เส้นทางเศรษฐีของ(ว่าที่)เชฟเหรียญทอง - ตอนที่ 387 ต้องซ้อมจนกว่าจะยอมแพ้
ตอนที่ 387 ต้องซ้อมจนกว่าจะยอมแพ้
…………….
ได้ยินเช่นนี้ ซ่งจื่อเซวียนก็พยักหน้า
“ผมเองนั่นแหละ แต่…หนวดพญามังกรไม่ใช่ของคุณ แล้วจะแย่งมาได้ยังไง”
“เหอะๆ ไอ้หนุ่ม บ้าไปแล้วจริงๆ แม้แต่หวงฟาจากเมืองตู้เหมินก็ยังต้องก้มหัวคุยกับฉัน แล้วนายกล้าดียังไง!”
ขณะที่พูด เผยเทียนหู่ก็เบิกตากว้าง เห็นได้ชัดว่าเขาไม่คิดจะไว้หน้าซ่งจื่อเซวียนเลย
ซ่งจื่อเซวียนได้ยินก็ยิ้ม ในมุมมองของเขา เผยเทียนหู่มีอายุปูนนี้แล้ว แต่ดูเหมือนตัวตลก
“เสี่ยใหญ่ครับ สิ่งที่คุณพูดมันไม่เกี่ยวอะไรกับหวงฟา หนวดพญามังกรเป็นของประมูล คุณหมายความว่า…ผมไม่ควรเสนอราคาแข่งกับคุณเหรอ”
เผยเทียนหู่โกรธทันทีที่ได้ยิน เพราะไม่มีใครกล้าพูดกับเขาแบบนี้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเด็กวัยรุ่น!
แต่ไม่นานเขาก็หัวเราะครืนใหญ่ออกมา
“ฮ่าๆๆ เสนอราคา? นายเหมาะเหรอ นายคิดว่าตอนนั้นจ่ายไปหกสิบล้านแล้วก็ได้เป็นเสี่ยเป็นนายท่านแล้วเหรอ
ไอ้หนู ไร้เดียงสาเกินไปแล้ว นายคิดว่าฉันจะเชื่อเหรอว่านายจ่ายเงินไปหกสิบล้านน่ะ”
ขณะที่พูด เผยเทียนหู่ก็เอนหลังพิงพนักเก้าอี้ “ฉันจะให้หวงฟาคายหนวดพญามังกรมาให้ฉัน!”
เมื่อเห็นว่าซ่งจื่อเซวียนแต่งตัวเช่นนี้ และดูไม่เหมือนบุคคลพิเศษอะไร เผยเทียนหู่ก็แน่ใจว่าหวงฟาอยู่เบื้องหลังการประมูลครั้งนี้
และหนวดพญามังกรนี้ก็อยู่ในมือของหวงฟาด้วย
ดังนั้นเหตุผลที่เขามาตู้เหมินครั้งนี้มีอยู่สามเรื่อง เรื่องแรกคือมาเอาหนวดพญามังกร เรื่องที่สองคือเอาเงินยี่สิบล้านของหวงฟา และเรื่องที่สาม…คือกำจัดหวงฟา
แน่นอนว่าจากสถานการณ์ในตอนนี้ ยังต้องเพิ่มเด็กหนุ่มคนนี้ ซ่งจื่อเซวียนเข้าไปด้วย!
ซ่งจื่อเซวียนกระตุกยิ้มและรู้ทันทีว่าเผยเทียนหู่กำลังคิดอะไรอยู่
“ที่แท้คุณก็คิดแบบนี้เหรอ”
“แล้วจะอะไรเสียอีกล่ะ ไอ้หนู หยุดเสแสร้งต่อหน้าเสี่ยหู่อย่างฉันได้แล้ว ฉันอาบน้ำร้อนมาก่อนนายตั้งเยอะ!”
เวลานี้หวงฟาก็วางสายแล้วเดินกลับมา
สีหน้าของเขาในตอนนี้ดูเหนือความคาดหมาย ในขณะเดียวกันก็มีความตื่นตระหนกเล็กน้อย
“นายท่านรอง ฉัน…”
เสียงของหวงฟาแผ่วเบา แต่ซ่งจื่อเซวียนได้ยินชัดเจน
“เหอะๆ มีข่าวแล้วเหรอ”
หวงฟาพยักหน้าอย่างแรง มองซ่งจื่อเซวียนด้วยสายตาซาบซึ้งใจ
“งั้นก็ดี มาจัดการเรื่องกันเถอะครับ!”
