เส้นทางเศรษฐีของ(ว่าที่)เชฟเหรียญทอง - ตอนที่ 384 เสนอขายกิจการ
ตอนที่ 384 เสนอขายกิจการ
…………….
ฟางรุ่ยและเหลียงฮั่นลงมือ…มีความพอดีอย่างแน่นอน
หากซ่งจื่อเซวียนต้องการให้ตู้อวิ๋นเลี่ยงพิการ ก็ไม่มีทางปล่อยเขาให้เดินออกไปจากตึกจวี้เฟิงได้
แค่คิดก็รู้ผลลัพธ์แล้ว
คนที่เจ๋งที่สุดของตระกูลตู้แห่งตู้เหมิน เข้ามาในถ้ำเสือเอง ถูกเล่นงานจนพิการ…
ไม่นานข่าวคราวก็ไปถึงเมืองสือโจว
ในห้องหนังสือ เผยเทียนหู่เบิกตากว้าง โกรธจนมือสั่น
“หวงฟา…แกนี่มันแน่จริงๆ นั่งเป็นเจ้าพ่อที่ตู้เหมินจนโง่ไปแล้วหรือไง ถึงกล้าทำกับฉันแบบนี้!”
“เสี่ย ให้ผมไปที่ตู้เหมินสักรอบเถอะครับ”
ชายที่พูดอายุสามสิบกว่าปี สวมชุดลำลองสีดำตัวโคร่ง มองดูก็รู้ว่าเป็นเสื้อผ้าแบรนด์ดัง
ชายคนนั้นผมสั้น ยาวกว่าสกินเฮดเล็กน้อย ผิวดำ ถึงตาจะไม่โต แต่คมมาก
ที่สำคัญที่สุดคือในแววตาทั้งสองข้างเผยประกายโหดเหี้ยมและเด็ดเดี่ยวออกมา คนธรรมดากลับยากจะเทียบได้
คนคนนี้เป็นยอดฝีมือลำดับหนึ่งในลูกน้องของเผยเทียนหู่ อู๋ชิ่ง!
อู๋ชิ่งมีชื่อเสียงในวงการยอดฝีมืออยู่ไม่น้อย อายุสิบกว่าปีก็เข้าร่วมกับค่ายทหารรับจ้างนานาชาติ ชื่อเล่นคือเสือดำ
สิบปีในกองทัพบก สร้างคุณงามความดีต่างๆ กระทั่งตอนที่ต้องลงมือกับบางองค์กร ขอแค่รู้ว่ามีความเกี่ยวข้องกับเสือดำ อีกฝ่ายก็จะกังวลกันทั้งนั้น
หลังจากปลดประจำการจากวงการทหารรับจ้าง อู๋ชิ่งก็ติดตามเผยเทียนหู่มาตลอด แน่นอนว่าสิ่งที่เขาได้รับก็คือค่าตอบแทนมหาศาล
ว่ากันว่า เงินที่เผยเทียนหู่เลี้ยงอู๋ชิ่งคนเดียว พอๆ กับราคาของบอดี้การ์ดประจำตัวของประมุขบางประเทศด้วยซ้ำ
เพื่อตอบแทนเผยเทียนหู่ ขณะเดียวกันอู๋ชิ่งก็ช่วยเขาดูแลทีมรักษาความปลอดภัยด้วย
แต่ทีมรักษาความปลอดภัยนี้ไม่ได้ทำแค่รักษาความปลอดภัย หลายปีมานี้ธุรกิจสีดำของเผยเทียนหู่อาศัยการสนับสนุนจากคนในทีมเหล่านี้ค้ำจุนไว้
ปัจจุบันในวงการใต้ดิน มีคนไม่มากนักที่อยากจะทำธุรกิจกับเผยเทียนหู่ แต่ก็มีไม่กี่คนที่กล้าปฏิเสธ
นี่ก็คือเผยเทียนหู่ที่มีอู๋ชิ่งอยู่ข้างกาย
ได้ยินดังนั้น เผยเทียนหู่ก็มองอู๋ชิ่ง “หวงฟานึกว่าตัวเองเป็นเจ้าพ่อจริงๆ ครั้งนี้ต้องสั่งสอนเขา ไม่อย่างนั้นก็นับว่าคนแก่คนนี้เสียหน้าแล้ว”
“เสี่ยครับ ผมจะพาหวงฟาและซ่งจื่อเซวียนนั่นกลับมาหาเสี่ยให้ได้”
เผยเทียนหู่ยิ้มน้อยๆ “ไม่ต้องรีบ ครั้งนี้…ฉันต้องให้หวงฟามันได้ชดใช้! อู๋ชิ่ง!”
