เส้นทางแห่งโชคชะตา - ตอนที่ 67: ปราสาทราชาแห่งผี (2)
เส้นทางแห่งโชคชะตา เล่ม 1 ตอนที่ 67: ปราสาทราชาแห่งผี (2)
เล่มที่ 1 ตอนที่ 67: ปราสาทราชาแห่งผี (2)
“ฉันด้วยคน !” กวยหลงเดินไปข้างหน้า จากนั้นก็ถือมีดสั้นและยืนเคียงข้างกันกับมู่หรงเสี่ยวเทียน ความฉุนเฉียวปรากฏขึ้นมาในตาของเขาขณะที่กําลังเดินไปข้างหน้าอย่างกล้าหาญ
“ทุกคนในโลกนั้นล้วนแต่มีส่วนเกี่ยวข้องกัน ความอยุติธรรมจะหายไปได้อย่างไรหากความแค้นไม่ได้รับการสะสาง”หอกที่อัศวินบนหลังม้าถือเรียงกันเป็นแถว มู่หรงเสียวเทียนเองก็ยังคงส่งยิ้มอย่างสงบออกมา เขาดูสงบและมั่นใจเป็นอย่างมาก
มู่หรงเสี่ยวเทียน ดาราดังจือเฟิง และกวยหลงพวกเขารวมตัวกันด้วยจิตวิญญาณการต่อสู้ที่แข็งแกร่งจนเกิดเป็นออร่าที่ทรงพลัง พวกเขานั้นพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับอัศวินบนหลังม้าที่ยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามอย่างไม่เกรงกลัว
ใบหน้าที่สะสวยของยู่ยี่จอมฟุ่มเฟือยขุ่นหมองลงไปทั้งความรู้สึกหงุดหงิดและความลังเลเล็กน้อยถูกแสดงออกมา ท่าทางของเธอนั้นทําให้เห็นถึงอารมณ์ที่ซับซ้อน
“ไอ้โจรกระจอก ฉันจะไม่มีวันจบเรื่องนี้กับนายเป็นแน่นอนคราวหน้าระวังตัวเองไว้ให้ดี!” ทันทีที่ยู่ยี่เปล่งเสียงออกมาน้ําเสียงของเธอนั้นก็เต็มไปด้วยความไม่พอใจ
“กลับกันเถอะ” ยู่ยี่ฟุ่มเฟือยหันบังเหียนม้ากลับจากนั้นเธอก็นําผู้ใต้บังคับบัญชาทั้ง 17 คนวิ่งออกไปจนนตลบอบอวล
“อื้อเฟิง เรื่องนี้มันไม่ง่ายเลยใช่ไหม ? ” มู่หรงเสี่ยวเทียนพูดอย่างใจเย็นพร้อมกับแสดงสีหน้าท่าทางขอบคุณเขาด้วย
“แม้ว่าจะไม่ใช่ยยี่จอมฟุ่มเฟือยหรือว่าคนอื่น ๆ ฉันก็จะต้องทําแบบนี้เช่นกัน” เขาพูดง่าย ๆ อย่างไม่ลังเล
“ไปกันเถอะ ตามฉันมา” มู่หรงเสี่ยวเทียนจ้องไปที่กวยหลงและพูดอย่างแผ่วเบา ความมุ่งมั่นของเขานั้นไม่สามารถที่จะปฏิเสธได้
“ทําไมกัน ? จริง ๆ พี่ไม่ต้องทําแบบนี้ก็ได้ พี่ไม่ได้ติดค้างอะไรฉันสักหน่อย” คนฉลาดก็คือคนฉลาดอยู่วันยังค่ําเขาเข้าใจความหมายของมู่หรงเสี่ยวเทียนได้ในทันที เขารู้ว่ามู่หรงเสี่ยวเทียนจะพาเขาติดตามไปด้วย กวยหลงลังเลอยู่สักพัก เพราะเขานั้นไม่ได้ต้องการความเห็นอกเห็นใจจากผู้อื่น
“แต่ทุกอย่างมันเริ่มขึ้นเพราะฉัน” มู่หรงเสี่ยวเทียนพูดอย่างจริงจัง จากนั้นเขาก็ไม่ได้มองดูกวยหลงอีกต่อไป เขาหันหลังและเดินไปทางหุบเขาผีสิง
กวยหลงลังเลอยู่ครู่หนึ่งเขาไม่พูดอะไรจากนั้นเขาก็เดินตามมู่หรงไปอย่างเงียบเชียบ
“พี่โจร นี่เราจะไปไหนกัน ? ”
“ปราสาทราชาแห่งผี” มู่หรงเสี่ยวเทียนยังคงเดินต่อไปโดยไม่หันหลังกลับ
