เส้นทางแห่งโชคชะตา - ตอนที่ 8: ไม่มีเงิน
เล่ม 1 ตอนที่ 8: ไม่มีเงิน
“ดอกไม้ป่าทำไมมันช่างงดงามแบบนี้” มู่หรงเสี่ยวเทียนตกใจกับเสียงหัวเราะ เขาหันหลังกลับไปมองหญิงสาวที่กำลังยืนอยู่ตรงหน้าของเขาและคิดแบบนั้นขึ้นมาในใจ
“สวัสดี ฉันขอขุดเหมืองที่นี่ด้วยคนจะได้ไหม ? ” ริมฝีปากอันแดงฉ่ำของหญิงสาวขยับไปมาเล็กน้อย ผมของเธอยาวสลวยพลิ้วไหวไปตามสายลม ใครที่เห็นเชื่อว่าต่างก็ต้องชื่นชมในความสวยของเธอ
“ได้สิ ที่เหมืองนี่ไม่ใช่บ้านของฉันสักหน่อย” มู่หรงเสี่ยวเทียนยักไหล่อย่างเฉยเมย
“ชื่อของนายน่าสนใจจริง ๆ ฮ่าฮ่า” หญิงสาวจ้องมองชื่อเล่นของเขาที่ปรากฏอยู่บนหัวขณะที่เขากำลังเริ่มขุดลงไปที่เหมืองอีกครั้ง
“เธอเองก็เช่นกัน ฮ่าฮ่า” มู่หรงเสี่ยวเทียนรู้สึกเขินอายกับชื่อเล่นของหญิงสาวคนนั้น
“นายนี่นะ หยาบคายจริง ๆ ” หญิงสาวแก้มแดงเล็กน้อย
“ไม่ใช่ซะหน่อย… ฮ่าฮ่า แต่ก็นะ ชื่อ “ไม่มีเงิน” ของเธอมันก็น่าขำจริง ๆ แหละ แต่ว่า…” มู่หรงเสี่ยวเทียนลังเลอยู่สักพัก “สาวสวยแบบเธอตั้งชื่อแบบนี้ ทำไมมันทำให้ฉันรู้สึกกระอักกระอ่วนยังไงก็ไม่รู้”
“นายเองก็เป็นผู้เล่นที่มีชีวิตจริง ๆ ใช่ไหม ? ” หญิงสาวกำลังคิดจะเปลี่ยนเรื่อง
“ใช่” มู่หรงเสี่ยวเทียนตอบกลับไปขณะที่ในใจกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่ เขาถามออกมาด้วยความประหลาดใจ “อย่าบอกนะว่าเธอเลือกอาชีพช่างตีเหล็ก ? ”
“ยินดีด้วย นายเดาถูก”เธอยิ้มออกมาอย่างช่วยไม่ได้ “นั่นเป็นอาชีพหลัก ส่วนอีกอาชีพเสริมฉันเลือกเป็นนักปรุงยา”
มู่หรงเสี่ยวเทียนรู้สึกสับสนมึนงงราวกับว่ามีอีกาลงมารุมสับจิกที่หัวของเขา “เธอจะเหวี่ยงค้อนตีเหล็กนั่นจริง ๆ หรือ ? เธอไม่กลัวว่าไฟที่ร้อนพวกนั้นจะเผาไหม้ใบหน้าอันสวยงามของเธอจนดำเป็นตอตะโกหรือยังไง ? ”
“นายอย่าประเมินอาชีพนี้ต่ำเกินไปสิ” เธออดไม่ได้ที่จะทำหน้ามุ่ยออกมา
“ฉันไม่ได้หมายความแบบนั้น” มู่หรงเสี่ยวเทียนรีบอธิบายออกมา “แต่ฉันก็ยังคิดว่ามันคงจะดีกว่าถ้าเธอเลือกอาชีพอื่น”
“ทำไมล่ะ ? ”
“เธอไม่คิดว่ามันจะยุ่งยากเกินไปหน่อยหรือ ? ” มู่หรงเสี่ยวเทียนรีบอธิบายอีกครั้ง “แม้ว่าผู้เล่นจะสามารถเลือก 2 อาชีพได้ แต่มันก็น่าจะดีกว่าถ้าหากว่ามุ่งมั่นไปยังอาชีพใดอาชีพหนึ่ง แทนที่จะแบ่งเวลาเป็น 2 ส่วนแบบนี้”
“ที่นายพูดมามันก็ไม่มีอะไรถูกผิดหรอกนะ” เธอยังพูดออกมาอีกว่า “การเรียนรู้ทักษะเพิ่มขึ้นก็จะทำให้มีโอกาสหาเงินเพิ่มอีก”
“เธอขาดแคลนเงินขนาดนั้นเลยหรือ ? ” มู่หรงเสี่ยวเทียนถามออกมา
เธอไม่ได้พูดอะไรออกมา จากนั้นสีหน้าเศร้าโศกก็เริ่มปรากฏขึ้นมา แม้ว่ามันจะเป็นเพียงช่วงสั้น ๆ แต่สายตาอันเศร้าโศกนั้นก็เหมือนเข็มที่แทงทะลุไปยังหัวใจของมู่หรงเสี่ยวเทียน ความรู้สึกที่เชื่อมโยงกับชีวิตจริงของเขาก็พรั่งพรูออกมา มันเป็นไปได้หรือไม่ที่เธอก็มีความเจ็บปวดภายในใจเหมือนกันกับเขา ?
