เส้นทางแห่งโชคชะตา - ตอนที่ 30: เปลี่ยนอาชีพ (3)
เล่มที่ 1 ตอนที่ 30: เปลี่ยนอาชีพ (3)
“ถ้าอย่างนั้นก็มา” โม่เทียนตอบออกไปอย่างเร่งรีบด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า “น้องชาย ข้ารู้สึกมีความสุขเป็นอย่างมาก การที่ข้าเพิกเฉยก่อนหน้านี้ ได้โปรดอย่านำมันไปใส่ใจเลย”
มู่หรงเสี่ยวเทียนสงบลงเล็กน้อยและถามขึ้นมาด้วยความสงสัย “พวกท่านทั้งสามกำลังเล่นอะไรกันอยู่ ? คนหนึ่งก็ถอนหายใจ คนหนึ่งก็หัวเราะออกมา”
โม่เทียนมองดูโม่ตี้และโม่เหรินผู้น่าสงสารด้วยสายตาอันภาคภูมิใจและพูดพร้อมกับรอยยิ้มว่า “น้องชาย เจ้าไม่รู้หรือว่าพวกเราทั้งสามคนนั้นเกิดจากพ่อแม่เดียวกัน แต่ก็ดันเกิดเรื่องกับแม่ของพวกเราในตอนที่พวกเราเกิดมา” โม่เทียนยิ้มอย่างกระอักกระอ่วน “สำหรับพวกเราแล้ว ไม่รู้เลยว่าใครกันที่เกิดก่อนเกิดหลัง ดังนั้นพวกเราจึงถกเถียงกันเรื่องนี้มาโดยตลอด”
มู่หรงเสี่ยวเทียนตกใจ จากนั้นเขาก็พูดออกมาพร้อมกับส่ายหัวไปมาด้วยความโมโห “แต่ว่ามันเกี่ยวกับผมยังไงกัน ? ทำไมพวกท่านถึงจ้องมองผมตาเขม็ง อย่างกับผมติดหนี้พวกท่านงั้นแหละ ? ผมเองก็ไม่ได้ติดหนี้อะไรสักหน่อยนะ”
“น้องชาย เจ้าเข้าใจผิดแล้ว” โม่เทียนยิ้มอย่างเขินอาย “เราทั้งสามพี่น้องนั้นแค่ตื่นเต้นกับเจ้าเท่านั้นเอง เป็นเพราะว่าพวกเราคุยกันเอาไว้ ใครก็ตามที่สามารถทำการเปลี่ยนอาชีพให้ผู้เล่นได้ก่อนคนแรก คนคนนั้นจะถือว่าเป็นพี่ใหญ่”
ในที่สุดมู่หรงเสี่ยวเทียนก็เข้าใจ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมพวกเขารู้สึกประหม่าตอนที่เขาเดินผ่านประตูเข้าไป ทันใดนั้นมันก็เหมือนว่าเขาจะคิดอะไรได้บางอย่างขึ้นมา จากนั้นก็แสดงท่าทางแปลก ๆ ออกมาก่อนจะหัวเราะดังลั่น
“น้องชาย เจ้าหัวเราะอะไร ? มันน่าขันนักรึไง ? ” โม่เทียนมองมู่หรงเสี่ยวเทียนด้วยท่าทางแปลก ๆ พร้อมกับเครื่องหมายคำถามบนใบหน้า
“ผมแค่สงสัยว่าเจ้าหน้าที่เปลี่ยนอาชีพในเมืองต่าง ๆ จะใช่พี่น้องฝาแฝดเหมือนพวกท่านด้วยหรือเปล่า ถ้าเป็นอย่างนั้น มันก็คงจะเป็นเรื่องที่บังเอิญน่าดู” มู่หรงเสี่ยวเทียนพูดออกมา พร้อมกับหัวเราะออกมาด้วย
“น้องชาย ทำไมเจ้าพูดออกมาราวกับมันเป็นเรื่องตลกกัน นี่พวกเราถกเถียงกันมานานมากกับเรื่องนี้ ? ” โม่เทียนพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ดูเหมือนว่าจะเสียความรู้สึก แต่เขาก็ยังคงสุภาพอยู่ แต่ทว่าพี่น้องอีก 2 คนนั้นไม่ได้มีความอดทนมากมายขนาดนั้น เดิมทีพวกเขาทั้งสองก็ไม่พอใจอยู่แล้วเพราะว่าโม่เทียนได้กลายเป็นผู้ชนะ ตอนนี้หลังจากที่ได้ยินคำพูดของมู่หรงเสี่ยวเทียนเช่นนี้อีก พวกเขาจะยังคงแสดงท่าทางสุภาพได้อย่างไร ?
