เส้นทางแห่งโชคชะตา - ตอนที่ 48: โจร อันดับหนึ่งในใต้หล้า (2)
เล่ม 1 ตอนที่ 48: โจร อันดับหนึ่งในใต้หล้า (2)
“นายท่าน เราจะไปที่ไหนกันรึ ? ” อู๋ต้าถามขึ้นมา
“สำนักงานบริหารจัดการของเมืองนี้ยังไงละ” มู่หรงเสี่ยวเทียนตอบกลับ
ตอนนี้เขาได้ตกลงทำพันธสัญญากับอู๋ต้าแล้ว ดังนั้นเขาจะต้องแก้ปัญหาเรื่องสำนักงานฮีโร่ก่อนไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม แม้ว่ามู่หรงเสี่ยวเทียนไม่ได้ถามอู๋ต้าว่าคำสั่งจัดตั้งสำนักงานจากฮีโร่นั้นคืออะไร แต่เขาก็ตั้งใจจะทำมันให้สำเร็จ นี่เป็นความคิดที่เปลี่ยนไปของมู่หรงเสี่ยวเทียน และเขาก็ให้ความเคารพต่อพวกฮีโร่เป็นอย่างมาก !
“สุดยอดไปเลย ต่อไปนี้พวกฮีโร่พเนจรก็จะสามารถมีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเองได้ ! ” อู๋ต้ารู้สึกตื่นเต้นและดีใจเป็นอย่างมาก
เมื่อทั้งสองเดินมาถึงยังสถานที่สำนักงานบริหารจัดการของเมือง ต้องบอกเลยว่ามันเป็นสถานที่รกร้างและเงียบเหงาที่สุดในเมืองฟินิกซ์ เพราะว่าในตอนนี้นั่นย่านร้านค้า ทั้งร้านอาวุธ ร้านขายยา หรือว่าร้านอาหาร รวมถึงห้องตรวจสอบสิ่งของนั้น ก็เริ่มมีชีวิตชีวาขึ้นมาเป็นอย่างมาก เพราะว่าตอนนี้อาวุธระดับ 2 และระดับ 3 ได้เริ่มออกมาสู่ตลาด มันก็เลยทำให้มีเพียงสถานที่แห่งนี้เท่านั้นที่ว่างเปล่าจนแทบจะไม่มีผู้คนเลย มีเพียง NPC เท่านั้น
ยังไงซะ นี่เพิ่งจะเป็นเพียงช่วงเริ่มต้นของเกม และมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่มีค่าชื่อเสียงมากพอจะซื้อบ้านหรือที่ดินดี ๆ ที่อยู่ในเมือง ที่สำคัญระบบแลกเปลี่ยนเงินตรานั้นก็ยังไม่ถูกเปิดใช้งาน ทำให้ผู้คนมีเงินน้อยลงเนื่องจากเงินที่ได้รับจากการฆ่ามอนสเตอร์นั้นได้น้อยมาก ส่วนอาวุธหรือของสวมใส่กลับมีราคาแพง แต่จะเติมเงินจากภายนอกก็ทำไม่ได้ คราวก่อนนั้นเขาขายคทาอัคคีลึกลับของจักรพรรดิมาได้ 1 ล้านเหรียญทอง ซึ่งผู้ช่วยเย่มินได้รวบรวมเงินทั้งหมดจากกลุ่มหนานเทียนเพื่อซื้อเก็บมันไว้กับกลุ่มเอง
เมืองฟินิกซ์นั้นอยู่ห่างไกลที่สุดจากบรรดาเมืองหลักทั้ง 6 เมือง กลุ่มที่มีอิทธิพลใหญ่อย่างเช่นกลุ่มหนานเทียนนั้นจึงไม่ได้เลือกที่จะมาพัฒนาในเมืองฟินิกซ์นี้ จึงไม่มีผู้เล่นคนใดมาที่เมืองฟินิกซ์เพื่อจัดซื้อที่ดินหรือบ้านเลยแม้แต่น้อย
มู่หรงเสี่ยวเทียนเดินเข้าไปในสำนักงานการจัดการเมืองพร้อมกับอู๋ต้า รูปแบบของสำนักงานของเมืองนี้ เมือเทียบกับสถานที่อื่น ๆ แล้วมันต่างกันเป็นอย่างมาก เพราะที่แห่งนี้ออกแบบได้สวยงามและดูทันสมัยกว่าที่อื่นมาก
ดังนั้นเขาจึงอดไม่ได้ที่จะพึมพำอย่างลับ ๆ “ให้ตายเถอะ สถานที่อื่น ๆ นั้นดูเรียบง่ายไม่สะดุดตา ยกเว้นแต่สถานที่แห่งนี้ มันดูทันสมัยและแตกต่างจากที่อื่นเป็นอย่างมาก”
สิ่งแรกที่มู่หรงเสี่ยวเทียนเห็นก็คือชายชราคนหนึ่งกำลังนอนอยู่บนเก้าอี้หลังโต๊ะขนาดใหญ่ เขานอนอยู่ตรงนั้นอย่างนิ่งเงียบ
