「เอริ ทำไมเธอถึงกลัวไส้เดือนล่ะ! 」
「ชั้นไม่ชอบที่มันหยึยๆอะ ชั้นแปลกใจจริงๆที่อาริสะรับได้」
「ไม่ชัดเจนเหรอ? ชั้นไม่สามารถตกปลาได้ถ้าชั้นไม่ใช้ไส้เดือน」
「โนโนโน ตอนแรกอาริสะก็กลัว」
「หุบปากโฮคาเงะ! นายไม่จำเป็นต้องพูดหรอกนะ! 」
มืดแล้วและเราทำงานเสร็จแล้ว ตอนนี้เรากำลังเพลิดเพลินกับอาหารเย็นหน้าถ้ำ
อาหารเย็นของเราวันนี้เป็นปลาที่อาริสะจับมาได้และเห็ดที่มานะเก็บมา
ทุกคนได้ปลาย่างคนละชิ้น
「เป็นเรื่องที่ดีที่เราใช้ทุกเคล็ดลับที่มีในหนังสือโดยใช้ผงกะหรี่ แต่การย่างด้วยเกลือนั้นวิเศษสุดๆ! 」
อาริสะพูดขณะที่ปลาเต็มปาก
ทุกคน รวมทั้งผมเห็นด้วยกับความเห็นนี้
คราวนี้ไม่ใช่ผงกะหรี่ แต่เป็นเกลือจริงๆ
เราสกัดเกลือจากน้ำทะเล
ผมตักน้ำโดยใช้เครื่องปั้นดินเผาที่ผมสร้างขึ้นและใช้ความร้อนเพื่อทำให้น้ำระเหย
การลองชิมปลาย่างเกลือโดยใช้เกลือที่ทำเองกับมือมีรสชาติอร่อยกว่าปกติจริงๆ
「ตอนนี้ก็กลายเป็นสภาพแวดล้อมในอุดมคติแล้ว」
คารินกล่าว
ผมรู้ว่าเธอสังเกตเห็น
「อุดมคติ นายหมายถึงอะไร? 」
มานะเอียงคอสงสัย
อาริสะกับเอริก็มีคำถามเหมือนกัน
「สภาพอากาศไม่ร้อนหรือเย็นเกินไป และเราไม่รู้สึกอึดอัดจากความชื้น นอกจากนี้เรายังมีทรัพยากรมากมาย แม่น้ำและทะเลอยู่ใกล้ ๆ
และเราสามารถรวบรวมวัสดุรอบตัวได้อย่างง่ายดาย ยิ่งกว่านั้น เราอยู่ในถ้ำ ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องตั้งแคมป์กันฝน ที่นี่เหมาะมาก」
「นายพูดถูก! คาริน เธอยอดเยี่ยมจริงๆ! ดูเหมือนเธอจะรู้เรื่องมากกว่าโฮคาเงะซะอีก! 」
อาริสะพูด
「ไม่หรอก ชั้นไม่ซีเรียสกับเรื่องนี้เท่าโฮคาเงะ ชั้นไม่มีความรู้เรื่องการเอาตัวรอด มีแต่ความรู้ด้านประวัติศาสตร์」
「ผู้คลั่งไคล้ประวัติศาสตร์! คูลมั่ก! 」
คารินไม่ได้พูดอะไรแต่แก้มของเธอเหมือนจะแสดงออกว่าเขินนิดหน่อย
「อุณหภูมิและความชื้นและทรัพยากรนั้นยอดเยี่ยมและยังมีเรื่องที่ดีกว่านี้อีกนะ」
「อะไรอีกเหรอ? 」
คารินไม่รู้
สาวๆคนอื่นก็สงสัยเช่นกันเมื่อได้ยินอย่างนั้น
ผมให้คำตอบโดยคาดหวังปฏิกิริยานั้น
「มันคือยุง ที่นี่ไม่มียุง」
「อา」
คารินแสดงปฏิกิริยาตามที่ผมคาดไว้
ปฏิกิริยาของเธอทำให้ผมขำออกมา
