เส้นทางเศรษฐีของ(ว่าที่)เชฟเหรียญทอง - ตอนที่ 363 นายท่านรองซ่งธรรมดามากหรือไง
ตอนที่ 363 นายท่านรองซ่งธรรมดามากหรือไง
…………….
ซ่งจื่อเซวียนไม่เข้าใจจริงๆ อย่างน้อยจากเมื่อครู่จนถึงตอนนี้ ตนไม่ได้แสดงท่าทีว่าต้องการหนวดพญามังกรออกมาเลย
ทำไมตาแก่หวังคนนี้ถึงดูออกล่ะ อีกทั้งยังดูพูดอย่างมั่นใจมากด้วย
ไม่รอให้ซ่งจื่อเซวียนพูดอะไร หวังเฉิงยงก็พูดอีกว่า “ห้าสิบเอ็ดล้าน นายท่านงูนี่ก็ถึงขีดจำกัดแล้ว
ถ้านายรวย ไม่เกินหกสิบล้านก็ไม่ใช่ปัญหา นอกเสียจากไอ้เด็กนั่นจะดันทุรังน่ะนะ”
ซ่งจื่อเซวียนพยักหน้าน้อยๆ “มีเหตุผล แต่ว่านะ…เสี่ยหวัง ทำไมถึงมองออกว่าผมจะเอาหนวดพญามังกรล่ะ”
หวังเฉิงยงหัวเราะคิกคัก “ก็นายมันไอ้ตัวแสบ แค่อ้าปากฉันก็เห็นลิ้นไก่แล้ว
ตอนที่ข้าพูดถึงวิธีบ่มโสมในหม้อนั่น นายก็คำนวนไว้ในใจแล้ว”
ซ่งจื่อเซวียนได้ยินก็อดยิ้มไม่ได้ ตาแก่คนนี้รู้จักนิสัยตนดีจริงๆ
ตอนนี้ เหล่าซุนเริ่มขานเลขแล้ว
“นายท่านงูครั้งที่สอง ถ้าไม่มีใครเสนอราคา หนวดพญามังกรนี่ก็จะเป็นของนายท่านงูแล้วนะครับ”
ขณะที่เหล่าซุนพูดก็มองไปทางนายท่านงูด้วยรอยยิ้ม
นายท่านงูก็เชิดหน้าด้วยอำนาจเปี่ยมล้น มองซ้ายมองขวา เหมือนกำลังประกาศความมั่งคั่งของเขาอยู่ ถึงจะใช้เงินไปไม่น้อย แต่ก็มาถึงตรงนี้แล้ว อย่างน้อยก็รักษาหน้าเอาไว้ได้
“นายท่านงูครั้งนี้สามครั้งนะครับ จบ…”
ยังไม่ทันพูดว่าจบการประมูล ก็ได้ยินเสียงหนึ่งตัดบทเหล่าซุน
ทันใดนั้น สายตาทุกคู่ก็ไปรวมอยู่ที่ซ่งจื่อเซวียน
ส่วนสายตาของเหล่าซุนก็เปล่งประกายออกมาทันที
นายท่านรองเหรอ นายท่านรองลงมือแล้ว!
เถ้าแก่พูดไม่ผิด ในที่สุดผู้มีอิทธิพลผู้ลึกลับคนนี้ก็ลงมือแล้ว!
คิดถึงตรงนี้ เหล่าซุนพยักหน้าน้อยๆ ด้วยรอยยิ้มบางเบา ที่แท้นายท่านรองก็ดูละครฉากนี้อยู่ตลอด
เบื้องหน้าสู้กันดุเดือดแค่ไหน แต่เป็นแค่การเกริ่นนำ ตอนนี้สิถึงจะเป็นของจริง
เถ้าแก่นี่สายตากว้างไกลจริงๆ
“เหอะๆ นายท่านรอง คุณจะเสนอราคาเหรอครับ”
ซ่งจื่อเซวียนยกนิ้วหนึ่งขึ้น “เพิ่มอีกหนึ่งล้าน ห้าสิบสองล้าน!”
สูงขึ้นอีกแล้ว!
