ห้วงแห่งความทุกข์กับผู้หญิง
[มุมมองของ ฮินากิ ซูซุริคาว่า]
“ยูกิโตะ ฉันไม่ได้มีความรักหรือมีปฏิสัมพันธ์ใดๆทางกายแบบคนที่รักกัน กับรุ่นพี่เขาหรอกนะ” (ซูซุริคาว่า)
แล้วฉันก็ได้เปิดเผยตัวตนของฉันออกอย่างหมดจด มันไม่มีอะไรที่จะต้องปิดบัง การโกหกกับตัวของตัวฉันเองนั้นมันจบลงแล้ว ฉันแค่ต้องบอกเขาไปให้หมดทุกอย่าง ฉันต้องบอกกับเขา และนั่นก็คือแรงกระตุ้นของฉัน มันถูกกระตุ้นนั้นด้วยเรื่องนั้นเพียงเรื่องเดียว
“อย่าหันออกไปนะ มองมาที่ตาฉันตรงๆสิ” (ซูซุริคาว่า)
“ทำไมเธอถึงต้องทำขนาดนี้ด้วยล่ะ?” (ยูกิโตะ)
“ก็เพราะว่าฉันไม่อยากที่จะถูกเข้าใจผิดอีกน่ะสิ” (ซูซุริคาว่า)
“เข้าใจผิด?” (ยูกิโตะ)
“ฉันชอบนายมาโดยตลอดนะ ยูกิโตะ” (ซูซุริคาว่า)
ฉันไม่รู้เลยว่าทำไมตลอดเวลาที่ผ่านมานั้นฉันถึงพูดเรื่องง่ายๆแบบนี้ออกไปไม่ได้ แล้วนั่นก็เลยต้องทำให้เราต้องมาลำบากกันขนาดนี้
ในตอนนั้นฉันน่ะใจร้อนและรู้สึกหงุดหงิด ฉันคิดว่ามีแต่ฉันที่กำลังพยายามเข้าหาเขาอยู่ เพราะว่าคำตอบแต่ละอย่างของเขานั้นมักจะดูเฉยเมย และก็เพราะว่าฉันไม่เคยที่จะเห็นรอยยิ้มของเขาเลย ฉันจึงคิดไปว่าบางทีเขานั้นอาจจะไม่ได้ชอบฉันอยู่ก็เป็นได้ หรืออย่างการที่ได้มาอยู่กับฉันนั้นมันน่าเบื่อรึเปล่า? ด้วยความคิดเหล่านั้นมันจึงทำให้ฉันรู้สึกไม่สบายใจ
ฉันเป็นคนที่ขี้ขลาด ฉันไม่กล้าที่จะบอกความรู้สึกของฉันออกไป แต่กลับแค่คิดเพียงแค่อยากจะรู้ว่าเขานั้นรู้สึกอย่างไร แล้วก็ตอนนั้นเองที่รุ่นพี่ได้มาสารภาพความรู้สึกกับฉัน ฉันจึงได้ตัดสินใจที่จะใช้ประโยชน์จากเรื่องนี้ และเมื่อฉันบอกกับเขาไปว่ารุ่นพี่สารภาพความรู้สึกกับฉันแล้ว เขาก็กลับตอบกลับมาตามปกติเหมือนกับไม่มีอะไรเลย
[“อ่อ เข้าใจแล้วล่ะ” (ยูกิโตะ)]
แล้วนั่นก็คือสิ่งที่เขาได้ตอบ
ทำไมกันล่ะ? มันจะเป็นเรื่องจริงไหมที่ฉันจะไปคบกับรุ่นพี่? นี่เขาไม่คิดอะไรอย่างนั้นบ้างเลยงั้นเหรอ? ยูกิโตะ นายยอมที่จะถูกรุ่นพี่ขโมยตัวฉันไปจากนายงั้นเหรอ? ฉันนั้นรู้สึกสับสนและก็เศร้าใจ และฉันก็ได้ยึดติดอยู่กับเรื่องนี้เพื่อเป็นความหวังสุดท้ายของฉัน ถ้าหากว่าฉันนั้นออกไปคบกับรุ่นพี่คนนั้น เขาอาจจะหึงฉันเอาก็ได้ ฉันมันโง่เองที่เลือกทางผิดโดยคิดว่ามันน่าจะยังมีโอกาสอยู่
