เหล่าอาจารย์หญิงสุดแกร่งที่อยากจะให้ผมเทพเค้าตีกันเรื่องแนวทางการฝึกจนวอดวายหมดแล้วเนี่ย - ตอนที่ 17 สถานการณ์ประหลาด (1)
- Home
- เหล่าอาจารย์หญิงสุดแกร่งที่อยากจะให้ผมเทพเค้าตีกันเรื่องแนวทางการฝึกจนวอดวายหมดแล้วเนี่ย
- ตอนที่ 17 สถานการณ์ประหลาด (1)
“ ถ้างั้นก็ ผมไปก่อนนะครับ! ”
สองวันให้หลังจากการสอบชิงสิทธิ ยามเช้า
ครอสที่ทำเรื่องประสานงานติดต่ออะไรต่อมิอะไรเสร็จเรียบร้อยจนกลับมารับการศึกษาที่โรงเรียนต่อได้อย่างเป็นทางการแล้วนั้น พลันวิ่งออกจากคฤหาสน์ไปด้วยรอยยิ้มสดใสร่าเริง
เนื่องจากฐานทัพของพวกลีโอเน่ตั้งอยู่ห่างจากโรงเรียนนิดๆ จึงจำเป็นต้องออกเดินทางเร็วนิดหน่อยเพื่อไม่ให้เข้าคาบเรียนล่าช้า
ฝีเท้าของเด็กหนุ่มนั้นเบาหวิวซะอย่างกับอะไร เผลอแปปเดียวร่างของครอสก็หายวับเข้าไปในทางเดินลับใต้ดิน อันเป็นทางเข้าออกหลักของคฤหาสน์สุดหรูหลังนี้ไปแล้ว
“ ………? มีอะไรกันรึ? เมื่อครู่นี้เห็นครอสวิ่งออกไปด้วยท่าทางตื่นเต้นพอประมาณเลยนี่นา ทำไมถึงไม่ฝึกวิชากับแกซะแล้วล่ะลีโอเน่ หึ หรือว่าครอสจะหมดรักในตัวพวกแกเข้าเสียแล้ว? ”
ผู้ที่กล่าวเช่นนั้นออกมาด้วยรอยยิ้มเย็นชา ก็คือไฮเอลฟ์ผมบลอนด์ที่เดินทางกลับมายังคฤหาสน์สุดหรูราวกับสลับเปลี่ยนตัวกันกับครอส ลูด์มิร่านั่นเอง…..เนื่องจากต้องไปสะสมรวบรวมวัตถุดิบมาทำยาสูตรลับให้กับครอส ก็เลยเที่ยวตระเวนเดินทางไปทั่วสารทิศ เพิ่งกลับมาเมื่อเช้านี้เองน่ะ
หลังจากทำคทาอันยาวที่ใช้นั่งตอนเปิดสกิลเหินฟ้าให้เล็กลงแล้วเก็บกลับเข้าไปในกระเป๋า ลูด์มิร่าก็ยิงคำถามด้วยคำพูดกึ่งๆหยอกล้อใส่ลีโอเน่กับเทโลเมียร์ที่มายืนเฝ้าส่งครอสอยู่ที่สวน
แต่ผิดไปจากความคาดหมายของลูด์มิร่า ลีโอเน่กลับทำสีหน้าจริงจัง…….ซีเรียสสุดๆไปเลย ก่อนจะพูดต่อออกมาว่า
“ ไม่ใช่เฟ้ย เมื่อวานซืนไอ้เจ้าครอสมันผ่านสอบชิงสิทธิกลับเข้าเรียนไง ก็เลยจะต้องเริ่มไปโรงเรียนตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปอะนะ ”
“ ……….? พูดเรื่องอะไรน่ะ ได้ยินว่าการสอบชิงสิทธิของที่นั่นมันยากพอสมควรเลยไม่ใช่รึ น่าจะยังลำบากมากเกินไปสำหรับเด็กคนนั้นนะ ”
ฟังไม่เข้าใจว่าลีโอเน่พูดอะไรออกมา ลูด์มิร่าจึงถามกลับไปด้วยสีหน้าสับสน
