เส้นทางแห่งโชคชะตา - ตอนที่ 37: พบกับไป่หยุนครั้งแรก (1)
เล่มที่ 1 ตอนที่ 37: พบกับไป่หยุนครั้งแรก (1)
“แน่นอน เราจะพลาดของดี ๆ แบบนี้ไปได้อย่างไรกัน ! ” ยังคงเป็นวู่เฟิงที่มีปฏิกิริยาตอบสนองคนแรก
“ใช่แล้ว พูดเรื่องสำคัญของนายมาดีกว่า ตราบใดที่มันไม่รุนแรงจนเกินไปเราก็ยินดีที่จะช่วย ! ” ผู้ช่วยเย่มินรีบตัดเข้าประเด็นทันทีโดยไม่ยืดเยื้อ ผู้หญิงคนนี้ดูเป็นมืออาชีพอย่างมาก
“คทานี้ราคา 1,000,000 หยวน ฉันต้องการ 500,000 หยวนในตอนนี้ และอีก 500,000 หยวนนั้นเติมให้ฉันเอาไว้เป็นเงินในเกม สามารถจ่ายภายหลังได้” มู่หรงเสี่ยวเทียนยื่นคำขาดออกมา แต่ทว่าเขาก็ไม่มั่นใจมากเท่าไหร่ เพราะตอนนี้เขาไม่รู้แม่แต่น้อยว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไป
“พี่เทียน พี่จะขาดทุนมากถ้าหากขายมันในราคานี้ คทาอัคคีลึกลับของจักรพรรดินี้มีราคามากกว่านั้น ! ” วู่เฟิงสับสนเล็กน้อยแต่ก็พูดออกมาอย่างจริงใจ
“ไม่เป็นไรหรอกน่าวู่เฟิง ถ้าหากว่าฉันทำแบบนั้น ฉันจะพูดว่าฉันเป็นคนของกลุ่มหนานเทียนเต็มปากได้ยังไง” มู่หรงเสี่ยวเทียนโล่งอกไม่น้อย ดูเหมือนว่าราคาที่เขาพูดออกมาไม่ได้มากเกินไป “เอาตามนั้นก็แล้วกัน ฉันคิดว่ามันเหมาะสมแล้ว ฉันก็หวังว่าจะมีใครสักคนช่วยรับมันไป และฉันต้องการเงินนั้นภายใน 20 นาทีนี้ ! ”
วู่เฟิงต้องการจะพูดอะไรบางอย่างแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา เนื่องจากเขาเห็นมู่หรงเสี่ยวเทียนนั้นโบกมือและตัดสินใจอย่างเด็ดขาด
“ท่านประธานหวัง ฉันขอถอนเงินสด 1,000,000 จากฝ่ายบัญชีและรีบส่งมันมาที่ห้องประชุมทันที” ก่อนที่มู่หรงเสี่ยวเทียนจะพูดจบ ผู้ช่วยเย่มินก็ได้เรียกผู้จัดการหวังของฝ่ายบัญชีเพื่อจัดการเรื่องเงินทันที จากนั้นเธอก็พูดกับมู่หรงเสี่ยวเทียนด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า “พี่เทียน พวกเราจะช่วยพี่เอง พวกเราจะปล่อยให้พี่ทุกข์ใจได้ยังไงกัน เอาอย่างนี้แล้วกัน เราจะซื้อคทานั่นในราคา 2,000,000 แต่เงินสด 2,000,000 นั้นมากเกินไป เราสามารถมอบเงินสด 1,000,000 ให้กับพี่ได้ในตอนนี้ ส่วนอีก 1,000,000 เราจะเติมให้ในเกมก็แล้วกัน พี่น่าจะต้องรออีกสักสองสามวันเพราะว่าตอนนี้ระบบการแลกเปลี่ยนเงินตรานั้นยังไม่เปิดใช้งาน เราไม่สามารถเติมเหรียญจำนวนมากมายขนาดนั้นได้ในครั้งเดียว ! ”
“ไม่เป็นไร” มู่หรงเสี่ยวเทียนไม่ดื้อดึงอีกต่อไป เขารีบพูดกับผู้ช่วยเย่มินทันทีที่นึกได้ “แล้วคทานั้นฉันจะต้องส่งต่อให้กับใคร ? ”
