เส้นทางแห่งโชคชะตา - ตอนที่ 20: ความเข้าใจ
เล่มที่ 1 ตอนที่ 20: ความเข้าใจ
หลังจากที่ได้ยินคำพูดของวู่เฟิง ความกระตือรือร้นของเขาก็พลันหายไปในทันที จากนั้นเขาก็รู้สึกหงุดหงิดและพูดขึ้นว่า “ดูพี่พูดเข้าสิ นี่พี่ต้องการให้ผมสิ้นหวังรึยังไง ? ”
“นายยังต้องหาประสบการณ์อีกเยอะ” นักฆ่าละสายตาจากมู่หรงเสี่ยวเทียนและกล่าวขึ้นว่า “ประสบการณ์ชีวิตของทุกคนนั้นแตกต่างกัน ทักษะหรือสกิลที่สร้างขึ้นนั้นก็จะแตกต่างกันออกไปด้วย หากว่ามันมีโอกาสที่เหมาะสมกับนาย ควบคู่ไปกับความพยายามอย่างไม่ลดละ มันก็มีความเป็นไปได้ที่นายจะสามารถสร้างสกิลหรือทักษะที่เหมาะสมกับตัวเองได้”
“นักฆ่าพูดถูก” วู่เฟิงพยักหน้าให้นักฆ่าอย่างพอใจ จากนั้นเขาก็จ้องมองไปยังทุก ๆ คนด้วยแววตาจริงจัง “บางทีพวกนายทั้งหมดจะสามารถสร้างสกิลขึ้นมาเป็นของตัวเองได้ หรือไม่ก็อาจจะไม่มีวันนั้น แต่สิ่งที่ฉันอยากจะบอกพวกนายก็คือว่า อย่าเอาชีวิตทั้งหมดไปฝากไว้กับการสร้างทักษะของตัวเอง และอย่าท้อแท้เพราะไม่สามารถสร้างมันขึ้นมาได้ เพราะมันไม่ใช่ทั้งหมดสำหรับเกมนี้ สำหรับคนที่อยากจะเล่นเกมเพื่อสร้างความแตกต่างแล้ว พวกนายจะต้องทำงานหนักกว่าคนอื่น การเรียนรู้ที่จะควบคุมชะตาของตัวเองเท่านั้น นั่นคือแก่นแท้ของมัน ! ”
หลังจากวู่เฟิงพูดจบ เขาก็มองไปที่มู่หรงเสี่ยวเทียน จากนั้นก็หันหน้ากลับไปหาทุกคน “พวกนายคิดว่าการที่พี่เทียนมานี่เพื่อตายหลาย ๆ ครั้งต่อวันนั้นเป็นวิธีการสร้างทักษะที่เขาคิดขึ้นเองหรือ ? ” วู่เฟิงส่ายหัวไปมาอย่างเย็นชา เขากล่าวขึ้นว่า “ถ้าคิดแบบนั้น พวกนายคิดผิดแล้ว พี่เทียนทำแบบนี้เพื่อฝึกฝนตัวเองให้เกิดความคล่องแคล่ว เขาพยายามอย่างหนักและยากลำบาก ดังนั้นทักษะที่เขาสร้างขึ้นมานี้ คงไม่ได้เป็นเพียงเรื่องบังเอิญหรือแค่ของขวัญจากพระเจ้า ! ”
หลายคนนิ่งเงียบไป สิ่งที่วู่เฟิงพูดนั้นทำให้พวกเขาประหลาดใจมาก ขณะเดียวกันมันก็ทำให้พวกเขาเข้าใจความหมายที่วู่เฟิงต้องการจะสื่อ สำหรับผู้เล่นเกมที่โด่งดังในเกมออนไลน์สำคัญ ๆ ทุกเกม ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ หลายคนทุ่มเทกับมันอย่างหนัก ชีวิตของเขาขึ้นอยู่กับการลงมือฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้ได้ประสบการณ์ ซึ่งมันไม่ใช่เพราะโชคชะตา !
