เส้นทางแห่งโชคชะตา - ตอนที่ 31: ผู้เล่นที่ไม่สามารถเปลี่ยนอาชีพได้ (1)
เล่มที่ 1 ตอนที่ 31: ผู้เล่นที่ไม่สามารถเปลี่ยนอาชีพได้ (1)
“ก๊ากก ! ! ฮ่าฮ่าฮ่า” โม่ตี้และโม่เหรินระเบิดเสียงหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง ท่าทางหดหู่ที่เคยแสดงออกก่อนหน้านั้นพลันหายไปโดยสิ้นเชิง คนที่ยืนตรงกันข้ามกับพวกเขานั้น โม่เทียนผู้ที่ยิ้มกว้างเมื่อสักครู่นี้กลับมีสีหน้าราวกับว่าเป็นฤดูฝนในเดือนหก สีหน้าทุกข์ระทมและเริ่มเปลี่ยนเป็นเศร้าหมองราวกับว่าตายทั้งเป็น
“ยินดีด้วย…” แต่สีหน้าของโม่เทียนกลับหดหู่ จากนั้นก็แสดงความโกรธและความผิดหวังออกมา เขามองไปที่มู่หรงเสี่ยวเทียนอย่างดูถูกและกัดฟันพูดออกมาด้วยความยากลำบาก “ยินดีด้วย คำตอบนั้นผิด ! ”
“อะไรกัน ? ” มู่หรงเสี่ยวเทียนแทบจะไม่เชื่อสายตา “ท่านบอกว่าผมตอบผิดงั้นหรือ ? หนึ่งบวกหนึ่งเท่ากับสองไม่ใช่รึ ? ”
“เจ้าบ้าเอ้ย ! ” โม่เทียนอดไม่ได้ที่จะตะโกนออกมา “บนโลกนี้ยังมีคนแบบนี้อยู่อีกหรือ ? การนำฝูงแกะสองฝูงมารวมกันนั้น ก็ย่อมที่จะได้ฝูงแกะที่ใหญ่กว่าเดิม แม้จะง่ายขนาดนี้ แต่เจ้าก็ยังตอบผิด แม้แต่เด็กตัวน้อยนิดก็ยังตอบได้เลย เจ้านี่มันโง่เขลาอย่างหาคำบรรยายไม่ได้จริง ๆ ”
เมื่อเห็นว่าโม่เทียนกำลังดุด่าเขาอยู่ เขาก็ไม่พอใจเป็นอย่างมาก เพราะเดิมทีเขานั้นคืออันธพาลและประสบกับปัญหามากมายมาตั้งแต่ยังเด็ก เขาใช้เวลามากกว่าสิบปีอยู่ในเรือนจำ ดังนั้นเขาจึงไม่รู้จักกับการตอบคำถามเพื่อวัดไอคิวของเด็กอะไรนี่เลยแม้แต่น้อย ดังนั้นจะให้เขาตอบอะไรออกมา ? เขารู้สึกไม่มั่นใจเล็กน้อยเมื่อโม่เทียนบอกว่าเขาตอบผิด เขานั้นเป็นพวกที่ดื้อรั้นมาตั้งแต่เกิด ดังนั้นเขาจะทนอยู่กับการให้โม่เทียนตำหนิเขาได้อย่างไร แบบนี้มันต้องมีสวน !
