บอลแห่งการปฏิเสธ
“ถ้าอย่างนั้นยูกิโตะ ถ้าฉันชนะในเกมนี้ คามิชิโระ จะต้องมาเป็นของฉัน!” (มิโฮะ)
แล้วโรงยิมที่ก่อนนี้ได้ถูกปกคลุมไปด้วยความเงียบสงบ ก็พลันกลับเต็มไปด้วยเสียงเชียร์และเสียงกรีดร้อง แล้วคามิชิโระ ที่ว่านั้นก็ดูสับสนขึ้นมาจริงๆ
“นะนะนะนะนะนะนะน่ะ นี่นายหมายความว่ายังไงกัน โคยูกิ!?” (ชิโอริ)
เหหหห นี่ โคยูกิ ชอบ คามิชิโระ หรอกรึนี่? บางทีพวกเขาก็น่าจะเข้ากันได้ดีนะ ทั้งความสวยความหล่อและเป็นนักกีฬาทั้งคู่ อย่างน้อยที่สุดการคบกับคนที่สุขภาพที่ดี ย่อมต้องดีกว่าการออกไปเที่ยวกับคนที่สิ้นหวังโดดเดี่ยว ที่ทำอะไรก็ไม่ถูกเลยสักอย่างแบบผม คงจะไม่มีใครกล้าบ่นว่าเจ้าหนุ่มหล่อหน้าใสในเรื่องนี้ได้หรอก โฮลี่ชิท ความหนุ่มสาวนี่มันช่างดีเหลือเกิน!
“ก็ดีนี่สำหรับคามิชิโระน่ะ เพราะโคยูกิน่ะเป็นคนดีเลยนะ” (ยูกิ)
“……เอ๊ะ?” (ชิโอริ)
“โอ่ย ยูกิโตะ! นี่นายโอเคกับมันงั้นเรอะ!?” (มิโฮะ)
“ใช่แล้ว เชิญเลย” (ยูกิโตะ)
ด้วยเหตุผลบางอย่าง เจ้ารูปหล่อหน้าใส ที่เพิ่งได้ประกาศออกมาดูเหมือนว่าเจ้าตัวเองจะเป็นคนใจร้อนอย่างที่สุด ผมอยู่รู้แล้วล่ะ แล้วนี่มันสำคัญกับผมมากแค่ไหนกับไอ้เรื่องนี้งั้นเหรอ? ผมก็ไม่รู้ว่าทำไมนะที่เขาได้ทำแบบนี้ ที่เหลือมันก็น่าจะขึ้นอยู่กับพวกเค้าสองคนแล้วมากกว่า
ฮ่าฮ่า ผมเข้าใจละ เจ้ารูปหล่อหน้าใสคนนี้ นี่นายคิดว่าคามิชิโระ นั้นแอบชอบฉันล่ะสิท่า
สำหรับเธอแล้วผมนั้นไม่ได้เป็นอะไรเลย นอกจากการเป็นตัวตนที่มีอยู่อันน่าสงสารและน่าสมเพชเท่านั้น และนั่นก็เป็นเหตุผลที่เธอเอาแต่เป็นห่วงเกี่ยวกับเรื่องผม แม้แต่เรื่องที่เธอแสร้งทำเป็นสารภาพความรู้สึกนั้นมันก็ชัดเจนนะ มันก็เพราะความเห็นอกเห็นใจของคามิชิโระ การที่มีคนร่าเริงนั้นให้ ความใส่ใจนั่นน่ะ มันก็เป็นเพียงความสัมพันธ์แบบนั้นเท่านั้น ไม่มีอะไรพิเศษเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย แล้วมันก็คือสิ่งที่ตัวคามิชิโระ พูดออกมาเองด้วย เพราะงั้นมันจึงไม่มีทางที่จะมีอะไรให้ผิดพลาดได้
