เส้นทางแห่งโชคชะตา - ตอนที่ 51: โจรที่อาศัยร่วมกับสาวสวย (2)
เล่ม 1 ตอนที่ 51: โจรที่อาศัยร่วมกับสาวสวย (2)
จากนั้น ลูกตาของเขาแทบจะหลุดออกมาจากเบ้า ภาพของสาวสวยในอ่างอาบน้ำ ช่างกระตุ้นสัญชาตญาณนักล่าในตัวเขาเสียจริง ภาพนี้อยู่ตรงหน้าของเขาอย่างใกล้ชิดจนร่างกายของเขาเหมือนกับโดนคาถาเข้าอย่างจัง
มันกลับกลายเป็นว่าคนที่กำลังอาบน้ำอยู่ในห้องนั้นเป็นหญิงสาวที่กำลังเปลือยเปล่าอยู่ตรงหน้าของมู่หรงเสี่ยวเทียน หุ่นของเธอผอมเพรียวและดูดีเป็นอย่างมาก ผิวที่เรียบเนียนและอ่อนเยาว์ของเธอนั้นแทบจะกระชากใจชายทุกคนที่ได้พบเห็น ตอนนี้เลือดกำเดาของเขาแทบจะพุ่งออกมาเลยทีเดียว
“กรี๊ด ! ! ” หญิงสาวร้องลั่น เธอหุบขาพลันพร้อมกับนำมือมาปิดไว้ มือข้างหนึ่งก็ปิดที่หน้าอกอย่างรวดเร็ว จากนั้นเธอก็พูดว่า “ขโมย ! ไม่สิ อันธพาล โรคจิต ใครก็ได้มาช่วยจับไอ้โรคจิตนี่ออกไปที ! ” เสียงร้องของเธอนั้นดังก้องไปทั่ว มันแทบจะทะลุหลังคาออกไปเลยก็ว่าได้
“เดี๋ยว ๆ ๆ ” มู่หรงเสี่ยวเทียนอุทานออกมา จากนั้นเขาก็รีบหันหน้าไปอีกด้านหนึ่งพร้อมกับตะโกนเสียงดังว่า “ฉันขอโทษ ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะทำแบบนี้ เธอเองก็นะ เป็นคนยังไงกันเนี่ย ทำไมอาบน้ำแล้วไม่รู้จักปิดประตู ! ”
หญิงสาวปิดประตูเสียงดัง ปัง ! จากนั้นก็มีเสียงบ่นพึมพำออกมาจากห้องน้ำ “ไอ้โจรชั่วไอ้ตัวเหม็น อย่ามาหาข้ออ้างที่จะมาแอบดูคนอื่นอาบน้ำ ! ”
มู่หรงเสี่ยวเทียนเขินอายและส่ายหน้าอย่างช่วยไม่ได้ “เอาน่า ฉันขอโทษก็แล้วกัน ว่าแต่ใครสอนให้เธอแอบมาอาบน้ำบ้านของคนอื่นแบบนี้ ? ”
“บ้านของคนอื่นยังงั้นหรือ ? นายนั่นแหละเพิ่งจะเข้ามาแอบดูคนอื่นอาบน้ำในบ้านของเขาเอง อย่ามาพูดอะไรไร้สาระนะ ! ” คำพูดของหญิงสาวดังออกมาจากข้างในราวกับว่าเป็นปืนที่ยิงออกมา
มู่หรงเสี่ยวเทียนผงะและถามขึ้นอย่างรวดเร็ว “หืม เธอก็อาศัยอยู่ที่นี่เหรอ ชายวัยกลางคนที่เช่าบ้านคนนั้นเป็นเธอเหรอเนี่ย ? ! ”
“คนนั้นคือพ่อบ้านของฉันเอง” หญิงสาวตอบและถามว่า “นายเองก็อาศัยอยู่ที่นี่หรือ ? ผู้เช่าที่มาติดต่อก่อนหน้านี้ก็เป็นผู้หญิงไม่ใช่รึยังไง ? ”
“นั่นเป็นน้องสาวของฉัน” มู่หรงเสี่ยวเทียนหัวเราะออกมาอย่างช่วยไม่ได้ ในที่สุดเขาก็เข้าใจสักที ปรากฏว่าสิ่งต่าง ๆ กลายเป็นเรื่องเข้าใจผิดสำหรับทั้งสองฝ่าย จิงยี่คิดว่าคนเช่าน่าจะเป็นชายวัยกลางคนคนนั้น และชายคนนั้นก็คิดว่าจิงยี่เป็นคนมาอาศัยอยู่เอง ดังนั้นเป็นผลให้ชายและหญิงสองคนนี้ต้องมาอาศัยอยู่ด้วยกันอย่างไม่ตั้งใจ
หญิงสาวเงียบไปสักพัก เห็นได้ชัดว่าตอนนี้เธอเข้าใจแล้วว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
