ผมตื่นขึ้นในเช้าวันรุ่งขึ้นด้วยความเจ็บปวด
(ลมหายใจของผม…)
ผมไม่สามารถหายใจได้ตามปกติ
มีบางอย่างมาทับหน้าผม
เกิดอะไรขึ้น ทำไมตื่นมาแล้วถึงหายใจไม่ออก?
ผมหาคำตอบไม่ได้
「อั่ก อั่กก!!!」
ผมอยู่ในความตื่นตระหนก
ผมลืมตาตื่นและพยายามขยับตัว
ดูเหมือนว่าผมจะขยับร่างกายได้ มาประเมินสถานการณ์กัน
จากนั้นผมก็สังเกตเห็น
「อะไร?! รอเดี๋ยว! โฮคาเงะ! 」
นั่นคืออริสะ
「นายมันไอคนฉวยโอกาส!ชั้นไม่เคยคิดว่านายจะจู่โจมในขณะที่ชั้นหลับ」
「ไม่ใช่นะ ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่」
ผมปฏิเสธด้วยความตื่นตระหนก
「เกิดอะไรขึ้น? 」
มานะและสาวๆ ตื่นขึ้น
「ฟังนะ! โฮคาเงะจู่โจมชั้นตอนชั้นกำลังหลับ」
「ไม่มีทาง?! เรื่องจริงเหรอ!? 」
มานะตกใจ
ดวงตาของเอริกับคาริน เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
ตาของเธอยังงัวเงียอยู่ แต่พวกเธอกำลังโรคจิตอยู่
「ไม่ใช่นะ ดูสิ เธอต่างหากที่เข้ามานอนในที่ของชั้น」
「หือ? 」
อาริสะแปลกใจ
「ฟังนะ ตรงนี้คือที่ที่ชั้นนอนเมื่อคืนนี้ ชั้นใช้หนังสือเป็นหมอน」
ผมอ้างข้อกล่าวหาเท็จเกี่ยวกับข้อสงสัยของพวกเธอ
เหนือสิ่งอื่นใด ผมมีหลักฐานว่าผมอยู่ในที่ของผม
「ถ-ถ้าอย่างนั้นก่อนหน้านี้มันคืออะไร! นายกำลังเอาหน้าของนายซุกหน้าอกของชั้นนะ! 」
ถึงกระนั้น อาริสะก็ยังอ้างว่าผมมีความผิด
「ก็เพราะว่าเธอมาอยู่บนตัวชั้น」
「หือ? 」
แม้แต่อาริสะยังแปลกใจ
「 「 「 ………. 」 」 」
สาวๆอ้าปากค้างอย่างงงๆ
「ชั้นนอนลงเหมือนคนตาย ชั้นนมั่นใจในท่านอนที่ไร้สาระของชั้นน เมื่อชั้นหลับฉันจะไม่เปลี่ยนท่าจนกว่าชั้นจะตื่น
ชั้นเป็นไอบ้าเอาชีวิตรอดที่ประกาศตัวเองดังนั้นชั้นไม่เสียแรงโดยเปล่าประโยชน์หรอก」
「จริง」
มานะ คณะลูกขุนพยักหน้า
「มีเหตุผล」
เอริ
「ตกลงตามนั้นค่ะ」
คารินด้วย
「จากนั้นชั้นก็ตื่นขึ้นเพราะชั้นหายใจไม่ออก และต้นเหตุก็คือ… 」
「ชั้น? 」
「ถูกตัอง อาริสะ หน้าอกของเธอปิดหน้าชั้นไปหมด นอกจากนี้ฉันไม่รู้ว่าเธอนอนตรงไหน แต่เธอควรรู้ว่าเธอตื่นมาที่ต่างจากตอนที่เธอนอน 」
ผมมองไปจุดจุดนึง
บางทีนั่นอาจเป็นที่ที่อาริสะนอน
ทำไมผมถึงรู้ เป็นเพราะหนังสือเรียนกระจายอยู่รอบๆ
นอกจากนี้ มันคือหนังสือเรียนของเธอ
「 「 「 อา 」 」 」
ทำให้สาวๆมั่นใจว่าเป็นอาริสะ
พวกเขาละทิ้งข้อกล่าวหาของผม
◇
「ขอโทษที! ที่ชั้นทำกับนายเหมือนเป็นไอโรคจิต! 」
อาริสะขอโทษด้วยน้ำเสียงกลัวเล็กน้อย
「ชั้นอยากจะรอดจากสถานการณ์เหล่านี้จริงๆ … 」
「ชั้นรู้ ชั้นขอโทษจริงๆ! ชั้นจะระวังในครั้งต่อไป」
รุ่นพี่ที่ทำงานพาร์ทไทม์เกือบข่มขืนอาริสะ
บางทีประสบการณ์นั่นคือสิ่งที่ทำให้เธอกังวลใจ
การกล่าวหาที่ผิดๆ ทำให้ผมเย็นชาในทันที แต่เนื่องจากฉันสามารถพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของผมได้ พวกเขาจึงหยุดเค้นผม
「วันนี้พวกเราจะทำอะไรกันดี? 」
มานะถามขณะกินเห็ดเป็นอาหารเช้า
「เอาล่ะ เราจะตกปลา! 」
อาริสาตอบ ไม่ใช่ผม
「ชั้นอยากทำอย่างอื่นที่ไม่ใช่ตกปลา」
「เธอพูดอะไร?! 」
「ตกปลาก็ดีเหมือนกัน」
เรามีพืชและเห็ดเป็นอาหาร
ดังนั้นการตกปลาจึงไม่ใช่เรื่องสำคัญ แต่ผมเห็นด้วยกับแนวคิดนี้