ถ้าหากว่าฉันซื่อตรงได้เหมือนกับตอนนี้ ฉันมันใจเลยว่าเรื่องเหล่านี้มันก็จะไม่เกิดขึ้น ฉันควรที่จะเผชิญหน้ากับเขาอย่างตรงไปตรงมา และบอกเขาไปว่าฉันนั้นรู้สึกอย่างไร แล้วสิ่งที่ฉันกลับทำลงไปนั้นคือสิ่งที่เลวร้ายที่สุดที่ฉันจะไปทำได้ ฉันนั้นไม่ได้บอกอะไรกับเขาเลย ฉันก็แค่ใช้รุ่นพี่คนนั้นเพียงเพื่อประโยชน์ของตัวฉันเอง ฉันไม่มีความรู้สึกอะไรกับเขา ฉันเองก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเขานั้นเป็นคนยังไง ฉันเห็นมันเป็นเพียงเรื่องที่สะดวกกับฉัน ที่จะได้รู้ว่ายูกิโตะนั้นจะรู้สึกอย่างไร
แล้วความผิดพลาดนั้นก็กลับกลายมาเป็นความเสียใจอย่างรวดเร็ว ทันทีที่ฉันได้บอกกับเขาไปว่าฉันกำลังคบกับรุ่นพี่ เขาจึงบอกฉันมาว่าเขานั้นกำลังเตรียมที่จะสารภาพความรู้สึกกับฉัน ตัวของฉันนั้นรู้สึกเหมือนถูกแช่แข็ง ทำไมกัน..… ทำไมเขาไม่ยอมบอกกับฉันให้เร็วกว่านี้อีกสักหน่อยล่ะ? ฉันแทบอยากจะทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างและตอบรับคำสารภาพของเขา แต่ว่าในตอนนั้น ตัวฉันไม่สามารถตอบกลับไปได้ เนื่องจากฉันจะต้องไปยกเลิกความสัมพันธ์ของฉันกับรุ่นพี่ออกไปเสียก่อน แล้วฉันก็รู้สึกเหมือนกับว่าที่ดวงตาของยูกิโตะยิ่งมืดมนขึ้นไปอีก ราวกับว่าดวงตาทั้งสองข้างที่ดูลึกๆนั้นเหน็ดเหนื่อยและอ่อนล้า
จากนั้นก็ผ่านไปเป็นเวลาสองสัปดาห์แล้วที่ฉันนั้นได้เริ่มคบกับรุ่นพี่ ความสัมพันธ์ของเรามันไม่ได้ใกล้เคียงกับความรักเลยสักนิด ก็แน่นอนล่ะว่ามันต้องไม่ เพราะนั่นไม่ใช่ความรู้สึกที่ฉันนั้นมี ฉันไม่ได้สนใจตัวเขาเลย และไม่ได้รู้สึกว่าเขาเป็นคนสำคัญอะไรเลยสักนิด ในตอนนั้นเองที่ฉันนั้นได้รู้ว่ายูกิโตะนั้นรู้สึกอย่างไร แล้วนี่มันก็ดูเป็นปัญหามากเกินกว่าคาดไว้ไปอีกด้วย ถ้าหากว่าฉันรู้เรื่องผู้ชายคนนั้นมากกว่านี้อีกสักหน่อย มันคงไม่ต้องพูดเลย ฉันนั้นจะต้องไม่อยากที่จะคบกับรุ่นพี่คนนี้แน่นอน แล้วบางทีเขาคงอาจจะรำคาญกับการที่ฉันนั้นขาดการแสดงออกในความสัมพันธ์อยู่อย่างนี้ ดังนั้นเขาจึงบังคับให้ฉันจูบเขา
มันน่าขยะแขยง มันแทบไม่น่าเชื่อเลย! ทำไมฉันถึงต้องมาอยู่กับคนๆนี้กัน! ยูกิโตะเป็นเพียงคนเดียวเท่านั้นสำหรับตัวฉัน! แล้วความรู้สึกที่น่ากลัวขยะแขยงนั้นทำให้ฉันถึงกับขนลุก: มันเป็นความรู้สึกของการปฏิเสธที่จะมีมลทิน แล้วหลังจากนั้นฉันก็พบว่าตัวเองนั้นได้ผลักเขาออกไปอย่างสุดกำลังและวิ่งออกหนีออกจากห้องไป และพอฉันได้กลับถึงบ้านแล้ว ฉันก็ได้ส่งข้อความไปหารุ่นพี่คนนั้นและบอกกับเขาไปว่าความสัมพันธ์ของเรานั้นจบลงแล้ว
และหลังจากเรื่องที่เกิดไปแล้วนั้น ก็ได้เริ่มมีข่าวลือแพร่สะพัดไปทั่ว มันเป็นข่าวลือที่ว่าฉันนั้นได้มีสัมพันธ์ทางกายกับรุ่นพี่คนนั้นไปแล้ว
