เหนียงจื่อของคุณชายขี้โรค - ตอนที่ 481 ชดใช้ความผิด ความฉลาดแกมโกงของเตาหนูกับกุ่ยซา (5)
- Home
- เหนียงจื่อของคุณชายขี้โรค
- ตอนที่ 481 ชดใช้ความผิด ความฉลาดแกมโกงของเตาหนูกับกุ่ยซา (5)
หนิงเซ่าชิงลุกขึ้นแล้วเปิดประตูไปข้างนอก อย่างแรกคือให้ผู้ช่วยในโรงเตี๊ยมต้มน้ำร้อน เตรียมไว้ตอนที่มั่วเชียนเสวี่ยตื่นขึ้นมา จะได้สดชื่น จากนั้นก็ให้เสี่ยวเอ้อร์ไปทำอาหารรสอ่อนในครัวมาหลายอย่าง รอมั่วเชียนเสวี่ยอาบน้ำเสร็จ ก็ได้กินพอดี
รอจนจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว มั่วเชียนเสวี่ยก็ค่อยๆ ตื่นขึ้นมา
สิ่งที่ปรากฏเข้าสู่นัยน์ตาคือมุ้งสีขาว คราแรกสมองมั่วเชียนเสวี่ยยังมึนงงอยู่เล็กน้อย ไม่รู้ว่าตอนนี้ตนเองอยู่ที่ไหน
“เชียนเสวี่ย? ตื่นแล้วหรือ”
และในตอนนี้ เสียงของหนิงเซ่าชิงก็ดังลอยมา อ่อนโยนราวกับสามารถทำให้คนลุ่มหลงมัวเมา
มั่วเชียนเสวี่ยถึงได้นึกถึงเรื่องเมื่อคืนทั้งหมดขึ้นมา
ใบหน้าก็แดงระเรื่อในพริบตา!
น่าขายหน้าเกินไปแล้ว! เมื่อวานพวกเขาบ้าคลั่งเกินไปแล้วจริงๆ!
มั่วเชียนเสวี่ยยังจำได้เลือนราง พวกเขาเพิ่งจะสิ้นสุดกิจกรรมเข้าจังหวะในช่วงที่ฟ้าสว่างเล็กน้อย
ไม่รู้เลยจริงๆ ว่าบุรุษผู้หนึ่งจะมีกำลังกายดีขนาดนี้!
ที่แท้หนึ่งคืนเจ็ดครั้งที่เอ่ยถึงกันในตำนานก็ไม่ใช่ว่าไม่มี เพียงแต่นางไม่ได้พบเท่านั้นเอง และในวันนี้ นางได้พบกับสิ่งพิสดารเช่นนี้แล้ว แต่กลับแค้นใจที่ทำไมตนเองไม่เคยพบมาก่อน!
“เสวี่ยเสวี่ย?” เห็นมั่วเชียนเสวี่ยยังคงไม่ส่งเสียงเป็นเวลานาน หนิงเซ่าชิงก็รู้สึกเป็นห่วงอยู่บ้าง
หรือเมื่อคืนจะต้องการมากเกินไป จนทำให้ตอนนี้นางไม่มีแม้กระทั่งแรงจะเอ่ยวาจา?
ลุกขึ้นเดินไปที่เตียง ขณะที่คิดจะเลิกม่านหน้าต่างขึ้นดูสักนิด ก็พลันได้ยินมั่วเชียนเสวี่ยร้องเสียงหลง!
“อย่า! หนิงเซ่าชิง ท่านออกไปนะ!”
น้ำเสียงร้อนรน ทั้งยังแฝงไปด้วยความขวยเขิน!
เมื่อคืนเปิดเผยความรู้สึกต่ออีกฝ่ายจนหมดแล้ว วันนี้ยังจะเขินอาย นี่ทำให้หนิงเซ่าชิงยิ้มเจื่อนๆ อย่างจนปัญญาอยู่บ้างจริงๆ
แต่เพื่อที่จะไม่ให้อีกครู่ มั่วเชียนเสวี่ยมีโอกาสคลุ้มคลั่ง หนิงเซ่าชิงแม้อยากจะสอดแนมทัศนียภาพภายในม่านเตียงมาก แต่กลับปล่อยมือออกไปเฉยๆ จากนั้นก็หมุนกายออกไปนอกห้อง
มั่วเชียนเสวี่ยได้ยินเสียงฝีเท้าหนิงเซ่าชิงจากไปแล้ว ถึงได้โล่งใจอย่างอดไม่อยู่
“เฮ้อ…ถูกเขาทำให้ตกใจแทบตายจริงๆ!”
