เส้นทางเศรษฐีของ(ว่าที่)เชฟเหรียญทอง - ตอนที่ 373 วิธีสุดแปลก
ตอนที่ 373 วิธีสุดแปลก
…………….
และในขณะเดียวกัน
ภายในสำนักงานหน่วยควบคุมตลาด
ลู่ลี่จวินวางสายจากซ่งจื่อเซวียนแล้ว จึงโทรไปหาฝ่ายตรวจสอบ เรียกเริ่นต้าหมินมาที่ห้องทำงานทันที
ในไม่ช้า เริ่นต้าหมินก็เคาะประตูแล้วเดินเข้ามาในห้องทำงาน
“ท่านอธิบดีลู่ คุณเรียกหาผมเหรอครับ”
“เหอะๆ ผู้อำนวยการเริ่น มา นั่งสิ พวกเรามานั่งคุยกันหน่อย”
ตอนที่ซ่งจื่อเซวียนมา ได้นั่งคุยบนโซฟากับลู่ลี่จวิน แต่เริ่นต้าหมิน กลับนั่งอยู่ตรงหน้าโต๊ะทำงานอย่างเชื่อฟัง
“ผู้อำนวยการเริ่น ฉันได้ยินว่านายส่งทีมตรวจสอบออกไปเหรอ”
“หืม เปล่านะครับ วันนี้ไม่มีงานอะไร”
ลู่ลี่จวินขมวดคิ้วเล็กน้อย “หืม ถ้าอย่างนั้น…เป็นเจ้าหน้าที่เขตไหน…”
“ท่านอธิบดีลู่ เกิดเรื่องอะไรครับ พวกเราไม่ได้ส่งเอกสารให้ทีมเจ้าหน้าที่เขตไปตรวจสอบนะครับ”
ลู่ลี่จวินสูดลมหายใจเข้าลึกๆ “คืออย่างนี้ ร้านสวนสวินเฟิงน่ะ นายรู้จักไหม”
พอพูดถึงร้านสวนสวินเฟิง เริ่นต้าหมินพยักหน้าทันที เขารู้จักแน่นอน
ไม่เพียงแต่หวังเฉียงที่แนะนำให้รู้จักเท่านั้น เขาเกือบจะแสดงอำนาจใส่ซ่งจื่อเซวียนด้วยซ้ำไป
แต่พอได้ยินว่าอีกฝ่ายสนิทกับอธิบดีลู่ เขาจึงเปลี่ยนใจทันที ตีสนิทเป็นเพื่อนด้วย
หลังจากนั้นจึงส่งคนไปตรวจสอบร้านสวนชุนสยาตลอด จนกระทั่งร้านสวนชุนสยาปิดตัวลง เขาได้ช่วยเหลือซ่งจื่อเซวียนทุกอย่าง
ตอนนี้ได้ยินอธิบดีลู่พูดถึงร้านสวนสวินเฟิง เขาจึงหายใจยาวโล่งอก ดูท่าเขาจะทำถูกแล้ว อธิบดีลู่มีความสัมพันธ์กับที่นั่นจริงๆ
“ตอนนี้มีทีมตรวจสอบไปที่ร้านสวนสวินเฟิง ต้าหมิน ถ้าอย่างนั้น…นายลองเข้าไปทำความเข้าใจดีไหม”
เริ่นต้าหมินพยักหน้าทันที “ได้ครับ ท่านอธิบดีลู่ ผมจะจัดการเอง!”
