เหนียงจื่อของคุณชายขี้โรค - ตอนที่ 522 เชียนเสวี่ยวางหมาก อวิ๋นอิ๋นรนหาที่ตาย (4)
“เมื่อเริ่มต้นเรื่องราวแล้วก็ต้องทำให้สำเร็จ บ่าวก็เคยชินแล้วเจ้าค่ะ!” อวิ๋นอิ๋นยืนกรานจะกลับจวนกั๋วกง มั่วเชียนเสวี่ยก็ทำอันใดไม่ได้ สุดท้ายก็ทำได้แค่พยักหน้าให้อวิ๋นอิ๋นจากไป
รออวิ๋นอิ๋นออกไปแล้ว ชูอีถึงปรากฏตัวขึ้นตรงหน้ามั่วเชียนเสวี่ย
“คุณหนู เมื่อครู่กุ่ยซาบอกบ่าวว่า อวิ๋นอิ๋นล้วนได้ยินบทสนทนาที่คุณหนูใหญ่กับบ่าวคุยกันหมดแล้วเจ้าค่ะ”
มั่วเชียนเสวี่ยพยักหน้า
“ส่งคนตามนางไป ดูสิว่านางจะเปิดเผยข้อมูลนี้ที่ใด”
“เจ้าค่ะ!”
มั่วเชียนเสวี่ยช้ำใจอย่างยิ่ง
นางปฏิบัติต่อสองแม่ลูกอวิ๋นอิ๋นไม่เลว แต่อย่างไรก็คาดไม่ถึงว่า สุดท้ายแล้วอวิ๋นอิ๋นจะทำให้นางผิดหวัง
นางจะให้อวิ๋นอิ๋นรู้ถึงตำแหน่งของนางในใจคนผู้นั้น นางจะให้อวิ๋นอิ๋นได้ลิ้มรสชาติว่าอะไรคือความผิดหวัง อะไรคือความเจ็บปวดใจ
ให้นางคว้าน้ำเหลว ตายตาไม่หลับ
ย่างเข้าสู่เวลากลางคืน ขึ้นไปบนเขา จุดธูปสื่อสาร
เช้าตรู่ อวิ๋นอิ๋นออกจากบ้านไร่ไปจวนกั๋วกง โดยไม่ได้ไปร่ำลามั่วเชียนเสวี่ย
ละครต้องแสดงให้จบ เรื่องนี้นางรู้
แต่หลังจากอยู่ที่จวนกั๋วกงได้ครู่หนึ่ง นางก็หมดสติไปอย่างน่าประหลาด!
พ่อบ้านมั่วตกใจจนต้องประคองอวิ๋นอิ๋นเข้าไปในห้องโถงที่ใช้รับรองแขก!
อวิ๋นอิ๋นก็แค่สลบไปชั่วคราว เหมาะที่จะแสดงความอ่อนแอของตนเอง ส่วนเรื่องพักผ่อนในจวนกั๋วกงนั้น นางใช้เหตุผลว่าที่นี่ยุ่งมาก นางไม่สามารถสร้างความวุ่นวายเพิ่มได้อีกเป็นการปฏิเสธอ้อมๆ
อวิ๋นอิ๋นเดินออกจากจวนกั๋วกง โดยไม่สนใจการรั้งตัวของพ่อบ้าน จากนั้นก็ฉวยโอกาสในตอนที่คนไม่สังเกตเห็น เดินไปบนถนนใหญ่ และสุดท้ายก็เข้าไปในโรงเตี๊ยมแห่งหนึ่ง!
เดินไปถึงประตูห้องห้องหนึ่งที่ชั้นบน อวิ๋นอิ๋นยังคงรู้สึกตื่นเต้นอยู่บ้าง!
เป็นเพราะครั้งนี้นางสามารถช่วยเหลือคุณชายได้ และเพราะหากครั้งนี้ทำสำเร็จ เช่นนั้นคุณชายก็จะพาตนเองจากไปไกลแสนไกล!
จินตนาการถึงการใช้ชีวิตอันงดงามในภายภาคหน้าแล้ว อวิ๋นอิ๋นก็ข่มความละอายใจต่อมั่วเชียนเสวี่ยที่เกิดขึ้นระหว่างทางลงไปไว้ที่ก้นบึ้งหัวใจโดยสิ้นเชิง พลางเคาะประตูห้อง
“เข้ามา!”