รุ่นพี่เขานั้นดูจะโกรธมากจนไปบอกกับทุกๆคนว่าเขาได้มีเซ็กส์กับฉันไปแล้ว แล้วข่าวลือเหล่านั้นแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว สำหรับนักเรียนมัธยมต้นผู้ไร้เดียงสาที่อยู่ในช่วงวัยแรกรุ่นแล้ว มันก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าอีกเรื่องหนึ่งของความบันเทิง ฉันนั้นได้พยายามอย่างเต็มที่ที่จะปฏิเสธเรื่องนั้น แต่การปฏิเสธของฉันที่ได้บอกไป ก็ทำให้คนรอบตัวฉันนั้นทำเพียงแค่ยักไหล่เท่านั้น แต่มันไม่มีทางหรอกนะที่ฉันโง่ถึงกับขนาดที่จะไปคุยกับคนแปลกหน้า เพื่อที่จะไปบอกพวกเขาว่าฉันไม่ได้มีเซ็กส์กับรุ่นพี่คนนั้น ก็เพราะคนส่วนใหญ่นั้นไม่ได้สนใจหรอกว่าข่าวลือนั้นน่ะมันจะเป็นความจริงรึเปล่า…..
ผู้คนส่วนใหญ่นั้นไม่สนใจความจริงหรือข้อเท็จจริงของข่าวลือ เหมือนกับที่เขาพูดกันว่าข่าวลือนั้นมันก็จะเป็นเพียงข่าวลืออยู่เพียง 75 วัน แต่หากว่าหลังจาก 75 วันไปแล้ว มันก็จะกลายมาเป็นความจริง ฉันได้ไปด่าว่ารุ่นพี่คนนั้น ว่าทำไมเขาถึงเล่าเรื่องโกหกที่น่ากลัวให้พวกคนเหล่านั้นฟังกันด้วย? แต่ที่มันแย่ที่สุดคือฉันเองก็โกหกด้วยเหมือนกัน ฉันเป็นเด็กผู้หญิงที่น่ารังเกียจ ที่ดันไปยอมตอบรับคำสารภาพจากคนที่ฉันไม่ชอบด้วยซ้ำ แต่กลับที่จะพยายามใช้ประโยชน์จากมัน ฉันมันแย่ที่สุดและเขาก็แย่ที่สุดด้วยเหมือนกัน ฉันเดาว่าพวกคุณคงน่าจะพูดได้ว่าเรานั้นก็ดูออกจะเป็นคู่ที่เหมาะกันดีนี่
แล้วข่าวลือที่ว่านั้นก็ได้ไปถึงหูของน้องสาวของฉัน และก็พ่อแม่ของฉัน น้องสาวของฉันนั้นชอบยูกิโตะมาก บางทีนั่นก็คงจะเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเธอถึงได้มองมาหาฉันด้วยสายตาแบบนั้น มันเป็นแบบที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อน มันเต็มไปด้วยการดูถูกจากพวกเขา ราวกับมองว่าตัวเธอนั้นเป็นเพียงอะไรที่มันสกปรก ราวกับว่าตัวฉันเป็นอะไรที่ดูโสโครก แล้วพ่อแม่ของฉันก็เรียกฉันออกมาคุย และฉันก็ได้ปฏิเสธในเรื่องที่ว่าฉันมีเซ็กส์กับเขา อย่างไรก็ตาม น้องสาวและพ่อแม่ของฉันก็ยังคงโกรธฉันกับสิ่งที่ฉันได้ทำลงไป ฉันจึงเอ่ยถามพวกเขาออกไปว่า
[“… แล้วยูกิโตะรู้เรื่องนี้ด้วยหรือเปล่าคะ” (ฮินากิ)]