เนื่องจากสถานที่ตั้งของร้านสวนสวินเฟิงอยู่ในเขตเฉิงหนาน เขาจึงโทรหาหัวหน้าของทีมตรวจสอบเขตเฉิงหนานโดยตรง
และหัวหน้าของทีมตรวจสอบเขตเฉิงหนาน ก็คือจางหย่งซึ่งกำลังปฏิบัติงานอยู่ที่ร้านสวนสวินเฟิงตอนนี้นั่นเอง
“ผู้อำนวยการเริ่น คุณนึกยังไงถึงโทรมาหาผมครับ”
จางหย่งรับสายของเริ่นต้าหมินพลางพูดยิ้มๆ
“เหอะๆ หัวหน้าจาง ฉันแค่อยากโทรมาทักทายเท่านั้นเอง ช่วงนี้ทำงานเป็นยังไงบ้าง”
“พอได้ครับ ตอนนี้กำลังตรวจงานอยู่ข้างนอกครับ”
เริ่นต้าหมินขมวดคิ้วเล็กน้อย “ตรวจสอบเหรอ น้องชาย ทางสำนักงานไม่ได้มอบหมายหน้าที่ให้ไปตรวจสอบอะไรนะ”
ได้ยินดังนั้น จางหย่งจึงเอามือป้องลำโพงโทรศัพท์ทันที “พี่ชายผมจะบอกคุณให้นะ งานนี้ถูกส่งจากสำนักงานเขตของพวกเรา ไม่ได้ผ่านทางสำนักงานเทศบาลเมืองของพวกเราครับ”
เริ่นต้าหมินได้ยินประโยคนี้ก็นิ่งไปพักหนึ่ง “อ้อ…อย่างนี้นี่เอง ตอนนี้พวกนายตรวจสอบร้านไหนอยู่ล่ะ”
“ร้านสวนสวินเฟิงครับ เป็นคลับเฮาส์และร้านอาหารแห่งหนึ่งในเขตของพวกเรา มีขนาดใหญ่ไม่น้อย”
“ตรวจสอบแค่ร้านเดียวหรือว่าตรวจสอบทั้งโซน” เริ่นต้าหมินถามต่อ
“ตรวจสอบแค่ร้านเดียวครับ” จางหย่งพูดเสียงต่ำอีกครั้ง “ไม่รู้ว่าไปผิดใจกับเบื้องบนคนไหนมา ยังไงผมก็แค่ปฏิบัติตามหน้าที่”
เริ่นต้าหมินพยักหน้า “อ้อ…ที่แท้ก็เป็นอย่างนี้ หัวหน้าจาง ถ้าอย่างนั้น พวกนายเรียกทีมกลับมาก่อน”
“หา? พี่ชาย ผม…ทำไม่ได้ครับ ยังไงนี่คืองานที่มอบหมายจากสำนักงานนะครับ”
“เหอะๆ ไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้หรอก ถ้ามีเรื่องอะไรฉันรับผิดชอบเอง บอกว่าฉันเริ่นต้าหมินเป็นคนสั่งให้นายเรียกทีมกลับ และฉันจะโทรไปที่สำนักงานของนายเดี๋ยวนี้”
จางหย่งฟังดังนี้แล้ว จึงได้แต่ปฏิบัติตาม
ถึงแม้หากพูดตามหลักการแล้วเขาควรจะฟังคำสั่งของสำนักงานเขต แม้แต่สำนักงานเทศบาลเมืองก็ไม่มีสิทธิ์ส่งกำลังไปปฏิบัติงาน
แต่หลักการก็คือหลักการ ความจริงก็คือความจริง เขาจางหย่งไม่กล้ามีเรื่องกับระดับผู้นำของสำนักงานเทศบาลเมือง
“อย่างนั้นก็ได้ครับ พี่ชาย ผมจะฟังคุณ เรียกทีมกลับก่อน ส่วนเรื่องทางสำนักงานเทศบาล…ผมขอมอบให้พี่ชายจัดการด้วยนะครับ”
“ได้เลยครับ”
เริ่นต้าหมินตอนนี้ได้แต่วางอำนาจลง อย่างไรตัวเองก็เป็นผู้อำนวยการของสำนักงานตรวจสอบสำนักงานเทศบาลเมือง อย่าว่าแต่ทีมตรวจสอบขนาดเล็กเลย ต่อให้เป็นสำนักงานดูแลเขตเฉิงหนานก็ยังต้องฟังคำสั่งเหมือนกัน
พอวางสายแล้ว เริ่นต้าหมินจึงเล่าเรื่องนี้ให้ลู่ลี่จวินฟังอีกหนึ่งรอบ
ลู่ลี่จวินพยักหน้า “นายไม่ต้องโทรหรอก ฉันรู้ว่าเป็นคำสั่งของใคร”
“หืม ท่านอธิบดีลู่รู้เหรอครับ”
“เป็นอธิบดีต่ง!”
แม่งเอ๊ย!