“เฮ้อ ถ้าหากว่าวางคอมพิวเตอร์บนโต๊ะใหญ่นั่นแล้ว มันก็ไม่ต่างอะไรไปจากชั้นแรกสุดของกลุ่มหนานเทียนเลย…” มู่หรงเสี่ยเทียนจำได้ถึงฉากที่น่าอายเมื่อเขาเข้าไปที่ตึกของกลุ่มหนานเทียนวันแรก จากนั้นเขาก็แอบยิ้มออกมาเล็กน้อย
“สวัสดีครับ ผมต้องการซื้อบ้าน” มู่หรงเสี่ยวเทียนเดินไปที่โต๊ะและจ้องมองชายชราคนนั้นอย่างใจเย็น
“ราคานั้นขึ้นอยู่กับว่า มันตั้งอยู่พื้นที่ไหน 3,000 เหรียญทองและค่าชื่อเสียง 2,000 หน่วย สำหรับเขตพื้นที่ในเมืองและในย่านที่เจริญรุ่งเรือง 1,000 เหรียญทองและค่าชื่อเสียง 1,000 สำหรับสถานที่ทั่วไป และ 100 เหรียญทองและค่าชื่อเสียง 50 สำหรับหมู่บ้านในเขตชานเมือง” ชายชรากล่าวออกมาพร้อมกับเปิดลิ้นชัก จากนั้นเขาก็หยิบแผนที่มาวางตรงหน้าของมู่หรงเสี่ยวเทียน
“อู๋ต้า ตอนนี้เป็นเวลาที่จะใช้ความสามารถของนายให้เป็นประโยชน์แล้ว” มู่หรงเสี่ยวเทียนยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ พูดตามตรง สิ่งเหล่านี้จะเป็นเรื่องน่าปวดหัวสำหรับเขา “ค่าชื่อเสียงและเหรียญทองนั้นมีอยู่แล้ว ฉะนั้นอย่าทำให้ฉันผิดหวัง” จากนั้นเขาก็ครุ่นคิดอยู่สักพักและพูดขึ้นว่า “นอกจากสำนักงานฮีโร่แล้วยังมีร้านขายยาและร้านขายอาวุธอีก นายต้องซื้อเผื่อไว้ทำธุรกิจพวกนี้ด้วย” แน่นอน ร้านขายยานั้นสำหรับจิงยี่ ส่วนร้านขายอาวุธนั้นก็สำหรับลุงขุดแร่ในเหมืองร้างที่อยู่หมู่บ้านโนวิซ 110
มู่หรงเสี่ยวเทียนอยากจะพูดอะไรมากกว่านั้น แต่ขณะนี้หน้าต่างสื่อสารก็แจ้งเตือนขึ้นมาตรงหน้าของเขา มู่หรงเสี่ยวเทียนดึงมันขึ้นมาและเห็นว่าจิงยี่กำลังพยายาติดต่อเขาอยู่ เขาจึงรีบทำเรื่องมอบอำนาจในการใช้เหรียญทองและค่าชื่อเสียงของเขา จากนั้นเขาก็พูดกับอู๋ต้าว่า “ฉันอนุญาตให้นายจัดการกับมันได้อย่างเต็มที่ พอดีว่าฉันมีเรื่องที่จะต้องไปพบกับใครบางคน เมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้วให้รอฉันด้านนอกนะ” หลังจากนั้นเขาก็ก้าวออกจากประตูไป
รูปแบบการอนุญาตนี้ (คล้ายกับการมอบสิทธิ์ในการตัดสินใจ) เป็นคุณสมบัติหลักที่พัฒนาโดยผู้พัฒนาเกมเพื่อให้สะดวกต่อผู้เล่น ดังนั้นมันจึงเป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก
“จิงยี่ เกิดอะไรขึ้น ? ” มู่หรงเสี่ยวเทียนเดินออกจากสำนักงานและถามเธอ
“พี่เทียน ห้องพักที่พี่ต้องการให้ฉันเช่าให้พี่นั้น ฉันจัดการเรียบร้อยแล้ว มีชายวัยกลางคนคนหนึ่งหารค่าเช่าอยู่ด้วย มี 2 ห้องนอน ส่วนห้องน้ำและห้องครัวก็มีอย่างละห้อง และห้องอยู่บนชั้นสอง ส่วนค่าเช่าอยู่ที่เดือนละ 500 หยวน เมื่อพี่มีเวลาว่าง ฉันจะพาพี่ไปดูก็แล้วกัน ถ้าหากว่าพี่พอใจกับมัน พี่ก็สามารถทำให้เสร็จตามขั้นตอนได้ (ทำสัญญาเช่า) ” เสียงที่สงบและไพเราะดังมาจากช่องสื่อสาร ไม่ได้มีความรู้สึกโศกเศร้าซ่อนอยู่ในน้ำเสียงนี้เหมือนเมื่อก่อน