แกร๊ก…
อวิ๋นอิ๋นมองไปข้างนอกแวบหนึ่งด้วยความระแวดระวัง หลังจากไม่พบคนแสดงท่าทางจงใจอะไร ก็ปิดประตูห้อง เดินไปข้างกายบุรุษที่นั่งเล่นหน้ากากในมือตนเองอย่างสง่างามที่เตียง
“ผลีผลามมาเช่นนี้ มีเรื่องอันใด” เสียงของบุรุษเย็นชา ไร้ซึ่งความอ่อนโยนดั่งเช่นวันนั้นแม้แต่น้อย
บ้านไร่ไร้ช่องโหว่ แค่ไปครั้งที่แล้ว ก็สูญเสียหน่วยกล้าตายของเขาไปไม่น้อย นับว่าเป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่นแล้ว เขาไม่สามารถไปอีกได้
ท่าทีเช่นนี้ อวิ๋นอิ๋นไม่อาจกล่าวว่าในใจไม่หดหู่
แต่เมื่อมองใบหน้าหล่อเหลาของบุรุษผู้นี้ จินตนาการถึงอนาคต ก็ลืมทุกอย่างไปหมด!
“คุณชาย อวิ๋นอิ๋นเพิ่งจะได้ข้อมูลมาว่า มั่วเชียนเสวี่ยมอบป้ายไม้ดำให้กับหัวหน้าตระกูลหนิงแล้วเจ้าค่ะ”
“หนิงเซ่าชิง?”
“เจ้าค่ะ!”
บุรุษหนุ่มหรี่นัยน์ตาทั้งคู่ของตนเอง ในนัยน์ตาคู่นั้น ตอนนี้เต็มไปด้วยแผนการโหดเหี้ยม
“เรื่องนี้เป็นความจริงหรือ เป็นไปได้ไหมว่าเจ้าถูกพวกเขาพบเข้า แล้วตกหลุมพรางของพวกเขา” บุรุษหนุ่มไม่เชื่ออยู่บ้าง ไม่เชื่อว่าจะมีข่าวของป้ายไม้ดำเร็วขนาดนี้!
อ้างอิงจากนิสัยของหนิงเซ่าชิงและมั่วเชียนเสวี่ยคนนั้น ล้วนเป็นคนรอบคอบ จะต้องไม่มีทางให้คนอื่นรู้เรื่องนี้แน่นอน
ความจริงแล้ว กล่าวตามตรง บุรุษผู้นี้ยังคงไม่เชื่อว่าอวิ๋นอิ๋นที่ไม่มีอะไรดีสักอย่างจะได้รับข้อมูลที่แม่นยำเช่นนี้!
อวิ๋นอิ๋นย่อมไม่รู้ว่าในสายตาของบุรุษผู้นี้ ตนเองถึงกับมีภาพลักษณ์แบบนั้น จึงยังคงซ่อนความรู้สึกตื่นเต้นเอาไว้ในใจ
“ไม่เจ้าค่ะ! นี่เป็นสิ่งที่อวิ๋นอิ๋นได้ยินโดยบังเอิญ อีกทั้งมั่วเชียนเสวี่ยก็ร่วมหอกับหนิงเซ่าชิงแล้ว หลังจากนางร่วมหอเมื่อวาน ก็มอบป้ายไม้เป็น้ของแทนใจให้กับหนิงเซ่าชิง”
“หืม?”
“ข้าได้ตรวจดูร่างกายของมั่วเชียนเสวี่ยใกล้ๆ มีร่องรอย…จริงๆ เจ้าค่ะ”
เอ่ยถึงตรงนี้ อวิ๋นอิ๋นก็หน้าแดงระเรื่ออย่างอดไม่อยู่ ร่างกายก็คล้ายกับไม่มีกระดูก เอนเข้าไปใกล้ร่างบุรุษผู้นั้นอย่างควบคุมตนเองไม่อยู่
บุรุษผู้นั้นกลับผลักออก รักษาระยะห่างเอาไว้อย่างใจร้าย
อวิ๋นอิ๋นตะลึง
“คุยเรื่องสำคัญก่อน”
อวิ๋นอิ๋นก็รู้สึกว่าตนเองบุ่มบ่ามเกินไป จึงยืดตัวตรง แล้วเอ่ยว่า
“บริเวณต้นคอนางว่างเปล่า แต่ข้ากลับเห็นร่องรอยหลังจากเชือกกดทับ อีกทั้งแค่มองก็รู้ว่า รอยนั่นเป็นมานานมากแล้ว!”
อวิ๋นอิ๋นเอ่ยเช่นนี้ บุรุษหนุ่มก็ครุ่นคิดอย่างละเอียดรอบหนึ่งแล้ว ก็เลือกที่จะเชื่ออวิ๋นอิ๋น
อย่างไรเสียเรื่องระหว่างบุรุษและสตรี มากน้อยเช่นไรเขาก็เข้าใจ! รู้ว่าหลังจากสตรีมอบกายและใจให้กับบุรุษแล้ว จะต้องมอบของที่ตนเองคิดว่าสำคัญที่สุดให้กับบุรุษคนนั้น!
