เหนียงจื่อของคุณชายขี้โรค - ตอนที่ 584 ความรู้สึกมีความสุข (1)
ไม่ว่าอย่างไร นางก็อยู่ในตำแหน่งที่ไม่อาจพ่ายแพ้ได้
ใครเป็นชาวประมงคนนั้น?
ไม่รอให้ทั้งสองคนวิเคราะห์กันเสร็จ หมอหลีก็ค้นพบเบาะแสใหม่ในห้องครัว
ตัวยานี้อยู่ที่ต้นทางอย่างที่คิดเอาไว้เลยจริงๆ
เพียงแต่ หลังจากที่หมอหลี่รายงานเรื่องนี้ ฮูหยินผู้เฒ่าให้ไปเรียกตัวผัวจื่อที่เคี่ยวน้ำแกงไก่โดยเฉพาะ ผัวจื่อผู้นั้นกลับถูกพิษตายไปแล้ว เป็นยาพิษที่กินไว้แต่แรก แล้วออกฤทธิ์ในเวลาที่กำหนดเอาไว้
แผนการแต่ละแผนการ ดูแล้ว คนที่วางแผนจัดการเรื่องนี้จะต้องสิ้นเปลืองความคิดไปไม่น้อย
เอะอะวุ่นวายกันมาตลอดทั้งวัน ฟ้าก็มืดแล้ว แม้ว่าฮูหยินผู้เฒ่าจะจงเกลียดจงชังมั่วเชียนเสวี่ย แต่กลับโบกมือให้มั่วเชียนเสวี่ยกลับไปก่อน
เพื่อหลีกเลี่ยงความเข้าใจผิดที่ไม่จำเป็น จึงให้คำสัญญากับนางเอาไว้ว่า ภายในสามวันนี้จะมีคำอธิบายให้นางแน่นอน
เมื่อมั่วเชียนเสวี่ยออกไป ฮูหยินผู้เฒ่าที่จิตใจสงบก็วิเคราะห์อย่างละเอียดถี่ถ้วนอยู่คนเดียว สามารถกล่าวได้ว่า นางนำคนที่อยู่ในจวนออกมาวิเคราะห์ทีละคนๆ
ตอนนี้นางไม่ได้หาหลักฐาน แต่หาโอกาสลงมือ
หลักฐานพวกนี้ นางต้องการเท่าไรก็มีเท่านั้น
ผลักคนออกไปแบกรับความผิดที่ไม่ได้ก่อนั้นก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร
ความจริงมากมายกองอยู่ตรงนั้น ฮูหยินผู้เฒ่าจะรังเกียจมั่วเชียนเสวี่ยมากเพียงใด แต่ก็เตะนางออกไปจากรายชื่อผู้น่าสงสัย
เป็นสตรีแพศยาอิ๋งผู้นั้น?
เพราะนางให้กำเนิดบุตรชายไม่เอาไหนคนหนึ่ง นางอยู่ในห้องพระมาหลายสิบปีแล้ว นอกจากครั้งที่แล้วที่มั่วเชียนเสวี่ยแต่งเข้ามา ก็ดูเหมือนว่าครั้งก่อนที่นางออกมาจะเป็นปีที่แล้ว วันครบรอบวันตายของปีศาจนั่น
สตรีแพศยาอวี่ผู้นั้นหรือ ยิ่งเป็นไปไม่ได้ ตนเองให้นางมีบุตรหลานเต็มเรือนแล้ว นางยังมีสิ่งใดไม่พอใจอีก
จิ้งเอ๋อร์? เหมยเอ๋อร์? สตรีจิตใจคับแคบสองคนนี้ ตนเองกลัวว่าพวกนางจะทำเสียเรื่อง จึงไม่ได้เรียกพวกนางมาหลายวันแล้ว พวกนางไม่มีสมองไปทำเรื่องพวกนั้นได้หรอก
ฮ่องเต้? ยิ่งเป็นไปไม่ได้ใหญ่ มือของเขายังเอื้อมเข้ามาไม่ถึงเรือนหลังตระกูลหนิง
มั่วเชียนเสวี่ยกลับไปยังเรือนจื่อจู๋หว่าน หนิงเซ่าชิงก็ดึงนางเข้ามาในอ้อมแขน
เรื่องใหญ่ขนาดนี้ เขาย่อมได้ข่าวแต่แรกแล้ว เมื่อได้ข่าว เขาก็กลับมาทันที และรอนางมาโดยตลอด
หากไม่ใช่ว่าเขาเป็นบุรุษ ไม่สะดวกจะสอดมือเข้าไปยุ่งเรื่องในเรือนหลังเหล่านี้ หากไม่ใช่ว่าเขารู้ว่าตอนนี้ท่านย่าดีต่อเชียนเสวี่ยมาก เขาคงพุ่งตัวไปรับนาง ให้การสนับสนุนนางถึงเรือนฉือหย่างนานแล้ว
เรื่องนี้มันเลวร้ายมากเกินไป!