「นายพูดถูก ไม่มียุง แต่เป็นเรื่องใหญ่เหรอ? 」
มานะถาม
「ถ้าเจอยุงเราก็ฆ่ามันได้! ตบพวกมันให้ดี! เป็นความสามารถพิเศษของชั้นเลยนะ ชั้นมั่นใจสายตาของชั้นมากนะ! 」
อาริสะพูดติดตลก
「ยุงเป็นสิ่งมีชีวิตที่ทำให้มนุษย์เสียชีวิตมากที่สุดประวัติศาสตร์」
「「「จริงดิ? 」 」 」
ทุกคนประหลาดใจยกเว้นคาริน
คารินเป็นคนเดียวที่พยักหน้า
「เมื่อยุงกัดเธอ เธอกำลังตกอยู่ในอันตรายจากโรคติดเชื้อ ที่ญี่ปุ่นไม่อันตรายมากพอ และแทบไม่มีใครเอาจริงเอาจังกับพวกมัน
แต่ในประเทศอื่น ๆ พวกเขาระวังตัวกันมาก จำนวนผู้เสียชีวิตจากโรคที่มียุงเป็นพาหะมีมากกว่า 100,000 คนต่อปี」
「 「เหหหหหหหหหหห!!! 」 」
นอกจากสภาพภูมิอากาศที่ดีแล้ว ยุงก็ไม่มี
หากสถานะปัจจุบันนี้เป็นเกม คุณสามารถพูดได้ว่าเราอยู่ในเกมใหม่ที่ยอดเยี่ยมสุดๆ
หากคนจากยุคโจมงมาที่นี่ เขาคงสบายจนหลั่งน้ำตา
สำหรับคนทันสมัยอย่างเรา เราก้าวไปข้างหน้าได้โดยไม่มีปัญหาอะไร
「ถึงอย่างนั้น เราก็สบายดีสำหรับวันที่สอง」
มานะมองไปที่ถ้ำ
ที่ผนังทางเข้ามีเครื่องปั้นดินเผาและเครื่องมือหินเรียงกันเป็นแถว
「โฮคาเงะคุงทำงานหนักมาก」
เอริมองมาที่ผมด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอ
ผมไม่สามารถมองตรงเข้าไปในดวงตาของเธอได้
ฉันอาจจะโด่ทันทีถ้าผมจ้องเธอมากเกินไป(คนแปล:ติดใจสุดแหละแบบนี้)
นั่นคือความ ง ของชายวัย18ปีที่ยิ่งใหญ่มาก
「พรุ่งนี้พวกเราจะทำอะไรกันดี? 」
ดวงตาของมานะเป็นประกาย
ไม่เหมือนวันแรก ตอนนี้มานะสนุกกับปัจจุบัน
แม้ว่าเธอจะรู้สึกว่าอยากกลับบ้าน แต่เธอก็ปรับตัวได้
「ชั้นอยากอาบน้ำ」
อาริสะร้องลั่น
「ชั้นเห็นด้วย ชั้นก็อยากอาบน้ำ」
เอริก็ตามมา
「งั้นเราไปอาบน้ำกันดีไหม? 」
มานะถาม
「ถ้าพวกเธออยากอาบน้ำก็ไปอาบได้ พรุ่งนี้จะอาบน้ำให้สนุกคงจะยาก แต่ถ้าเราให้ความสำคัญกับมันเป็นอันดับแรก เราก็สามารถอาบน้ำได้ภายในหนึ่งสัปดาห์
ถึงมันจะไม่สะดวกสบายเหมือนการอาบน้ำในญี่ปุ่นก็ตาม」
「 「 「 「 โอ้! 」 」 」 」
คารินพึมพำ “ว้าว”
「โฮคาเงะ นายสามารถทำอะไรก็ได้ นายมันอัจฉริยะ」
「ไม่เชิงหรอก ชั้นทำได้แต่ของดั้งเดิมเท่านั้นแหละ」
ในการสนทนานั้น ผมได้ตระหนักถึงความแตกต่างระหว่างชายและหญิง
อ่างอาบน้ำไม่ได้อยู่ในลำดับความสำคัญของผมแม้แต่น้อย