บรรยากาศเงียบลงไป มีเพียงเสียงจอบขุดเหมืองเท่านั้นที่ยังคงดังชัดเจนอยู่ แต่ทว่าหัวใจของมู่หรงเสี่ยวเทียนกลับรู้สึกสงสารและอยากจะปกป้องหญิงสาวคนนี้อย่างบอกไม่ถูก
“ฉันเห็นเธอขุดได้ทองแดงขึ้นมามากมาย แต่ทำไมฉันขุดมาเป็นเวลานานแล้วกลับได้แร่อะไรก็ไม่รู้มาแทน ? เป็นไปได้ไหมว่าเหมืองนี้ผิดปกติ ? ” มู่หรงเสี่ยวเทียนถามแทรกกลางความเงียบขึ้นมา
“นายก็ พูดอะไรไร้สาระ ที่นายไม่สามารถขุดแร่ทองแดงได้นั่นเป็นเพราะว่านายยังไม่ได้เรียนรู้สกิลในการขุดเหมืองยังไงล่ะ” เธอหายโกรธเขาและจ้องมองไปยังมู่หรงเสี่ยวเทียน จากนั้นก็ตอบกลับมาด้วยรอยยิ้ม
“งั้นก็หมายความว่า นอกจากช่างตีเหล็กแล้ว ผู้เล่นคนอื่น ๆ สามารถขุดได้เพียงแค่แร่เหล็กเท่านั้นหรือ ? ”
“ใช่แล้ว” เธอพูดต่อ “ถ้าหากว่าสกิลขุดเหมืองของฉันสูงขึ้นไปในระดับหนึ่ง ฉันสามารถขุดแร่เงินได้เลยก็ว่าได้”
“จริงหรือ ! ” มู่หรงเสี่ยวเทียนส่ายหัวไปมา จากนั้นเขาก็กวัดแกว่งจอบขุดเหมืองอย่างหมดหวัง
พวกเขาทั้งสองขุดแร่ไป พรางพูดคุยกันไปด้วย ในที่สุดมู่หรงเสี่ยวเทียนก็รู้ว่าชื่อเล่นจริง ๆ ของเธอคือ ฉินจิงยี่ และเธอก็มาจากเมืองเคเช่นเดียวกันกับเขา ในช่วงเวลาเดียวกัน เขาก็บอกชื่อของเขาเพื่อเพิ่มเธอเป็นเพื่อนในเกม
“พี่เทียน กระเป๋ามิติของฉันเต็มแล้ว ยังไงฉันขอตัวกลับไปที่เมืองโนวิซก่อนนะ” จิงยี่ยัดจอบใส่กระเป๋ามิติก่อนที่เธอจะยกมือขึ้นมาเช็ดเหงื่อตรงหน้าผาก
“โอ้โห เร็วจริง ! ” มู่หรังเสี่ยวเทียนเริ่มมีความหวัง จากนั้นเขาก็ถามขึ้นว่า “แล้วเธอจะมาอีกรึเปล่า ? ”
“คงไม่ เพราะว่าฉันอยากจะไปรวบรวมวัตถุดิบในการเพิ่มเลเวลของอาชีพนักปรุงยาก่อน”
มู่หรงเสี่ยวเทียนพยักหน้า “ก็ได้ แล้วเจอกันนะ ฉันจะขุดที่นี่ต่อไปก่อน ยังไงก็พบกันใหม่ ถ้ามีอะไรฉันจะส่งข้อความไปหานะ”
“ถ้างั้นฉันไปก่อนนะ ลาก่อนพี่เทียน” จิงยี่โบกมือลาและยิ้มออกมา เธอจากไปพร้อมกับความเสน่ห์หา มันเหมือนราวกับว่าดอกไม้ที่บานสะพรั่งกำลังจากไปในสายลมอย่างเงียบเชียบ
มู่หรงเสี่ยวเทียนขุดอยู่สี่ชั่วโมงก่อนที่กระเป๋ามิติของเขาจะเต็ม จากนั้นเขาก็วิ่งกลับไปที่หมู่บ้านโนวิซเพื่อขายแร่ที่ขุดมา ตอนนั้นเขารู้สึกผิดหวังเล็กน้อยที่แร่เหล็กและดีบุกทั้งหมดในกระเป๋ามิติของเขาขายได้ในราคาแค่ 80 เหรียญเงินเท่านั้น