หากไม่ใช่ว่าเชียนเสวี่ยของเขามีไหวพริบ หากไม่ใช่ว่าตอนนั้นกุ้ยเสี่ยวซีเคยนำยาตัวนี้มาวางแผนทำร้ายมั่วเชียนเสวี่ย…
เขาไม่กล้าคิดถึงผลที่จะตามมาในภายหลังจากที่ดื่มยานี้ลงไปเลย
ทั้งสองคนกอดกันอยู่ที่ข้างประตูอย่างโง่งม เหมือนกับว่าไม่ได้เจอกันมานานมาก
สาวใช้ในห้องล้วนมีสมาธิจดจ่อ ไม่วอกแวก แล้วถอยออกไปราวกับไม่มีเรื่องอันใด
ก่อนจะถอยออกไป แน่นอนว่าไม่ได้ลืมปิดประตู
หนิงเซ่าชิงปลอบประโลมคนในอ้อมแขน เอ่ยเสียงเบาว่า “เจ้าไม่เป็นอันใดก็ดีแล้ว!”
มั่วเชียนเสวี่ยเงยหน้าขึ้นในอ้อมแขนเขา “เซ่าชิง ท่านคิดว่าเป็นผู้ใดกันแน่”
หนิงเซ่าชิงพึมพำเล็กน้อย ด้านนอกกลับมีเสียงของซุนหมัวมัวดังขึ้น “หัวหน้าตระกูล ฮูหยิน วั่นอี๋เหนียงมาเจ้าค่ะ บอกว่าวันนี้ฮูหยินได้รับความตระหนก นางจึงมาคารวะฮูหยิน! และทักทายหัวหน้าตระกูลเจ้าค่ะ!”
เพิ่งจะผ่านเรื่องนั้นมา มีคนอยากให้นางไร้บุตรหลานสืบทอด
คราวนี้ก็มีคนมาทำให้อึดอัดอีก มั่วเชียนเสวี่ยโมโหมาก
หลังจากเช้าวันนั้น มั่วเชียนเสวี่ยรั้งวั่นจื่ออิ๋งเอาไว้สนทนากัน
นางไม่ได้อ้อมค้อมไปมา นางเคยบอกไปแล้วว่า นางไม่ต้องการให้นางมาปรนนิบัตินาง และยิ่งไม่ต้องการให้นางมาคารวะยามเช้า
นางเคยบอกใบ้นางเช่นกันว่า นางมีขีดจำกัดของตนเอง อย่าเข้ามาแตะต้องง่ายๆ และแย่งชิงอันใดกับนาง
นางไม่ได้ไม่พอใจในตัววั่นจื่ออิ๋ง หากเป็นเมื่อก่อน นางยังค่อนข้างชื่นชมวั่นจื่ออิ๋งผู้นี้มาก
สงบนิ่ง งดงาม รู้ขนบธรรมเนียม รู้ขอบเขต!
แต่เมื่อนางมาถึงจวนหนิง พวกนางไม่สามารถเป็นสหายกันได้อีก นางใจแคบ ไม่มีทางเป็นพี่น้องกับนางได้ พวกนาง…เป็นได้แค่ศัตรูกันเท่ากัน
ยิ่งไปกว่านั้น นางมองเห็นความรักใคร่ที่นางมีต่อหนิงเซ่าชิงในแววตาของวั่นจื่ออิ๋ง
แม้ว่าประกายความรู้สึกจะแวบผ่านไป และแอบซ่อนเอาไว้อย่างรวดเร็ว แต่กลับหลบตานางไม่พ้น
มั่วเชียนเสวี่ยร่างกายแข็งทื่อ หนิงเซ่าชิงสัมผัสได้ สั่งการซุนหมัวมัวเสียงดังว่า “ให้นางกลับไปก่อนเถอะ บอกว่าวันนี้ฮูหยินเหนื่อยแล้ว ต้องการพักผ่อน”
“เจ้าค่ะ”
ซุนหมัวมัวถอยออกไป ครู่หนึ่งก็กลับมารายงาน กล่าวว่าวั่นอี๋เหนียงกลับไปแล้ว แต่อารมณ์ของมั่วเชียนเสวี่ยกลับยังไม่ดีขึ้น
เพราะความหมายในวาจาของวั่นจื่ออิ๋ง ไม่ได้ทักทายนางเท่านั้น ยังทักทายหนิงเซ่าชิงด้วย
นางเข้าใจวิธีของวั่นจื่ออิ๋ง
วั่นจื่ออิ๋งก็ตกอยู่ในสภาวะที่ลำบากใจ หากไม่ช่วงชิง ชั่วชีวิตนี้ก็ไม่มีวันหลุดพ้นจากสภาวะอัดอั้นตันใจ
หากว่าเกิดเรื่องขึ้นกับตนเอง นางไม่มาคารวะยามเช้า ไม่มาทักทายสักหน่อย คนนอกก็จะบอกว่านางไม่รู้จักมารยาท
นางสามารถอาศัยโอกาสนี้มาทำให้หนิงเซ่าชิงรู้จักนาง รู้ว่านางรู้ความ รู้ขนบธรรมเนียมมารยาท
หากชั่วชีวิตนี้วั่นจื่ออิ๋งไม่ได้รับความรักความสงสารจากหนิงเซ่าชิง นางก็ทำได้เพียงแค่ใช้ชีวิตอย่างลำบากและโดดเดี่ยว เป็นสตรีทึนทึกที่รักษาอธิปไตยของตนเองเอาไว้ต่อไปคนหนึ่ง
ใครจะยินยอมให้ช่วงหนุ่มสาวไม่ทันได้เบ่งบาน แล้วแก่ตายในห้องกัน นี่มันไม่ยุติธรรม!