“ ………..เกี่ยวกับเรื่องนั้นน่ะน้าาา ”
เป็นฉับพลันนั้นเอง ที่เทโลเมียร์ส่งอะไรบางอย่างให้กับลูด์มิร่า
สิ่งนั้นก็คือสเตตัสเพลทของครอส——หรือถ้าจะให้ถูก ก็คือ สเตตัสเพลทตัวก๊อปปี้
เป็นสเตตัสเพลทแบบที่เจ้าตัวต้องไปยื่นเรื่องให้ทางโบสถ์ช่วยสร้างให้ โดยเวอร์ชั่นนี้มันจะแตกต่างกับตัวต้นตำรับก็ตรงที่ค่าตัวเลขซึ่งแสดงอยู่ภายในจะไม่เปลี่ยนแปลงไปจากตอนที่ถูกสร้าง แต่ก็ยังเหมือนกับต้นตำรับอยู่ตรงที่เจ้าของไม่อาจปลอมแปลงตัวเลขได้ ผู้คนจึงมักใช้เจ้าสิ่งนี้ในการประชุมจัดกองทัพเพื่อทำศึกในระดับใหญ่อยู่บ่อยๆ
สำหรับนักผจญภัยแล้ว การถูกล่วงรู้สเตตัสหรือสกิลเนี่ยบางครั้งก็อาจมีผลสืบเนื่องไปถึงชีวิตได้เลย ฉะนั้นในตอนที่ทำเรื่องสร้างตัวก๊อปปี้ จึงสามารถเลือกเนื้อหาได้ว่าจะให้แสดงอะไรบ้าง ไม่ให้แสดงอะไรบ้าง…..แต่สเตตัสเพลทก๊อปปี้ของครอสตัวนี้ เป็นของที่ถูกสร้างขึ้นโดยจำลองจากของเดิมโดยสมบูรณ์แบบ ดังนั้นจึงมีข้อมูลและรายละเอียดทุกอย่างของตัวต้นตำรับถูกเก็บเอาไว้อยู่ภายในนี้ทั้งหมดเลย ต่างตรงที่ข้อมูลในตัวก๊อปปี้นี้มันจะไม่อัพเดตโดยอัตโนมัติเท่านั้นเอง
“ พวกแกสองคนเป็นอะไรน่ะ ทำไมต้องอุตส่าห์ให้ครอสสร้างของเช่นนี้ขึ้นมาด้วย……. ”
“ เอาเหอะน่าลองเปิดดูเหอะ อยากจะขอฟังความเห็นของหล่อนหน่อย ”
ลีโอเน่พูดต่อพลางยืนอยู่เคียงข้างลูด์มิร่าที่กำลังจ้องสายตาลงมายังก๊อปปี้เพลทด้วยสีหน้ามึนๆ
“ หล่อนเคยสอนเวทมนตร์ให้พวกเอลฟ์ผู้หญิงอยู่ช่วงนึงใช่มั้ยล่ะ ที่อยากจะขอฟังความเห็นเนี่ยมันก็เพราะว่าไอ้เจ้าความเร็วในการเติบโตของสกิลที่แสดงอยู่ตรงนั้นมัน—— ”
เป็นในฉับพลัน….ที่ลีโอเน่พินิจพิเคราะห์ว่าลูด์มิร่าน่าจะอ่านเพลทจบหมดแล้ว และกำลังจะพูดลากเข้าประเด็นหลักอยู่นั่นเอง
“ ………..อะ………อะ……….. ”
ที่ลูด์มิร่าซึ่งแล่นสายตาไปตามก๊อปปี้เพลท พลันเบิกดวงตาอันเรียวยาวได้รูปทั้งสองข้างนั่นออกกว้าง ร่างกายทั้งตัวสั่นเทิ้มหงึกๆ ก่อนที่จะ
““ ขึ่ก!? อ๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยย!? ””
สวนถูกแปลงสภาพกลายเป็นขุมนรกอเวจีไปในเฉียบพลัน