“ท่านคิดคำถามที่ไร้สาระแบบนี้ได้ยังไง ? ” มู่หรงเสี่ยวเทียนรู้สึกโกรธเป็นอย่างมาก “หากเอาจากที่ท่านพูดมา งั้นขอถามหน่อยว่าหากท่านรวมตัวกับน้องท่านอีกสองคนจะกลายเป็นเท่าไหร่ ? คำตอบควรจะรวมกันได้หนึ่งกลุ่มแต่กลุ่มใหญ่ขึ้นอีกเหมือนเดิมหรือไม่ ? เพราะพวกท่านทั้งสามก็เกิดมาจากท้องเดียวกันแล้วเหมือนกันอย่างกับแกะ และจากคำถามเมื่อครู่นี้ ถ้าหากว่าอีกฝูงหนึ่งดันเป็นหมาป่าในชุดแกะ คำตอบมันจะไม่กลายเป็นฝูงหมาป่าหรือ ? เพราะแกะอีกฝูงที่มารวมก็คงจะถูกหมาป่าจับกินหมดงั้นสิ ! ”
มู่หรงเสี่ยวเทียนพูดและหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง “ให้ตายเถอะ ท่านบอกว่าผมเป็นคนที่โง่เง่าที่สุดงั้นหรือ ? แต่ผมคิดว่าพวกท่านทั้งสามนั่นแหละคือคนที่โง่เง่าที่สุดในโลกต่างหาก ตั้งแต่วินาทีที่ผมเดินเข้ามา ผมก็รับรู้ได้ว่าพวกท่านทั้งสามไม่ใช่คนปกติ มันเหมือนกับพวกคนแก่ปัญญาอ่อน ! แปลกแต่จริงที่พวกท่านทั้งสามคนได้เป็นคนทดสอบเพื่อเปลี่ยนอาชีพ ! ผมล่ะไม่เข้าใจเลยจริง ๆ ! ”
ตอนนี้โม่เทียน โม่ตี้ และโม่เหรินนั้นไม่สามารถอดทนได้อีกต่อไป แต่ทว่าโม่ตี้และโม่เหรินนั้นเหมือนจะดูดีกว่าโม่เทียนอยู่เล็กน้อย หลังจากเห็นว่ามู่หรงเสี่ยวเทียนสอบตกในการเปลี่ยนอาชีพตามที่พวกเขาคาดหวังแล้ว พวกเขาก็ไม่โกรธเคืองเท่าไหร่จากคำพูดของมู่หรงเสี่ยวเทียน แม้ว่ามันจะน่ารำคาญแต่มันก็ยังพอจะทนได้ กลับกันกลายเป็นโม่เทียนซึ่งทนไม่ไหว ความหวังมากมายพังทลายลงไปอย่างสิ้นเชิง เพราะเขาถูกมู่หรงเสี่ยวเทียนทำให้ดูกลายเป็นคนโง่ ดังนั้นเขาจึงรู้สึกฉุนเฉียวและเดินเข้าไปยืนตรงหน้าของมู่หรงเสี่ยวเทียน “ข้าไม่อยากเห็นหน้าเจ้าอีกต่อไปเจ้าเด็กสารเลว เจ้าช่างพูดมากเสียจริง รวมถึงท่าทางที่หยิ่งผยองนั่นอีก กลับไปที่เมืองโนวิซและเก็บเลเวลใหม่ให้ถึง 10 อีกครั้งซะ ! ” โม่เทียนพูดจบเขาก็ถีบไปที่ก้นของมู่หรงเสี่ยวเทียนอย่างรุนแรง
ขณะที่มู่หรงกำลังจะเบะปากใส่เขา เขาก็รู้สึกได้ว่าดวงตานั้นมืดลง เขาไม่สามารถมองเห็นอะไรได้สักอย่าง รู้สึกว่าร่างกายนั้นไม่สามารถขยับได้เลยแม้แต่น้อย มันให้ความรู้สึกเหมือนกำลังลอยอยู่บนท้องฟ้า จากนั้นดวงตาก็ค่อย ๆ สว่างขึ้นมา ปรากฏว่าเขาอยู่ที่ประตูเคลื่อนย้ายภายในเมืองโนวิซ 110 แล้ว หลังจากที่ได้สติคืนมาเขาก็ร่วงลงมาบนพื้นทรายด้านนอกของเมืองโนวิซ 110
“พี่เทียน พี่มาทำอะไรที่นี่ ? ”
