เหนียงจื่อของคุณชายขี้โรค - ตอนที่ 508 หลายฝ่ายช่วงชิงความเป็นใหญ่ ความเจ็บปวดที่ต้องชดใช้ด้วยเลือด (1)
- Home
- เหนียงจื่อของคุณชายขี้โรค
- ตอนที่ 508 หลายฝ่ายช่วงชิงความเป็นใหญ่ ความเจ็บปวดที่ต้องชดใช้ด้วยเลือด (1)
ถึงอย่างไรก็สามารถพบหนิงเซ่าชิงได้ตลอดเวลาตามแต่ใจปรารถนา ทว่าการได้พบกับหนิงเหล่าเหยีย นี่มันก็…เป็นครั้งแรกที่ดรุณีน้อยนั่งเกี้ยว จึงเลี่ยงไม่ได้ที่จะรู้สึกตื่นเต้น
มั่วเชียนเสวี่ยก็รู้สึกขลาดกลัวเล็กน้อยเหมือนกับสะใภ้อัปลักษณ์ทุกคนเช่นกัน
นางพลันปวดขมับขึ้นมา! เมื่อนึกถึงบิดามารดาและหนิงเหล่าฮูหยินที่แสนดื้อดึงคนนั้นของสามี
ฮูหยินผู้เฒ่าผู้นั้น…ทำให้นางงงจริงๆ!
จย่าฮูหยินเก็บความกังวลบนใบหน้าไปนานแล้ว เดินไปข้างหน้าให้มั่วเชียนเสวี่ยคล้องแขนนาง
กังวลไปก็ไร้ประโยชน์ สิ่งสำคัญคือต้องเป็นกำลังสนับสนุนเบื้องหลังที่แข็งแกร่งที่สุดให้นาง
“เชียนเสวี่ยไม่ต้องกลัว แม่บุญธรรมอยู่นี่! หากเชียนเสวี่ยเห็นด้วย การแลกเปลี่ยนใบบันทึกวันเดือนปีเกิดในวันนี้ ก็ให้แม่บุญธรรมเป็นผู้ส่งมอบแทนเจ้าเถอะ!”
ตระกูลมั่วไม่มีใคร แม้จะกล่าวว่า มั่วจื่อถังให้อาสะใภ้หลายคนมาดูแล แต่ก็ไม่เหมาะสมที่จะให้ออกหน้าอยู่บ้าง
หากให้สตรีไร้ฐานะเหล่านี้แสดงตัวเป็นผู้อาวุโสของมั่วเชียนเสวี่ย มอบใบบันทึกวันเดือนปีเกิดให้กับหนิงเหล่าเหยีย ก็เกรงว่าจะทำให้กลายเป็นที่ขบขันเอาได้
จย่าฮูหยินไม่ได้เอ่ยเหตุผลออกมาตรงๆ แต่มั่วเชียนเสวี่ยกลับคิดออกทันที
นางพลันเข้าใจขึ้นมา “ขอบคุณท่านที่เตือนเจ้าค่ะ! เช่นนั้นก็คงต้องฝากท่านแล้ว”
“ไม่เป็นไร”
ระหว่างที่ทั้งสองคนสนทนาหัวร่อต่อกระซิก ก็ทำให้ความตื่นเต้นของมั่วเชียนเสวี่ยจางหายไป
ในห้องโถงด้านหน้า พ่อบ้านมั่วกำลังรับรองหนิงเหล่าเหยียกับหนิงเซ่าชิงที่นั่งจิบชาอยู่ที่นั่น
พ่อบ้านมั่วเป็นคนที่ผ่านโลกมามาก ระหว่างนั้นไม่มีสิ่งใดผิดพลาดแม้แต่น้อย ทำให้ผู้คนรู้สึกสบาย ทั้งยังไม่รู้สึกว่าต่ำต้อย
เมื่อมั่วเชียนเสวี่ยก้าวเข้ามาในห้องโถง ก็รู้สึกถึงสายตาร้อนแรงที่ส่งมาเป็นระยะ
เงยหน้าขึ้น ก็เห็นหนิงเซ่าชิงมองนางด้วยสายตาที่เปี่ยมไปด้วยความอ่อนโยนและตื้นตัน
นับตั้งแต่วันนี้ พวกเขาสองคนจะได้อยู่ด้วยกันอย่างสมเหตุสมผล ทั้งยังก้าวหน้าไปอีกขั้นด้วย!
ไม่มีใครแยกพวกเขาได้อีก!