เขาคือความรักในชีวิตของฉัน ฉันไม่อยากให้เขารู้เรื่องข่าวลือพวกนี้ ฉันอยากที่จะให้เขานั้นเชื่อว่านี่มันเพียงเป็นเรื่องโกหก แต่มันดูจะเป็นเพียงจินตนาการง่ายๆ ถึงอย่างไรก็ตาม ข่าวลือพวกนี้ก็ได้แพร่กระจายออกไปไกลมากแล้ว มันเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะไม่รู้ เขาน่าจะต้องเคยได้ยินข่าวลือพวกนี้แล้วแน่ๆ และถึงแม้มันจะเป็นแค่ในการเอ่ยลอยๆ ถึงแม้ว่าฉันจะใช้มันไปเพื่อความสะดวกของตัวของฉัน แต่เพราะว่าฉันกับรุ่นพี่กำลังคบกันอยู่ในเวลานั้น มันก็คงจะไม่แปลกอะไรที่จะเข้าใจว่าเราจะทำอย่างนั้นกันไปแล้ว มันจึงทำให้ความน่าจะเป็นของข่าวลือนั้นยิ่งน่าเชื่อถือมากขึ้น
ฉันจะต้องรีบเคลียร์ความเข้าใจผิดนี้! แม้ว่าฉันจะร้อนใจไปเท่าไหร่ แต่ความกลัวที่จะพบหน้ายูกิโตะ และมองมาที่ฉันแบบเดียวกับที่น้องสาวของฉันนั้นได้ส่งมาให้ มันจึงทำให้ขาฉันถึงกับสั่นจนฉันขยับไม่ได้ ฉันทนไม่ได้หากว่าเขานั้นจะมองมาที่ฉันแบบนั้น มองเหมือนอย่างกับเขาเห็นฉันเป็นสิ่งโสโครก ดังนั้นฉันจะ-
ฉันจะกลับไปไล่ตามเขา ฉันตัดสินได้ใจแล้ว แต่ทว่าเขานั้นกลับได้ไปทุ่มเททุกอย่างให้กับกิจกรรมของชมรมโดยไม่สนใจอย่างอื่นเลย ข้อเท็จจริงอันนี้ก็ยิ่งทำให้ฉันนั้นทรมานมากยิ่งขึ้น ทำไมล่ะ! นี่นายไม่สนใจฉันบ้างเลยเหรอ!? นี่นายลืมฉันแล้วงั้นหรือ? ฉันไม่เคยเห็นหรือได้ยินเสียงร้องไห้ที่เขานั้นอกหักเลย และในตอนนั้น ความรู้สึกของฉันก็พลันแตกสลาย…
ข่าวลือได้กลายมาเป็นความจริงที่อย่างไม่มีการโต้แย้ง และในทันใดนั้นความสัมพันธ์ของเราก็หายไป เขากลายเป็นคนไกลห่างและกลับไปโดดเดี่ยวอีกครั้ง
ทั้งหมดมันเป็นความผิดของฉัน… ฉันที่เป็นคนพยายามใช้รุ่นพี่คนนั้น มันเป็นความผิดของฉันทั้งหมด…
ยูกิโตะ ยังคงนั่งฟังความเศร้าเสียใจของฉันอยู่อย่างเงียบๆ ถ้าหากฉันเปิดใจกับเขาไปตั้งแต่ตอนนั้น ฉันมั่นใจว่าสิ่งเหล่านี้มันก็จะไม่เกิดขึ้น เขาที่มักจะยอมฟังในที่ฉันพูด ฉันมันเป็นคนผิดเองที่ไม่ยอมซึ่อตรง
“ยูกิโตะ… ฉันขอโทษนะ” (ซูซุริคาว่า)
———————————————————————
[มุมมองของ ยูกิโตะ โคโคโนเอะ]
เรื่องราวที่ ซูซุริคาว่า ได้เล่ามานั้นเป็นเรื่องที่น่าตกใจจริงๆ แต่ว่ามันก็ดูสมเหตุสมผลถ้าคุณฟังมันให้ดีๆ ในตอนนั้น ในตอนที่เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้น ผมได้แต่คิดว่ามันก็คงที่จะต้องเป็นแบบนั้น แต่มันก็มีอยู่หลายครั้งที่ผมได้สังเกตเห็นว่าเธอนั้นก็ได้ทำท่าทางแปลกๆ ซูซุริคาว่า นั้นได้บอกว่าเธอเพียงไม่อยากให้ฉันรู้ ถึงแม้ว่าเธอนั้นจะไม่ได้เข้าหาผม ผมก็มั่นใจเลยล่ะว่ามันคงจะได้รับการแก้ไข ณ จุดนั้นเพียงแค่ถ้าผมเข้าหาเธอเสียสักหน่อยในตอนนั้น แต่ในเวลานั้น ผมไม่สามารถที่จะมอง ซูซุริคาว่า ได้อย่างถูกต้อง
แต่ในตอนนี้ ผมที่ได้รับฟังเรื่องราวของเธอแล้ว และผมก็คิดว่า
ทำไม ทำไม–?