และในเมื่อหนิงเซ่าชิงกับมั่วเชียนเสวี่ยเป็นสามีภรรยากันอย่างแท้จริงแล้ว การมอบป้ายไม้ดำให้หนิงเซ่าชิงดูแลรักษา ก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้!
คิดได้เช่นนี้ ก็หัวเราะเบาๆ
ร่วมเรียงเคียงหมอนกันแล้ว? ดูท่าหนิงเซ่าชิงจะทนไม่ไหวสินะ!
วันวันแสร้งทำเป็นมีคุณธรรม ทำตัวสูงส่งเหนือผู้อื่นต่อหน้าเขา สุดท้ายลับหลังก็ไม่ใช่ว่าลับๆ ล่อๆ เหมือนกัน
แต่ว่า แบบนี้ก็ดีเช่นกัน!
นี่ก็เป็นจุดอ่อนจุดหนึ่ง!
เขาต้องครุ่นคิดให้ดีสักหน่อยว่า จะเอาป้ายไม้ดำมาจากหนิงเซ่าชิงได้อย่างไร และจะใช้จุดอ่อนนี้ให้ได้ในสิ่งที่เขาต้องการมากขึ้นได้อย่างไร
“อืม ข้ารู้แล้ว เจ้ากลับไปก่อนเถอะ อย่าให้คนจับพิรุธได้เด็ดขาด!”
เผชิญหน้ากับน้ำเสียงเย็นชาไร้ความรู้สึกของบุรุษผู้นี้ เดิมหัวใจที่ร้อนผะผ่าวของอวิ๋นอิ๋น พลันเย็นยะเยือกเล็กน้อย!
รู้สึกแย่มาก ทุกข์ใจมาก!
ไม่ใช่บอกว่า รอได้ป้ายไม้นี้แล้ว จะพานางจากไปหรือ
อีกอย่าง เมื่อครู่นี้…เขาผลักนางออก
เวลานานขนาดนี้แล้ว เขาไม่อยากหรือ
ไม่คิดถึงร่างกายของนาง? และไม่คิดถึงนาง?
ตอนนี้ นางพลันไม่มั่นใจว่า ตนเองมีตัวตนอย่างไรในหัวใจของบุรุษผู้นี้กันแน่ หรือจะเป็นเพียงแค่สายลับคนหนึ่ง ไส้ศึกคนหนึ่ง คนที่ถูกส่งไปทำงานนอกสถานที่คนหนึ่งกัน
บุรุษผู้นี้รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงของอวิ๋นอิ๋นได้อย่างฉับไว
ในใจก็รู้สึกรำคาญเล็กน้อย
เขารังเกียจสตรีเช่นนี้มากที่สุด! ไม่รู้จักดีชั่ว ไม่รู้จักกฎระเบียบ!
แต่ตอนนี้เขามีแค่อวิ๋นอิ๋นที่คอยเป็นหูเป็นตาอยู่ข้างกายมั่วเชียนเสวี่ยคนเดียว เขายังต้องให้นางทำเรื่องต่างๆ ให้เขาอยู่! ดังนั้นจึงไม่สามารถแตกหักกับอวิ๋นอิ๋นได้
อย่างน้อย ตอนนี้ก็ยังไม่ได้!
อดกลั้นความรังเกียจเอาไว้
“เอาเถอะ! เจ้าก็รู้ว่าป้ายไม้ดำสำคัญต่อข้ามาก ในใจข้าจึงเลี่ยงไม่ได้ที่จะรู้สึกตื่นเต้น!” บุรุษหนุ่มก้าวขึ้นมาก้าวหนึ่ง กอดร่างอวิ๋นอิ๋นเอาไว้ โน้มตัวลงไปจุมพิตอวิ๋นอิ๋นแผ่วเบา
หลังจากเห็นความผ่อนคลายในแววตาอวิ๋นอิ๋น เขาเติมไฟเข้าไปเพิ่ม
“วันเวลายังอีกยาวไกล! เจ้ากลับไปเก็บข้าวของก่อน คาดว่าอีกไม่นาน พวกเราก็จะสามารถไปจากเมืองหลวงได้แล้ว ถึงตอนนั้น พวกเราสองคนก็หาสถานที่ที่ไม่มีผู้ใดมารบกวนแห่งหนึ่ง ใช้ชีวิตเหมือนคู่รักเทพเซียน งดงามมาก ใช่หรือไม่”