มู่หรงเสี่ยวเทียนได้ยินเสียงของเปียวซือก่อนที่จะลืมตาขึ้นมา เขาเงยหน้าอย่างเร่งรีบ ผู้เล่นมากมายหลายร้อยชีวิตก็กำลังยืนอยู่ห่างออกไปไม่ไกลจากเขาเท่าไหร่ ‘เชี่ยแล้ว ! มันน่าอายจริง ๆ นะเนี่ย ! ’ มู่หรงเสี่ยวเทียนตะโกนในใจ แต่ใบหน้าเขานั้นกลับสงบนิ่งอย่างบอกไม่ถูก “โอ้ว พอดีฉันกำลังลองพยายามทำสิ่งต่าง ๆ ในประตูมิติ แต่คาดไม่ถึงเลยว่ามันจะควบคุมยากมากและส่งตัวฉันกลับมาที่นี่”
“งั้นหรือ ทำไมพี่ยังไม่ลุกขึ้นมาอีกล่ะ ? หรือว่าพี่ต้องการให้ฉันช่วยพยุง ? ” วู่เฟิงยิ้มออกมาและเดินเข้าไปหาเขา จากนั้นผู้คนมากมายก็หัวเราะคิกคักออกมา
“ช่างมันเถอะ ฉันจะออฟไลน์แล้ว” มู่หรงเสี่ยวเทียนกล่าวออกมาอย่างผิดหวัง แต่เขาก็ยังแอบสาปแช่งอยู่ภายในใจว่าทำไมมันไม่มีจุดปลอดภัยในเกมเดสตินี่เลยแม้แต่น้อย กลับกันเขาต้องมานั่งอยู่ท่ามกลางผู้คนนับร้อยอย่างน่าอับอายเช่นนี้
“โอ้ว พี่เปลี่ยนอาชีพเสร็จแล้วหรือ ? ” วู่เฟิงถามอย่างสงสัยในขณะที่เขานั้นไม่ได้ยินเสียงแจ้งเตือนใด ๆ จากระบบแม้แต่น้อย ถ้าหากว่ามีการเปลี่ยนอาชีพเป็นคนแรกได้สำเร็จ ระบบน่าจะประกาศออกมา
“อย่าไปถามถึงมันเลยหน้า ฉันสอบตกและถูกเตะกลับมาอยู่ในเลเวล 9 แล้วเนี่ย ! ” มู่หรงเสี่ยวเทียนตอบกลับไปอย่างหดหู่ จากนั้นเขาก็เปลี่ยนหัวข้อในการพูดคุย “เมื่อไหร่เจ้าหยางซ่งกับซัมมอนเนอร์จะถึงเลเวล 10 ? ผู้เล่นมากมายจ้องจะแย่งมันอยู่ตลอดเวลา มันคงจะเป็นเรื่องยากที่จะรักษาลูกราชาหมาป่าโลหิตให้ปลอดภัย”
“ก็นะ คงจะประมาณอีก 1 ชั่วโมง” วู่เฟิงมีท่าทีสงบราวกับว่าไม่มีความเร่งรีบใด ๆ “สำหรับลูกราชาหมาป่าโลหิตตัวนี้ นี่เป็นโอกาสดีที่หากยากมากจริง ๆ ฉันได้คุยกับกลุ่มหนานเทียนแล้ว แต่ละคนต่างบอกว่าเป็นเรื่องดีที่ได้มันมา”
ขณะที่มู่หรงเสี่ยวเทียนกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ทว่าเขาก็ถูกขัดจังหวะจากเสียงของระบบ
ระบบในเกมก็แจ้งเตือนขึ้นมา “แจ้งเตือนจากระบบ ตอนนี้มีผู้เล่นชื่อ จื่อเฟิง เป็นคนแรกที่เปลี่ยนอาชีพสำเร็จ และเข้าสู่สนามเริ่มต้น ประตูสู่ถนนของทหารรับจ้างภายในเกมเดสตินี่จึงถูกเปิดออก ตอนนี้เกมได้เข้าสู่ยุคของทหารรับจ้างแล้ว ! ”
“ช่างเป็นคนดังที่ไม่มีวันดับแสงจริง ๆ เลยนะ จื่อเฟิง ฉันรู้ว่านายเองก็ไม่ค่อยเต็มใจที่จะต่อสู้อย่างโดดเดี่ยว เดี๋ยวพวกฉันจะตามนายไปอย่างแน่นอน” วู่เฟิงพูดออกมา แล้วมองขึ้นไปบนท้องฟ้า
“ฉันไปพักผ่อนก่อนนะ” มู่หรงเสี่ยวเทียนรู้สึกเหนื่อยล้าเป็นอย่างมาก เขาพูดขึ้นมาในทันใด โดยที่ไม่รอให้ใครตอบกลับมา จากนั้นร่างกายก็จางหายไปอย่างช้า ๆ
To be continued…