“ฉันได้ยินว่าเธอเพิ่งจะเรียกชายวัยกลางคนคนนั้นว่าพ่อบ้าน เธอน่าจะเป็นลูกสาวของตระกูลที่ร่ำรวยใช่มั้ย ? ทำไมถึงไม่อยากอยู่บ้านกันล่ะ ? หรือว่านี่เธอกำลังหนีออกจากบ้านถึงได้มาเช่าห้องอยู่แบบนี้ ? ! ” เพียงชั่วขณะ มู่หรงเสี่ยวเทียนก็พูดขึ้นมาท่ามกลางความเงียบ
“มันเรื่องของฉัน ไม่ว่าฉันจะกลับบ้านรึไม่ก็ตาม นายอย่ามายุ่มย่ามเรื่องของคนอื่น ! ” น้ำเสียงของหญิงสาวนั้นเต็มไปด้วยความหงุดหงิด เห็นได้ชัดว่าเธอไม่พอใจเป็นอย่างมากกับเรื่องที่เกิดขึ้นนี้
“อย่าคิดมากเลยนะ สายตาของฉันนั้นสั้นมาก และเมื่อกี้ฉันก็ไม่เห็นอะไรเลย” มู่หรงเสี่ยวเทียนพูดออกมาเสียงดัง ยังไงซะตอนนี้ พวกเขาก็ต้องอยู่ห้องพักเดียวกัน คงดีกว่าหากว่าเขาแกล้งทำเป็นว่ามองไม่เห็นอะไร อย่างน้อยมันก็อาจจะทำให้ไม่เกิดความละอายต่อเขาทั้งคู่
“ไม่เห็นอะไรเลยยังงั้นหรือ ? เห็นได้ชัดว่าตาคู่นั้นของนายกลมโตอย่างกะวัวกะควายตอนที่พวกมันเห็นหญ้า” หญิงสาวไม่เชื่อคำพูดของมู่หรงเสี่ยวเทียน แต่น้ำเสียงของเธอก็ดีขึ้นมาเล็กน้อย
“จริง ๆ นะ ฉันไม่ได้โกหกเธอเลย วันนี้ฉันไม่ได้สวมแว่นตา และฉันก็ค่อนข้างที่จะเสียดายที่ไม่ได้ใส่มันมาด้วยในตอนนี้” มู่หรงเสี่ยวเทียนอธิบายอีกครั้ง ในทางกลับกันหญิงสาวทั้งผอมเพรียว ผิวขาวเรียบเนียน จะเป็นไปได้ยังไงที่เขาจะไม่อยากเห็นหน้าของเธอ
“หมายความว่ายังไง ? หมายความว่าถ้าเป็นไปได้ นายก็อยากจะเข้ามาดูชัด ๆ สินะ ! ” น้ำเสียงของหญิงสาวฟังดูโล่งอกขึ้นมาเป็นอย่างมาก
“แน่นอน ฉันคิดแบบนั้น แค่ฟังเสียงของเธอก็รู้แล้วว่าเธอนั้นเป็นผู้หญิงที่สวยขนาดไหน ใครกันละจะไม่อยากเห็นสาวสวยอาบน้ำ คนโง่ที่ไหนไม่อยากจะเห็นบ้าง น่าเสียดายที่ฉันพลาดโอกาสดี ๆ แบบนี้ไป” มู่หรงเสี่ยวเทียนยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์และพูดย้ำว่าเขามองไม่เห็นอีกครั้ง เมื่อเห็นว่าไม่เป็นอะไร เขาก็โยนมุกที่สองออกไปเพื่อทำให้หญิงสาวสบายใจขึ้นมา
“ผู้ชายนี่มันเจ้าเล่ห์จริง ๆ นายนี่มันมีคำพูดที่โกหกเยอะแยะมากมาย” เสียงของหญิงสาวดังออกมาปนรอยยิ้มของเธอ
“ฮ่าฮ่า ฉันกลับไปที่ห้องก่อนนะ แล้วค่อยคุยกันใหม่ก็แล้วกัน” มู่หรงเสี่ยวเทียนพูดจบก็หันหลังกลับไปยังห้องของเขา
ภายในไม่กี่นาที หญิงสาวก็รีบสวมเสื้อผ้าและมาเคาะประตูห้องของมู่หรงเสี่ยวเทียน
“มาคุยกันก่อน” หญิงสาวสวมชุดลำลองและกำลังยืนอยู่ตรงประตูห้องด้วยความกระฉับกระเฉง ดวงตากลมโตของเธอจ้องมองไปที่มู่หรงเสี่ยวเทียนอย่างไม่กระพริบราวกับว่าเธอต้องการจะดูว่าคำพูดของมู่หรงจะเจ้าเล่ห์ขนาดไหน
“ได้สิ” มู่หรงเสี่ยวเทียนตอบอย่างสงบ เขาโบกมือทักทายหญิงสาวก่อนที่จะบอกให้เธอนั้นเดินไปนั่งบนโซฟาที่ห้องนั่งเล่น
“อยากจะถามอะไรก็พูดมาได้เลย” มู่หรงเสี่ยวเทียนยิ้มออกมาจาง ๆ บนใบหน้าและจ้องมองไปที่หญิงสาวอย่างสงบ