“ฉันเข้าไปด้วยได้ไหม ? ” ดาราดังจือเพิ่งเริ่มสนใจขึ้นมามันเป็นเพราะว่าเขาไปที่นั่นมาแล้ว 4 ครั้ง แต่เขาเองก็ใช่ว่าจะสามารถหาทางเข้าไปยังปราสาทราชาแห่งผีได้
“ได้สิถ้านายต้องการ” มู่หรงเสี่ยวเทียนตอบกลับไปเขารู้ว่ายังไงดาราดังอื้อเฟิงก็จะต้องตามเขามา ไม่เช่นนั้นเขาจะกลายเป็นคนดังไปได้อย่างไร ? เพราะยังไม่มีผู้เล่นคนไหนเลยที่สามารถเข้าไปในปราสาทราชาแห่งผีได้
“แล้วดาราดังอื้อเฟิงคนนี้จะพลาดของดี ๆ แบบนี้ไปได้อย่างไร” น้ําเสียงของเขาสูงและเต็มไปด้วยความหลงใหลรอยยิ้มที่เป็นเอกลักษณ์ยังคงปรากฏให้เห็นบนใบหน้า เขาขยับบังเหียนม้าและเดินตามไป
ด้านนอกของหุบเขาผีสิง หอสังเกตการณ์ที่มู่หรงเสี่ยวเทียนได้สร้างเอาไว้ตั้งอยู่สูงตระหง่านและสะดุดตา ไม่มีผู้เล่นคนไหนใจกล้าที่จะทําลายมัน ในช่วงเวลาว่าง เขามักจะเดินขึ้นไปและนั่งชมวิวอย่างสบายใจ
“โอ้โห ถ้าพี่สามารถใส่หอสังเกตการณ์นี่ลงไปในมิติได้ไม่ว่าพี่จะไปที่ไหนพี่ก็สามารถนํามันออกมาเพื่อพักผ่อนเวลาเหนื่อยกาย ถ้าทําได้คงจะดีไม่น้อย” หยางซ่งที่กําลังนั่งบนเก้าอี้เริ่มที่จะมีความคิดประหลาด ๆ
“อย่าฝันกลางวันไปหน่อยเลยไอ้หนู ในมิติมีพื้นที่นิดเดียวเท่านั้น แค่เอายาเพิ่มเลือดยัดใส่ไปไม่กี่ขวดก็เต็มแล้ว หากคิดจะเอาหอสังเกตการณ์นี่ยัดลงไปล่ะก็ เลิกคิดซะเถอะ” วี่เพิ่งมองลงไปที่หยางซ่ง เขาสงสัยว่าอีกฝ่ายคิดอะไรไร้สาระแบบนี้ได้ยังไง
“พี่เทียนกําลังมาแล้ว” ทันใดนั้นหมิงซินก็พูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้มเล็ก ๆ บนใบหน้าของเธอ
“พี่เทียนมาแล้วหรือ ? ไหน ทําไมฉันไม่เห็นเลยล่ะ” หยางซึ่งลุกขึ้นมองรอบ ๆ
“นายคิดว่า นายมีความสามารถพิเศษเหมือนกับหมิงซินยังงั้นหรือ ? อย่าพูดไร้สาระไปหน่อยเลยน่า ! ” วูเฟิงจ้องมองไปที่หยางซ่งอีกครั้ง
หลังจากนั้นไม่นาน ทั้งมู่หรงเสี่ยวเทียน ดาราดังจือเฟิงและกวยหลงก็เดินมาถึงข้างใต้หอสังเกตการณ์ หลังจากที่ดาราดังจือเฟิงเดินออกมาจากที่ภูเขา หลายๆคนก็รีบออกไปทักทาย
“เพื่อนยาก พบกันอีกครั้งนะ” วูเฟิงกับดาราดังจื่อเฟิงประสานมือกันแน่น
“พี่เทียน นี่เราจะไปกันได้รึยัง ? ” หยางซ่งนั้นมักจะใจร้อน
เสมอ
“เดี๋ยวก่อน ฉันต้องรอเพื่อนอีกสักสองสามคน” ก่อนที่มู่หรงเสี่ยวเทียนจะพูดจบ เขาก็มองไปที่ใต้หอสังเกตการณ์และหัวเราะ “พวกเขามาแล้ว ไปกันเถอะ”
“พี่โจร หลังจากได้รับข้อความของพี่ พวกเราก็รีบวิ่งมาอย่างบ้าคลั่ง” สายฟ้าชวนเดินออกมาข้างหน้าก่อนที่จะกํามือของมู่หรงเสียวเทียนเอาไว้แน่น
สายฟ้าโพยังคงนิ่งเงียบและไม่พูดอะไร สายฟ้าปานี่นั้นก็ยังคงแบกดาบขนาดยักษ์ของเธออยู่
“ทําไมไปเหอกับกวงจ้านถึงไม่มาล่ะ ? ”