ความไม่พอใจของเริ่นต้าหมินล้นอยู่เต็มอก…
ร้ายกันเกินไปแล้ว ดูท่าอธิบดีกับรองอธิบดีกำลังต่อสู้กัน แต่…อย่าเอาผู้อำนวยการตัวเล็กๆ อย่างตนเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยเลย
“เอ่อ…ท่านอธิบดีลู่ครับ ผมทำงานลำบากนะครับ”
ลู่ลี่จวินยิ้มเล็กน้อย “ต้าหมิน นายก็อย่าลำบากใจไป เพราะเรื่องนี้…ซับซ้อนอยู่บ้างจริงๆ”
เริ่นต้าหมินพยักหน้าอย่างเข้าใจ ไม่กล้าถามอีก เพราะแค่ฟังก็รู้ว่าเป็นเรื่องระหว่างผู้นำ
“เรื่องนี้เกิดขึ้นจากความขัดแย้งระหว่างอธิบดีต่งกับเถ้าแก่ร้านสวนสวินเฟิง แต่อธิบดีต่งจงใจอยากใช้อำนาจแก้แค้นอย่างเห็นได้ชัด”
ได้ยินลู่ลี่จวินต่อว่าต่งหมิง เริ่นต้าหมินจึงพอมองสถานการณ์ออก
อธิบดีลู่ไม่พอใจวิธีการของอธิบดีต่งอย่างชัดเจน
“เรื่องนี้…ฉันต้องถาม และต้องจัดการ ต้าหมิน นายรู้ไหมว่าทำไม”
เริ่นต้าหมินรู้อยู่แล้ว คุณกับซ่งจื่อเซวียนมีความเกี่ยวข้องกัน แต่เขาพูดไม่ได้…
ดังนั้น เขาจึงส่ายหน้าอย่างเดียว
“ง่ายมาก เพราะว่าฉันยืนอยู่ข้างซ่งจื่อเซวียน!”
แม่งเอ๊ย! ผู้นำก็คือผู้นำ พูดอะไรก็ไม่แต่งคำพูด! เผด็จการ!
“แต่ว่า…ท่านอธิบดีลู่ ฝ่ายอธิบดีต่งจะไม่…”
ขณะพูด เริ่นต้าหมินชี้ไปที่หลังคา ความหมายคือมีคนอยู่เบื้องหลังต่งหมิงอีก
ต่งหมิงมีความสัมพันธ์กับในเมือง มีหลายหน่วยงานที่รับรู้ ดังนั้นในบรรดารองอธิบดีสองสามคน ต่งหมิงก็ถูกจัดอยู่ในอันดับแรก
ลูลี่จวินพลันยิ้ม “ฉันรู้อยู่แล้ว เรื่องนี้เกรงว่าเขาจะต้องติดต่อขออำนาจจากเบื้องบนแน่นอน”
“หา? ถ้าอย่างนั้น…ท่านอธิบดีลู่ เรื่องนี้จัดการยากใช่ไหมครับ”
“เหอะๆ แต่นายก็รู้ว่าซ่งจื่อเซวียนเป็นใครนี่” ลู่ลี่จวินถามอีก
เริ่นต้าหมินส่ายหน้าอีกครั้ง ครั้งนี้เขาไม่รู้จริงๆ
เขารู้แค่เพียงซ่งจื่อเซวียนกับลู่ลี่จวินมีความสัมพันธ์ที่ไม่ธรรมดา แต่รายละเอียดและมีภูมิหลังเป็นเช่นไร เขาไม่รู้เลย
“ซ่งจื่อเซวียนตอนนี้กำลังรักษาอาการป่วยให้ลูกสาวของผู้นำเจ้า ต้องไปหาทุกวัน แถมยังกลายเป็นเพื่อนกับลูกสาวของท่านผู้นำไปแล้ว”
ได้ยินดังนี้ เริ่นต้าหมินก็เกือบฉี่ไม่ออก…
ความสัมพันธ์อะไรวะเนี่ย
เบื้องหลังของเขาคือผู้นำเจ้า ผู้นำแห่งเมืองตู้เหมิน!
“ท่านอธิบดีลู่ ผมเข้าใจแล้วครับ!”
เริ่นต้าหมินแสดงจุดยืนของตัวเองทันที
เหมือนที่อยู่ต่อหน้าซ่งจื่อเซวียนครั้งก่อน พอได้ฟังเบื้องหลัง เริ่นต้าหมินก็ไม่สนใจหน้าตาอะไรแล้ว เลือกข้างยืนทันที!
“อืม เพราะงั้น…ต้าหมิน ถ้าอธิบดีต่งมาหานาย นายจะแสดงท่าทียังไงก็ได้ แต่อย่าเถียงเขา”
“ผมเข้าใจครับ ท่านอธิบดีลู่ เรื่องนี้ต้องอาศัยคุณแล้วครับ!”
“แน่นอน ฉันจะไม่นั่งนิ่งดูดายหรอก ครั้งนี้จะปกป้องร้านสวนสวินเฟิงให้ได้ ฉันจะเป็นคนนั่งสั่งการเอง!”
ได้ยินประโยคนี้ เริ่นต้าหมินรู้สึกสบายใจขึ้นมาทันที ความรู้สึกที่มีคนปกป้องอยู่ข้างหลังช่างยอดเยี่ยมจริงๆ!