หญิงสาวมองดูมู่หรงเสี่ยวเทียนด้วยตาปริบ ๆ ใบหน้าของเธอนั้นสวยงามเป็นอย่างมาก “นายดูไม่เหมือนคนเลวเลยสักนิด”
“ก็ใช่น่ะสิ ! ” มู่หรงเสี่ยวเทียนพูดขัดจังหวะขึ้นมา “ถ้าหากว่าฉันเป็นคนเลว เธอคงจะเสร็จฉันแล้วเมื่อกี้นี้”
ใบหน้าของหญิงสาวแดงก่ำ จากนั้นมู่หรงเสี่ยวเทียนก็รีบพูดขึ้นมา “เธอมีอะไรจะพูดอีกรึเปล่า ? ” เขาทำท่าทางเชื้อเชิญหญิงสาวให้พูดต่อ
“แม้ว่าพวกเราอาศัยอยู่ห้องเช่าห้องเดียวกัน แต่นายกับฉันก็แตกต่างกันเพราะเป็นชายกับหญิง ดังนั้นเพื่อลดความขัดแย้งต่อกันในอนาคต ฉันจะขอกำหนดอะไรบางอย่าง” หญิงสาวแสดงท่าทางจริงจังมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่มันก็ยังทำให้มู่หรงเสี่ยวเทียนรู้สึกขบขันเป็นอย่างมาก
มู่หรงเสี่ยวเทียนอดไม่ได้ที่จะส่ายหัวอย่างลับ ๆ “เห็นได้ชัดว่านี่เป็นหญิงสาวที่เรียบง่ายและดูซุกซน แถมยังอ่อนเยาว์ไปทั่วทุกรูขุมขนบนเรือนร่าง ! ”
มู่หรงเสี่ยวเทียนพยักหน้า จากนั้นเขาก็พูดอย่างจริงจังออกมา “กฎแบบไหนกัน ลองว่ามาก่อนสิ”
“อย่างแรก นายไม่สามารถเข้าไปในห้องของฉันได้” หญิงสาวยกนิ้วชี้ขึ้นมาหมายถึงข้อที่หนึ่ง
“ไม่ต้องกังวล ฉันจะไม่เข้าไปแม้ว่าจะมีใครใช้มีดจี้คอฉันอยู่ก็ตาม” มู่หรงเสี่ยวเทียนพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
หญิงสาวยิ้มและชูนิ้วที่สองของเธอ “เราจะต้องช่วยกันรักษาความสะอาดของบ้าน และเพื่อความเป็นธรรมของการแบ่งงานกัน ฉันจะรับผิดชอบในส่วนของครัว ส่วนนายมีหน้านี้รับผิดชอบห้องน้ำและทำความสะอาดห้องนั่งเล่นอีกด้วย”
“ทำไมฉันถึงได้ต้องมาล้างห้องน้ำ ? ทั้ง ๆ ที่เธอเป็นผู้หญิงและย่อมจะใช้มันบ่อยกว่าฉันอีก” มู่หรงเสี่ยวเทียนไม่พอใจเล็กน้อย
ใบหน้าของหญิงสาวเปลี่ยนเป็นแดงก่ำขึ้นมาเล็กน้อย และเธอนั้นก็รีบคัดค้านออกมาทันที “ในห้อง ๆ นี้ไม่ได้พิจารณาถึงการใช้งาน แต่พิจารณาจากคำว่า เลดี้เฟิร์ส (ผู้หญิงต้องมาก่อน) ! ”
มู่หรงเสี่ยวเทียนต้องการจะเถียงกลับไป แต่เขานั้นก็ต้องยอมแพ้ มันน่าเบื่อที่จะต้องต่อล้อต่อเถียงกับหญิงสาวที่อาศัยอยู่ด้วยกัน จากนั้นเขาก็ถอนหายใจออกมาอย่างลับ ๆ “นี่เป็นปัญหาใหญ่จริง ๆ ! ”
“มีอะไรอีกไหม ? ” มู่หรงเสี่ยวเทียนถาม “ถ้าไม่มีแล้ว ฉันจะไปทำอาหาร เธออาจจะไม่หิว แต่ฉันหิวมาก”
“ไม่เป็นไร” หญิงสาวตอบด้วยรอยยิ้มพร้อมกับส่ายหัว จากนั้นเธอก็พูดอย่างเป็นมิตรว่า “เพื่อแสดงความจริงใจ วันนี้ฉันจะทำอาหารให้เอง”
มู่หรงเสี่ยวเทียนพยักหน้าอย่างรวดเร็ว เขาเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง ไม่ต้องพูดถึงว่าแค่วันนี้ แม้ว่าเธอนั้นจะทำอาหารให้ทุก ๆ วัน เขาก็ยินดีและไม่คัดค้าน
To be continued…