“ครับเสี่ย!”
“แพร่ข่าวออกไปว่าฉันโกรธเพราะเรื่องนี้มาก บอกหวงฟาให้เตรียมเงินยี่สิบล้านให้ฉันภายในสามวัน ถือเป็นคำขอโทษ ไม่อย่างนั้นฉันจะไปตู้เหมินด้วยตัวเอง เปลี่ยนเจ้าพ่อคนใหม่ให้ตู้เหมิน!”
อู๋ชิ่งพยักหน้าทันที “เสี่ยครับ ผมจะรีบไปจัดการ เป็นวิธีที่ดีมากเลยครับ ถ้าหวงฟาไม่มีเงิน เราค่อยลงมือก็ไม่สาย!”
“เหอะๆ อู๋ชิ่งหนออู๋ชิ่ง นายเป็นซื่อจริง นายคิดว่า…เขามีเงินยี่สิบล้านแล้วฉันจะไม่จัดการเขาหรือไง เปลี่ยนเจ้าพ่อวงการใต้ดินให้ตู้เหมินเหมือนเดิมนั่นแหละ!”
เผยเทียนหู่ไม่ได้คุยโว ถึงเขาจะนั่งอยู่นิ่งๆ ที่มณฑลอวิ๋นอัน แต่อำนาจกลับไม่ได้จำกัดอยู่ที่แค่เมืองสือโจว
มีเจ้าพ่อของอวิ๋นอัน ปักกิ่ง ตู้เหมินคนไหนที่ไม่ต้องไว้หน้าเขาบ้าง
ครั้งนี้ เขาต้องลงแรงทั้งหมด เปลี่ยนสถานการณ์ในวงการใต้ดินของตู้เหมิน!
อีกทั้งในเมื่อเป็นแบบนี้ น้ำแกงของเมืองตู้เหมินในอนาคต เขาก็ย่อมแบ่งมาได้สักถ้วยด้วย
ความจริงเผยเทียนหู่มีความคิดแบบนี้มานานแล้ว เพียงแต่ไม่มีเหตุให้อ้างมาโดยตลอด ครั้งนี้กลับเป็นโอกาสดี หวงฟามอบสาเหตุนั้นให้กับเขา!
ส่วนซ่งจื่อเซวียน…เขาไม่เห็นอยู่ในสายตาเลย ที่ตู้เหมิน เรื่องทั้งหมดไม่ใช่หวงฟาเป็นคนทำเหรอ
โดยเฉพาะตอนที่ตู้อวิ๋นเลี่ยงพูดถึงไอ้เด็กหนุ่มนั่น เผยเทียนหู่ก็ไม่ได้คิดเป็นเรื่องอะไรเลย
ไม่นานนักข่าวนี้ก็ไปถึงตู้เหมิน อย่างไรอู๋ชิ่งก็มีเส้นสายของตัวเองอยู่ในโลกใต้ดิน
จะว่าไป ถึงอู๋ชิ่งจะไม่เหมือนเผยเทียนหู่ที่มีสถานะเจ้าพ่อในวงการใต้ดิน
ขณะที่หวงฟาได้รับข่าวนี้ ที่จริงโลกใต้ดินของเมืองตู้เหมินก็รู้กันหมดแล้ว
คนไม่น้อยมีใจอยากจะดูความสนุก อย่างเช่นเสี่ยเจียง เสี่ยเคอซานเป็นต้น
แน่นอนว่า ก็ไม่ขาดคนเป็นห่วง เช่นเถียนเหวินคุ่ยหรือเสี่ยเฉิงปา
ถึงเสี่ยเฉิงปาจะไม่ได้มีความสัมพันธ์ในเรื่องผลประโยชน์อะไรมากมายกับเสี่ยหวง แต่เขารู้ว่าตอนนี้เสี่ยหวงกับซ่งจื่อเซวียนอยู่ฝั่งเดียวกัน
และกลัวว่าตนจะติดร่างแหไปด้วย ดังนั้น จึงโทรถามสถานการณ์หวงฟาทันที
…
ตึกจวี้เฟิง
หวงฟาหน้าอึมครึม ยกจอกชาขึ้นคิดจะจิบ แต่ก็วางลงไป
“เสี่ยครับ ครั้งนี้เผยเทียนหู่เอาจริงแล้ว เขาคิดว่าจะปิดฟ้าด้วยมือเดียวที่ตู้เหมินได้เหรอครับ” เถียนเหวินคุ่ยพูด
หวงฟาสูดลมหายใจลึก “เหวินคุ่ย พูดตามตรง ถ้ามาไม้แข็ง หวงฟาอย่างฉันไม่กลัวเขาหรอก แต่เผยเทียนหู่น่ะ…ก็เอาเรื่องอยู่นะ”
“นั่นสิครับ ผมได้ยินมาว่าเขามีเส้นสายที่ตู้เหมินอยู่นิดหน่อยเหมือนกัน แถมที่ปักกิ่งก็ด้วย เขาคงไม่…คิดจะมาล้อมโจมตีหรอกใช่ไหมครับ” เถียนเหวินคุ่ยถาม
“ล้อมโจมตีเหรอ ไม่แน่ แต่ถ้ามาไม้แข็ง เผยเทียนหู่ก็ไม่จำเป็นต้องดึงคนเข้ามาเกี่ยวข้อง!”
