เหนียงจื่อของคุณชายขี้โรค - ตอนที่ 413 อวี้เหอจากไปอย่างพ่ายแพ้ (3)
องค์หญิงอวี้เหอสูดลมหายใจแผ่วเบา พยายามวางตัวสง่างาม “สายมากแล้ว ข้าเองก็รู้สึกเหนื่อยแล้ว…”
ปี้หวนที่ยืนรับใช้ด้านหลังมาโดยตลอดก็เดินจากเก้าอี้ด้านหลังมาด้านหน้า ช่วยประคององค์หญิงอวี้เหอ
จื่อจู่เดินถือขนมมา ส่งสายตาให้ชูอีที่ยกน้ำชาอยู่ข้างๆ ชูอีไม่ทันระวัง ลื่นไถล…
ว้าย… ชูอีล้มลง กาน้ำชาในมือนางตกลงไปด้านหน้า!
กาน้ำชาตกลง…ตรงกลางห้องโถง!
ด้วยความตกใจองค์หญิงอวี้เหอจึงก้าวถอยหลัง
กาน้ำชานั้นทำมาจากทองแดง กลิ้งสองครั้ง ตกใส่เท้าของสตรีชั้นสูงคนหนึ่ง
“สวรรค์! สาวใช้คนนี้เป็นอะไรไป หากตกใส่ผู้อื่น ชีวิตอันไร้ค่าของเจ้าจะชดใช้ได้หรือ” จู่ๆ ก็เห็นกาน้ำชาตกลงมาจากด้านบน สตรีชั้นสูงโชคร้ายที่ถูกกาน้ำชาตกใส่เท้า ตกใจจนกระโดด!
เมื่อลุกขึ้นแล้วเห็นว่ากระโปรงของตนเปียกเล็กน้อย นางโมโหเป็นฟืนเป็นไฟทันที! ชี้หน้าด่าทอชูอี!
“คุณหนูโปรดอย่าเคืองขุ่น ข้าน้อยไม่ได้ตั้งใจเจ้าค่ะ ข้าน้อยไม่กล้าแล้ว!” ชูอีแสดงเป็นสาวใช้กระวนกระวายได้อย่างสมบทบาท คุกเข่าลงบนพื้นแล้วคำนับขอโทษสตรีชั้นสูงคนนั้น!
สตรีชั้นสูงด่าทอไม่หยุด นางไม่รู้ตัวเลยว่า ในมุมมืดมีสายตาอาฆาตคู่หนึ่งจับจ้องไปที่นาง ต้องจัดการนางให้สาสมจึงจะยอมหยุด!
สตรีชั้นสูงคนนี้ที่กำลังด่าทอคนอย่างออกรสไม่รู้เลยว่า หนึ่งเดือนต่อจากนี้ นางไม่ตกรถม้าจนแข้งขาหัก ก็สะดุดล้มทั้งที่เดินอยู่ดีๆ บนท้องถนน หรือไม่จู่ๆ ก็มีหนูตัวใหญ่อยู่ในห้อง ทำให้นางตกใจจนกรีดร้อง ไม่เหลือภาพลักษณ์ใดๆ
กล่าวโดยสรุปคือหมดภาพลักษณ์ ทั้งยังเคราะห์ร้ายเป็นที่หนึ่ง!
แน่นอน นี่คือเรื่องในตอนหลัง
อย่างไรก็ตาม การล้มของชูอีในครั้งนี้ ดึงดูดสายตาของทุกคนได้สำเร็จ
จื่อจู้รวบรวมเรี่ยวแรง พุ่งตัวไปทางปี้หวนที่คอยปรนนิบัติรับใช้องค์หญิงอวี้เหอ ศอกและศีรษะของนางชนท้องน้อยของปี้หวนนางกำนัลที่ช่วยพยุงองค์หญิงอวี้เหอ ทำให้ปี้หวนล้มลงบนพื้น
ปี้หวนล้มลง แน่นอนว่าองค์หญิงอวี้เหอก็กระทบไปด้วย ตัวของนางหมุนวน หากไม่ใช่เพราะมั่วเชียนเสวี่ยมือไวตาเร็วช่วยพยุงเอาไว้ องค์หญิงอวี้เหอก็ล้มลงเช่นเดียวกัน
สาวใช้ล้มเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยเท่านั้น องค์หญิงสูงศักดิ์ล้ำค่าดั่งกิ่งทองใบหยก หากล้มลง ทุกคนที่อยู่ที่นี่ล้วนเดือดร้อน
ชั่วขณะหนึ่ง สตรีชั้นสูงไม่กล้าส่งเสียงแล้ว
คนอื่นๆ กรูกันเข้ามา ยืนล้อมองค์หญิง ถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง
“องค์หญิงอวี้เหอ องค์หญิงเป็นอะไรหรือไม่เพคะ!”