ผมสามารถเอาผ้าไปชุบน้ำน้ำเพื่อเช็ดเหงื่อออกแค่นั้นเอง
นั่นเป็นวิธีที่ผทคิด แต่ผู้หญิงต่างกัน
「ถ้าสาวๆต้องการจัดลำดับความสำคัญใหม่ พรุ่งนี้เราจะเตรียมทำอ่างอาบน้ำ แต่ชั้นคิดว่าเรื่องอื่นอาจล่าช้า」
「อะไรอีก? 」คารินถาม
「การเตรียมพร้อมสำหรับสภาพอากาศเลวร้าย การถนอมอาหาร อีกทั้งสุขอนามัยของเรา ชั้นกำลังคิดจะทำสบู่」
「หือ ทำสบู่ได้หรอ! โฮคาเงะน่านายทึ่งมาก! นายเท่เกินไปแล้ว! 」
อาริสะตื่นเต้น
คารินยังแปลกใจ
「ชั้นเตรียมงานเสร็จแล้ว ดังนั้นมันจะไม่ยุ่งยากขนาดนั้น แต่ถ้าเราจะทำห้องน้ำก่อนก็ต้องใช้เวลาพอสมควร」
「อืม ถ้าอย่างนั้นทำไมเราไม่ทำอ่างอาบน้ำก่อนล่ะ? 」
คารินเสนอ
สาวๆตกลงโดยไม่มีข้อยกเว้น
「การอาบน้ำสำคัญก็จริง แต่เราต้องให้ความสำคัญกับการอยู่รอดของเราก่อน」
「ถูกตัอง อาริสะ พรุ่งนี้อย่าลืมจับปลาเพิ่มนะ」
「ก็อตสึ! ปล่อยให้เป็นหน้าที่ชั้นคนนี้! 」
อาหารที่เราจะถนอมไว้จะเป็นปลารมควัน
วันนี้เรามีปลาสามตัวเก็บไว้แล้ว
พรุ่งนี้จะต้องเพิ่มขึ้นอีกสองเท่า
จากที่อริสาพูด เธอดูเหมือนจะเข้าใจมัน
「นั่นเป็นการพูดคุยที่น่าสนใจดีนะ เราขอร่วมวงกับพวกนายด้วยได้ไหม? ถ้าพวกนายโอเค」
เป็นช่วงที่เรากินองุ่นที่มานะหามาได้
สองสาวโรงเรียนเดียวกันพูดมาจากทางทิศเหนือ
คนที่คุยกับเราคือเพื่อนร่วมชั้นของเรา “อาซากุระ เมย์โกะ”
เธอผมตรงยาว หน้าม้าสีดำ ส่วนสูงเป็นสัดส่วน
เธอเป็นผู้หญิง แต่เธอก็สูงเกือบเท่ากับผม ซึ่งหมายความว่าเธอสูงถึง 170 ซม.
เธอดูน่ารักแต่เธอดูจะไม่ค่อยมีเพื่อนเท่าไหร่
นั่นเป็นเพราะเธอเป็นคนเงียบในโรงเรียนและอ่านหนังสือในช่วงพักเที่ยง
ผมไม่เคยเห็นเธอเป็นสุงสิงกับใคร
ถ้าจำไม่ผิด เธอน่าจะอยู่ในชมรมหัตถกรรม
「อาซากุระและอีกคนคือ… 」
เมื่อมองไปที่ผู้หญิงที่อยู่เบื้องหลังเมย์โกะ เราก็แปลกใจ
เมย์โกะตอบกลับด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยสนใจนัก
「เธอเป็นน้องสาวของชั้น ฮินาโกะจากปี 1」
「ดูเหมือนว่าไม่ใช่แค่ชั้นเรียนของเราที่ถูกพามาเกาะนี้」
มานะกล่าว
ผมก็คิดเหมือนกัน
มีนักเรียนที่โดนพามาเกาะนี้กี่คน?
————————————–
ติดตามผู้แปลได้ที่เพจ แปลด้วยพลังใบ
MANGA DISCUSSION