“เจ้าเด็กสารเลว สงบปากสงบคำไม่ได้รึอย่างไร ? ควมคิดของเจ้าช่างสกปรกเสียจริง ! ”
“เจ้าเด็กนี่ พ่อแม่เจ้าไม่สั่งสอนเจ้ารึยังไง ที่มาล้อเล่นกับความรู้สึกคนอื่นอย่างนี้ ? ”
ทั้งสองมีท่าทางราวกับว่าจะพุ่งเข้าไปหามู่หรงเสี่ยวเทียนอย่างรวดเร็ว
“เอาล่ะ เอาล่ะ ท่านทั้งหลาย ผมขอโทษ ทุกอย่างเป็นความผิดของผมเอง ผมผิดไปแล้ว” มู่หรงเสี่ยวเทียนรีบขอโทษอย่างเร่งรีบ เขาไม่ต้องการที่จะทำให้เกิดเรื่องอะไรขึ้นและยืดเยื้อไปอีก เพราะตอนนี้เขาหิวและง่วงเป็นอย่างมาก ดังนั้นเขาจึงต้องการที่จะเปลี่ยนอาชีพและออฟไลน์ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
“พี่โม่เทียน ผมขอเรียกท่านว่าพี่ก็แล้วกัน อย่างน้อยพี่ก็เห็นอกเห็นใจผม และพี่ชายสองคนนั้นก็ไม่พอใจผมเอามาก ๆ ” มู่หรงเสี่ยวเทียนมองไปที่เขา จากนั้นสองพี่น้องโม่ก็หันหน้าไปหาโม่เทียน
“แน่นอน ข้าตั้งหน้าตั้งตารอวันนี้มาหลายสิบปีแล้ว” โม่เทียนกล่าวขณะที่เขาเดินไปหยิบบางอย่างจากโต๊ะด้านหลังของเขา มันคือรูเล็ต ! และรูเล็ตนี้ก็ดูเหมือนจะเป็นวงล้อเล็ก ๆ ไม่ใหญ่มาก
“มาเลยน้องชาย” โม่เทียนโยนรูเล็ตนั้นลงไปด้านหน้าของมู่หรงเสี่ยวเทียน เขาชี้ไปที่มันและกล่าวว่า “ตัวอักษรทั้งเจ็ดมีเครื่องหมาย A B C D E F และ G เขียนอยู่ข้างบนของรูเล็ต ความยากง่ายนั้นขึ้นอยู่กับระดับ เจ้าหมุนมันซะ และถ้าตำแหน่งที่รูเล็ตหยุดอยู่ตรงไหน เจ้าก็ต้องทำการเปลี่ยนอาชีพตามความยากหรือง่ายที่กำหนดเอาไว้”
มู่หรงเสี่ยวเทียนพยักหน้าอย่างเข้าใจ
“เอาเลย น้องชาย” โม่เทียนมองดูมู่หรงเสี่ยวเทียนด้วยสายตาคาดหวังและให้กำลังใจไปพร้อม ๆ กัน “ข้าเคยเห็นสเตตัสของเจ้าก่อนหน้านี้แล้ว ค่าโชคลาภของเจ้ามากมายขนาดนั้น ข้าคิดว่าเจ้าน่าจะได้ภารกิจระดับ F ตราบใดที่เจ้าไม่ใช่คนโง่เขลาที่สุด มันก็จะสำเร็จไปได้ด้วยดี”
มู่หรงเสี่ยวเทียนสงบสติอารมณ์ลง จากนั้นก็เหยียดมืออกไปข้างหน้าพร้อมกับหมุนรูเล็ต “ไปอีก ไปอีก” รูเล็ตของเขาเกือบที่จะหยุดอยู่ตรงภารกิจระดับ A เขาจับไปที่ใบหน้าด้วยหัวใจที่สั่นไหว เขาอดไม่ได้ที่จะอ้าปากออกมา โชคยังดีที่วินาทีนั้นรูเล็ตก็ได้ข้ามไปและหยุดอยู่ที่ภารกิจระดับ G เขารีบยกมือขึ้นมาปาดเหงื่อบนหน้าผาก ในที่สุดสวรรค์ก็ยังเมตตาต่อเขา เขาถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกหลังจากที่รู้สึกตื่นเต้นเมื่อครู่
