เหนียงจื่อของคุณชายขี้โรค - ตอนที่ 663 ซูชีค้นหาร่องรอย (1
ช่างน่าโมโหจริงๆ! ไม่ไปช่วยก็ช่างเถอะ แต่นี่ถึงกับไม่ยอมเชื่อวาจาของเขาด้วย! คิดอย่างเห็นแก่ตัวว่า ท่านหญิงซูซูซ่อนตัวด้วยตนเอง!
พอแล้วจริงๆ!
ก่อนหน้านี้พวกเขามีความคิดเช่นนี้จริง แต่สุดท้ายก็ไม่สำเร็จไม่ใช่หรือ ท่านหญิงซูซูไม่ได้หายตัวไปจริงๆ หรอกหรือ
เดิมจ้าวเฟยลู่ก็รู้สึกเสียใจในภายหลังแทบตายแล้ว! แต่ซูชีก็ไม่ยอมฟังคำอธิบายของเขา จ้าวเฟยลู่นั้นมีความคิดหุนหันพลันแล่นที่อยากจะใช้กระบี่ผ่าร่างซูชีให้ตายจริงๆ!
อาจ้าวเห็นจ้าวเฟยลู่สูญเสียการควบคุมแล้ว ก็ขมวดคิ้ว
“เจ้าไม่อาจโทษคุณชายได้ หากเรื่องพวกนี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับพวกเรา กล่าวออกไปแล้ว เจ้าจะเชื่อหรือ อีกอย่างเจ้าก็ไม่ใช่ไม่รู้ว่า ท่านหญิงซูซูเป็นคนที่มีนิสัยเช่นไร”
ท่านหญิงซูซูเป็นคนที่มีนิสัยเช่นไร?
เป็นคนซุกซน เฉลียวฉลาด และเต็มไปด้วยอุบายมากมาย!
จ้าวเฟยลู่ขบกรามแน่น!
เขาอยากจะคำรามเสียงดังใส่อาจ้าวจริงๆ “เห็นได้ชัดว่า สภาพอารมณ์ช่วงเช้าวันนี้ของท่านหญิงซูซูในตอนที่อยู่ริมแม่น้ำนั้นผิดปกติ! คนที่มีความรู้สึกเช่นนั้นจะมีอารมณ์ไปคิดอุบายแปลกๆ มาล้อเล่นกับทุกคนอีกหรือ”
แต่จะให้เขากล่าววาจาเช่นนี้ได้อย่างไร?
ท่านหญิงซูซูเป็นอย่างไร ก็เป็นเจ้านายคนหนึ่ง ส่วนเขาที่เป็นข้ารับใช้ ก็มีบางเรื่องที่ไม่ใช่เรื่องที่เขาจะสามารถเอ่ยออกมาได้!
จ้าวเฟยลู่กัดฟันแน่น มองอาจ้าวด้วยสายตาที่เจือไปด้วยกลิ่นอายสังหาร!
หากว่าสถานการณ์อำนวยแล้วล่ะก็ เขาจะต้องสังหารอาจ้าวทิ้งอย่างไม่ลังเลแน่นอน!
แน่นอน!
แต่ตอนนี้การตามหาคนสำคัญกว่า อย่าได้เกิดเหตุยุ่งยากอื่นใดขึ้นมาอีกดีกว่า!
“เอาเถอะ เจ้าไปพักผ่อนให้สบายเถอะ วิ่งวุ่นมาทั้งวันก็เหนื่อยมากพอแล้ว ข้าจะไปแจ้งคุณชายสักหน่อย” เห็นได้ชัดว่า อาจ้าวก็ไม่อยากคุยเรื่องไร้สาระพวกนี้กับจ้าวเฟยลู่อีก จึงหันกลับไปเคาะประตูห้องซูชี
ก๊อกๆๆ!
ไม่มีคนตอบ และไม่มีใครเอ่ยวาจาใด
อาจ้าวขมวดคิ้วเล็กน้อย รู้สึกว่าเรื่องนี้แปลกประหลาดอยู่บ้าง
พวกเขาล้วนเป็นผู้ฝึกยุทธ์ ความสามารถในการได้ยินย่อมไม่ต้องเอ่ยอันใดให้มากความ อีกอย่าง ในตอนนี้คุณชายก็อยู่ที่นั่น ไม่ต้องเอ่ยเลยว่า เสียงเคาะประตูก็ใกล้แค่นี้ คาดว่าคุณชายสามารถได้ยินเสียงแล้ว แม้ว่าจะเป็นตอนที่พวกเขาเพิ่งเข้าบ้านมา
แต่ทำไมถึงไม่ตอบกัน?
“คุณชาย!”