“งั้นแล้วทีนี้ยังเหลืออะไรเป็นจุดประสงค์ในการเล่นเกมนี้อีกล่ะ?” (ยูกิโตะ)
“ทำไมกันยูกิโตะ ทำไมถึงไม่ยอมสังเกตเห็นกัน! นี่นายไม่รู้สึกอะไรจริงๆเลยรึไง? นายไม่เคยรู้สึกอะไรเลยเกี่ยวกับคามิชิโระ เกี่ยวกับซูซูริคาว่าเลยรึยังไงกัน แม้แต่ในตอนที่ได้เห็นสิ่งที่แสดงออกมาของพวกเธอ อย่างนั้นเรอะ?” (มิโฮะ)
“ฉันก็ไม่ค่อยเข้าใจนะ แต่ฉันคิดว่านายคู่ควรกับคามิชิโระ น่ะ” (ยูกิโตะ)
“ยูกิโตะ ทำไมนายถึงได้พยายามปฏิเสธพวกเธอมากขนาดนี้กันเล่า?” (มิโฮะ)
การปฏิเสธ? ปฏิเสธอะไร? ปฏิเสธใคร? ผมยังคงไม่เข้าใจว่าเจ้ารูปหล่อหน้าใสคนนี้พูดเรื่องอะไร พอนึกถึงเรื่องนี้ ทั้ง ซูซุริคาว่าและ คามิชิโระเอง ก็เป็นคนบอกกับฉันเองว่าไม่มีอะไรนอกจากการโกหก ผมไม่สามารถที่จะแยกมันออกจากความจริงข้อนี้ได้ มันเปล่าประโยชน์ที่จะต้องพูด มันเป็นไปไม่ได้เลยที่ตัวผมในตอนนี้จะประมวลผลมันออกมาได้
ใครกันที่ถูกปฏิเสธ? มันออกจะตรงกันข้ามเลยนี่ ใช่ไหม? ผมน่ะถูกปฏิเสธมาโดยตลอดนะ แม่ของผม พี่สาว เพื่อนสมัยเด็ก เพื่อนร่วมชั้น รุ่นพี่ของผม ผมนั้นถูกทุกคนปฏิเสธ ผมไม่ได้ต้องการใคร ไม่มีที่ให้อยู่สำหรับผมไม่ว่าจะที่ไหน และมันเป็น “การปฏิเสธ” ที่พุ่งตรงมาที่ผมอยูตลอด ไม่เคยมีความ “รัก” มันไม่ใช่ผมที่ปฏิเสธพวกเธอนะ มันไม่ได้เป็นผม……ผมต่างหากเป็นคนที่ถูกปฏิเสธ และนั่นก็คือเหตุผลว่าทำไมผม–
แล้วความเจ็บปวดตื้อๆก็เข้ามาจู่โจมผม มันเป็นอาการปวดหัว มันเป็นความรู้สึกที่คุ้นเคยเหมือนกับตอนที่ผมกำลังสูญเสียอะไรบางสิ่งที่สำคัญ ราวกับว่าช่องว่างนั้นได้ถูกเปิดกว้างขึ้นอีกครั้ง
แล้วผมก็ได้ยินเสียงคลิกราวกับว่ามีอะไรบางอย่างแตกหักลงไปอีกครั้ง
มันไม่สำคัญอีกต่อไปแล้ว!