“อ๋อ พอดีพวกเขามีอย่างอื่นจะต้องทํา พวกเขาเลยมาไม่ทันนะ ช่างน่าอายจริง ๆ ว่ามั้ยพี่โจร” สายฟ้าซวนอธิบายอย่างขออภัย
“ไม่เป็นไรหรอก” มู่หรงเสี่ยวเทียนตบเบา ๆ ไปที่ไหล่ของสายฟ้าชวน การแสดงออกของเขานั้นเข้าใจอีกฝ่ายเป็นอย่างมาก
จากนั้นมู่หรงเสี่ยวเทียนก็แนะนําทั้งสองฝ่ายให้รู้จักกันและแบ่งหน้าที่กันไป “ในกลุ่มพวกเราวูเฟิงเลเวล 19 จื่อเฟิงเลเวล 18 ซวน โพ และปาฉี เลเวล 17 ห้าคนนั้นจึงเป็นกลุ่มที่แข็งแกร่งที่สุด ส่วนเรื่องประสบการณ์ที่ผ่านอะไรมามากมายเช่นกัน มันไม่น่าจะมีปัญหาใด ๆ เกิดขึ้นหยางซึ่งเองก็เลเวล 17 แล้ว แต่ความแข็งแกร่งของเขานั้นยังคงค่อนข้างอ่อนแอ แต่ทว่าราชาหมาป่าโลหิตกลายพันธุ์ก็น่าจะทําให้เขามั่นใจในความสามารถของตัวเอง ส่วนกวยหลงและน้องสาวของฉันหมิงซิน หวังว่าทุกคนคงจะเข้าใจพวกเขาทั้งสองมีเลเวลเพียงแค่ 11 เท่านั้น”
“พี่ใหญ่อย่ากังวลไปเลย แม้ว่าฉันจะมีเลเวลต่ํา แต่ฉันก็ยังมีความสามารถพอในการป้องกันตัวเองได้”กวยหลงกล่าวอย่างมั่นใจ
“ฉันเชื่อใจนาย” มู่หรงเสี่ยวเทียนพยักหน้า เพราะกวยหลงนั้นเคยผ่านการปะทะยู่จอมฟุ่มเฟือยมาได้หลายครั้งประสบการณ์ในการเล่นเกมเดสตินี่ของเขาน่าจะไม่มีปัญหาอะไร
“ส่วนเรื่องที่สําคัญที่สุดก็คือหมิงซิน การที่เราจะเข้าสู่ปราสาทราชาแห่งผีในครั้งนี้ได้ มันก็ขึ้นอยู่กับหมิงซินแล้ว ดังนั้นจะต้องไม่เกิดเรื่องผิดพลาดอะไรขึ้นกับหมิงซินเลย” มู่หรงเสี่ยวเทียนมองไปที่สายฟ้าปาฉีด้วยน้ําเสียงที่ระวัดระวังเธอเป็นอย่างมาก “น้องสาวปาณี ความสามารถของเธอนั้นค่อนข้างที่จะแข็งแกร่ง ดังนั้นงานปกป้องหมิงซินฉันจะยกให้เธอ”
“ไม่ต้องกังวลพี่โจร” สายฟ้าปาฉีจับดาบขนาดยักษ์ของเธอเอาไว้แน่นหนา จากนั้นก็พูดออกมาอย่างภูมิใจว่า “ฉันคนนี้จะไม่ปล่อยให้มอนสเตอร์ตัวใดได้เข้าใกล้หมิงซินเลย แม้แต่ยุ่งตัวเดียว ฉันก็จะฆ่าอย่างสุดกําลัง !”
เมื่อได้ยินสายฟ้าปาฉีพูดออกมาแบบนี้ ทุกคนก็หัวเราะขึ้นมาอย่างคลายกังวล
“เอาล่ะ ถ้าเป็นเช่นนี้ก็ถือว่าพร้อมกันแล้วนะ” มู่หรงเสี่ยวเทียนเดินนําจากนั้นก็เข้าไปในหุบเขาผีสิง
หลังจากเข้าไปในหุบเขาผีสิงแล้ว ก็มีคนสองสามคนที่กําลังค้นหาอยู่ด้านในสุดของบ้านผีสิง บางทีมันอาจจะเป็นผลทางจิตวิทยา พวกเขามักจะคิดกว่าเส้นทางที่จะใช้ เข้าไปยังปราสาทราชาแห่งผีนั้นควรจะอยู่ด้านในสุด
หมิงซินหยุดชะงัก ดูเหมือนว่าเธอนั้นจะพบกับอะไรบางอย่าง ทุกคนกลั้นหายใจมองไปที่หมิงซินอย่างประหม่า
“ที่ชั้นกลาง หลังแรกทางด้านซ้ายมือนั้นแตกต่างจากบ้านผีสิงหลังอื่น ๆ” หมิงซินพูดอย่างเชื่องช้า “ฉันไม่สามารถตรวจจับมันได้โดยตรง แต่ฉันมั่นใจว่ามันมีพลังงานอะไรบางอย่างที่แปลกประหลาดมากภายในบ้านหลังนั้น”