ความจริงแล้ว มั่วเชียนเสวี่ยก็รู้ว่า ที่นางทำเช่นนี้นั้นโหดร้ายมาก
เหตุใดสตรีต้องทำให้สตรีด้วยกันลำบากใจ แต่นางเห็นอกเห็นใจสตรีอื่นไม่ลง แล้วประเคนสามีของตนเองออกไป แบ่งปันกับผู้อื่น นางทำไมได้!
มั่วเชียนเสวี่ยรู้สึกผิดในใจเล็กน้อย จิตใจหนักอึ้ง ผลักหนิงเซ่าชิงออกแล้วเดินไปอีกด้านคนเดียว
นางไม่อยากเป็นสตรีชั่วร้ายจริงๆ แต่ ความเป็นจริงกลับทำให้นางต้องเป็นสตรีชั่วร้าย
วั่นจื่ออิ๋งคนหนึ่ง สวี่หยวนหยวนคนหนึ่ง บางทีในภายหลังอาจจะยังมีสตรีอีกมากมาย…
มั่วเชียนเสวี่ยสีหน้าท้อแท้ใจ หนิงเซ่าชิงจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าเป็นเพราะเรื่องใด
แต่วาจาที่ควรจะเอ่ยก็เอ่ยไปแต่แรกแล้ว ตอนนี้สิ่งที่เขามอบให้นางได้ ก็มีแค่อ้อมกอดอันอบอุ่นของตนเอง ให้เขาเชื่อในตนเอง ให้ความรักระหว่างพวกเขามีความเชื่อใจ ให้นางเชื่อในตนเอง
หนิงเซ่าชิงกอดแน่นมาก กักขังแน่นเสียจนมั่วเชียนเสวี่ยเกือบจะหายใจไม่ออก
มั่วเชียนเสวี่ยไม่ได้ดิ้นรนขัดขืน ร่างกายแข็งทื่อและสั่นเทา
ตอนนี้นางถึงกับมีความคิดว่า ตายในอ้อมแขนของเขาทั้งแบบนี้ จะไม่ใช่ความสุขประเภทหนึ่งได้อย่างไร
เพียงแค่นึกได้ว่า เพิ่งจะเข้ามาในจวน ก็มีคนอยากให้นางไร้บุตรหลานสืบสกุล…
เพียงแค่นึกได้ว่า ในเรือนนี้ยังมีสตรีอีกสองนางเฝ้ารอหนิงเซ่าชิงมอบความรักให้…
เพียงแค่นึกว่า ทุกวันต้องเผชิญหน้ากับใบหน้ายิ้มแย้มแต่ความจริงแอบซ่อนมีดเอาไว้ของฮูหยินผู้เฒ่า…
หัวใจมั่วเชียนเสวี่ยก็หนาวเหน็บ!
นางยืนหยัดต่อไปไม่ไหวแล้ว!
มั่วเชียนเสวี่ยไม่ขยับ! หนิงเซ่าชิงก็นิ่งเช่นกัน เขายังคงกอดมั่วเชียนเสวี่ยที่ตัวสั่นเทาเอาไว้แน่น
เขารู้ว่า ตอนนี้เขาเอ่ยอันใดก็ไม่มีประโยชน์ นางล้วนเข้าใจเหตุผล ความรู้สึกของเขา นางก็เข้าใจ สิ่งที่นางต้องข้ามผ่านไปให้ได้คือตนเอง
อ้อมกอดที่ทรงพลังทำให้มั่วเชียนเสวี่ยคล้ายกับได้กลับไปยังหมู่บ้านหวังจยา
ครั้งแรกที่พวกเขาทะเลาะกัน ในบ้านหลังนั้น นางต้องการให้เขาหย่ากับนาง เขาไม่ยอม ตอนนั้นเขาก็กอดตนเองแบบนี้ หากไม่เอ่ยวาจาก็ไม่ยอมคลายมือเด็ดขาด