ผมน่ะยอมแพ้ให้กับทุกสิ่งไปแล้ว ผมนั้นไม่สามารถที่จะเข้าใจอะไรมันเลย มันไม่มีประโยชน์อะไรที่จะต้องมาคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้
เหมือนกับตอนนี้ที่ผมสูญเสียความเชื่อมั่นใน WHO(องค์กรอนามัยโลก) ผมยูกิโตะ โคโคโนเอะเป็นคนที่ไม่เชื่อในองค์กรระหว่างประเทศ ในโลกที่เราไม่แม้แต่จะสามารถไว้วางใจองค์การสหประชาชาติได้ แล้วเราจะไปไว้วางใจบุคคลเพียงคนเดียวได้อย่างไร? กับโลกที่เราไม่สามารถแม้แต่จะพูดในสิ่งที่เราต้องการจะพูด มันก็ไม่ต่างอะไรไปจากพิษร้าย อะไรล่ะคือสิ่งที่จะต้องมาโกหกผม? เธอโกหกฉันทำไม? มันไม่มีคำตอบสำหรับคำถามนั้น ผมไม่สามารถคิดหาเหตุผลได้อะไรได้ มันเป็นเรื่องงี่เง่ามากที่จะต้องมาคิดกันอีกทีว่ามันเป็นเรื่องโกหกหรือเป็นความจริง
อย่างไรก็ตาม มันก็เป็นสิ่งที่ถูกต้องในการสนับสนุนความรักของเพื่อนร่วมชั้น ไม่ต้องสงสัยเลยว่า โคยูกิ มิโฮะ นั้นเป็นคนที่ดี ผมมั่นใจว่าเขานั้นเป็นคนดี และผมมั่นใจว่าคามิชิโระ เป็นคนที่ดี ถึงจะทำให้ผมเสียใจก็เถอะ ถ้างั้นมันก็มีเพียงสิ่งเดียวที่ฉันต้องทำ
“เอาล่ะถ้าฉันชนะเกมนี้พวกนายทั้งคู่จะต้องอยู่ให้ห่างจากฉัน” (ยูกิโตะ)
“อะไรนะ?” (มิโฮะ)
“ยูกิ …… อะไรกัน……” (คามิชิโระ)
“มันขึ้นอยู่กับนายสองคนแล้วล่ะนะต่อจากนี้ แต่ว่านั่นก็ไม่ใช่เรื่องของฉัน ที่จริงถ้าหากว่านายนั้นไม่ยุ่งเกี่ยวกับฉัน นายก็ไม่ต้องมาเดือดร้อนแบบนี้ ฉันจะไม่เข้าร่วมทีมบาสเก็ตบอล และฉันจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับทั้งสองคนอีก มันก็เป็นเรื่องดีด้วยกันทั้งหมดทุกคนนะ!” (ยูกิ)
“เดี๋ยวก่อนทำไมนายถึงต้องทำขนาดนั้น -” (มิโฮะ)
“เรามาเล่นกันเลยดีกว่า” (ยูกิ)
ด้วยวิธีนี้คามิชิโระ และเจ้ารูปหล่อหน้าใส จะได้มีความสัมพันธ์ของพวกเขากันลึกซึ้งขึ้นมากขึ้นได้โดยไม่ต้องมาเป็นห่วงผม ผมนั้นไม่เคยมีแฟนมาก่อนในชีวิตเลย แล้วก็ไม่ใช่ว่าผมนั้นเป็นกามเทพแห่งความรักอย่างนั้นหรอกนะ แต่มันก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะให้กับสถานการณ์แบบนี้ แต่ก็แน่นอนล่ะว่ามันไม่มีการแสดงออกอะไรอยู่บนใบหน้าของผมเลย
“โคโคโนเอะ ฉันรับกับเกมแบบนี้ไม่ได้หรอกนะ” (รุ่นพี่)
“ผมก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ถ้านายยังเป็นแบบนั้น เราก็คงช่วยนายไม่ได้หรอก” (อิโตะ)