เป็นเวลาไม่บ่อยครั้งมากนักที่ซัมมอนเนอร์จะพูดออกมา “หยางซ่ง ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าพี่เทียนทุ่มเทกับมันไปมากแค่ไหน”
“เอ๋ นายพูดแล้วหรือ ? ” หยางซ่งอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา
“ตอนที่เราเข้ามาในเกมครั้งแรก การควบคุมเกมของพี่เทียนไม่ได้ดีในระดับเดียวกันกับนาย แต่เพียงแค่ 7 ถึง 8 วันเท่านั้น นายกลับล้าหลังยิ่งกว่าพี่เทียนซะอีก นายรู้ไหมว่าทำไม ? ฉันจะไม่พูดอะไรนอกจากคำว่า การทำงานหนักเป็นหนทางสู่ความสำเร็จ ! ”
“ใช่แล้วหยางซ่ง” เปียวซือมองหยางซ่งด้วยความเว้าวอน จากนั้นแสงแห่งความหวังก็ปรากฏขึ้นมาในดวงตาของเธอ “เราทุกคนคิดว่านายคือเพื่อนแท้คนหนึ่ง เราหวังว่านายจะเข้าสู่ระดับผู้เล่นมืออาชีพได้ในไม่ช้า ฉะนั้นในตอนนี้ ถ้านายยังไม่จริงจังกับมันแบบนี้อยู่ละก็ นายก็จะเป็นเพียงแค่ผู้เล่นสำรองตลอดไป”
หยางซ่งเงียบลงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ทั้งคำพูดของวู่เฟิง นักฆ่า ซัมมอนเนอร์และเปียวซือได้สร้างคลื่นเล็ก ๆ ในหัวใจของเขา คำพูดพวกนี้ทำให้เขาเปลี่ยนความคิดไป คำเหล่านี้อาจจะทำให้เขากลายเป็นผู้เล่นที่ยิ่งใหญ่อีกคนในเกมเดสตินี่ !
หลังจากที่ฆ่ามอนสเตอร์หัวม้าตัวสุดท้าย มู่หรงเสี่ยวเทียนก็เดินเข้าไปหาพวกเขาอย่างไม่รีรอ
“พี่เทียน ยินดีด้วยนะ ในที่สุดพี่ก็มาถึงจุดนี้แล้ว ! ” วู่เฟิงจ้องมองมู่หรงอย่างสุภาพ เขารู้สึกดีใจกับความสำเร็จของมู่หรงเสี่ยวเทียนจริง ๆ
“ฮ่าฮ่า มันยังไม่สำเร็จหรอก ฉันยังต้องจริงจังมากกว่านี้” มู่หรงเสี่ยวเทียนหัวเราะออกมาอย่างเขินอาย
“แหม อย่าถ่อมตัวเลยพี่” นักฆ่าพูดด้วยใบหน้าจริงจัง ดังนั้นเขาจึงพูดตรง ๆ ออกมา
“ฮ่าฮ่าฮ่า” ซัมมอนเนอร์หัวเราะออกมาดังลั่น และนักฆ่าก็พูดต่อว่า “พี่รู้มั้ยว่าการเอาจริงเอาจังเกินไปจะกลายเป็นเรื่องอวดดี”
เมื่อทุกคนได้ยินเช่นนั้นก็หัวเราะออกมา
“หือ” มู่หรงเสี่ยวเทียนมองไปที่หยางซ่งด้วยความสงสัย “แปลกแฮะ ทำไมนกแก้วของเรากลายเป็นนกใบ้ไปเสียแล้ว”
ทุกคนปิดปากและหัวเราะอย่างเงียบ ๆ จากนั้นเปียวซือก็เหลือบมองไปที่หยางซ่ง ก่อนจะพูดแซวเล่นว่า “เขาเพิ่งจะถูกวิจารณ์จากกลุ่มของพวกเรา เพื่อที่เขาจะได้พัฒนาตัวเองให้เหมือนกับพี่ไง”
หลายคนหัวเราะดังลั่นหลังจากได้ยินคำพูดเช่นนี้ มีเพียงหยางซ่งเท่านั้นที่ยืนหน้าแดงด้วยความสลด
“เอ้า ทำไมถึงกลายเป็นท่อนซุงไปแล้ว ? ” เปียวซือยื่นมือของเธอไปแตะไหล่หยางซ่ง “มัวทำอะไรอยู่ ? ทำไมไม่ส่งเสื้อผ้าให้พี่เทียนล่ะ ? ”
“โอ้ว ? ” ในที่สุดหยางซ่งก็ได้สติกลับคืนมา เขารีบดึงห่อเสื้อผ้าออกมา….