“ทำไม… เธอ… ถึงทำ อย่างนี้…?” (ยูกิโตะ)
“ก็เพราะว่าฉันมันเป็นคนขี้ขลาดและไม่ยอมซื่อตรงกับนาย……” (ซูซุริคาว่า)
“แล้วทำไมเธอถึงมาบอกฉันตอนนี้ล่ะ?” (ยูกิโตะ)
“เพราะถ้าว่าฉันไม่ทำ มันก็จะสายเกินไป” (ซูซุริคาว่า)
ผมไม่เข้าใจ! ทำไมต้องเป็นตอนนี้เท่านั้น!?
“ฉันมันใจว่าในตอนนั้นฉันคงยอมรับความรู้สึกของเธอได้นะ แต่ว่าในตอนนี้ ฉัน…” (ยูกิโตะ)
แล้วในหัวของผมก็รู้สึกเหมือนถูกกระแทก มันปวดขึ้นหนักกว่าเดิม ไม่ อย่าแตกออกมานะ อย่าพยายามที่จะทำลายอะไรผมอีก แล้วผมก็ได้กลับมาสู้กับอาการแบบนี้อีกครั้ง ถ้าหากว่าผมนั้นจะต้องมีอะไรพังลง ก็พังไปซะให้เหมือนทุกครั้งเลย ผมจะไม่พยายามคิดอะไรอีกต่อไป แล้วความเจ็บปวดทั้งหมดนี้มันก็จะได้หายไป เอาเลยมาเลยทำให้ฉันพังไปซะ เหมือนกับทุกครั้งที่ราวกับมีปีศาจตัวน้อยขึ้นโผล่ขึ้นมาอยู่บนไหล่ของผม และขอให้ผมนั้นมอบครึ่งหนึ่งของผมให้กับเขา และผมก็จะตกลงตอบไปอย่างไม่ลังเล ผมเอง ผมยูกิโตะ โคโคโนเอะ… ถ้าผมพังลง ผมก็จะได้ไม่ต้องมาสนใจไอ้ความเจ็บปวดแบบนี้อีกต่อไป ผมคือผม ฉันคือฉัน ผมคือ…
แล้วนี่มันใช่ยูกิโตะ โคโคโนเอะ ตัวจริงหรือเปล่า? นี่ผมได้กลายไปเป็นแบบนี้ไปตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? ผมอยากที่จะให้แตกออกมา แตกไปเลยสิซะ! แล้วผมก็รู้สึกได้ถึงช่องว่างที่อยู่ภายในใจ ที่กำลังพยายามจะแผ่ขยายตัวออกไป ผมนั้นเคยแต่จะต้องแตกสลายมาโดยตลอด แต่ถ้าหากว่าความรู้สึกที่กำลังทำร้ายผมอยู่นั้นมันเป็นเพียงความเข้าใจผิดจริงๆ ถ้างั้นเหล่าเรื่องเลวร้ายทั้งหมดที่ผมนั้นได้เคย… ที่เคยได้ผ่านมานั้นล้วนแต่เป็นเพียงภาพลวงตา พวกมันก็ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องโกหกงั้นสิ
อย่าคิดเกี่ยวกับมันสิ ปล่อยให้มันให้หมดไป ก็แค่แตกสลาย บางทีมันอาจจะเป็นกลไกในการป้องกันตัว ผมน่ะไม่เข้าใจในสิ่งที่คนอื่นคิดเกี่ยวกับตัวผม และผมก็ไม่ได้ต้องการมัน ผมทำผิดมาซ้ำแล้วซ้ำเล่าเกี่ยวกับความรู้สึกของผู้อื่น แต่ว่านั่นมันเป็นอย่างนั้นจริงๆเหรอ? คามิชิโระ พยายามหลอกลวงผมด้วยคำสารภาพนั้นมันจริงหรือเปล่า? พี่สาวของผมเป็นผู้หญิงบิชจริงๆเหรอ? แม่ของผมเอาแต่ปฏิเสธผมมาตลอดจริงๆเหรอ…?