เถียนเหวินคุ่ยชะงัก ครุ่นคิดแล้วพูดว่า “เสี่ยหมายถึงเสือดำนั่นเหรอครับ”
“ถูกต้อง เสือดำอู๋ชิ่ง คนเดียวสารพัดประโยชน์ มีคนบอกว่ามีครั้งหนึ่งเผยเทียนหู่เคยตกที่นั่งลำบาก พึ่งแค่เสือดำคนเดียวจัดการสิบกว่าคน ถึงพาเขารอดและกลับไปที่สือโจวได้”
“หา? นี่…นี่เรื่องจริงเหรอครับ แล้วหลังจากนั้นล่ะ”
“หลังจากกลับไปที่สือโจว เผยเทียนหู่ก็ขึ้นเงินเดือนให้เสือดำ เห็นว่าตอนนี้รายได้ของเขาเกือบจะเท่ากับบอดี้การ์ดประมุขแล้ว!”
เถียนเหวินคุ่ยอึ้ง มียอดฝีมือแบบนี้อยู่ข้างกาย…ใครจะเข้าประชิดตัวเขาได้
“ต่อมา เสือดำก็พาลูกน้องเจ็ดแปดคนไปจัดการอริคนนั้นของเผยเทียนหู่ รวมถึงอันธพาลยี่สิบกว่าคนด้วย แล้วก็ทั้งครอบครัวของอริคนนั้น ทั้งหมดสี่สิบกว่าคน”
เถียนเหวินคุ่ยได้ยินก็ตาเบิกกว้าง หวงฟา…ไม่อาจจัดการแบบนี้ได้
ขณะที่กำลังพูดคุยกัน ประตูของห้องทำงานก็เปิดออก ซ่งจื่อเซวียนพาฟางรุ่ยและเหลียงฮั่นเดินเข้ามา
ในถิ่นของหวงฟา ซ่งจื่อเซวียนสามารถเข้าออกได้ตามใจชอบ ไม่มีลูกน้องคนไหนรั้งนายท่านรองอย่างเขาไว้ได้!
“เหอะๆ มีคนพูดถึงเยอะเลยนะครับเสี่ยหวง!”
หวงฟายิ้มขื่น “นั่นสินะ ตอนนี้ฉันกลายเป็นหัวข้อสนทนาแล้ว”
ซ่งจื่อเซวียนยิ้ม นั่งที่โซฟาข้างๆ
“ผมได้ยินข่าวแล้ว เสี่ยหวง ผมบอกแล้วไงว่าเรื่องนี้จะไม่ทำให้คุณเดือดร้อนน่ะ กลัวอะไรครับ”
หวงฟาส่ายหน้าด้วยรอยยิ้ม “กลัวเหรอ ไม่ขนาดนั้นหรอก ก็แค่…นายท่านรอง อาจจะไม่รู้ความสามารถของเผยเทียนหู่คนนี้น่ะสิ”
“หืม ทำไมพูดแบบนี้ล่ะครับ”
“เดิมฉันคิดว่าตู้อวิ๋นเลี่ยงจะไม่ได้ไประบายความโกรธกับเขาถึงขั้นนี้ ใครจะรู้…ว่าทางนั้นคิดจะเปลี่ยนหัวหลักของวงการใต้ดินตู้เหมินเลย”
“เหอะๆ หัวหลักเหรอครับ ก็เปลี่ยนเลยสิ!”