อิโตะคุงและรุ่นพี่ของเขากำลังมองมาที่ผมแล้วพูดกล่าวหา มันเป็นแววตาที่ออกมาดูกดดันเหมือนจะต้องถูกทำให้รู้สึกผิด ใช่แล้วนั่นคือดวงตาแบบนั้น มันคือแววตาที่ควรจะพุ่งมาที่ผมอย่างที่ควรจะเป็น พอผมได้มองกลับเข้าไปในดวงตาแบบนั้นของพวกนั้นผมก็รู้สึกสบายใจ ผมรู้สึกปลอดภัย ราวกับว่าการวิธีในการมีตัวตนอยู่ของผมนั้นได้ถูกยอมรับ หรือจะเรียกว่าถูกปฏิเสธก็ได้ และพวกเขาจะได้ไม่ต้องการที่จะมายุ่งเกี่ยวกับผมอีกต่อไป มันป็นสิ่งที่ถูกต้องที่ควรจะทำให้กับคนอย่างผมที่มันเป็นคนโดดเดี่ยว
“เอาล่ะ ถ้างั้นฉันจะเล่นคนเดียว” (ยูกิ)
“เฮ้ย โคโคโนเอะ… แค่เพราะนายทำอะไรได้มากกว่านิดหน่อย–” (รุ่นพี่)
“รุ่นพี่แค่อยู่ที่นั่นก็พอ” (ยูกิ)
แล้วผมก็เริ่มออกเลี้ยงลูกไปอย่างช้าๆ ผู้เข้าชมต่างมองตามอย่างงงงวย แต่มันเป็นเรื่องปกติสำหรับผม ด้วยเหตุบางอย่าง แม้แต่ตอนผมกำลังเล่นเกมบาสเก็ตบอลอยู่นี้ รอบๆพื้นที่นั้นก็มักจะเงียบลงไปก่อนที่ผมจะรู้ตัวเอาซะอีก พวกเขานั้นมองมาที่ผมนั้นเหมือนราวกับเห็นอะไรบางอย่างที่เป็นแปลกประหลาด แต่ผมไม่จำเป็นจะต้องมากังวลอะไรเพราะมันเป็นเรื่องตามแบบปกติของผม
ทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นกับผมกัน……?
แล้วนั่นคือคำถามที่ยังคงวนเวียนอยู่ในใจของผมอยู่เสมอ
——————————————————————–
[มุมมองของ โคยูกิ มิโฮะ]
“เป็นไป….ไม่ได้” (มิโฮะ)
ตารางคะแนนนั้นขึ้นว่า 21-10 การเล่น 3 ต่อ 3 นั้นเป็นเกมที่สามารถเอาชนะได้โดยทำคะแนนถึง 21 แต้มเลยงั้นเหรอ นอกจากนั้นยังจะในภายในเวลาที่กำหนดสั้นๆนี้อีก(ใน5นาที) เกมนี้ถูกตัดสินออกมาได้ง่ายดายมากจนทุกๆคนทำได้แค่ตัวสั่น
ผมฝึกซ้อมมาเยอะมาก ผมที่ประสบความสำเร็จทั่วประเทศมาแล้วโดยมีเป้าหมายที่จะเอาชนะเขา ถึงอย่างนั้นผมก็ยังคงไม่สามารถเทียบกับชายคนนั้นได้ เขาไม่อยู่ตรงนี้อีกแล้ว เขารีบออกไปจากตรงนี้ทันที ความพ่ายแพ้ที่ได้รับนั้นรวดเร็วมาก แล้วเขาก็ยังดูเบื่อจนถึงที่สุด ในขณะที่พวกเราสามคนใช้ความพยายามที่จะรั้งเขาไว้อย่างเต็มที่ เพียงเพื่อไม่ให้เขาได้เข้าไปถึงจุดยิงของเรา ผมพยายามเข้าป้องกันการบุกไปอย่างรวดเร็ว แต่เขาก็หลบเลี่ยงได้ ราวกับว่าพวกเราไม่มีใครเทียบได้เลยสำหรับเขา
แต่นั่นเป็นเรื่องเล็กน้อย ยิ่งไปกว่านั้น ยูกิโตะ ยังคงเป็นเรื่องที่ผมนั้นอยากรู้ให้มากขึ้น ทำไมถึงยอมมาคุยกันดีๆไม่ได้ ทำไมถึงสนิทกันไม่ได้ ทำไมถึงจะต้องตีตัวออกห่างกันมากขนาดนี้ ทำไมต้องทำเพื่อให้ไม่มีใครแตะต้องเขาได้กัน?