“ฮ่าฮ่า ต้องบอกได้ว่าภารกิจระดับ F นั้นง่ายแล้ว แต่ระดับ G นั้นง่ายที่สุด” โม่เทียนอยู่ในอารมณ์ที่มีความสุข ขณะเดียวกันสองพี่น้องโม่นั้นยิ่งฉุนเฉียวขึ้นไปอีกที่เห็นว่ามู่หรงเสี่ยวเทียนได้รับภารกิจระดับ G เขาส่ายหัวไปมาอย่างผิดหวังจากนั้นก็เงียบไป
โม่เทียนหันหลังกลับและวางรูเล็ตลง จากนั้นเขาก็หยิบกล่องสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ ออกมาและยื่นมันไปให้มู่หรงเสี่ยวเทียน “มาเลย เจ้าจับฉลากมันขึ้นมา แล้วดูกันว่าภารกิจระดับ G ที่เจ้าได้นั้นมันคืออะไร ” เขากำลังจะกลายเป็นพี่ใหญ่ ดังนั้นเสียงของเขาจึงดูเคร่งขรึมกว่าปกติ
มู่หรงเสี่ยวเทียนเห็นว่ามีอักษร G ตัวใหญ่เขียนเอาไว้บนกล่องและมีช่องพอที่จะเอามือสอดเข้าไปได้ ดังนั้นเขาจึงไม่พูดพร่ำทำเพลงอีกต่อไป เขาล้วงเข้าไปเอาการ์ดของภารกิจออกมา แต่มันคือภารกิจระดับ G มันไม่ได้สำคัญว่าเขาจะจับได้ภารกิจอะไรเพราะมันง่ายอยู่แล้ว และความรู้สึกของเขาก็ผ่อนคลายเป็นอย่างมากในตอนนี้
โม่เทียนรับการ์ดภารกิจที่มู่หรงเสี่ยวเทียนจับขึ้นมา จากนั้นก็เอาไปดู รอยยิ้มที่ราวกับดอกไม้อันบานสะพรั่งกำลังเบ่งบานอยู่บนใบหน้าของเขา “มันก็ยังคงเป็นภารกิจที่ง่ายที่สุดในระดับ G อยู่ดี มันก็คือการตอบคำถามเพื่อวัดความชาญฉลาดของเด็ก ! ”
การตอบคำถามเพื่อวัดไอคิวของเด็ก ! ? มู่หรงเสี่ยวเทียนตะลึงและกำลังจะถามว่าอะไรคือการวัดไอคิวของเด็ก และแล้วเสียงของระบบก็ดังขึ้นมาในหูของเขา “ผู้เล่นชื่อโจร ได้โปรดตอบคำถามในการเปลี่ยนอาชีพของคุณด้วย แกะหนึ่งฝูงบวกกับแกะอีกหนึ่งฝูงเท่ากับว่ามีแกะกี่ฝูง ? ”
“อะไรกัน ? ฉันคิดว่าฉันนี่เป็นคนที่โง่เง่าที่สุดละนะ แม้แต่คำถามหนึ่งบวกหนึ่งได้เท่าไหร่ยังจะถูกนำมาถามอีกยังงั้นหรือ ? ” มู่หรงเสี่ยวบนพึมพำในใจและตอบออกไปอย่างรวดเร็ว “แกะสองฝูง ! ”
To be continued…