บุรุษไม่มีวันเข้าใจว่าในใจสตรีคิดสิ่งใดอยู่ตลอดกาล
แม้ว่านี่จะไม่ใช่ครั้งแรกของทั้งสองคน แต่กลับเป็นเพราะหลังจากที่ตนเองตื่นขึ้นมาในครั้งที่แล้ว หนิงเซ่าชิงจากไปแล้ว ดังนั้นจึงไม่มีสิ่งที่เรียกว่าความกระอักกระอ่วนเกิดขึ้น
ตอนกลางคืนจะบ้าคลั่งเช่นไรก็เป็นเรื่องของตอนกลางคืน แต่ตอนนี้เป็นช่วงเวลากลางวัน ให้นางไปพบกับหนิงเซ่าชิงในสภาพเช่นนี้ อภัยให้นางที่เป็นคนในยุคปัจจุบัน ดวงวิญญาณในยุคปัจจุบัน ล้วนรับไม่ได้
ตอนที่มั่วเชียนเสวี่ยยันตัวขึ้นเล็กน้อย แต่กลับถูกความปวดเมื่อยทำให้ล้มกลับลงไปบนเตียงทันที ก็ถูกทำให้โมโหแทบตายจริงๆ!
หนิงเซ่าชิง ท่านมันคนเลว! ท่านมันคนชั่วร้าย!
ท่านกินอิ่มหมีพีมันก็กระชุ่มกระชวยเป็นร้อยเท่า ส่วนข้ากระทั่งแรงจะลุกขึ้นยังไม่มี!
นี่มันประเพณีนิยมอะไรกัน! จะถูกทำให้โมโหตายแล้ว!
และหนิงเซ่าชิงย่อมได้ยินเสียงภายในห้องนี้ จึงอดไม่ได้ที่จะยิ้มบางๆ ในใจก็รู้สึกสงสารอยู่บ้าง
เห็นได้ชัดว่าเมื่อคืนสูญเสียการควบคุมเกินไปจริงๆ วันนี้ถึงได้ทำให้เสวี่ยเสวี่ยรู้สึกแย่ขนาดนี้
“เสวี่ยเสวี่ย ข้าให้เสี่ยวเอ้อร์ต้มน้ำร้อนแล้ว แช่สักหน่อย…แค่กๆ แช่สักหน่อยอาจจะบรรเทาอาการได้?”
ปัง!
สิ่งที่ตอบกลับหนิงเซ่าชิงก็มีเพียงแค่เสียงเตียงที่ถูกมั่วเชียนเสวี่ยทุบอย่างแรงด้วยความโมโหสุดขีด
ตอนที่หนิงเซ่าชิงได้ยินเสียงนี้ ก็ทำได้แค่ลูบจมูกตนเองอย่างจนปัญญา และรีบลุกขึ้นไปข้างนอก สั่งเสี่ยวเอ้อร์ให้ยกน้ำเข้ามา จะได้ไม่ทำให้มั่วเชียนเสวี่ยโมโหอีก
แน่นอนว่า เสี่ยวเอ้อร์เพียงแค่ยกน้ำมาไว้ที่ประตู ขั้นตอนหลังจากนั้นมีหนิงเซ่าชิงเป็นคนทำด้วยตนเอง
เหลวไหล! นี่อยู่ข้างนอก ทั้งสองคนคล้ายกับลักลอบมาค้างด้วยกันคืนหนึ่ง เชียนเสวี่ยไร้สาวใช้ปรนนิบัติ เขาไม่ทำให้ด้วยตนเอง หรือว่า…
หรือว่าเขาซึ่งเป็นคนขี้หึงขี้หวงขนาดนี้ จะให้คนแปลกหน้าก้าวเข้ามาในพื้นที่ส่วนตัวของเขากับมั่วเชียนเสวี่ยเช่นนั้นหรือ
รอจนถังอาบน้ำถูกเติมน้ำจนเต็มแล้ว หนิงเซ่าชิงถึงเข้ามาในห้อง และเลิกมุ้งที่เตียงขึ้นโดยไม่พูดพล่ามทำเพลงใดๆ!
กรี๊ด…
“เสวี่ยเสวี่ย…” สำหรับเรื่องนี้ หนิงเซ่าชิงแสดงออกว่าตนเองจนปัญญาแล้วจริงๆ
ตนเองไม่ใช่คนโหดเหี้ยมป่าเถื่อน แถมยังเป็นสามีของนาง เสวี่ยเสวี่ยของเขาจำเป็นต้องมีปฏิกิริยาตอบสนองรุนแรงขนาดนี้ด้วยหรือ
“หนิง…หนิงเซ่าชิง ท่านทำอะไรน่ะ ออกไป! ออกไปนะ!” มั่วเชียนเสวี่ยไม่ได้ตื่นตระหนก แต่ลำบากใจ!