“สาวใช้ชั้นต่ำคนใด เดินไม่ดูทาง…” เสียงถามไถ่ เสียงด่าทอดังขึ้นในเวลาเดียวกัน สถานการณ์วุ่นวายขึ้นมาทันที
ปี้หวนล้มลงบนพื้นยังไม่ทันตั้งตัว ความเจ็บปวดที่ท้องน้อยแล่นขึ้นมา นางอดไม่ได้ที่จะร้องโอดครวญ โอ๊ย
นางเป็นนางกำนัลที่คอยดูแลองค์หญิง กิริยาวาจาล้วนผ่านการฝึกมาอย่างดี หากไม่ใช่เพราะเจ็บมาก นางไม่มีวันส่งเสียงร้องอย่างเสียมารยาทแน่นอน
เมื่อทุกคนได้ยินเสียงร้องโอดครวญ ตอนที่ความสนใจของพวกเขาเบี่ยงเบนจากชูอี ไปยังปี้หวน เท้าของปี้หวนเปื้อนไปด้วยเลือดแล้ว
ปวดท้อง ระหว่างเท้ามีเลือดไหล ยังจะต้องอธิบายอย่างไร ฮูหยินสองคนในห้องโถง ตกตะลึงทันที “เร็วเข้า รีบไปเชิญหมอมา” เบื้องหน้ามั่วเชียนเสวี่ยสั่งให้ไปเชิญหมอด้วยความร้อนใจ แต่ด้านในนางกลับหัวเราะ
นางเดาไม่ผิดจริงๆ ปี้หวนตั้งครรภ์!
ชายฉกรรจ์ที่องค์หญิงอวี้เหอจัดเตรียมมา อวัยวะใต้สะดือที่ไม่อาจเขียนบรรยาย ยามทำงาน ย่อมมี ‘ประสิทธิภาพ’
ผ่านมาหนึ่งเดือนกว่าแล้ว เมล็ดพันธุ์ย่อมเติบโตเป็นต้นกล้า
ปี้หวนคิดว่าตนยังคงเป็นหญิงพรหมจรรย์ แม้รอบเดือนมาไม่ปกติ นางก็ไม่สนใจเท่าใดนัก ยิ่งไปกว่านั้น หลังจากผ่านเรื่องนั้นไป นางยังขอร้องหนิงเซ่าชิงให้หมอหญิงที่รักษาปี้หวนจ่ายยาแก้อาเจียนกับปี้หวน
หมอหญิงรับเงินแล้วย่อมต้องทำงานอย่างเต็มที่ อีกทั้งยาที่จ่ายก็ไม่ใช่ยาต้องห้ามใดๆ แน่นอนว่าย่อมยินดี
“ใครก็ได้ เอาตัวสาวใช้ที่ไม่แม้แต่จะประคองนายของตนได้ออกไปที”
อย่ามองว่าอวี้เหออายุยังน้อย แต่นางมองขาดอย่างมาก เมื่อเห็นเรื่องที่เกิดขึ้น นางก็พูดในใจว่าแย่แล้ว ไม่เอาโทษชูอีที่ทำกาน้ำชาตก คิดอยากจะให้คนพาตัวปี้หวนออกไปเท่านั้น
อ้างว่าส่งตัวไปรักษาในวังหลวง แล้วฆ่าปิดปากโดยอ้างว่านางสิ้นใจกะทันหัน หรือจะว่าปี้หวนดูแลนางได้ไม่ดี โทษของการทำให้นายตกใจคือสังหาร นั่นล้วนขึ้นอยู่กับนาง
แม้นางจะเร็วแล้ว ทว่ามั่วเชียนเสวี่ยเร็วกว่านาง
ไม่รอให้คนขององค์หญิงอวี้เหอเดินมา มั่วเชียนเสวี่ยยื่นมือขึ้นมาป้องเอาไว้แล้วพูด “ประเดี๋ยวหมอก็มาแล้ว เนื้อตัวของนางเต็มไปด้วยเลือด เกรงว่าอวัยวะภายในคงจะกระทบกระเทือน อย่าเคลื่อนย้ายนางจะเป็นการดีที่สุด”
วันนี้เป็นพิธีปักปิ่นของมั่วเชียนเสวี่ย ในจวนเต็มไปด้วยแขกเหรื่อ ย่อมมีการเตรียมหมอเอาไว้ตั้งแต่แรกแล้ว
นี่คือธรรมเนียมปฏิบัติของตระกูลใหญ่ แน่นอนว่าจวนกั๋วกงก็ไม่ยกเว้น