เราไม่สามารถปล่อยให้ความเครียดใดๆ เกิดขึ้นกับสมาชิกได้
นอกจากนี้เรายังสามารถทำสิ่งอื่นๆได้ในขณะที่อยู่ในแม่น้ำ
「ฉันจะทำเบ็ดตกปลาให้อาริสะ แล้วคนอื่นล่ะ? 」
「 「 「 ………. 」 」 」
ดูเหมือนไม่มีใครสนใจไปตกปลานอกจากอริสะ
ผมถอนหายใจในใจ
ถ้าทุกคนบอกว่าอยากจับปลาก็คงจะไม่ดีเท่าไหร่
「อะไร?! ชั้นเป็นคนเดียวที่ต้องการจับปลา? 」
「ถูกตัอง. จากที่กล่าวมา ชั้นจะต้องขอให้คนอื่นช่วยรวบรวมหิน」
「หิน? หมายถึงก้อนหินแถวๆนั้นเหรอ? 」
มานะเอียงศีรษะสงสัย
「ถูกตัอง แต่อย่าเก็บก้อนกรวดมา ให้เลือกเฉพาะก้อนที่มีขนาดพอเหมาะ ชั้นต้องการทำขวาน มีด หอก และอาวุธอื่นๆ 」
「ถ้าเป็นอย่างนั้น นายไม่ต้องการไม้เหรอ? 」
เอริ
「เดาได้เร็วหนิ เราต้องการกิ่งไม้ด้วย หินใช้สำหรับส่วนปลาย ชั้นอยากให้เธอรวบรวมอันที่ดีๆที่เธอเจอ แม้ว่าเราจะใช้เป็นเครื่องมือหินไม่ได้แต่เราก็สามารถใช้มันก่อกองไฟได้」
「 เอริกับมานะไปเก็บกิ่งไม้นะ เข้าใจไหม? ชั้นจะเก็บหินเอง」
คารินกล่าว
สายตาของเธอหันมาหาฉัน
「ชั้นไม่ได้มีความรู้มากเท่าโฮคาเงะ แต่ชั้นก็ยังพอรู้อยู่บ้าง ชั้นสามารถเลือกและหาเครื่องมือที่ใช้ทำหินได้ และชั้นคิดว่าฉันคนเดียวก็พอสำหรับงานนี้ นายล่ะว่าไง? 」
นั่นจะเป็นประโยชน์อย่างมาก
ดวงตาของคารินแสดงความมั่นใจ ควรจะมอบสิ่งนี้ให้กับเธอ
「ตกลง ชั้นจะให้คารินเก็บก้อนหิน เอริช่วยดูแลเรื่องกิ่งไม้หน่อยนะ มานะ เธอไปเก็บพืชและเห็ดได้ไหม ชั้นคิดว่าอาริสะจะจบลงโดยที่เธอแแห้ว 」
「แห้ว? 」
มานะเอียงศีรษะของเธอ
「ชั้นไม่ได้ไปหาแห้ว! 」
อาริสะพูดเรื่องไร้สาระบางอย่าง
「ชั้นหมายความว่าเธออาจจะจับปลาไม่ได้เลย กล่าวอีกนัยหนึ่ง อาริสะอาจไม่สามารถหาปลาได้ 」
「ดูนั่น! 」
ด้วยเหตุผลบางประการ มานะจึงย่อ “ชั้นเห็น” เป็น “เห็น”
「นายกำลังดูถูกชั้น โฮคาเงะ! ดูชั้นนะ! 」
อาริสะแสดงความั่นใจ
แม้ว่าผมจะไม่คิดว่ามันจะเปลี่ยนผลลัพธ์ๆด้
สิ่งที่สำคัญคือเธอพยายาม
「บริเวณเราควรอยู่ที่ริมแม่น้ำและอย่าไปไกลเกินไป หากเธอพบสัตว์นักล่าให้วิ่งกลับไปที่ถ้ำพร้อมกับตะโกนดังๆ」
「 「 「 「 โรเจอร์!(รับทราบ) 」 」 」 」
สาวๆทำความเคารพด้วยเหตุผลบางอย่าง
「แล้วโฮคาเงะจะทำอะไร? 」
มานะถาม
「อย่างแรก ช้ันจะทำคันเบ็ดให้อาริสะ แม้ว่าชั้นจะเรียกมันว่าเบ็ดตกปลา แต่มันก็เป็นแค่ด้ายและหมุดที่ติดอยู่กับไม้ไผ่」
โชคดีที่ผมมีตะขอตกปลา
การทำคันเบ็ดตกปลาเป็นเสน่ห์ของการเอาตัวรอดอย่างแท้จริง
ถึงพูดนอกเรื่องแต่ว่าใช้กระดูกสัตว์เป็นเบ็ดตกปลาก็ดูสนุกดีนะ
「จากนั้นเราจะทำเครื่องปั้นดินเผา」
「 「 「 เครื่องปั้นดินเผา? 」 」 」
สาวๆ แปลกใจ ยกเว้นคาริน
คารินทำหน้าเมินๆ “รู้แล้ว”
「ฟังดูโบราณมาก! นี่มันยุคโจมง(ยุคหินของญี่ปุ่น ประมาณ40,000ปีก่อนศริสต์ศักราช)เหรอเนี่ย! 」
อริสาพูดอย่างตื่นเต้นเล็กน้อย
「ฟังดูไม่เหมือนเลย แต่มันอยู่ในยุคจูมงพอดี นั่นคืออารยธรรมของเราในตอนนี้จริงๆ」
ยุคหินหรือยุคโจมง
นี่คือช่วงยุคที่เราเจอกับสภาพแวดล้อมของเราในตอนนี้
———————————————————————
ติดตามผู้แปลได้ที่ แปลด้วยพลังใบ
MANGA DISCUSSION