ซ่งจื่อเซวียนยิ้มอย่างไม่ยี่หระ พิงไปด้านหลัง
พูดแบบนี้ หวงฟากับเถียนเหวินคุ่ยก็มองหน้ากัน เหมือนจะไม่เข้าใจความหมายของเขา
“นายท่านรองพูดแบบนี้…”
“เหอะๆ เดิมวงการใต้ดินก็เป็นเรื่องผิดศีลธรรมอยู่แล้ว เสี่ยหวง ผมอยากจะถามคุณว่าอะไรคือวงการใต้ดินล่ะครับ”
หวงฟาอึ้ง ตอบไม่ได้ไปชั่วขณะ
“คุณมีลูกน้องหลายคน ดูแลอันธพาลมากมาย ไม่นับว่าเป็นวงการใต้ดินหรอก”
ซ่งจื่อเซวียนพูดพลางจุดบุหรี่สูบ “วงการใต้ดินก็แค่เป็นวงการที่พวกคุณทำเรื่องที่ไม่ได้รับการอนุมัติจากประเทศ ไม่ใช่เหรอครับ”
หวงฟาพยักหน้าน้อยๆ “ที่พูดก็ไม่ผิด นายท่านรองพูดต่อสิ”
“หยุดธุรกิจพวกนี้ทั้งหมด วงการใต้ดินก็ไม่เกี่ยวกับคุณแล้ว!”
“นี่…”
หวงฟากระอักกระอ่วน “นายท่านรอง ร้านอาหารในมือฉันมีไม่น้อยนะ แต่ประเด็นคือใช้ภาพจอมปลอมปกปิดความจริง ที่จริงหลักๆ ก็ยังต้องทำธุรกิจบางอย่างอยู่ด้วย
หลักๆ นำเข้าของผิดกฎหมาย ธุรกิจเล็กๆ คือบริการคลับเฮาส์ต่างๆ ถ้าหยุดจริงๆ ฉันจะไม่มีทางทำกินนะ…”
ซ่งจื่อเซวียนยิ้ม ดับบุหรี่ในมือ
“เสี่ยหวง เขากำหนดให้คุณเอาเงินไปให้ยี่สิบล้านใช่ไหมครับ ผมแนะนำให้หยุดกิจการของคุณสามวัน ถ้าโอนย้ายได้ก็โอนออกไปเร็วหน่อยนะครับ”
หวงฟาขมวดคิ้วเล็กน้อย ไม่รู้ว่าทำไม ซ่งจื่อเซวียนถึงให้ตนหยุดธุรกิจใต้ดินทุกอย่าง…
“เสี่ยครับ ผมพูดได้เท่านี้ คุณก็แค่ทำแบบนี้ ผมรับประกันว่ามันจะไม่เป็นอะไร ไม่อย่างนั้น…มันจะไม่ใช่แค่เผยเทียนหู่คิดจะทำอะไรกับคุณแล้ว!”
หวงฟาสูดลมหายใจลึก จากที่เขารู้จักซ่งจื่อเซวียน ถึงคนคนนี้อายุยังน้อย แต่จัดการได้มั่นคงและทรงอำนาจมาก
เขาไม่เคยพูดพล่อยๆ ออกมา ถึงไม่เข้าใจความนัยที่พูดออกมา หวงฟาก็ยังพยักหน้า
“ได้ นายท่านรอง ฉันเชื่อนาย”
ซ่งจื่อเซวียนยิ้ม “งั้นก็ดีครับ แล้วก็เปิดเผยเรื่องการโอนธุรกิจของคุณด้วยนะ หยุดร้านอาหารทั้งหมดเลย”
เสี่ยหวงพยักหน้า “ได้ เหวินคุ่ย นายไปจัดการตอนนี้เลย!”
“ครับ เสี่ย!”