ทว่าอย่างไรหนิงเซ่าชิงในตอนนี้ก็คิดไม่ถึงว่า พวกเขายังต้องพบเจอกับแผนร้ายซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนแทบจะทำให้เขาสติฟั่นเฟือน เพราะเกือบสูญเสียมั่วเชียนเสวี่ย ทั้งที่ความรักระหว่างพวกเขาหนักแน่นถึงเพียงนี้
แน่นอนว่านี่เป็นเรื่องในภายหลัง ตอนนี้จะไม่กล่าวถึงชั่วคราว
มั่วเชียนเสวี่ยที่รับสายตาจากหนิงเซ่าชิงโดยไม่ทันตั้งตัวในตอนนี้ ก็หลบตาทันที ราวกับดรุณีน้อยนางหนึ่ง แววตาเต็มไปด้วยความเขินอาย
เขาไม่รู้จักแอบซ่อนความรู้สึกต่อหน้าธารกำนัลสักนิด นางเป็นคนของเขาไปแล้ว ยังจะ…
ส่วนหนิงเซ่าชิงที่เห็นท่าทางเขินอายของนาง สายตาก็พลันอ่อนโยน มุมปากโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มสมบูรณ์แบบ
ทั้งคู่แค่แลกเปลี่ยนสายตากัน ทว่าหนิงเหล่าเหยียกลับต้องเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อลูกสะใภ้ในอนาคตที่ได้พบหน้ากันเป็นครั้งแรกเสียแล้ว!
คนอื่นอาจไม่เข้าใจบุตรชายเขา แต่ตัวเขาจะไม่เข้าใจได้อย่างไร
เซ่าชิงดูแล้วสุภาพอ่อนโยน และเข้าหาได้ง่าย แต่ความจริงแล้ว เขาเป็นเด็กที่เย็นชาอย่างยิ่ง ทั้งยังไม่มีความกระตือรือร้นต่อผู้คนและเรื่องราวมากนัก
เซี่ยซื่อสวมหน้ากาก ให้ความเป็นห่วงมานานหลายปี ส่วนเซ่าอวี่ก็มีสายเลือดเดียวกันกับเขา ถึงได้รับความจริงใจส่วนหนึ่ง แต่เขาก็ไม่เคยให้ความสนิทสนมมากไป
ตอนนี้ เมื่อค้นพบความจอมปลอมที่อยู่เบื้องหลังความจริงใจ ไม่ต้องเอ่ยถึงความใกล้ชิดเลย กระทั่งเอ่ยถึง หนิงเซ่าชิงก็ไม่เคยเอ่ยถึงต่อหนัาเขาสักครั้ง ราวกับว่าในชีวิตเขา ไม่เคยมีสองคนนี้ปรากฏตัวขึ้นมาก่อน
มั่วเชียนเสวี่ยทำความเคารพหนิงเหล่าเหยียอย่างงดงาม และไปหลบที่ห้องด้านในตามประเพณี
พิธีหมั้นหมายเช่นนี้ แม้จะไม่ได้ขัดกับพิธีโบราณ แต่กลับมีความพิเศษแล้วพิเศษอีกจริงๆ
ผู้ที่แลกเปลี่ยนใบบันทึกวันเดือนปีเกิดของฝั่งบุรุษคือบิดา แต่ตัวแทนของฝั่งสตรีกลับเป็นมารดาบุญธรรมที่ไม่ได้มีสายเลือดเดียวกัน
ท่ามกลางแขกผู้มีเกียรติ บ้างคลางแคลงใจ บ้างอวยพร และมีบ้างที่มาร่วมพิธีอย่างขอไปที
ทว่าล้วนสงบเงียบอย่างยิ่ง
แม้ว่าการรวมกลุ่มกันเช่นนี้จะประหลาดมาก แต่ฐานะของทั้งสองฝ่ายก็ประจักษ์อยู่ตรงหน้า
คนหนึ่งคือหัวหน้าตระกูลขุนนางเก่าแก่รุ่นก่อน คนหนึ่งคือภรรยาบัณฑิตผู้มีความรู้ลึกซึ้งกว้างขวางในยุคนี้…ซึ่งเป็นฮูหยินขั้นหนึ่งที่ฮ่องเต้แต่งตั้งด้วยพระองค์เอง
ใครจะกล้ากังขา
หนิงเหล่าเหยียพยักหน้าในตอนที่มั่วเชียนเสวี่ยแสดงความเคารพ โดยที่สีหน้าไม่เปลี่ยนแปลง
จย่าฮูหยินนั้นมีสีหน้าท่าทางสง่าผ่าเผย
ในบรรดาฮูหยินทั้งสามคน จย่าฮูหยินคือคนที่ตระกูลหนิงเชิญมาเป็นแม่สื่อ
เมื่อเห็นว่าถึงเวลาแล้ว ก็กระแอมไอ แล้วก้าวออกมากล่าววาจาอันเป็นสิริมงคลเล็กน้อย
และทำพิธีแลกเปลี่ยนใบบันทึกวันเดือนปีเกิดของตระกูลขุนนางรอบหนึ่ง จากนั้นก็ตัดสินใจให้ทั้งสองตระกูลแลกเปลี่ยนใบบันทึกวันเดือนปีเกิดกันอย่างเป็นทางการ
ดังนั้น ภายใต้การกำกับดูแลของจย่าฮูหยิน ท่ามกลางการเป็นประจักษ์พยานของแขกผู้มีเกียรติ จย่าฮูหยินยื่นใบบันทึกวันเดือนปีเกิดออกไป หนิงเหล่าเหยียก็ยื่นมือออกมารับ…
หนิงเซ่าชิงยิ้มยินดีจนตาหรี่ลงเป็นขีดเดียว
ถงจื่อจิ้งยิ้ม เขาหวังอย่างจริงใจว่าพี่สาวจะมีความสุข
เฟิงอวี้เฉินยิ้มเช่นกัน แม้ว่าจะยิ้มอย่างขมขื่น แต่เขาก็ยังรู้สึกดีใจที่มั่วเชียนเสวี่ยมีแหล่งพักพิงที่ดี
ชังมู่ก็ยิ้ม ท่านกั๋วกงที่อยู่บนสวรรค์ ย่อมสบายใจแน่นอน…
ผู้คนที่อวยพร หรือที่ทำแบบขอไปที ไม่มีผู้ใดที่ใบหน้าไร้รอยยิ้ม
ทุกอย่างล้วนราบรื่นขนาดนั้น สมัครสมานเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันขนาดนั้น
ทว่า กลับมีเสียงรายงานอย่างร้อนรนดังลอยมาจากด้านนอก
“ไม่ได้การแล้ว! เกิดเรื่องใหญ่ขึ้นแล้ว!”