“คามิชิโระ ฉันเคยถามเธอมามาก่อนแล้วนะ ตกลงทำไมยูกิโตะถึงไม่ลงเล่นในทัวร์นาเมนต์สุดท้ายกันล่ะ? (มิโฮะ)
มันเป็นไปไม่ได้ที่ผู้เล่นที่มีความสามารถอย่างเขาจะไม่ได้เป็นตัวจริง ยกเว้นในบางสถานการณ์หรือการถูกตัดสินที่จะไม่ให้ลงเล่น แล้วคามิชิโระ ก็ตอบคำถามที่เธอบ่ายเบี่ยงไปก่อนหน้านี้ออกมา
“ยูกิ กระดูกหักน่ะ” (ชิโอริ)
“มันเป็นเรื่องอาการบาดเจ็บนี่เอง……. ” (มิโฮะ)
“มันเป็นความผิดของฉัน……. ฉันโกหกเขาแล้วยูกิก็……!” (ชิโอริ)
ในเวลานี้มีเพียงสองคนที่เหลืออยู่ในโรงยิม ซึ่งฝูงคนก็ได้หายไปหมดแล้ว
“ฉันก็ไม่รู้ว่าทำเขาแขนหักแบบนั้นลงไปได้ยังไง…….” (ชิโอริ)
แล้วคำพูดพึมพำก็ละลายหายไปพร้อมกับความเศร้าเสียใจ
—————————————————————–
[มุมมองของ ยูกิโตะ โคโคโนเอะ]
“เอ้านี่เครื่องดื่ม” (ยูริ)
“เดี๋ยวผมจะคืนให้ 150 เยนนะ” (ยูกิโตะ)
เพื่อแลกกับเครื่องดื่มเกลือแร่สำหรับนักกีฬาที่ผมได้รับ ผมจึงให้แบงค์ 1,000 เยนแก่พี่สาวของผม ผมยิ้มอย่างกรุ้มกริ่มและบอกไปว่าผมไม่ต้องการเงินทอน ผมยินดีจ่ายเงิน 850 เยนให้สำหรับความใจดีของพี่สาวผมมันจึงไม่เป็นปัญหา มันออกจะคุ้ม อย่างเช่น การที่ได้พี่สาวเดินไปโรงเรียนกับคุณ ส่วนพี่สาวของผมก็ยังคงมองมาอย่างสงสัย แต่ก็เหมือนอย่างทุกทีนั่นแหล่ะ
เป็นเรื่องที่หาได้ยากมากที่ผมจะได้เดินกลับบ้านกับพี่สาว อย่างไรก็ตามในกรณีนี้ ถ้าจะให้ถูกก็คือผมนั้นน่ะถูกเธอลากไปด้วยกันมากกว่า มันเหมือนกับในเพลง Donna Donna เลย ถึงอย่างไรก็ตามมันก็รู้สึกดีที่ได้มีผู้หญิงสวยๆแบบนี้ เดินมาข้างๆกับผม นี่คงเป็นสิ่งเดียวที่ผมนั้นพอจะภูมิใจได้ ผมไม่ได้ภูมิใจในตัวเองหรอกนะ แต่ผมก็ยังรู้สึกภูมิใจในตัวพี่สาวของผมด้วย มันดูเหมือนเป็นเรื่องเห็นแก่ตัวเองที่ได้ทำแบบนี้ แต่ก็นั่นล่ะ ผมมันก็เป็นแค่ผม
“นายจะเข้าไปร่วมทำกิจกรรมของชมรมหรือเปล่าล่ะ? แล้วนี่นายสนุกไหม?” (ยูกิโตะ)
“ไม่ล่ะมันน่าเบื่อ ผมไม่ทำกิจกรรมของชมรมหรอกเพราะผมน่ะเป็นคนโดดเดี่ยว” (ยูกิโตะ)
“งั้นเหรอ” (ยูริ)