กลุ่มก้อนเปลวเพลิงความหนาแน่นสูงลิ่วสุดกู่ที่ถูกยิงปลดปล่อยออกมาพลันถาโถมกลืนกินลีโอเน่กับเทโลเมียร์เข้าไป ก่อนจะขุดพื้นดินให้กระจุยขึ้นมาครั้งใหญ่ แค่ควันหลงอย่างเดียวก็เกือบจะทำให้คฤหาสน์สุดหรูถูกเผามอดไหม้ลงกับพื้นแล้ว ผืนดินที่จมดิ่งลงไปก็หลอมละลายด้วยพลังงานความร้อนมหาศาล สภาพหยั่งกะปากปล่องภูเขาเลยอีก …..อานุภาพการโจมตีสูงลิ่วจนไม่อยากเชื่อเลยว่าเป็นเวทมนตร์ที่ไม่ต้องใช้คำร่าย
และในพริบตาถัดมา ผืนดินที่แปรสภาพกลายเป็นแม็กม่านั่นก็ถูกเป่ากระจุย พร้อมกับที่มีเงา 2 เงาค่อยๆชะเง้อหน้าปรากฎตัวขึ้นมาจากพื้นที่จมดิ่งเป็นหลุมนั่น
“ จู่ๆเล่นบ้าอะไรของหล่อนวะนังเอลฟ์งี่เง่า! ”
“ นิสัยไม่ดีอ่าา…..ไลฟ์สต็อคส่วนของวันนี้หายไปหนึ่งเลยเห็นม๊าย~ ”
ลีโอเน่ที่ใช้สกิลป้องกันต้านการโจมตีเอาไว้ กับเทโลเมียร์ที่รักษาบาดแผลให้หายเป็นปลิดทิ้งในฉับพลันเดียวก่อนจะบ่นอิดออด
แม้ทั้งคู่จะอยู่ในสถานะเกือบๆไร้แผล แต่เสื้อผ้าที่น่าจะถูกยกระดับความทนทานขึ้นมาด้วยเวทแปรรูปนั่นกลับยับเยินไปหมด ทั้งสองที่อยู่ในสภาพกึ่งๆโป๊พลันพุ่งทะยานตรงเข้าหาเรื่องแว้ดใส่ลูด์มิร่าทันที ทว่าลูด์มิร่ากลับพูดต่อออกมาด้วยท่าทางข่มขู่มากยิ่งกว่าอีก
“ หุบปากไปเลยเจ้าพวกปัญญานิ่ม! ไม่คิดเลยว่าพวกแกมันจะโง่เง่าเต่าตุ่นได้มากถึงเพียงนี้! ”
“ อ๊าาา!? พูดบ้าอะไรของหล่อนน่ะยัยเพิ้ง!? ”
“ อย่าแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องเสียให้ยาก! พวกแกใช้สมบัติลับสุดยอดของดราโกเนียใส่ครอสใช่ไหมล่ะ!? อย่าบอกนะว่าใช้ศาสตราเทพที่ถูกผนึกของโบสถ์มาประยุกต์เสริมกำลังเข้าไปด้วยน่ะ!? ”
พอลูด์มิร่าลั่นคำขาดออกมาโดยไม่ยอมเงี่ยหูฟังคำพูดใดๆของลีโอเน่แล้ว คุณหล่อนแกก็พลันกล่าวตำหนิติติงออกมาอย่างต่อเนื่องด้วยท่าทางเหมือนเปี่ยมล้นไปด้วยความมั่นใจ
“ จริงอยู่หรอกว่าหากการเติบโตของครอสล่าช้ามากเกินไป ก็อาจจำเป็นสมควรต้องใช้สมบัติลับสุดยอดของแต่ละเผ่าพันธุ์มาช่วยด้วย แต่เล่นใช้มันตั้งแต่การฝึกขั้นแรกเริ่มเลยเช่นนี้พวกแกยังสติดีอยู่แน่หรือ! หากใช้ก่อนที่ครอสจะเติบโตเต็มที่เราก็ไม่อาจให้ครอสออกไปต่อสู้กับนักล่าฝีมือดีเพื่อกระตุ้นการเติบโตได้น่ะสิ แถมที่สำคัญ ประสบการณ์ที่เก่งแข็งแกร่งขึ้นโดยไม่จำเป็นต้องฝึกฝนใดๆเลยเช่นนี้ ดูยังไงก็มีแต่จะส่งผลเสียต่ออนาคตของครอสเพียงอย่างเดียวชัดๆ! ”