หวงฟาพลันรู้สึกมั่นใจทันที
เมื่อครู่นี้สายที่เขารับคือเถียนเหวินคุ่ย บทสนทนาในสายนั้นค่อนข้างสั้น แต่น่าตกใจมาก
คืนนี้มีการกวาดล้างครั้งใหญ่ในเมืองตู้เหมิน ตำรวจได้ระดมกำลังพลจำนวนมากในชั่วข้ามคืน และบุกกวาดล้างคลับให้บริการและโรงอาบน้ำค้าประเวณีมากกว่าเจ็ดสิบแห่ง
นอกจากนี้ยังเป็นปฏิบัติการลับสุดยอด คืนนี้เจ้าหน้าที่ทุกคนอยู่ในสถานีตำรวจ ตัดสัญญาณ และปิดโทรศัพท์มือถือ จนถึงเมื่อครู่นี้จึงระดมพลปฏิบัติการ!
ก่อนการปฏิบัติการ ไม่มีการแจ้งไปที่ไหนเลยสักแห่งเดียว
ในใจหวงฟารู้สึกราวกับว่าได้ยกภูเขาออกจากอก หากซ่งจื่อเซวียนไม่ได้ให้เขารีบขายสถานที่เหล่านี้ เกรงว่าตอนนี้เขาอาจจะต้องวิ่งหนีหัวซุกหัวซุนไปแล้ว
ไม่เพียงเท่านั้น ค่าปรับที่ฝ่าฝืนกฎหมายก็สูงเกินจะรับไหวเช่นกัน
สถานการณ์ในตอนนี้ถือว่าดี เขาไม่ต้องโดนจับ แถมยังได้เงินกลับมาหลายสิบล้านอีกด้วย เมื่อเทียบกับผลลัพธ์ที่เลวร้ายที่สุด หวงฟากลับทำเงินได้!
เมื่อเห็นทั้งสองคนกระซิบกระซาบกัน เผยเทียนหู่ก็ขมวดคิ้ว “หวงฟา เงินล่ะ!”
“หืม เสี่ยหู่ เงินอะไรครับ” หวงฟาพูดโดยแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้
“เอ่อ…” หวงฟาชะงัก “เสี่ยหู่ ผมไม่รู้จริงๆ นะ คุณจะเอาเงินตั้งยี่สิบล้านไปทำอะไรกัน”
เผยเทียนหู่ร้อนรนจนลุกขึ้นยืนและใช้ฝ่ามือตบโต๊ะหิน
“นายน่ะไม่ยอมดื่มเหล้าคารวะ แต่จะดื่มเหล้าลงทัณฑ์!”
รอคอยมาสามวันก็เพียงพอแล้วสำหรับเผยเทียนหู่ ตอนนี้หวงฟายังแกล้งไม่รู้ไม่ชี้กับเขาอีก เขาทนไม่ไหวแล้วจริงๆ!
หวงฟาไม่ได้รีบร้อน อย่างไรก็ยังมีซ่งจื่อเซวียนอยู่ข้างๆ
ยอดฝีมือฟางรุ่ยและเหลียงฮั่นทั้งสองคนนั้นน่าจะพอจัดการอู๋ชิ่ง เสือดำที่อยู่เบื้องหลังของเผยเทียนหู่ได้!
และถึงแม้ว่าเผยเทียนหู่จะมีแผนการซุ่มโจมตี แต่เขาก็ยังมีคนสองคันรถรออยู่ข้างนอก
“เหอะๆ เสี่ยหู่ พูดแบบนี้ผมไม่ค่อยเข้าใจ ดื่มเหล้าเหรอ วันนี้คุณเรียกผมมาดื่มเหล้าเหรอ”
เผยเทียนหู่รู้ดีว่าไอ้หมอนี่ยังเสแสร้ง และไม่คิดจะให้เงินเขาอย่างเห็นได้ชัด
งั้นก็ดีเหมือนกัน จัดการก่อนแล้วค่อยมาคุยกัน!
“ฮึ่ม หวงฟา ในเมื่อนายรนหาที่ตาย ฉันจะช่วยสงเคราะห์ให้ วงการใต้ดินเมืองตู้เหมินควรถูกปรับเปลี่ยน!”