เชียนเสวี่ยพยุงองค์หญิงอวี้เหอถอยหลังหนึ่งก้าว นั่งลงบนเก้าอี้ พูดด้วยรอยยิ้ม “หม่อมฉันรู้ว่าองค์หญิงอวี้เหอจิตใจดี เป็นห่วงกลัวว่าหมอในจวนจะไม่อาจรักษาได้ แต่หมอที่เชียนเสวี่ยเชิญมาจวนกั๋วกง เป็นหมอหลี่จากร้านยาถงเหริน ทักษะการแพทย์ของหมอหลี่ยอดเยี่ยม ย่อมรักษานางกำนัลอย่างดีเพคะ”
องค์หญิงอวี้เหอกำลังจะพูด มั่วเชียนเสวี่ยหันหลัง ตบหน้าจื่อจู้และชูอีคนละหนึ่งฉาด “พวกเจ้าทั้งสองคนช่างน่าโมโหยิ่งนัก เหตุใดจึงซุ่มซ่ามเช่นนี้ ใครก็ได้ ลากตัวพวกนางออกไป โบยคนละยี่สิบที”
หลังจากลงโทษจื่อจู้และชูอีแล้ว มั่วเชียนเสวี่ยโค้งตัวคำนับองค์หญิงอวี้เหอ “หม่อมฉันไม่เข้มงวด องค์หญิงได้โปรดลงโทษหม่อมฉันด้วยเพคะ สาวใช้สองคนนั้น หม่อมฉันไม่มีวันปล่อยไปง่ายๆ แน่นอนเพคะ”
เวลาเพียงครู่หนึ่ง หมอก็มาถึงแล้ว
เนื้ออยู่บนเขียง องค์หญิงอวี้เหอไม่อาจขวางไม่ให้หมอรักษาสาวใช้คนสนิทกระมัง คิดไม่ถึงว่าชื่อเสียงที่ดีงามมาโดยตลอด เวลานี้กลับทำร้ายนาง
เวลานี้ นางได้แต่ภาวนา ขอให้นางกำนัลคนนี้แค่ถูกชนจนบาดเจ็บเท่านั้น
ไม่ต้องรอให้มั่วเชียนเสวี่ยสั่ง มั่วเหนียงก็ให้สาวใช้มาเก็บกวาดน้ำและกาน้ำชาบนพื้น เวลานี้บรรดาสาวใช้กำลังใช้ผ้าถูพื้น
หมอหลี่จับชีพจรด้วยความตั้งใจ แววตาของเขาฉายความตกตะลึงเล็กน้อย ทว่าไม่อาจไม่พูดตามความเป็นจริง “แม่นางท่านนี้ไม่ได้เป็นอะไรมาก แค่ว่าตั้งท้องหนึ่งเดือนกว่าแล้ว…นางลื่นล้มจึงทำให้แท้งลูก…”
เขาพูดไปด้วย ส่ายหน้าไปด้วย เรื่องเช่นนี้ หมออย่างพวกเขาที่คอยรักษาตระกูลใหญ่พบเจอมานักต่อนักแล้ว คาดว่า แม่นางคนนี้คงจะเป็นสาวใช้ห้องข้างของคุณชายหรือนายท่านสักคน ชั่วขณะหนึ่งได้รับความโปรดปราน…
คำพูดประโยคหลังของหมอไม่สำคัญแล้ว สายตาของทุกคนจับจ้องไปยังดวงหน้าขององค์หญิงอวี้เหอ
สาวใช้คนสนิทไร้ยางอายเช่นนี้ นายก็คงไม่ต่างกันเท่าใดนัก
เวลานี้ ภายในใจของหลายคน เริ่มสงสัยในความบริสุทธิ์ขององค์หญิงอวี้เหอแล้ว
ต้องรู้ว่า นางกำนัลคนสนิทขององค์หญิง ต้องติดตามรับใช้ข้างกายองค์หญิงตลอดทั้งวัน แม้กระทั่งตอนองค์หญิงนอนยังต้องอยู่เฝ้า จะมีเวลาลักลอบไปเจอบุรุษคนอื่นได้อย่างไร
มั่วเชียนเสวี่ยผายมือ มั่วเหนียงบอกให้หมอหลี่ออกไปอย่างรู้เจตนาของมั่วเชียนเสวี่ย
เรื่องของราชวงศ์ ไม่ใช่สิ่งที่หมอชาวบ้านทั่วไปควรมาดู