พอลูด์มิร่ากุมหัวตัวเองด้วยความเสียใจอย่างสุดซึ้งแล้ว คุณหล่อนเค้าก็เค้นเสียงออกมาอย่างจนตรอก
“ เห็นว่าสอนวิชาได้ไม่เลวก็เลยวางใจปล่อยไป แต่ที่ไหนได้…….ฉันนี่มันจริงๆเลย ตัดสินใจพลาดไปถนัดเลย……! ไม่น่าไปกำชับกับเด็กคนนั้นว่า [อย่าเล่าเหตุการณ์ในระหว่างฝึกให้ฟังนะ] เลย…….ขุ่ก ฉันควรจะสอนวิชาให้ครอสด้วยตัวคนเดียวตั้งแต่แรกแล้วจริงๆด้วย! ไม่สิตอนนี้ก็ยังไม่สาย คราวนี้แหละจะซ้อมเอาพวกแกให้น่วมหมดสภาพ แล้วฉันก็จะเลี้ยงดูเด็กคนนั้น——- ”
“ เฮ้ยยัยบ้านี่ใจเย็นๆก่อนเฟ้ยนังเอลฟ์สติไม่เต็มเต็ง! ”
พอเห็นลูด์มิร่าที่เริ่มจะแผ่จิตสังหารของแท้ออกมาเช่นนั้นแล้ว ลีโอเน่ก็พลันตะโกนออกมาพลางใช้แขนยกเอาแม็กม่าขว้างอัดเข้าใส่ไปด้วย
“ พูดบ้าบออะไรของหล่อนน่ะ! พวกฉันไม่ได้ใช้สมบัติลับสุดยอดของดราโกเนียหรือศาสตราเทพที่ถูกผนึกอะไรทั้งนั้นแหละ! แถมถ้าใช้สมบัติลับสุดยอดของดราโกเนียจริงๆละก็สเตตัสมันจะพุ่งพรวดในรวดเดียวไม่จบอยู่แค่นี้หรอกเฟ้ย! ”
“ ข้ออ้างหยั่งกับเด็กเล็กพรรค์นั้นใครที่ไหนมันจะไปเชื่อ! ถ้าอย่างนั้นแล้วเจ้าระดับความเร็วในการเติบโตที่แปลกประหลาดสุดขั้วนี่มันคืออะไรกัน!? ”
“ ………นั่นปะไร มันพิลึกจริงๆด้วยสินะ? ”
พอได้ยินคำพูดของลูด์มิร่าปุ๊บ ลีโอเน่ที่น่าจะอารมณ์ร้อนมากที่สุดในหมู่ 3 คนก็พลันพึมพำออกมาด้วยสีหน้านิ่งเฉย
ส่วนลูด์มิร่าที่เห็นท่าทางแบบนั้น ก็ค่อยสงบอารมณ์ทวงคืนเอาความเยือกเย็นกลับมาได้ในที่สุด ก่อนที่จะเค้นเสียงพูดออกมาอย่างงุนงง
“ ……..อะไรกัน? อย่าบอกนะว่า พวกแกไม่ได้ทำอะไรเลยจริงๆงั้นรึ? ”
“ ก็เออดิ เพราะงี้แหละถึงได้บอกไงว่าอยากจะขอฟังความเห็นของหล่อนที่เคยรับลูกศิษย์มาก่อนน่ะ ”
ตามเดิมแล้วไม่จำเป็นต้องรอให้ลูด์มิร่ากลับมาเลยด้วยซ้ำ แค่ถามซาริเอร่าที่ตัวแข็งทื่อพูดว่า [ <<ไร้อาชีพ>> เนี่ยนะ……ใช้เอ็กตร้าสกิล……..!?] ในตอนที่ครอสสอบผ่านนั่นก็ได้แล้วด้วยซ้ำ
แต่เพราะไม่อยากจะเผยข้อมูลการเติบโตที่ดูแหม่งๆนี้ของครอสให้ถูกรู้ไปเป็นวงกว้าง พวกลีโอเน่ก็เลยตัดสินใจรอลูด์มิร่านั่นเอง
ลูด์มิร่าตัดสินใจยอมเชื่อคำพูดของพวกลีโอเน่ที่ว่า “ไม่ได้ใช้สมบัติลับสุดยอด” ชั่วคราว จากนั้นจึงมองไปยังก๊อปปี้เพลทของครอส พลางพูดความเห็นของตนออกมาราวจัดเรียงความคิด