“ยูกิโตะ! นายโอเคไหม? หน้าของนายมันเป็นสีฟ้าไปแล้วนะ มันดูเย็นซีดเลยนะ!” (ซูซุริคาว่า)
เธอดูเป็นห่วงผม ทำไปโดยไม่มีการปิดบังร่างกายที่เปิดเผยหมดทุกอย่าง เธอทำไปเพื่ออะไร และทำไมเธอถึงต้องทำมันล่ะ? มันเป็นเรื่องง่ายสำหรับเธอ ที่จะยอมเปิดเผยร่างกายที่เปลือยเปล่าของตัวเธอหรือเปล่า? แล้วทำไมเธอถึงต้องพยายามมาบอกผมเอาในตอนนี้ มันเป็นเพราะว่าเธอต้องการที่จะทำให้ผมนั้นทุกข์ทรมาณมากขึ้นใช่หรือเปล่า? แต่ถ้าใช่ ทำไมเธอจึงดูเป็นห่วงผมขนาดนี้ มันเจ็บ ปวด!
ผมกำลังจะแตกสลาย แต่กลับมีบางอะไรบางอย่างมาหยุดผมไม่ให้ทำแบบนั้น มีบางอย่างกำลังบอกกับผมว่าอย่าทำ และรั้งผมเอาไว้ไม่ให้ส่วนที่เหลือของผมต้องพังไป ไม่อยากจะพังแล้ว แล้วก็ไม่อยากทำผิดอีกแล้ว ถ้าผมไปไกลมากกว่านี้มันก็จะสายเกินไปแล้วนะ ไม่ มันอาจจะสายเกินไปอยู่แล้ว ไม่ได้อยากที่จะทำร้ายใคร ไม่ได้อยากที่จะเจ็บปวดอีกต่อไป! มันเป็นแรงกระตุ้นที่ขัดแย้งกันหมุนตีอยู่ภายในตัวของผม ทำไมผมต้องมาทนทุกข์ทรมานมากเพราะคำสาปที่ไร้สาระในเรื่องความซับซ้อนในใจของพวกผู้หญิงกันด้วย?
ผมไม่เข้าใจ แล้วไม่อยากที่จะรู้เหรอ? ผมไม่รู้ ผมไม่เข้าใจ…… ทุกอย่างดูว่างเปล่าไปหมด แล้วความว่างเปล่านี้ก็ดูอยากจะกลืนกินตัวผม ผมหวังว่าผมจะหายตัวจากไปและได้ไปอยู่ที่ในที่ๆเงียบสงบ แต่ผมก็รู้สึกเหมือนถูกควบคุมโดยความปรารถนาที่เย้ายวนใจ มันช่างหอมหวานและมีเสน่ห์ ใช่แล้ว ถ้าหากว่าผมสามารถกำจัดมันออกไปได้ทั้งหมดเหม……
แล้วริมฝีปากของผมถูกปิดผนึกด้วยสิ่งที่นุ่มนวล นี่มันเป็นครั้งที่สองแล้วที่ผมนั้นได้สัมผัสกับความรู้สึกแบบนี้
“ไม่เป็นไรนะ! ฉันจะไม่ทำร้ายนายอีกแล้ว!” (ซูซุริคาว่า)
มันออกจะต่างไปจากตอนที่ยูริจูบผมอยู่เล็กน้อย ที่ทั้งหมดนั้นเพิ่งเกิดขึ้นไม่นานนี้เอง…
แล้วน้ำตาก็ไหลลงมาอาบแก้มของ ซูซุริคาว่า นี่เธอร้องไห้ทำไม? ทำไมเธอถึงได้เศร้า เธอรู้สึกเจ็บปวดตรงไหนของร่างกายรึเปล่า? หรือมีอะไรเข้าตาของเธอกัน?