น้ำเสียงร้อนใจดังชัดเจนเกินไป
พิธีหมั้นหมายที่เดิม บรรยากาศเปี่ยมไปด้วยความปลาบปลื้มปีติยินดี และสมัครสมานสามัคคี กลับเงียบกริบ เพราะถูกเสียงร้อนใจจากการส่งข่าวที่ดังขึ้นอย่างไม่คาดคิด
สถานการณ์แปลกประหลาดขึ้นมาทันที
มั่วเชียนเสวี่ยที่อยู่ในห้องย่อมได้ยินเสียงนั่นเช่นกัน ใจพลันกระตุก คิ้วขมวดเป็นปม!
นางไม่มีทางให้อภัยคนที่กล้ามาก่อกวนพิธีในวันนี้ง่ายๆ แน่นอน!
กล่าวความจริง หลายวันก่อน ลึกๆ ในใจนางรู้สึกไม่สงบเอาเสียเลย มองดูพิธีหมั้นหมายที่กำลังจะมาถึง นางไม่กล้าเชื่อว่าจะสงบสุขไร้เรื่องราวใดๆ และไร้ผู้คนก่อกวนในพิธี
เพียงแต่นางไม่อยากสร้างแรงกดดันที่ไม่จำเป็นเพิ่มให้หนิงเซ่าชิง จึงได้อดกลั้นเอาไว้ โดยไม่เอ่ยวาจาใดตลอด
แต่ตอนนี้ เสียงที่เอ่ยว่า ‘ไม่ได้การแล้ว!’ ตะโกนดังชัดอยู่ในใจมั่วเชียนเสวี่ย
มาได้เวลาพอดี นางจะได้ประลองฝีมือด้วย ดูสิว่าใครที่ไม่อยากมีชีวิตอยู่ จึงมารนหาที่ตาย
มั่วเชียนเสวี่ยลุกขึ้น เดินออกไปนอกห้องอย่างไม่ลังเลด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
นางที่มีดวงวิญญาณในยุคปัจจุบัน ไม่ได้มีความเหนียมอายมากขนาดนั้น
ยิ่งกว่านั้น นางก็เป็นผู้มีอำนาจดูแลบ้านไร่เพียงคนเดียว เมื่อเกิดเรื่อง นางก็ไม่มีที่พึ่งพิง
วันนี้เมื่อเกิดเรื่อง นางออกหน้าก็ไม่ผิดอันใด
หนิงเหล่าเหยียและจย่าฮูหยินล้วนเป็นคนที่มีประสบการณ์มาก จึงไม่สนใจเรื่องอื่นๆ แม้ว่าใบหน้าจะไม่พอใจ แต่กลับแลกเปลี่ยนใบบันทึกวันเดือนปีเกิดของคนทั้งคู่กันเงียบๆ และต่างคนต่างคารวะกัน
ถ้าหากถูกคนก่อกวน แลกเปลี่ยนกันไม่สำเร็จ ก็ต้องเลือกวันใหม่ พิธีหมั้นหมายเลื่อนเข้าเลื่อนออก จะไม่กลายเป็นเรื่องขบขันในใต้หล้าหรอกหรือ
จย่าฮูหยินก็เป็นคนฉลาด จึงประกาศ โดยทำเหมือนไม่เห็นผู้มาเยือน “เสร็จสิ้นพิธี!” สิ้นสุดพิธีหมั้นหมายที่ประหลาดที่สุดในใต้หล้านี้ลงแล้ว