“ ……..ดูกี่ครั้งก็ปักใจเชื่อไม่ลง ถึงแม้พวกเราจะทุ่มสุดกำลังช่วยกันฝึกฝนเลี้ยงดูก็เถอะ แต่หากไม่ใช่คนที่มีแววระดับผู้สืบทอดตระกูลขุนนาง ก็ไม่น่าจะมีระดับการเติบโตรวดเร็วมากถึงเพียงนี้ได้เลย….อาจจะแปรผันได้ตามปัจจัยหลากรูปแบบก็จริง แต่ระดับความชำนาญของสกิลนั้น มันต้องฝึกฝนอย่างหนักเป็นเวลาราว 2 อาทิตย์เลยกว่าจะอัพขึ้นมาได้ 1Lv —นั่นแหละคือความเร็วการเติบโตของคนปกติ…..หนำซ้ำนี่ยังเป็นค่าเฉลี่ยที่บวกตัวเสริมความเร็วการเรียนรู้สกิลของแต่ละ <<คลาส>> กับสกิลโบนัสที่จะเกิดขึ้นในตอนที่เลเวลอัพเข้าไปแล้วด้วยนะ การที่ <<ไร้อาชีพ>> ซึ่งไม่มีตัวหนุนช่วยเสริมอะไรเช่นนั้นเลยจะเติบโตได้ขนาดนี้ภายในเดือนเดียวนี่…..หากให้พูดตามตรงแล้ว ก็คือสถานการณ์ประหลาดดีๆนี่เอง ”
“ หา…….? ฝึกตั้ง 2 อาทิตย์แต่อัพมากสุดได้แค่ 1Lv…….? ไอ้พวกคนปกตินี่มันเติบโตชักช้ากันขนาดนั้นเลยเรอะ? ”
“ เป็นค่าเฉลี่ยของคนที่ทุ่มเทพยายามฝึกฝนแทบตายแล้วจริงง่ะ……..? นะ น่าสงสารจังเลยอ่าาา……. ”
“ นี่พวกแกสอนครอสโดยไม่มีความรู้ขั้นพื้นฐานเช่นนั้นเลยด้วยซ้ำหรือ…….. ”
พอเห็นอัจฉริยะทั้งสองถึงกับอึ้งตะลึงงันไป ลูด์มิร่าก็พลันเค้นเสียงพูดออกมาอย่างเพลียจับจิต
“ แต่ถ้างั้น แล้วไอ้เนี่ยมันหมายความว่ายังไงกันอะ? ”
ลีโอเน่เอานิ้วดีดก๊อปปี้เพลทของครอส
“ ไม่รู้ อาจจะมีความถนัดในด้านสกิลสายสู้ระยะประชิดเป็นพิเศษ หรือไม่ก็……. ”
ระหว่างที่กล่าวเช่นนั้น ลูด์มิร่าก็ร่ายสกิลสามัญระดับสูง <<ประเมินค่าระดับต่ำ>> ลงไปยังก๊อปปี้เพลท
แต่ก็เป็นจริงตามที่ลีโอเน่กับเทโลเมียร์พูดว่า “พวกตนเองก็ลองทำดูแล้ว แต่ไม่ได้ผลอะไรเลย” ไม่มีข้อมูลที่เด่นเป็นเอกลักษณ์ปรากฎขึ้นมาเลยแม้แต่นิด
เป็นตรงนี้เองที่ลูด์มิร่าไปหยิบเอาเมจิคไอเท็มบางอย่างออกมาจากห้องของตน
สิ่งนั้นก็คือเมจิคไอเท็มระดับสูงลิ่วสุดกู่ ที่มีสกิลประเมินค่าระดับสูงที่แท้จริงแบบที่ <<พ่อค้า>> ใช้ได้ถูกผนึกอยู่แบบจำกัดจำนวนครั้งการใช้งาน….มีรูปทรงเหมือนกระจกถือ แต่มีคริสตัลโปร่งใสถูกยัดใส่อยู่แทนที่ตรงบริเวณตัวกระจก ลูด์มิร่าเอาเจ้าสิ่งนี้ฉายไปยังก๊อปปี้เพลท ก่อนจะใส่พลังเวทเข้าไป