“ส่งให้ฉีหยุน (วู่เฟิง) คทานั้นเหมาะสมกับเขาที่สุดแล้ว” ผู้ช่วยเย่มินพูดขึ้นพร้อมกับสั่งการอย่างรวดเร็ว
มู่หรงเสี่ยวเทียนไม่พูดอะไร จากนั้นเขาก็รีบออนไลน์และส่งคทาให้วู่เฟิงทันที จากการศึกษาบนเว็บไซต์ในช่วงก่อน เขาจึงรู้วิธีว่าถ้าจะส่งมอบของต้องทำอย่างไร
เรื่องราวต่าง ๆ จบไปอย่างราบรื่น ผู้ช่วยเย่มินนั้นเป็นคนที่มีความสามารถสูงมากทีเดียว เมื่อมู่หรงเสี่ยวเทียนส่งมอบคทาไปให้วู่เฟิงเสร็จเรียบร้อย เย่มินก็เอาเงินสดจำนวน 1,000,000 หยวนที่เตรียมไว้รอแล้วให้ไป
มู่หรงเสี่ยวเทียนไม่อยากเสียเวลาอยู่ตรงนี้อีก เขารีบรับเงินและออกจากตึกของกลุ่มหนานเทียนไปอย่างเร่งรีบ แต่ตอนนี้เขาโชคดีที่ได้ผู้ช่วยเย่มินอาสาเป็นคนไปส่งเขาไปยังโรงพยาบาลแห่งหนึ่งด้วยรถหรูคันพิเศษของเธอ และในระหว่างทางเขาก็ได้อธิบายเรื่องของหม่าเจียนให้ผู้ช่วยเย่มินฟัง เพราะท้ายที่สุดนั้นผลที่จะตามมาไม่ใช่เรื่องที่เขาจะสามารถแบกรับได้ในตอนนี้ แต่ผู้ช่วยเย่กลับบอกว่าเรื่องนั้นมันไม่ใช่เรื่องใหญ่สักเท่าไหร่ ดังนั้นเขาจึงคลายความกังวลลงไปบ้างแล้ว
เรื่องค่าใช้จ่ายในโรงพยาบาลผ่านไปอย่างราบรื่น ใบหน้าที่เย็นชาของพวกหมอเหล่านั้นเปลี่ยนไปรวดเร็วยิ่งกว่าเครื่องบินเสียอีก มู่หรงเสี่ยวเทียนเข้าใจดีถึงความโหดร้ายของโลกใบนี้ !
เมื่อทุกอย่างจัดการจนเรียบร้อยแล้ว มู่หรงเสี่ยวเทียนก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก ทันใดนั้นร่างกายของเขาก็เริ่มรู้สึกถึงความเหน็ดเหนื่อยและความอ่อนล้า เขารีบลาครอบครัวของจิงยี่และกลับไปที่ตึกของกลุ่มหนานเทียนอีกครั้ง เขาทิ้งตัวลงบนเตียงสักพักแล้วตะโกนบังคับร่างกายตัวเองว่า “ยืนขึ้น ! ” จากนั้นเขาก็เดินไปที่ห้องเล่นเกม
หมู่บ้านโนวิซ 110 ที่เคยคึกคักและพลุกพล่านไปด้วยผู้เล่น กลับกลายเป็นเรื่องในอดีตไปแล้ว ตอนนี้เมืองทั้งเมืองเหลือแต่พื้นที่รกร้างว่างเปล่าไร้ซึ่งผู้คน นาน ๆ ทีจะได้เจอกับผู้เล่นสองสามคนที่เดินบนถนนของตลาด
มันไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจเท่าไหร่ เพราะตอนนี้เกมเดสตินี่เปิดดำเนินการมาเป็นเวลา 3 สัปดาห์แล้ว โดยพื้นฐานนั้นทุกคนน่าจะไปยังเมืองต้าเฉิง (เมืองฟินิกซ์) เป็นที่เรียบร้อย จะมีเพียงมู่หรงเสี่ยวเทียนเท่านั้นที่ยังวนเวียนอยู่ที่นี่ ที่จริงเขาน่าจะต้องไปอยู่ที่เมืองใหญ่ ๆ ตั้งนานแล้ว แต่ทว่าเขายังคงติดอยู่ที่เมืองนี้ ด้วยพลังของคทาอัคคีลึกลับของจักรพรรดิ มันจึงทำให้วู่เฟิงมีเลเวลสูงสุดในเกม และตอนนี้เขาอยู่ที่เลเวล 17 แล้ว !