ฮ่า ฮ่า ผมรู้แล้ว ก็เธอเปลือยกายอยู่นี่นา ดังนั้นเธอก็น่าจะต้องหนาวใช่ไหม
ไม่นั่นไม่ถูกต้อง มันไม่ใช่อะไรแบบนั้น… ไม่ มันต้องไม่ใช่แบบนั้น ทำไมผมถึงต้องพยายามเข้าใจให้มันผิดกัน? อย่าไปจงใจทำผิดพลาดเอาสิ เธอน่ะ….. เพราะว่าผมที่เป็นอยู่ตอนนี้ แล้วไอ้เรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? นี่ผมเริ่มคิดแบบนั้นไปตั้งแต่เมื่อไหร่? ใครกันละที่ผิด? ทำไมกัน? ผมคือ ยูกิโตะ โคโคโนเอะ และ ยูกิโตะ โคโคโนเอะ คือผม…….
“ซูซุริคาว่า… ไม่ ฮินากิ…?” (ยูกิโตะ)
“นายเรียกฉันด้วยชื่อจริง ใช่ไม๊? เหะๆ จูบแรกของฉัน ฉันดีใจนะที่ในที่สุดฉันก็ทำได้ถูกต้องซะที” (ซูซุริคาว่า)
นี่ผมจะลบภาพแบบนี้ออกไปจริงงั้นเหรอ? แต่ว่าผมเองก็อยากที่จะเห็นเธอยิ้ม เพราะว่านั้นเธอกำลังร้องไห้ ผมจะลบมันออกไปจากใจ แล้วผมก็จะกลับไปทำให้เหมือนยูกิโตะ โคโคโนเอะ ตามปกติ แล้วก็–
อาการปวดหัวของผมรุนแรงมากขึ้น ผมอยากที่จะลบมันออกไปให้หมด ผมอยากที่จะกำจัดมันทิ้งไป
แล้วเธอก็โอบกอดผม และผิวหนังของเราก็ได้สัมผัสกันโดยตรง
ไม่รู้ว่ามันมีเหตุผลหรือเปล่า แต่ว่ามันก็เพียงพอแล้ว ถ้าหากว่ามีเจตนาที่จะทำให้ผมต้องพังทลาย มันคงเป็นสถานการณ์ที่ผมจะพยายามจะพังทลายตัวเองมากกว่า แล้วผมก็คงจะต้องจะแพ้ แต่ผมก็ยังคงไม่เป็นไร ผมไม่ได้สนใจอะไรกับมันอีกต่อไปแล้ว แต่รู้ว่ามันมีอะไรบางอยางที่ผมไม่ควรจะต้องสูญเสียไป มันจะต้องเป็นอะไรบางอย่างที่ผมนั้นจำเป็นต้องเข้าใจมันให้ได้อย่างถูกต้อง ถึงแม้ว่าผมจะไม่รู้ว่ามันคืออะไรก็ตาม ถึงแม้ว่ามันจะสายเกินไป ผมก็มั่นใจว่ามันต้องมีอะไรบางอย่างที่ผมยังจะสามารถรักษาเอาไว้ได้
“…ฮินากิ นี่เธอทนเป็นแบบนี้มาโดยตลอดเลย งั้นเหรอ?” (ยูกิโตะ)
“ก็ฉันยังเป็นเพื่อนสมัยเด็กของนายนี่ และการโกหกของฉันกับนายมันจบไปแล้ว ฉันไม่อยากที่จะต้องเสียนายไป และฉันก็ไม่ต้องการที่ให้มันจบลงด้วยการทำร้ายนายไปมากกว่านี้อีก” (ฮินากิ)
เพื่อนสมัยเด็กของผมผู้เป็น นางเอกผู้พ่ายแพ้ นั่นคือสิ่งที่พวกเขาเรียกกันสินะ
“ก็เพราะว่าฉันรักนายมากที่สุดไง—!” (ฮินากิ)
แล้วตัวผมเองนั้นก็ไม่อยากที่จะคิดว่าทั้งรอยยิ้มและคำพูดของเธอนี้นั้นเป็นเรื่องโกหกเลย
จบ Vol. 2.
MANGA DISCUSSION