ซ่งจื่อเซวียนพิงโซฟา เผยรอยยิ้มรู้ใจ
ไม่นานนัก หวงฟาก็แพร่ข่าวโอนย้ายธุรกิจไปด้านนอก
ถ้าเป็นเมื่อก่อน ทุกคนน่าจะรู้สึกแปลกใจ แต่ในช่วงเวลาสำคัญแบบนี้ ทุกคนกลับเหมือนเข้าใจได้
เผยเทียนหู่ประกาศออกมาแล้วว่าให้หวงฟาเอาเงินยี่สิบล้านออกมา
ต่อให้หวงฟาอย่างเขามีเงินแค่ไหน เงินทุนหมุนเวียนยี่สิบล้านหยวนก็ไม่ได้สร้างขึ้นมาง่ายขนาดนั้น
ดังนั้นสิ่งที่ทำได้เพียงอย่างเดียวก็คือธุรกิจเสนอขาย
ตอนนี้ วงการใต้ดินตู้เหมินอลหม่านกันไปหมด ไม่ใช่แค่นี้ อวิ๋นอัน ปักกิ่งล้วนมีคนให้ความสำคัญกับธุรกิจเขาอยู่
อย่างไรการทำเงินของบริการคลับเฮาส์ก็ไม่เลวเลย อีกทั้งก่อนหน้านี้หวงฟาทำมาตลอด พื้นฐานก็ค่อนข้างแข็งแกร่งอยู่แล้ว
ประเด็นที่สำคัญที่สุดก็คือแหล่งที่มาของลูกค้านั้นพร้อมพรั่ง ถ้าใครคว้าไว้ได้ ก็หาเงินได้แน่นอน
ไม่นานนักข่าวก็ไปถึงเมืองสือโจว
ได้ยินข่าวนี้ เผยเทียนหู่ก็เริงร่า หวงฟาหนอหวงฟา ถึงนายจะเป็นเจ้าพ่อทางนั้น แต่ก็ขี้ขลาดพอตัวเลย
ฉันยังไม่ได้ไป แค่ประกาศออกไปเท่านี้ นายก็ตกใจจนขายกิจการ นี่รีบร้อนรวบรวมเงินยี่สิบล้านให้ฉันเหรอ
อู๋ชิ่งพูดยิ้มๆ “เหอะๆ เสี่ยครับ ข่าวนี่เป็นเรื่องจริง หวงฟาจะต้องลนลานอยู่แน่เลยครับ”
“เหอะๆ เขารู้ว่าเสือดำอย่างนายเป็นลูกน้องฉัน ก็ต้องลนลานอยู่แล้ว อู๋ชิ่ง เตรียมเก็บเงิน แล้วก็…”
ตาของเผยเทียนหู่มีประกายชั่วร้ายพาดผ่าน
“ฉันอยากให้หวงฟามันพิการ แล้วฉันก็จะคอยดูว่าปักกิ่ง ตู้เหมินแถบนี้จะยังมีใครกล้าท้าทายฉันอยู่ไหม!”
“รับทราบครับ เสี่ยหู่ แค่หวงฟาคนเดียว ลูกน้องของเขาเป็นแค่ที่รองกระถางต้นไม้ทั้งนั้น!”
“รองกระถางต้นไม้เรอะ งั้นก็ดี จะว่าไป…ถึงตอนนั้นฉันจะให้โอกาสเขาอีกครั้ง” เผยเทียนหู่ก็พูดอย่างเริงร่าเสียเต็มประดา
“ทำไมล่ะครับ เสี่ยคิดจะปล่อยเขาเหรอ”
“ไม่ใช่อยู่แล้ว แค่เล่นๆ เอง นายไม่รู้เหรอว่าหลังจากที่แมวจับหนูได้แล้ว จะไม่ฆ่าให้ตายทันที แต่เสพสุขกับเล่นก่อนน่ะ”
อู๋ชิ่งไม่ค่อยเข้าใจ แต่เผยเทียนหู่กลับยิ้มอย่างมีความสุข
ตอนนี้เอง เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น ลูกน้องคนหนึ่งเดินเข้ามา
“เสี่ยหู่ครับ มีคนมาจากตู้เหมิน อยากเจอคุณครับ”
“หืม…มาร้องขอความเมตตาเหรอ” เผยเทียนหู่ยิ้มพลางยักไหล่ “ได้สิ ให้เขาเข้ามา”
ไม่นานนัก คนที่สวมเสื้อคลุมแบบจีนสีดำคนหนึ่งก็เดินเข้ามา
คนคนนี้ทรงผมเหมือนฝาครอบ รอยยิ้มน้อยๆ ดูพยายามประจบ
“แหะๆ เสี่ยหู่ ไม่เจอกันนานนะครับ”
“เคอซาน นายมาทำไม”
…………………………………………….
…………….