ถูกหนิงเซ่าชิงเห็นภายใต้สถานการณ์ที่มีสติเช่นนี้ ตัวนางเองรู้สึกว่าตอนนี้ทั่วทั้งร่างล้วนแดงก่ำ! และขนลุกไปหมด!
น่าอาย! น่าอายจริงๆ! น่าอายเกินไปแล้ว!
ในตอนที่เห็นทัศนียภาพอันงดงามตรงหน้า หนิงเซ่าชิงเบนสายตาจากไปไม่ได้อยู่บ้าง!
แต่เขาก็รู้ว่ามั่วเชียนเสวี่ยคงจะเหนื่อยแทบตายแน่นอน! ดังนั้น แม้ว่าเขาจะมีความคิดในเรื่องนั้น แต่ก็ไม่กล้าแสดงมันออกมา
“เสวี่ยเสวี่ย เจ้ามั่นใจว่าหลังจากข้าออกไปแล้ว เจ้าจะลุกขึ้นมาอาบน้ำได้?” วัตถุประสงค์หลักของเขาไม่ใช่หลอกกินเต้าหู้มั่วเชียนเสวี่ย แต่จะอุ้มนางไปอาบน้ำ
สำหรับเรื่องนี้ มั่วเชียนเสวี่ยไม่เอ่ยอันใด
แม้ว่านางจะเขินอาย แต่ก็รู้ว่า ด้วยกำลังกายของตนเองในตอนนี้ ย่อมไม่สามารถเดินไปถึงถังอาบน้ำได้อย่างราบรื่น
แม้ว่าจะเดินไปได้อย่างราบรื่น ก็ไม่ใช่ว่าจะให้คนหน้าไม่อายผู้นี้เห็นท่าทางขบขัน และเอาเปรียบอีกนิด
“เช่นนั้นท่านจะนิ่งอยู่ทำไม ข้า…ข้าจะอาบน้ำ!”
มั่วเชียนเสวี่ยถลึงตามองหนิงเซ่าชิงอย่างดุร้าย!
ยังจะยิ้ม! ไม่ใช่เป็นเพราะท่านหรอกหรือ! ถ้าไม่ใช่เพราะท่าน ข้าจะหมดสภาพจนกระทั่งลุกจากเตียงไม่ได้หรือ
สายตาตำหนิเช่นนี้ ยิ่งเอาใจหนิงเซ่าชิงเพิ่มขึ้น เห็นเพียงเขาหัวเราะเสียงเบา จากนั้นก็เอ่ยด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลที่แฝงไปด้วยความรักและตามใจอย่างสุดซึ้ง
“ขอรับ เหนียงจื่อผู้ยิ่งใหญ่”
แม้ว่าระหว่างนั้นจะล้มลุกคลุกคลาน แต่รอจนมั่วเชียนเสวี่ยอาบน้ำออกมาแล้ว ก็รู้สึกว่าตนเองมีชีวิตคืนมาอีกครั้ง!
เนื่องด้วยความรอบคอบของหนิงเซ่าชิง มั่วเชียนเสวี่ยก็ไม่ชักสีหน้าใส่เขาอีก
และลงไปกินอาหารเช้ากับเขา
เวลาในกินอาหารเช้าเพียงครู่เดียว ทำให้มั่วเชียนเสวี่ยคิดถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมา
มั่วเชียนเสวี่ยวางตะเกียบในมือ หยิบกระดาษออกมาจากอ้อมแขนของตนเอง พลางยื่นให้หนิงเซ่าชิง
“เซ่าชิง ท่านดูนี่สิ”
หนิงเซ่าชิงเลิกคิ้วน้อยๆ รับกระดาษที่มั่วเชียนเสวี่ยยื่นมาให้ เมื่อเปิดออกอ่าน ก็พลันตะลึงเล็กน้อย
“นี่…หมายความว่าอะไร”
มั่วเชียนเสวี่ยก็ส่ายหน้า อธิบายว่า “ข้าก็ไม่รู้ เมื่อวานตอนข้าไปอี้ผิ่นเซวียน หลงจู๊ผู้นั้นก็มอบสิ่งนี้ให้ข้า ทั้งยังแนบจดหมายมาด้วยฉบับหนึ่ง”
คิดถึงตรงนี้ มั่วเชียนเสวี่ยก็นึกถึงสถานการณ์เมื่อวานนี้
“ซินอี้หมิงเป็นคนส่งจดหมายมา แต่กลับเป็นลายมือของชิงโยว”
กลัวไหน้ำส้มนี้จะหึงหวงอีก ดังนั้นมั่วเชียนเสวี่ยจึงรีบอธิบายต้นสายปลายเหตุให้หนิงเซ่าชิงฟัง