“เหอะ!” ด้านหลังมีเสียงแค่นด้วยความดูแคลนของจ้าวเฟยลู่ดังลอยมา!
“จะต้องหลับไปแล้วแน่นอน! ท่านหญิงซูซูหายตัวไปทั้งวัน นายท่านของเจ้ายังจะมีอารมณ์นอนหลับอย่างสบายใจ ต้องนับถือเขาจริงๆ! ไร้หัวใจ!”
“เจ้าหุบปาก!” อาจ้าวไม่อนุญาตให้ผู้ใดมาตำหนินายท่านของตนเองแม้แต่ประโยคเดียว! จึงหันกลับไปตวาดใส่จ้าวเฟยลู่ แล้วรีบผลักประตูให้เปิดออก
ซูชียืนอยู่บนยอดเขา ลมเย็นที่พัดผ่านใบหน้าหนาวเย็นผิดปกติ
ในตอนที่อาจ้าวกับจ้าวเฟยลู่กลับมาสนทนากัน ความจริงแล้ว เขาอยู่ด้วยตลอด แต่หลังจากที่พวกเขาเอ่ยวาจาเหล่านั้นจบ เขาก็กระโดดออกไปทางหน้าต่างอย่างไม่รีรอ
กูเสี่ยวซูหายตัวไป?
หรือว่าจะเป็นเรื่องจริง?
จุดนี้ทำให้ซูชีรับไม่ได้จริงๆ!
เขาคิดมาตลอดว่า การหายตัวไปของกูเสี่ยวซู เป็นแค่แผนร้ายของนางกับจ้าวเฟยลู่สองคนเท่านั้น ไหนเลยจะคิดว่า กูเสี่ยวซูที่ไม่กลัวฟ้า ไม่กลัวดินจะหายตัวไปได้!
หายตัวไป!
ปัญหานี้น่ากลัวยิ่งกว่าการตายเสียอีก!
ซูชีใช้กำลังภายใน แตะปลายเท้าเหินกายขึ้นไปบนกิ่งไม้เหนือศีรษะ ตามองหกถนน หูฟังแปดด้าน[1]ใส่ใจทุกกระทำและความเคลื่อนไหวรอบด้าน
แม้จะรู้ว่าพวกจ้าวเฟยลู่ตามหามาทั้งวัน ก็ยังหาเงาร่างของกูเสี่ยวซูไม่พบ แต่ตอนนี้เขาเพิ่งจะรู้สึกร้อนรน และรู้จักกลัวแล้ว ดังนั้นจึงสังเกตอย่างละเอียด โดยไม่ปล่อยเบาะแสใดๆ ให้เล็ดรอดไป
ขณะที่เหินกาย ก็เห็นหน้าถ้ำบนภูเขามีรอยเท้าสับสนอยู่ นี่ทำให้ซูชีสนใจเป็นพิเศษ เขาจำได้รางๆ ว่า ก่อนหน้านี้ ตอนที่จ้าวเฟยลู่คุยกับอาจ้าว ได้เอ่ยว่าเขาจัดให้กูเสี่ยวซูมาพักอยู่ในถ้ำบนเขาแห่งนี้ แต่รอเขากลับมาจากเก็บฟืน กูเสี่ยวซูก็หายตัวไปแล้ว!
เช่นนั้น…จะเป็นถ้ำบนภูเขาแห่งนี้ใช่หรือไม่?
ซูชีเม้มปาก ดึงกำลังภายในกลับมา แล้วเหินกายลงหน้าปากทางเข้าถ้ำ
“กูเสี่ยวซู! กูเสี่ยวซู เจ้าอยู่ข้างในหรือไม่?”
เขาตะโกนเรียกอยู่ด้านนอก แต่กลับไม่ได้ยินเสียงเคลื่อนไหวใดๆ ซูชีไม่อยากรออีก จึงก้าวเท้าเดินเข้าไปในถ้ำทันที
ถ้ำบนภูเขาแบบนี้ส่วนใหญ่มีลักษณะใกล้เคียงกัน จะต่างกันก็แค่ส่วนน้อย แต่ซูชีท่องอยู่ในยุทธภพมานานหลายปี ย่อมมองออกว่าถ้ำแห่งนี้ไม่แตกต่างออกไป!
เห็นได้ชัดว่ามีขนาดใหญ่กว่าถ้ำที่เกิดจากสิ่งแวดล้อมตามธรรมชาติมาก และสะอาดเรียบร้อยกว่ามากเช่นกัน! มองออกเลยว่า ถ้ำแห่งนี้คล้ายกับมีคนมาทำความสะอาดเป็นประจำ และที่ทำให้คนรู้สึกสงสัยมากที่สุดก็คือ แค่มองแวบเดียวก็สามารถมองเห็นทิวทัศน์ทั้งหมดภายในถ้ำนี้ได้แล้ว
ถ้ำบนภูเขาเช่นนี้ แม้ว่าจะต้องการซ่อนคน ก็ยากมาก!