“ชุดพวกนี้คงไม่จำเป็นแล้วล่ะ” วู่เฟิงโบกมือเพื่อหยุดหยางซ่ง จากนั้นเขาก็หันไปหานักฆ่าแล้วพูดว่า “นักฆ่า เอาชุดเกรดสีขาวที่เพิ่มสถานะความแข็งแกร่ง +5 ให้กับพี่เทียนด้วย”
นักฆ่าพยักหน้าและหยิบเสื้อผ้าออกมาพร้อมกับส่งมอบให้มู่หรงเสี่ยวเทียน
เมื่อเห็นมู่เสี่ยวเทียนสวมเสื้อผ้าแล้ว วู่เฟิงก็กล่าวว่า “จริง ๆ ฉันอยากให้พี่ตั้งแต่สองวันก่อนแล้ว แต่ว่าพี่ยังยุ่งกับการออกล่ามอนสเตอร์ แม้ว่ามันจะไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุด แต่มันก็ไม่ง่ายที่จะได้ของชิ้นนี้มา”
“ใช่ ๆ อัตราค่าความแข็งแกร่งของมันค่อนข้างต่ำ” นักฆ่าพยักหน้าเห็นด้วย
“ฉันจะยังไม่กล่าวขอบคุณ เพราะเรายังต้องอยู่ด้วยกันอีกนาน ระยะทางม้า กาลพิสูจน์คน เราจะเห็นธาตุแท้ของกันก็เมื่อเวลานั้นมาถึง ฉันจะไม่พูดอะไรให้มากความ พวกนายจะรู้จักและเข้าใจคนอย่างมู่หรงเสี่ยวเทียนเองว่าเป็นแบบไหน” มู่หรงเสี่ยวเทียนมองไปที่ใบหน้าของทุกคนและสุดท้ายเขาก็หยุดที่หยางซ่ง “หยางซ่ง นายคือคนแรกที่ฉันรู้จักตั้งแต่ออกมาจากเรือนจำ ถ้าหากว่าไม่มีนายแล้ว ฉันก็คงจะไม่มีโอกาสได้มาเล่นเกมเดสตินี่ ฉันคือมู่หรงเสี่ยวเทียน ฉันไม่สนว่านายจะคิดกับฉันยังไง แต่ฉันจะปฏิบัติกับนายราวกับว่านายเป็นน้องชายแท้ ๆ ฉันไม่กล้าที่จะพูดว่าฉันจะสามารถสร้างความแตกต่างในเดสตินี่ได้ในอนาคต และฉันก็ไม่สามารถรับประกันว่าฉันจะต้องโดดเด่นได้ในเกมนี้ แต่ฉันรับรองได้ว่าถ้าหากนายกำลังลำบากหรือมีปัญหา ไม่ว่าฉันจะอยู่ที่ไหน ฉันจะรีบไปช่วยนายทันที ! ”
ใบหน้าที่ตื่นเต้นของหยางซ่งนั้นคลอไปด้วยน้ำตาแห่งความซาบซึ้ง เขาพยักหน้าอย่างหนักแน่น แม้ว่าเขากับมู่หรงเสี่ยวเทียนจะไม่ได้รู้จักกันมาเป็นเวลาเนิ่นนาน แต่เขาก็สัมผัสได้ถึงความจริงใจผ่านแววตาของมู่หรงเสี่ยวเทียน มันเต็มไปด้วยความแน่วแน่อย่างหาที่สุดไม่ได้ !
หลังจากมู่หรงเสี่ยวเทียนพูดจบ เขาก็หันไปหาวู่เฟิงอีกครั้ง “ฉันคงจะไม่ได้ไปเก็บเลเวลกับนายต่อ เมื่อวานก็แล้ว วันก่อนก็แล้ว ตอนนี้ฉันรู้สึกเหนื่อยจริง ๆ ฉันว่าฉันคงต้องออกไปพักผ่อนแล้วล่ะ”
วู่เฟิงพยักหน้า “พี่ควรไปพักผ่อนได้แล้ว นี่ก็เป็นเวลามากกว่า 20 ชั่วโมงที่พี่ออนไลน์ ร่างกายของพี่คงอยากจะพักผ่อนเต็มที การเก็บเลเวลไม่ใช่สิ่งที่จะทำได้เพียงชั่วข้ามคืน”
“อืม” มู่หรงเสี่ยวเทียนตอบและพยักหน้าให้กับนักฆ่า เปียวซือ แล้วก็ซัมมอนเนอร์ ก่อนที่เขาจะออฟไลน์ออกไป เขาก็ตบไหลหยางซ่งและพูดอีกครั้งว่า “พยายามเข้าล่ะน้องชาย ! ”
To be continued…