กับการตอบสนองแบบครึ่งๆกลางๆไปแบบนี้ แม้ขณะที่ผมฟังคำตอบของตัวเองก็ยังรู้สึกได้ ผมก็ไม่สนใจจริงๆนะ เพราะมันเป็นไปโดยไม่ได้บอกว่านี่เป็นเรื่องจริง ส่วนพี่สาวของผมก็ดูไม่เชิงว่าเธอนั้นจะสนใจอะไรผมแต่อย่างใด เธอก็แค่พยายามทำให้การสนทนาแบบนี้ดำเนินต่อไป เธอนี่ช่างใจดีเหลือเกิน ยูริซังเป็นนางฟ้า
“แล้วไหงจู่ๆ ก็กลายเป็นไมเคิลไปซะล่ะ รู้สึกไงมั่ง?”(Michael:ไมเคิล จอร์แดน) (ยูริ)
“หืม?” (ยูกิโตะ)
“เปล่าๆ ไม่มีอะไร” (ยูริ)
นี่ผมทำไปทำให้ไมเคิล(Michael:มิคาเอล ในสิ่งที่ยูกิโตะคิด) อารมณ์ไม่ดีรึไงนะ อาจเป็นเพราะการให้เกรดเป็นแค่นางฟ้าดูจะต่ำเกินไป มันเป็นความผิดของผมโดยสิ้นเชิง แต่จากนี้ไปผมจะเคารพเธอในฐานะหัวหน้าของทูตสวรรค์ แล้วก็เพราะอย่างนั้นเลยทำให้เริ่มที่จะไม่มีหัวข้อให้เราได้คุยกันเลยในตอนนี้ แล้วไม่นานเราก็หมดเรื่องจะคุยกัน งั้นถามว่าวันนี้สภาพอากาศเป็นอย่างไรดีไม๊? แต่ตอนนี้เป็นเวลาเย็นแล้ว ไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย
“นายสนุกกับโรงเรียนรึเปล่า?” (ยูริ)
“ผมเหรอ…. ก็…สนุก… .. กับโรงเรียน… .. ” (ยูกิโตะ)
“นายมีปัญหาอะไรหรือเปล่า?” (ยูริ)
“หรือบางทีผมก็คงที่จะไม่สนุกจริงๆ” (ยูกิโตะ)
“หืมมม” (ยูริ)
แล้วความเงียบสงบก็กลับมาอีกครั้ง ความสัมพันธ์ก็ยังเป็นแบบนี้ต่อไปอย่างน่าอึดอัด แต่ก็ไม่เป็นไร ขอแค่อย่าเข้าใกล้พี่สาวมากเกินไป หากนายทำเช่นนั้น นายอาจจะต้องจบลงเหมือนในสถานการณ์แบบอดีตนั้นอีกครั้ง
“นายจะทำอะไรต่อ เมื่อเรียนจบมัธยมปลายกันล่ะ?” (ยูริ)
“คุณหมายถึงอะไรน่ะ……?” (ยูกิโตะ)
คำถามแบบคลุมเครือ ผมนั้นเริ่มรู้สึกงุนงงไปกับการเริ่มการให้คำปรึกษาด้านอาชีพแบบกะทันหัน แต่พอคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว ผมนั้นไม่เก่งกับการตอบคำถามแบบนี้เอาซะเลย ผมไม่สามารถให้คำตอบได้อย่างตรงๆเกี่ยวกับเรื่องความฝันในอนาคตของผม สิ่งที่ผมนั้นอยากเป็น หรือสิ่งที่ผมใฝ่ฝัน ผมไม่เคยแม้แต่จะคิดถึงเกี่ยวกับมันเลย แม้ว่าผมจะถูกถามว่า แล้วผมจะไปทำอะไรหลังจากจบการศึกษาจากโรงเรียนมัธยมปลาย แต่ผมก็ไม่เคยได้คิดถึงมันเลย ผมจะต้องการไปเรียนต่อในระดับมหาลัยหรือเปล่า? หรือออกไปทำงาน? และนั่นก็คือสิ่งที่พวกเขาต้องการได้ยินใช่ไหมนะ?