ทันทีที่เผยเทียนหู่พูดจบ อู๋ชิ่งที่อยู่ข้างหลังก็ก้าวไปข้างหน้า
เมื่อเห็นอู๋ชิ่ง ซ่งจื่อเซวียนก็กระตุกยิ้ม “ดูเหมือนว่าเสี่ยใหญ่จะเล่นตุกติกนะ รุ่ยจื่อ เหลียงฮั่น!”
“นายท่านรอง!”
ฟางรุ่ยและเหลียงฮั่นก็ก้าวไปข้างหน้าเช่นกัน!
เผยเทียนหู่ชะงัก ในชั่วขณะหนึ่งเขาสับสนเกี่ยวกับสถานการณ์เล็กน้อย
ซ่งจื่อเซวียนคนนี้…กับหวงฟา ใครเป็นเจ้าพ่อแห่งเมืองตู้เหมินกันแน่
กล่าวกันว่าหวงฟาเป็นผู้อาวุโสในวงการใต้ดิน แต่ในเวลานี้…ดูเหมือนว่าเขาจะกลายเป็นลูกน้องเสียแล้ว
ขณะที่นั่งข้างๆ ไม่ว่าเขาจะพูดอะไรก็จะมองตาซ่งจื่อเซวียนก่อนเสมอ แต่ซ่งจื่อเซวียนกลับนั่งนิ่งตั้งแต่แรกที่มาถึง
นอกจากนี้พลังจากคำพูดของเขา ราวกับเขามีสถานะเท่าเทียมกับตนเสียอย่างนั้น
“ดูเหมือนว่าวันนี้ข้าจะตาไม่ถึง หวงฟา นายจะเล่นกลเจ้าถิ่นกับฉันเหรอ”
“ฮ่าๆๆ เสี่ยหู่ตลกแล้ว ผมจะกล้าได้ยังไง หวงฟาต้องระมัดระวังรอบคอบในการทำเรื่องต่างๆ เสี่ยหู่ก็อยู่ตรงนี้ ผมจะกล้าลองดีได้ยังไงล่ะ”
ขณะที่พูด หวงฟาก็มองไปที่ซ่งจื่อเซวียน “แต่นายท่านรอง…ดูเหมือนจะอารมณ์ไม่ดี คงทนไม่ได้ที่คนแก่หัวหงอกทำตัวหยิ่งผยองที่นี่!”
ในเวลานี้หวงฟาไม่สนใจอะไรแล้ว ในเมื่อเขาเลือกที่จะเชื่อใจซ่งจื่อเซวียนก็จะเชื่อจนถึงที่สุด
หากวันนี้ต้องสู้กับเผยเทียนหู่ ก็ถือว่าหวงฟาร่วมสู้ด้วย!
ซ่งจื่อเซวียนได้ยินก็พลันยิ้มและลุกขึ้นยืน
“ในยุทธภพก็เป็นแบบนี้แหละ บางคนมีจิตใจแข็งกระด้าง ปากแข็งและใจแข็ง การจัดการกับคนประเภทนี้…ต้องซ้อมจนกว่าจะยอมแพ้!”
“ฮ่าๆๆ ได้ ไอ้หนู ถ้านายกล้างั้นเรามาลองดูกันสักตั้ง อู๋ชิ่ง เล่นกับพวกมันหน่อย!”
“ครับ เสี่ยหู่!”
ขณะที่พูด อู๋ชิ่งก็ขยับคอแล้วเดินไปหาฟางรุ่ยกับเหลียงฮั่น
เขาชี้ไปยังทั้งสองคน “เข้ามาพร้อมกันเลย!”
เมื่อฟางรุ่ยและเหลียงฮั่นได้ยินเช่นนี้ พวกเขาก็มองหน้ากันและยิ้ม ภายใต้รอยยิ้มมีความขี้เล่นอย่างชัดเจน
สำหรับเผยเทียนหู่ รอยยิ้มแบบนี้คือการไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ
หลายปีที่ผ่านมา ไม่รู้ว่าเขาเคยเจอยอดฝีมือกี่คนที่ยโสโอหังต่อหน้าอู๋ชิ่ง แต่ผลลัพธ์ก็เหมือนเดิม
ล้มลงในไม่กี่นาที
ฟางรุ่ยเอ่ย “พนันกับฉันไหม สองนาที!”
เหตุผลที่ฟางรุ่ยบอกว่าใช้เวลาสองนาทีก็เพราะเห็นว่าอู๋ชิ่งเป็นยอดฝีมือ หากอยากฆ่าในเสี้ยววินาที…ก็ดูจะโอ้อวดอยู่บ้าง
เหลียงฮั่นยักไหล่และยิ้ม “ฉันหนึ่งนาที ถ้าแพ้ฉันจะเลี้ยงซาลาเปาแก!”