“เข้าใจแล้วครับ ท่านอธิบดีลู่ ผมรู้ว่าต้องทำยังไงแล้วครับ”
หลังจากพวกจางหย่งออกไปแล้ว ร้านสวนสวินเฟิงจึงกลับสู่ปกติดังเดิม
อย่างไรก็ไม่ได้เสียเวลาอะไรมากมาย พนักงานจึงเริ่มเตรียมอาหารกลางวัน ทุกอย่างยังทันเวลา
“อาจารย์ พวกเขา…กลับไปแล้ว”
ซ่งจื่อเซวียนพยักหน้า “ยังไม่รู้ว่าจะมาอีกไหม แต่เทียนซั่ว คราวหน้าห้ามเกิดการปะทะใดๆ เด็ดขาด”
“อาจารย์ ผมทนดูไม่ได้ที่เห็นพวกเขาอวดเบ่ง แม่ง เอาบัตรเจ้าหน้าที่มาแล้วทำไม”
ซางเทียนซั่วพูดต่อด้วยสีหน้าจริงจัง “มันคืออะไรเนี่ย อุปกรณ์รังแกพ่อค้าเหรอ มันควรจะให้บริการพ่อค้าไม่ใช่เหรอวะ”
เซ่งจื่อเซวียนได้ยินก็พลันยิ้ม “เทียนซั่ว สองสามเดือนก่อนฉันมีความคิดเหมือนนายเปี๊ยบเลย แต่หลังจากที่พ่อของฉันจากไป…”
ขณะพูด ซ่งจื่อเซวียนหยุดไปพักหนึ่ง “ฉันเปลี่ยนไปเยอะมาก มีหลายเรื่องที่ต้องเรียนรู้ยอมรับความเป็นจริง สังคมก็เป็นแบบนี้ พวกเราไม่ควรถกเถียงเพื่อเอาชนะ
พอเจอปัญหา พวกเราควรจะหาวิธีแก้ไขก่อนเป็นอย่างแรก ไม่ใช่การคัดค้านหรือต่อต้าน”
เห็นซางเทียนซั่วไม่พูดอะไรอีก ซ่งจื่อเซวียนจึงตบไหล่ของเขา
“โอเค เทียนซั่ว ถ้าผ่านช่วงนี้ไปแล้วฉันไปเข้าคลาสอบรมที่ปักกิ่ง ร้านสวนสวินเฟิงกับน้ำแกงเกล็ดปลาทองห้าสายมอบให้นายจัดการด้วยนะ”
“อะไรนะ อาจารย์ น้ำแกงห้าสาย…”
“ฉันจะเตรียมทุกอย่างไว้ให้เรียบร้อย นายวางใจได้ ต้องทำได้แน่นอน!”
พูดจบ ซ่งจื่อเซวียนก็เดินออกไป เหลือซางเทียนซั่วยืนอึ้งอยู่ตรงนั้นคนเดียว
…
ตอนบ่าย
เริ่นต้าหมินกำลังทำรายงานสถิติอยู่ในห้องทำงาน ประตูห้องทำงานถูกผลักออก คนที่เดินเข้ามาคือต่งหมิงนั่นเอง
เมื่อเห็นต่งหมิง เริ่นต้าหมินจึงรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
แต่เนื่องจากมีความมั่นใจเป็นทุนเดิม ถือว่าได้เตรียมตัวพร้อมแล้ว
เริ่นต้าหมินรีบลุกขึ้นเดินไปข้างหน้าทันที
“เหอะๆ ต้าหมิน ฉันมาเยี่ยมนายไง เป็นยังไงบ้าง ยุ่งอยู่เหรอ”
“เปลาครับๆ แค่ทำตาราง ใกล้เสร็จแล้ว คุณนั่งสิครับ ผมจะรินน้ำชาให้”
“ไม่ต้องยุ่งยาก เป็นคนกันเองทั้งนั้น นายจะเกรงใจอะไร”
เริ่นต้าหมินแอบหัวเราะ คนกันเอง…พูดแบบนี้กันทั้งนั้น แต่ตอนนี้ฉันขอเลือกเป็นคนกันเองกับอธิบดีลู่เท่านั้น
“เหอะๆ สมควรแล้วครับ คุณดื่มน้ำชาเถอะครับ!”