“งั้น?” (ยูริ)
“อะไรนั่น?” (ยูกิโตะ)
และนั่นคือทั้งหมดที่ผมสามารถบอกได้ จู่ๆผมก็รู้สึกอุ่นๆขึ้นมาที่มือ มันเป็นอุณหภูมิร่างกายของมนุษย์ มันเย็นกว่าของผมอยู่เล็กน้อย แล้วก่อนที่ผมจะรู้ตัว ผมก็ได้ถูกพี่สาวของผมจับมือผมเอาไว้ นี่มันเกิดอะไรขึ้น? มันดูเป็นความตั้งใจอย่างแข็งกล้าที่จะไม่มีวันปล่อยคุณไป มันเหมือนกับเป็นกุญแจมือ
“อย่าไปไหนนะ” (ยูริ)
“ที่ไหนล่ะ?” (ยูกิโตะ)
“ไม่เลย ไม่ต้องไปที่ไหนเลย อยู่กับฉัน…” (ยูริ)
ในตอนนี้ก็เย็นมากแล้ว
นี่เธอกำลังพูดเรื่องอะไร? ผมไม่เข้าใจ ผมไม่ได้วางแผนที่จะออกเที่ยวในวันหยุดสุดสัปดาห์ซะหน่อย ผมไม่มีเวลาหรอก ผมไม่ได้มีแผนที่จะออกไปเที่ยวกับใครด้วย ผมมันเป็นคนโดดเดี่ยวที่มืดมน! มันไม่มีทางที่ผมจะสามารถออกไปเที่ยวกับพวกเพื่อนๆ ในวันหยุดแล้วทำตัวให้เหมือนกับคนจริงๆได้หรอกนะ ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!
“ยูกิโตะ” (ยูริ)
“ครับ?” (ยูกิโตะ)
แล้วผมก็ไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงได้กอดผม นี่มันคืออะไร? เกิดอะไรขึ้นที่ตรงนี้กัน? ผมจะไม่มีวันหนีไปไหนแม้ว่าเธอจะฉุดล่ามผมไว้ก็ตาม แล้วจะให้ผมหนีไปที่ไหนกัน มันเกิดอะไรขึ้น?
“ฉันจำไม่ได้ว่าเคยบอกนายไปแล้วกี่ครั้งแล้ว ฉันขอโทษ แต่การได้เห็นนายในวันนี้มันยิ่งทำให้ฉันกลัวมากขึ้นไปอีก ฉันคิดว่ามันสายเกินไป แต่ก็ยัง…” (ยูริ)
“ยูริซัง?” (ยูกิโตะ)
“อย่าพยายามหายไปจากฉัน อย่าพยายามทำร้ายตัวเอง ทุกคนรักนายนะรู้ไหม” (ยูริ)
“คุณโกหก” (ยูกิโตะ)
“ฉันไม่ได้โกหกนะ” (ยูริ)
ตอนนี้พี่สาวของผมกำลังพูดอะไรแปลกๆ สงสัยว่าผมคงจะดูหดหู่เกินไป ไม่อย่างแน่นอน ใบหน้าโป๊กเกอร์เฟสของผมคือตำนานเชียวนะ ผมไม่เคยหลุดให้กับเรื่องอะไรมาก่อน แม้กระทั่งเพื่อนสมัยเด็กของผม ซูซุริคาว่า ก็ยังบอกว่าเธอไม่เคยเห็นฉันยิ้มเลยเชียวนะ ผมไม่เคยซึมเศร้าและไม่เคยมีอารมณ์ที่แปรปรวนแบบนี้มาก่อน ฉันก็เลยยิ่งสับสน
นี่เธอกำลังพูดอะไร…และนี่เธอกำลังโกหก
เพราะเธอเคยบอกว่า…
“คุณบอกไว้ว่าคุณเกลียดผม” (ยูกิ)
“ฉันรักนายนะ” (ยูริ)
แล้วก็มีสัมผัสที่นุ่มนวลมากระทบบนริมฝีปากของผม
แล้วนี่ทำไมผมถึงได้ถูกจูบกันล่ะ?
MANGA DISCUSSION