พูดจบ เหลียงฮั่นก็รีบพุ่งเข้าไป ขณะที่พุ่งไปข้างหน้านั้น รูปร่างใหญ่โตของเขาไม่ได้ทำให้ช้าลงเลยสักนิดเดียว
อู๋ชิ่งตกใจและรู้ทันทีว่าคราวนี้คู่ต่อสู้ของเขาแตกต่างไปจากเดิม เป็นยอดฝีมือ!
เมื่อยอดฝีมือปะทะกันก็สามารถบอกระดับความแข็งแกร่งได้ด้วยการเคลื่อนไหวเพียงครั้งเดียว ซึ่งอู๋ชิ่งรู้สึกได้อย่างชัดเจน
เผชิญหน้ากับแรงที่ทรงพลังของเหลียงฮั่น อู๋ชิ่งก็ไม่ได้โจมตีอย่างบุ่มบ่าม แต่หลบไปด้านหนึ่งก่อน
หลังจากนั้นอู๋ชิ่งก็โจมตีเหลียงฮั่นด้วยการเหวี่ยงหมัดจากด้านหลัง
เหลียงฮั่นเตรียมตัวป้องกันไว้แล้ว จังหวะนั้นเขาก็เหวี่ยงหมัดไปด้านหลังแล้วหมุนตัวของเขาตามมา
หมัดที่เหวี่ยงไปสามารถหยุดการโจมตีของอู๋ชิ่งได้ เมื่อกล้ามเนื้อที่หนาแน่นกระแทกกัน ทั้งคู่ก็รู้สึกเจ็บปวด
แต่สีหน้าของอู๋ชิ่งนั้นดูเกินจริงกว่าอย่างชัดเจน
ต่อมาเหลียงฮั่นก็ก้าวไปข้างหน้า ยกมือขึ้นแล้วทุบเข้าไป
อู๋ชิ่งว่องไวกว่าจึงก้มลงไป ขณะเดียวกันก็พุ่งไปข้างหน้าและต่อยท้องของเหลียงฮั่น
ฟางรุ่ยอดไม่ได้ที่จะพยักหน้า มีความเร็วมากพอ การตอบสนองของเขาก็เร็วพอกัน ยอดฝีมือ!
เหลียงฮั่นหลบไม่ทันจึงถูกอู๋ชิ่งต่อยเข้าหนึ่งหมัด ความเจ็บปวดในช่องท้องทำให้เขารู้สึกอยากอาเจียน
แต่เหลียงฮั่นไม่เหมือนคนธรรมดาที่โดนต่อยแล้วจะงอตัว เขากลับลุกขึ้นโจมตีทางด้านหลังของอู๋ชิ่งอีกครั้ง
พลังและความเร็วมีความเกี่ยวข้องกันอย่างแน่นอน พลังที่แข็งแกร่งเท่านั้นถึงจะสร้างความเร็วดั่งลมได้
เหลียงฮั่นร่างกายสูงแกร่ง แต่ไม่ได้เชื่องช้า เมื่ออู๋ชิ่งโดนหมัดนี้จึงไม่มีทางที่หลบหลีกได้ เขาถูกหมัดที่แข็งแกร่งจากด้านหลังเล่นงานเช่นกัน
คนละหนึ่งหมัด แต่ผลลัพธ์แตกต่างกันจริงๆ…
ในด้านความแข็งแกร่ง ทั้งคู่ไม่ได้ด้อยกว่ากัน
เหลียงฮั่นร่างกายสูงใหญ่ เสือดำก็แข็งแรงกำยำ
แต่ในด้านความสามารถที่ทนต่อการโจมตี…ทั้งสองมีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
เหลียงฮั่นดูเจ็บปวดเพียงเล็กน้อย แต่อู๋ชิ่งนั้นกระอักเลือดออกมาเต็มปากทันที
เผยเทียนหู่ตะลึงขณะที่มองดูอยู่ด้านข้าง นี่เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่อู๋ชิ่งโดนต่อยจนกระอักเลือด
นอกจากนี้อีกฝ่ายลงมือเพียงแค่คนเดียวเท่านั้น เมื่อครู่นี้อีกคนหนึ่งก็โดนชิงลงมือตัดหน้า
ทันใดนั้นเผยเทียนหู่ก็รู้สึกถึงลางร้าย
อู๋ชิ่งเช็ดเลือดตรงมุมปากแล้วมองไปยังเหลียงฮั่น
“เหอะๆ ไม่ได้เจอยอดฝีมือมานานแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่ได้พบกับคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งในรอบหลายปีนี้!”
