัตถุดิบต่างๆของเราเริ่มมีมากขึ้น นี่เป็นเรื่องที่ดี」
เรามองไปรอบๆถ้ำหลังอาหารเย็น
ถ้ำที่ไม่มีอะไรในตอนแรกตอนนี้กำลังมีของเต็มไปหมดอยู่
ทางเข้ามีเครื่องมือหินและเครื่องปั้นดินเผา ส่วนด้านในก็มีฟูก
เรากำลังเริ่มกักตุนไม้และหิน มันทำให้รู้สึกว่าเรากำลังพัฒนาไปเรื่อยๆ
「อีกไม่นานเราอาจจะสร้างบ้านได้」
「「「「「 บ้าน? 」 」 」 」 」 」
สาวๆตกใจกับคำพูดของผม
「ว่ากันด้วยความเป็นไปได้ที่จะมีคนอื่นอีกที่มาอยู่กับเราเพิ่มที่นี่จะแคบเกินไป ฉันต้องการบ้านถ้าเป็นกรณีนี้」
「ได้สิ แต่โฮคาเงะสร้างบ้านได้ไหม? 」มานะถาม
「เพียงแค่หลุมไว้อยู่อาศัยธรรมดา มันเป็นสิ่งที่คนยุคโจมงสร้างขึ้น ฉันคิดว่าฉันสามารถทำได้นะ」
「ว้าว โฮคาเงะ นายทำอะไรก็ได้จริงๆเป็นนักเอาชีวิตรอดตามที่ฉันคาดไว้จริงๆ」
「โฮกาเกะเยี่ยมสุดๆ! ฉันดีใจที่เลือกอยู่กับโฮคาเงะไม่ใช่เรย์โตะ」
「อ่าฮะ ฉันก็คิดเหมือนกัน」อาริสะและเอริหัวเราะ
「ดี การสร้างบ้านต้องใช้เวลาอีกมาก เรายังไม่ได้ทำอ่างอาบน้ำด้วยซ้ำ สำหรับตอนนี้เราแค่ต้องเพิ่มอาหารที่เก็บรักษาไว้ เราไม่รู้ว่าโลกนี้มีสี่ฤดูหรือไม่
แต่ถ้ามี เราก็จะต้องตุนอาหารไว้ให้เพียงพอกับอีกหลายเดือน」
หากว่าที่นี่มีสี่ฤดู ฤดูหนาวคงหมดหวังที่จะมีชีวิตรอด
ความหนาวเย็นทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของลดลง และอัตราการรอดชีวิตเองก็จะลดลง
ด้วยปริมาณอาหารที่มีจะเป็นปัญหา
เราจำเป็นต้องเตรียมตัวเพื่อที่เราจะรอดไม่ว่าขะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม
「พรุ่งนี้พวกเราคงจะยุ่งมาก งั้นไปนอนกันเถอะ」
ด้วยเหตุนี้ วันที่สามของการเอาชีวิตรอดในต่างโลกของเราจึงจบลงอย่างสวยงาม
จากนั้นวันที่สี่จะเปิดเริ่มต้นพร้อมกับอากาศที่สดใส…หรือฉันหวังไว้อย่างนั้น
ซ่าาาา!!! ซ่าาาา!!!
โครมโครมโคร่มโคร่ม!!
ซ่าาาา! ซ่าาาา!!
ผมตื่นขึ้นยามดึกเพราะเสียงดัง
ผมขยี้ตาและมองไปรอบๆ ถ้ำ
ในที่สุดเมื่อเข้าใจสถานการณ์ผมก็ตะโกน
「ลุกขึ้นทุกคน!ท่าไม่ดีแล้ว! เราเจอพายุ!! 」
ดูเหมือนว่าพายุจะสาดเข้ามาในถ้ำ
————————
ปล.แปลแล้วยังต้องหาข้อมูลด้วยนะเรื่องนี้
ติดตามผู้แปลได้ที่ แปลด้วยพลังใบ
MANGA DISCUSSION