“ไม่เป็นไร ถ้าเธอคิดว่าดี ฉันก็ไม่มีปัญหาอะไร จัดการเรียบร้อยแล้วบอกฉันด้วยละกันนะ” มู่หรงเสี่ยวเทียนตอบกลับ
“โอเค แค่นี้นะ ฉันจะจัดการให้พี่แล้วกัน” จิงยี่ปิดช่องสื่อสารหลังจากที่เธอพูดจบ
มู่หรงเสี่ยวเทียนไม่ได้วางแผนที่จะอยู่กับกลุ่มหนานเทียนอีกต่อไป เป็นเพราะว่านั่นไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาระยะยาวของเขา ตอนนี้เขาจึงได้ตัดสินใจว่ามันจะดีที่สุดหากว่าออกไปตั้งแต่ตอนนี้ เพราะยิ่งอยู่นานไปอาจจะทำให้เขาออกจากกลุ่มนี้ยากขึ้นเรื่อย ๆ
หลังจากที่มู่หรงเสี่ยวเทียนจัดการเรื่องนี้เสร็จ ขณะที่เขากำลังจะเดินเข้าไปในสำนักงานอีกครั้ง อู๋ต้าก็เดินออกมาพอดี เขาอดไม่ได้ที่จะยอมรับถึงประสิทธิภาพของอู๋ต้า แต่เมื่อเขาเปิดหน้าต่างสเตตัสขึ้นมาดู เขานั้นก็แทบจะหายใจไม่ออก
ไอ้เจ้าอู๋ต้าคนนี้ใช้เงินไปหลายแสนเหรียญทองและใช้ค่าชื่อเสียงของเขาจนหมด เมื่อนับเป็นเงินจริงก็เท่ากับว่าเขาเสียค่าใช้จ่ายไปหลายแสนหยวน มู่หรงเสี่ยวเทียนก่นด่ายันบรรพบุรุษของเขา เพราะนอกเหนือจากที่มู่หรงสั่งการเอาไว้ อู๋ต้าก็ยังซื้อบ้านและที่ดินขนาดใหญ่พร้อมกับใส่ว่าเป็นพื้นที่ของตัวเอง พูดกันตามตรงเขาต้องการที่จะเปิดร้านอาหาร ถ้าหากว่าเขาไม่ได้ทำธุรกิจอะไร คงไม่ต่างกับว่าเขาจะฝังจิตวิญญาณของพ่อค้าทั้งเป็น สิ่งนั้นเป็นเรื่องที่มู่หรงพอจะเข้าใจได้ แต่ทำไมอู๋ต้าถึงใช้ค่าชื่อเสียงทั้งหมดของเขาซื้อที่ดินย่านชานเมือง เขาอ้างว่ามันเหมาะสำหรับการลงทุน แต่มู่หรงเสี่ยวเทียนนั้นแทบจะตายทั้งเป็น เพราะบ้านและที่ดินที่อยู่ในเมืองนั้น ปกติมันจะถูกปกป้องจากระบบ จะไม่มีใครสามารถเดินเข้าไปได้โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของบ้าน แต่สำหรับบ้านที่อยู่นอกชานเมืองนั้น แม้ว่าผู้เล่นจะพยายามสร้างมันยิ่งใหญ่ราวกับคฤหาสน์ แต่มันก็สามารถถูกรุกรานได้อย่างง่ายดาย !
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้มู่หรงเสี่ยวเทียนได้ยกสิทธิ์ในการจัดการทั้งหมดให้อู๋ต้าไปแล้ว รวมทั้งสิทธิ์ในการใช้เหรียญทองของเขาด้วย ยังไงซะ ตอนนี้ก็มีแต่ที่จะต้องยอมรับการตัดสินใจของอู๋ต้า
“ไม่เป็นไร ถ้านายอยากจะไป ฉันก็ไม่ห้ามอะไร ด้วยค่าพลังชีวิตที่มากมายของนาย ไม่ใช่เรื่องง่ายที่ผู้เล่นคนอื่นจะมาฆ่า ถ้าหากว่าเกิดอันตรายอะไรขึ้นก็รีบเข้าไปในบ้านซะ”
มู่หรงเสี่ยวเทียนคิดถึงเรื่องที่อู๋ต้าพูดออกมา เขาซื้อบ้านหลายหลังในเมืองฟินิกซ์แห่งนี้ และมีหลาย ๆ ที่อยู่ในพื้นที่ปลอดภัยและได้รับการป้องกันจากระบบ เพราะไม่ว่าอู๋ต้าจะไปอยู่ที่ไหน มู่หรงเสี่ยวเทียนก็ไม่สามารถช่วยเขาได้อยู่ดี
ตอนนี้เขารู้สึกโล่งอกขึ้นมา มู่หรงเสี่ยวเทียนจึงไม่พูดอะไรมากมายอีก การอัพเลเวล อุปกรณ์ ทหารรับจ้างและคำสั่งฮีโร่ ตอนนี้มีหลายสิ่งหลายอย่างที่กำลังรอเขาอยู่ ส่วนวู่เฟิงเองก็เป็นคนที่มีเลเวลสูงที่สุด ตอนนี้เขาอยู่ที่เลเวล 18 แล้ว !
To be continued…