เหลียงฮั่นแสยะยิ้มและเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อย “ครั้งที่สองต่างหาก!”
“หืม?”
“เสือดำ…ลืมสงครามที่โอมานครั้งนั้นแล้วเหรอ”
ขณะที่พูด เหลียงฮั่นก็โน้มตัวและเตะไปข้างหน้า
เมื่อรู้สึกถึงความเร็วที่แปลกประหลาด อู๋ชิ่งก็เหมือนจะจำอะไรบางอย่างได้
ในสงครามที่โอมานไม่กี่ปีก่อน เขาได้พบกับชายร่างใหญ่คนหนึ่ง แต่ชายร่างใหญ่คนนั้นไม่ได้มีความเงอะงะเลย กลับกันความเร็วของเขานั้นแปลกประหลาด
เช่นเดียวกับตอนนี้…
ผัวะ!
พลังที่แข็งแกร่งและความเร็วอันทรงพลังทำให้อู๋ชิ่งตอบสนองไม่ทัน
ตูม!
อู๋ชิ่งถูกเตะจนตกลงไปในทะเลสาบทันที
น้ำกระเด็นสูงเกือบสองเมตร…
เผยเทียนหู่มึนงงแล้วจริงๆ นึกไม่ถึงว่าเสือดำของเขาจะแพ้!
ความภาคภูมิใจที่เขามีมาตลอดหลายปีได้สลายหายไปอย่างสิ้นเชิงทันที
หวงฟามองดูฉากนี้ด้วยรอยยิ้ม อันที่จริงเขาคิดในใจว่าคนของซ่งจื่อเซวียนจะต้องชนะแน่นอน
แต่ไม่คิดว่าจะชนะขาดลอยขนาดนี้!
ฟางรุ่ยยังไม่ได้ลงมือ เหลียงฮั่นก็กำจัดเสือดำได้ด้วยตัวคนเดียว
ต้องรู้ว่าในวงการใต้ดิน เสือดำเป็นบุคคลที่เมื่อได้ยินก็น่าหวาดกลัวอย่างแน่นอน!
มันจบแล้ว!
ซ่งจื่อเซวียนปรบมือ “วิเศษมาก ฮ่าๆ เสี่ยใหญ่ การประลองครั้งนี้สนุกไหมครับ”
เผยเทียนหู่พูดอะไรไม่ออกสักคำ
มองดูเสือดำที่กำลังตะเกียกตะกายปีนขึ้นมาจากทะเลสาบ เขาก็รู้ว่าแม้จะต่อสู้อีกครั้งก็ไม่มีประโยชน์
“เสี่ย รีบมาเร็วเข้าครับ!”
ขณะที่พูด อู๋ชิ่งก็รีบกระโจนไปขวางพวกเหลียงฮั่นเพื่อหาทางให้เผยเทียนหู่หลบหนี
ในเวลาเดียวกัน อันธพาลเจ็ดแปดคนก็รีบพุ่งออกมาจากกระท่อมริมทะเลสาบ
อันธพาลเหล่านี้มีสายตาแดงก่ำและรีบพุ่งเข้ามาหาพวกเขาอย่างบ้าคลั่ง
เผยเทียนหู่กระตุกยิ้ม “ฮ่าๆ ยอดฝีมือของพวกนายแข็งแกร่งมากจริงๆ แต่…วันนี้จะไม่มีใครชนะ!”
ทว่าหวงฟากลับยิ้มเล็กน้อยและหยิบของขนาดเล็กสีดำออกมา จากนั้นก็กดปุ่มเบาๆ
ไม่ถึงสิบวินาที ผู้คนอีกกลุ่มก็รีบรุดเข้ามาทางนี้
เพียงแต่ว่าคนกลุ่มนี้มีเยอะกว่ามาก ไม่สามารถกวาดสายตานับจำนวนทั้งหมดได้ อย่างน้อยมียี่สิบถึงสามสิบคน
อันธพาลเจ็ดแปดคนดูน้อยมากทันทีเมื่อเทียบกับกลุ่มก้อนที่ดำมืดนั้น
“นายท่านรอง นายพูดถูก คนพวกนี้…ต้องซ้อมจนกว่าจะยอมแพ้!”
……………………………………………
…………….