แต่จ้าวเฟยลู่เคยเอ่ยไว้ว่า ระยะเวลาที่เขาออกไปนั้นสั้นมาก อีกอย่างพื้นด้านนอกก็เต็มไปด้วยหิมะ เขาไม่เห็นรอยเท้าของใครออกไปอีกนอกจากเขาเลย!
เช่นนั้น…กูเสี่ยวซูหายตัวไปอย่างน่าอัศจรรย์ภายในถ้ำบนภูเขาแห่งนี้หรือ
ซูชีเม้มปาก แววตาคมกริบกวาดมองถ้ำบนภูเขาคราหนึ่ง จากนั้นก็ก้าวเข้าไปค้นหาบริเวณจุดที่เขาคิดว่าน่าสงสัยทั้งหมดรอบหนึ่ง!
แต่สุดท้ายกลับยังคงหาจุดที่น่าสงสัยไม่พบเลยสักนิดเดียว
ซูชีหลับตาลงแล้วครุ่นคิดครู่หนึ่ง
เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มี!
สมมติว่าซูซูหายตัวไปในถ้ำบนภูเขาแห่งนี้จริง เช่นนั้นนางจะต้องประสบกับอะไรบางอย่างที่ทำให้นางหายตัวไปในถ้ำนี้แน่นอน!
แต่นางในตอนนั้นจะต้องเสียใจมาก ภายใต้สถานการณ์ที่เต็มไปด้วยความโศกเศร้า นางจะกระทำสิ่งใดออกมากันนะ
ซูชีเดินกลับไปที่ปากทางเข้าถ้ำใหม่ แล้วนำสภาพจิตใจในตอนนั้นของกูเสี่ยวซูมาใส่ตนเอง ให้ตนเองได้เข้าอกเข้าใจความรู้สึกนั้นด้วย!
เขาหลับตาลง หวนคิดถึงเรื่องที่มีความเป็นไปได้ที่กูเสี่ยวซูจะทำมันออกมามากที่สุด…
นางเศร้าโศกเสียใจ คล้ายกับรู้สึกว่ากระทั่งมีชีวิตอยู่ต่อก็เป็นเรื่องที่นางหวังเกินตัว! นางหันไปดูจ้าวเฟยลู่ที่จากไปเก็บฟืน จนกระทั่งเงาของจ้าวเฟยลู่หายลับไป จากนั้น…ก็หันกลับมา
ตอนที่หันกลับมา ก็มองทัศนียภาพภายในถ้ำบนภูเขาแห่งนี้แวบหนึ่ง จากนั้นก็ตั้งใจนั่งยองๆ พลางลูบผนังอย่างอับจนหนทาง ค่อยๆ ลูบจากซ้าย…ไปขวา…
ซูชียื่นมือออกมา แล้วเริ่มลูบจากซ้ายไปขวาทีละเล็กทีละน้อยช้าๆ ทั้งที่หลับตาอยู่
เนิ่นนานหลังจากนั้น ซูชีก็คล้ายกับรู้สึกว่ามือแตะโดนอะไรบางอย่าง จึงลืมตาขึ้นมาทันที!
สิ่งที่ปรากฏขึ้นตรงหน้าเขาคือหินสีครามก้อนหนึ่งที่ยืนนูนออกมา
เจ้าสิ่งนี้มีจำนวนไม่น้อยในถ้ำ เมื่อครู่ซูชีก็วางจุดสำคัญในการตรวจสอบที่ด้านนี้ด้วย แต่สุดท้ายกลับไม่ได้ผลลัพธ์อะไร ทว่าสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเขากลับมีขนาดใหญ่กว่าก้อนอื่นๆ มาก และ…กลมมนกว่ามากเช่นกัน!
หลังจากซูชีเข้าไปตรวจสอบอย่างละเอียดใกล้ๆ ดูแล้ว ก็เห็นว่าลายเส้นบนหินก้อนนี้ล้วนเรียงจากขวามาซ้าย จึงเคลื่อนไหวนิ้วจากขวามาซ้ายตามลำดับด้วยเช่นกัน!
[1] ตามองหกถนน หูฟังแปดด้าน หมายถึง ฉลาดคล่องแคล่ว สามารถสังเกตและวิเคราะห์เหตุการณ์ได้รอบด้าน (หกถนน คือ บน ล่าง ซ้าย ขวา หน้า หลัง และแปด้านคือ ทิศทั้งแปด)