เริ่นต้าหมินรินน้ำชาแล้วยื่นให้ต่งหมิง
ต่งหมิงดื่มน้ำชา แล้วเอ่ยยิ้มๆ ว่า “ใบชาดีมาก ลูกค้าเอามาให้ใช่ไหม”
“เปล่าครับๆๆ ไม่มีแบบนั้นจริงๆ ภรรยาของผมเป็นคนซื้อให้ครับ”
ต่งหมิงพลันยิ้ม ไม่พูดอะไรอีก ทำงานอาชีพนี้ มีอย่างที่ไหนต้องซื้อบุหรี่ซื้อน้ำชาด้วยตัวเอง
ผู้นำหลายคน ทั้งชีวิตนี้ไม่เคยซื้อบุหรี่ให้ตัวเองมาก่อน แต่บุหรี่ที่สูบไม่เคยต่ำกว่าระดับบุหรี่จงหวา
พอถึงยุคนี้ ก็จะยิ่งเป็นบุหรี่ราคาหนึ่งร้อยกว่าหยวนต่อหนึ่งซองอย่างเหอเทียนเซี่ย หวงเฮ่อโหลวรุ่นหนึ่งเก้าหนึ่งหก
“อ้อใช่ต้าหมิน วันนี้…นายโทรไปที่ทีมตรวจสอบเขตเฉิงหนานมาใช่ไหม”
ในที่สุดก็พูดเข้าประเด็น เริ่นต้าหมินรีบทำสีหน้าลำบากใจออกมาทันที
“ครับ อธิบดีต่ง ไม่มีทางอื่น เพราะท่านอธิบดีลู่สั่งให้ผมโทรครับ”
“หืม” ประโยคนี้เห็นได้ชัดว่ากำลังกระทบจิตใจของต่งหมิงอยู่ “อธิบดีลู่ ทำไม”
เริ่นต้าหมินทำท่าครุ่นคิดแล้วเอ่ยว่า “วันนี้ผมรายงานการทำงานให้อธิบดีลู่ฟัง เขาถามผมว่ามีงานตรวจสอบไหม ผมตอบไปว่าไม่มี เขาเลยสั่งให้ผมโทรไปถามเจ้าหน้าที่ที่ไปตรวจสอบน่ะครับ”
ต่งหมิงสูดลมหายใจเข้าลึกๆ คราวนี้ยุ่งยากแล้ว
เจตนาเดิมของเขาคือไม่อยากอาศัยอำนาจของผู้นำหลี่ เพราะหากต้องขอร้องผู้นำทุกเรื่อง แล้วจะมีตนเองไว้ทำไม
แต่ดูจากตอนนี้แล้ว ลู่ลี่จวินต้องเข้ามายุ่งแน่นอน หากเป็นแบบนี้…เขารู้สึกว่าคงจะรับมือยาก
“อธิบดีลู่พูดอะไรบ้าง”
เริ่นต้าหมินส่ายหน้า “ผมโทรไปแล้ว เลยคุยเรื่องการทำงานขั้นต่อไป จากนั้นก็ออกมาครับ”
ต่งหมิงนิ่งไปพักหนึ่ง แล้วลุกขึ้นทันที “โอเค ฉันเข้าใจแล้ว ต้าหมิน ขอบใจนะ”
จากนั้น ต่งหมิงก็เดินออกจากห้องทำงานของเริ่นต้าหมินไป
ต่อจากนั้นเริ่นต้าหมินก็โทรหาลูลี่จวินทันที เล่าเรื่องนี้ให้ลู่ลี่จวินฟัง
ลู่ลี่จวินเหมือนจะคิดไว้ก่อนแล้ว จึงไม่รู้สึกแปลกใจอะไรขณะที่ฟัง เขาได้แต่พูดว่าฉันรู้แล้ว ก่อนจะวางสาย
จากนั้นเขาจึงโทรหาซ่งจื่อเซวียน
“จื่อเซวียน ดูท่าอธิบดีต่งของพวกเราจะร้อนใจมากเลยล่ะ”
“หืม ท่านอธิบดีลู่ อธิบดีต่งเข้ามาร่วมงานนี้ด้วยตัวเองเลยเหรอครับ” ซ่งจื่อเซวียนพูด
“ถูกต้อง ฉันคิดว่า…จื่อเซวียน ถ้านายมีทรัพยากรในสังคมอยู่บ้าง ตอนนี้ก็ถึงเวลาหยิบมาใช้บ้างแล้วนะ”
“ท่านอธิบดีลู่ โปรดชี้แนะด้วยครับ”
ลู่ลี่จวินพลันยิ้ม “เรื่องบางเรื่อง พอถึงระดับที่ค่อนข้างยุ่งยาก ก็ต้องใช้วิธีสุดแปลกเพื่อแก้ไขปัญหา!”
…………………………………………………