“ค่าตอบแทนของฉันจากการทำงานทั้งวันอยู่ที่ 80 เหรียญเงินเท่านั้นหรือ ? ” มู่หรงเสี่ยวเทียนเดินออกจากร้านขายเหล็กด้วยใบหน้าที่ขมขื่น
หลังจากคิดได้เช่นนั้น เขาก็ได้วิ่งไปในตรอกเพื่อที่จะนำทอง 1 เหรียญไปให้ NPC เด็กสาวตัวเล็กคนนั้น
“น้องสาว รับเหรียญทองนี่ไว้นะ” ดวงตาของมู่หรงเสี่ยวเทียนเต็มไปด้วยความรักและเอ็นดู
“ขอบคุณมากพี่ชาย” ดวงตาของหญิงสาวตัวเล็กคนนั้นเต็มไปด้วยคราบน้ำตา
“ไม่เป็นไร” มู่หรงเสี่ยวเทียนส่ายหัวเงียบ ๆ ก่อนที่จะจากไปอย่างรวดเร็ว เขาไม่แม้แต่จะหันหลังกลับไปมองอีกครั้ง หรือแม้แต่ยืนอยู่ต่อไป เพราะเขากลัวว่าความโศกเศร้าที่ซ่อนอยู่ในหัวใจมันจะพรั่งพรูขึ้นมาอีก
เขาวิ่งมาที่ป่า เพื่อที่จะเก็บเลเวลอีกครั้ง โชคยังดีที่ตอนนี้ไม่มีใครอยู่สักคน ดังนั้นเขาเพียงแค่รอการปรากฏตัวของมอนสเตอร์ แต่ทว่าวู่เฟิงและคนอื่น ๆ ในทีมยังไม่มีใครมาสักคนเลย แล้วอย่างนี้เขาจะต่อสู้กับมอนสเตอร์ตัวคนเดียวได้ยังไง ?
“อย่ากังวลไปเลย แค่ค่อย ๆ ฆ่ามันทีละตัว เพราะความเจ็บปวดในหัวใจของฉันที่มีมันก็ด้านชามากพอแล้ว ! ”
เมื่อมอนสเตอร์ปรากฏตัวขึ้นมา พวกมันก็อยู่รวมกันเป็นกลุ่มมากกว่าสองสามตัว มู่หรงเสี่ยวเทียนพยายามล่อมันออกมาทีละตัวอย่างระมัดระวัง จากนั้นเขาก็พุ่งไปพุ่งมารอบ ๆ ตัวมอนสเตอร์…..
“พี่น้องคร้าบ ที่นี่มันเหมาะกับการเพิ่มเลเวลจริง ๆ ” มีผู้เล่น 12 คนเดินเข้ามาจากพื้นที่ที่อยู่ห่างไปไม่ไกลมากนัก
“เฮ้ย ไอ้คนที่ชื่อโจรอะ ออกไปจากที่นี่ซะ พวกเราจะเก็บเลเวล”
เมื่อมู่หรงเสี่ยวเทียนได้ยินใครบางคนเรียกชื่อเขาแบบนั้น มันก็ทำให้เขาโกรธขึ้นมาทันที เขารีบหันหน้าไปมอง พร้อมกับกำลังต่อสู้กับมอนสเตอร์หัวม้าอยู่ ขณะที่กำลังมองไปนั้น เขาก็หัวเราะออกมาเสียงดังลั่น “ฮ่าฮ่า โลกนี้ช่างกว้างใหญ่และไม่มีอะไรแน่นอนจริง ๆ ตอนแรกฉันคิดว่าชื่อของฉันแย่ที่สุดแล้ว แต่ใครจะไปคิดละว่ามันยังมีชื่อที่แย่กว่าฉันอีก ฮ่าฮ่า”
คนที่พูดขึ้นมาในตอนแรกนั้นมีชื่อว่า หนู ! ส่วนคนที่เหลือก็ดันมีชื่อเขียนเอาไว้ว่า หมู หมา มังกร และสัตว์ต่าง ๆ
“ปรากฏว่าพวกนั้นตั้งชื่อตามนักษัตรของจีน” มู่หรงเสี่ยวเทียนคิดในใจ “มันดูเวอร์ไปนิด แต่ก็นะ ไม่เป็นไร…ไม่ใช่เรื่องใหญ่ที่จะเรียกพวกเขาว่า หมู หมา กา ไก่ ฮ่าฮ่า”
มู่หรงเสี่ยวเทียนอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาอีกครั้ง