ตอนนี้ฟังก์ชั่นโรงเตี๊ยมหรือโรงน้ำชาได้ถูกเปิดใช้งานในเกมเดสตินี่แล้ว ผู้เล่นทุกคนสามารถเข้าไปใช้สถานที่แห่งนั้นเพื่อพักผ่อนหย่อนใจในเวลาว่างได้
เวลานี้มีฝนโปรยปรายจากท้องฟ้าลงมาสู่พื้นดิน ความมืดหม่นเหล่านี้ได้ทำให้ความรู้สึกของผู้คนหม่นหมองลงไปไม่น้อย ดูเหมือนว่ามีเพียงสุราเท่านั้นที่สามารถขจัดอารมณ์โศกเศร้าของพวกเขาในตอนนี้ได้
“เจ้าของร้าน ขอเหล้าเข้ม ๆ 1 ขวด ” มู่หรงเสี่ยวเทียนเขย่าขวดเปล่าและมองไปที่เคาน์เตอร์
“ดูเหมือนว่าเราจะต้องลบบัญชีและเริ่มต้นใหม่อีกครั้งสินะ” มู่หรงเสี่ยวเทียนถอนหายใจออกมาเบา ๆ เขารับขวดสุรากลับมาจาก NPC ก่อนที่จะกระดกลงไปในปากอย่างเต็มที่
ตอนนี้การเปลี่ยนอาชีพของเขาล้มเหลวถึง 9 ครั้งแล้ว ไม่ว่าจะมีความอดทนมากมายขนาดไหน เขาก็ไม่ไหวกับเรื่องแบบนี้ การเปลี่ยนอาชีพดูเหมือนจะกลายเป็นอุปสรรคสำหรับเขา และการตามหาหมิงซินนั้นก็ยังไม่คืบหน้า เรื่องเดียวที่ทำให้มู่หรงเสี่ยวเทียนรู้สึกยินดีในตอนนี้ นั่นก็คือการผ่าตัดน้องชายของจิงยี่นั้นประสบความสำเร็จและร่างกายของเขาก็เริ่มฟื้นตัวขึ้นมาแล้ว
“ฉันไม่อยากทำอะไรที่มันยุ่งยากแล้ว ขอลองอีกสักครั้ง ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้าย ถ้าเปลี่ยนไม่ได้ก็คงจะต้องลบบัญชีแล้วเริ่มเล่นใหม่” มู่หรงเสี่ยวเทียนตัดสินใจอย่างเด็ดขาด แม้ว่าการกระทำนั้นจะทำให้เขารู้สึกหดหู่ก็ตาม !
ทันใดนั้น ประตูโรงเตี๊ยมก็ถูกเปิดออกมาเบา ๆ เสียงฝีเท้าของใครคนหนึ่งกำลังเดินเข้ามา
“เจ้าของร้าน ขอเหล้าที่ขวดสวย ๆ แบบนี้อีก 1 ขวด” เสียงที่ไพเราะอ่อนโยนราวสายน้ำดังออกมาจากหน้าประตูทางเข้า
“พี่ชาย ฉันขอนั่งกับพี่ด้วยได้ไหม ? ” เสียงที่อ่อนหวานลอยมาจากด้านหลังของมู่หรงเสี่ยวเทียน
มู่หรงเสี่ยวเทียนเงยหน้าขึ้นมาเมื่อได้ยินเสียงนั้น เขาพบกับหญิงสาวอายุประมาณ 20 ต้น ๆ กำลังยืนอยู่ตรงหน้าพร้อมกับรอยยิ้มที่เลอะเต็มใบหน้าของเธอ เธอสวมชุดสีขาวสง่างามพร้อมกับผมที่ดกดำ
ทันทีที่เขาพบเจอกับหญิงสาวคนนี้ มีเพียงสองคำเท่านั้นที่ผุดขึ้นมาในหัวของเขา คำว่างดงาม กลายเป็นล้าสมัยจนไม่สามารถนำมาเปรียบได้กับผู้หญิงคนนี้ เธองดงามอย่างเป็นธรรมชาติ ผิดของเธอราวกับหิมะ ปากของเธอแดงอย่างกับดอกเหมย ความสวยงามทำให้เขานั้นไม่สามารถคิดถึงสิ่งชั่วร้ายได้เลยแม้แต่น้อย เธอดูสูงส่งจนเขาไม่กล้าที่จะเอื้อมถึง มันบริสุทธิ์ผุดผ่องเป็นอย่างมาก ความงามที่ไม่สามารถพบเจอได้ที่ไหน และมันก็เปรียบเสมือนดั่งน้ำที่ไหลอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ! ข้อบกพร่องประการเดียวของหญิงงามคนนี้คือเธอดูขาวซีดจนเกินไป ดูเหมือนเธอนั้นอ่อนแรง มันทำให้ผู้คนเกิดความรู้สึกเอ็นดูและเจ็บปวดไปพร้อม ๆ กัน !
To be continued…