และแล้วก็พลันมีรอยปื้นประหลาดโผล่ขึ้นมาตรงช่องสกิลผ่านจอคริสตัล ทั้งสามที่เอาหัวแนบจ้องมองผลลัพธ์การประเมินอยู่พร้อมกันถึงกับเบิกตาออกกว้าง
“ เฮ้ย ไอ้นี่มันอย่าบอกนะว่า…….อำพรางสกิลเรอะ…….? ”
อำพรางสกิล
ในยามที่ประสบเหตุบางประการจนมีความจำเป็นที่จะต้องเปิดเผยสเตตัสทั้งหมดอย่างมิอาจเลี่ยง แต่กระนั้นแล้วก็ยังมีสกิลที่อยากจะปกปิดไม่ให้ใครเห็นและล่วงรู้ได้—-ก็มีเจ้าสกิลนี้แหละที่จะสามารถช่วยอำพรางปกปิดให้ ทว่า ผู้ที่สามารถใช้งานสกิลระดับสูงสุดกู่ที่มีอิทธิพลจวนเจียนเกือบๆจะสามารถแก้ไขปลอมแปลงสเตตัสเพลทเช่นนี้ได้นั้น มันมีจำนวนอยู่น้อยนิดเพียงหยิบมือเดียวเท่านั้นเอง ไม่ใช่สิ่งที่น่าจะถูกใช้ใส่ครอสที่เป็นแค่เด็กกำพร้าธรรมดาเลยแม้แต่นิด
หนำซ้ำ สกิลอำพรางที่ถูกใช้อยู่กับสเตตัสเพลทของครอสมันยังมีระดับการปกปิดหนาแน่นเอาเรื่องเลยอีกต่างหาก แม้จะใช้สกิลประเมินค่าระดับสูงแล้ว แต่ก็ยังไม่อาจมองเห็นเนื้อในของสกิลที่ถูกปกปิดไว้ได้อยู่ดี
ถ้าเป็นแบบนี้แล้ว บางทีนี่อาจจะไม่ใช่สกิลอำพรางก็ได้ เป็นไปได้สูงอยู่เหมือนกันว่าอาจจะเกิดเหตุที่ไม่คาดคิดบางประการขึ้นกับสเตตัสเพลท หรือไม่ก็ตัวครอสเอง ทำให้ได้ออกมาเป็นข้อผิดพลาดแบบนี้……แต่ก็ไม่ทราบรายละเอียดมากพอจะตัดสินแบบนั้นได้
ถ้าจะสืบให้ได้มากกว่านี้ ก็คงเห็นทีต้องใช้สกิลประเมินของ <<พ่อค้าระดับสูงสุด>> เท่านั้นแล้ว……แต่ก็ไม่อยากจะเผยแพร่กระจายข้อมูลสถานการณ์ประหลาดที่กำลังเกิดขึ้นอยู่กับตัวครอสนี่ให้ถูกล่วงรู้ไปเป็นวงกว้างอีก
แถมจะให้ไปขอร้องไอ้พวกสาย <<พ่อค้า>> ที่ไม่รู้ว่ามันแอบคิดวางแผนอะไรอยู่ลับหลังรึเปล่านั่นช่วยประเมินผลให้น่ะเรอะ ต่อให้โลกล่มสลายก็ไม่มีวันยอมทำหรอก
“ ……..จะยังไงก็ตามแต่ ไม่ใช่เรื่องที่ควรจะเอาไปเล่าให้ผู้อื่นฟังได้โดยง่ายเลย เกี่ยวกับสกิลประเมินผลระดับสูงสุดนี่ฉันพอจะมีความคิดอยู่ เอาเป็นว่าช่วยกันคิดหาทางพิสูจน์และวิเคราะห์เฉพาะในหมู่พวกเราเองไปก่อนซักระยะก็แล้วกัน ”
แน่นอนว่าต้องปกปิดเป็นความลับไม่ให้ครอสรู้ไปจนกว่าจะได้ผลด้วย
ทั้งสามพยักหน้าเห็นตรงกัน ก่อนจะจ้องมองต่ำลงมายังรอยปื้นสีดำที่ปรากฎขึ้นมาอยู่เหนือสเตตัสเพลทของศิษย์รักอีกครั้ง