“เฮ้ย น้องชาย แกไม่ได้ยินพี่ใหญ่ของฉันพูดหรือวะ ? ” คนที่ตะโกนใส่มู่หลงเสี่ยวเทียนคนนี้เขามีเล่นในเกมชื่อว่าวัว
“อะไรของพวกนาย..ก็ฉันมาก่อนนี่หว่า” มู่หรงเสี่ยวเทียนขมวดคิ้ว
“มันก็จริงที่แกมาก่อน แต่พี่ใหญ่ของพวกเราบอกให้แกออกไป แกก็ต้องไป ! ” ผู้เล่นที่ชื่อเสือกำลังใช้ดาบชี้มาที่มู่หรงเสี่ยวเทียน
ทันใดนั้นมู่หรงเสี่ยวเทียนก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟและตะโกนออกมาอย่างบ้าคลั่ง “ฉันจะไม่ไปไหนทั้งนั้น ไอ้พวกสารเลว พวกแกจะทำไม ? ถ้าหากว่าพวกแกมีความสามารถนักก็ไปที่อื่นสิวะ”
“บัดซบ ! พวกเราไล่ฆ่ามันให้เลเวลมันกลับไปเป็น 0 เลยจะดีไหม ? ” ชายที่ชื่อม้าถือดาบพุ่งเข้ามา ตอนนี้เขาต้องการฆ่ามู่หรงเสี่ยวเทียนจริง ๆ
“ไม่ ๆ ” เจ้าหนูโบกมือไปมา “แม้ว่านายจะฆ่ามันจนกลับไปเป็นเลเวล 0 ดังเดิม แต่มันก็สามารถเก็บเลเวลขึ้นมาใหม่ในสักวันหนึ่ง ตอนนี้เกมมันเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น มันไม่คุ้มค่าที่จะแบกรับบทลงโทษจากการฆ่าคนตาย บทลงโทษในเดสตินี่นั้นอันตรายและเข้มงวดมากนายก็รู้” เจ้าหนูแสดงรอยยิ้มที่เจ้าเล่ห์ออกมา “เราแย่งมอนสเตอร์ของมันจะไม่ดีกว่าหรือ ? ปล่อยให้มันโจมตีไปก่อนจากนั้นก็ค่อยเข้าไปรุมฆ่ามอนสเตอร์ของมัน”
คนอื่น ๆ พยักหน้าเห็นด้วยว่าสิ่งนี้ฟังดูแล้วเข้าท่า เขาเลิกสนใจมู่หรงเสี่ยวเทียน และพุ่งเข้าไปฆ่ามอนสเตอร์หัวม้าที่ใกล้ตายทันที
หากว่าไม่สนใจชื่อที่น่าสมเพชของพวกเขา ทักษะในการควบคุมเกมของพวกเขานั้นก็ค่อนข้างดี ดูเหมือนว่าผู้เล่นเหล่านี้จะมีประสบการณ์มามาก
ไม่เพียงแต่พวกเขาจะสามารถฆ่ามอนสเตอร์ได้อย่างรวดเร็วเท่านั้น แต่เขายังประกบข้างมู่หรงได้อย่างคล่องแคล่ว สิ่งนี้ทำให้เขาไม่สามารถฆ่ามอนสเตอร์ได้เลยแม้แต่น้อย
มู่หรงเสี่ยวเทียนรู้สึกโกรธจัด เมื่อรู้สึกถึงการสูญเสีย เขาก็ไม่สามารถจัดการกับอารมณ์ดุร้ายที่อยู่ภายในใจได้อีกต่อไป ตอนนี้มันได้ปะทุออกมาแล้ว
“เอาล่ะ ในเมื่อพวกแกต้องการจะหาเรื่องกันแบบนี้” มู่หรงเสี่ยวเทียนชี้นิ้วออกไปและชำเลืองมองดูทุกคนอย่างใจเย็น “วันนี้ถ้าไม่ได้เห็นดีกันก็อย่ามาเรียกฉันว่ามู่หรงเสี่ยวเทียนอีกเลย ! ”
เขาไม่ได้สนใจการเยาะเย้ยของคนเหล่านั้น เมื่อพูดจบมู่หรงเสี่ยวเทียนก็วิ่งเข้าไปที่หมู่บ้านทันที
To be continued…