ราคาถึงห้าสิบสองล้าน ผู้คนที่ดูอยู่รอบๆ เรียกได้ว่ากลั้นหายใจแล้วจริงๆ ทุกคนมองไปทางนายท่านงู
นายท่านงูหันหน้าไปจ้องซ่งจื่อเซวียน กัดฟัน “ไอ้หนู แกคิดว่าฉันจะถอยให้แกหรือไง”
ซ่งจื่อเซวียนยิ้ม “ตามสบายเลยครับนายท่านงู ประมูลไม่ได้ผมก็ไม่เอา!”
“ดี ดีนี่ไอ้หนู คลื่นลูกใหม่แม่น้ำแยงซีเกียงซัดคลื่นลูกเก่าจริงๆ งั้นนายท่านงูจะเล่นกับแกเอง!”
ที่จริงตอนนี้นายท่านงูก็ไม่อยากจะใช้เงินอีกแล้ว
ถ้าบอกว่าคราวก่อนประมูลแข่งกับท่านผู้เฒ่าเฉิงจนเสนอราคาไปถึงแปดสิบล้าน นั่นเป็นการใช้อารมณ์จริงๆ
แต่ครั้งนี้…เขาไม่อยากจะใช้อารมณ์อีกแล้ว
อย่างไรสิ่งที่เสียหายก็คือบัญชีของตน
แต่ตอนนี้มาถึงช่วงสำคัญแล้ว ค่อนข้างลงจากหลังเสือได้ยากจริงๆ
ทุกคนยกย่องเขาไว้สูงมาก เขาจะยอมร่วงลงมาจริงๆ เหรอ
อีกทั้งซ่งจื่อเซวียนเสนอเพิ่มอีกแค่หนึ่งล้าน เขายังไม่ถึงขนาดกับเสียหน้าเพราะหนึ่งล้านนี่หรอก
“ห้าสิบสามล้าน!”
นายท่านงูเสนอเพิ่มอีกหนึ่งล้าน ราคานี้เกินขีดจำกัดของเขาไปนานแล้ว ตอนนี้ไม่มีทางเพิ่มราคาอย่างบ้าคลั่งได้อีก
ส่วนตู้อวิ๋นเลี่ยงข้างๆ ตอนนี้ก็มองไปทางซ่งจื่อเซวียน อดขมวดคิ้วไม่ได้
เขาก็อยากได้หนวดพญามังกรนี่เหรอ จู่ๆ ก็ตัดสินใจเหรอ หรือว่ารอมานานแล้ว
แต่ไม่ว่าจะอย่างไร ความร่ำรวยของเด็กคนนี้ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ เสนอราคาห้าสิบกว่าล้านออกมาได้…ตระกูลตู้ไม่มีความสามารถนี้
ให้ตู้อวิ๋นเลี่ยงอย่างเขาควักออกมาซื้อโสมคนรากหนึ่ง ให้ตายเขาก็ไม่ทำ
ทำไมพี่ใหญ่และตู้เหวินจงถึงไปยุ่งกับคนใหญ่คนโตขนาดนี้ได้
ตู้อวิ๋นเลี่ยงหรี่ตาลงเล็กน้อย บางที…อาจจะทดสอบศักยภาพของอีกฝ่ายได้
ถ้ารวยจริงๆ อยากได้หนวดพญามังกร ถึงราคาจะสูงขึ้น เขาก็เอาแน่นอน
ถ้าไม่มีศักยภาพ…ตู้อวิ๋นเลี่ยงก็ไม่สน กลับกันยังมีนายท่านงูตรงนั้นอยู่อีกคน
ต่อให้ตู้อวิ๋นเลี่ยงเสนอราคา นายท่านงูก็น่าจะเสนอกลับมา อย่างมากก็ให้นายท่านงูจ่ายเงิน
ตอนนี้ ซ่งจื่อเซวียนได้ยินว่านายท่านงูเสนอห้าสิบสามล้านอีก ก็อดหัวเราะในลำคอไม่ได้
“หกสิบล้าน!”
ทุกคนตกใจ
จนถึงตอนนี้แล้ว ซ่งจื่อเซวียนยังจะเสนอราคาหลายล้านได้อีกเหรอ
นายท่านน้อยท่านนี้อำนาจการเงินไม่ธรรมดาจริงๆ
ตอนนี้ ทางท่านชายไป๋ก็ค่อนข้างกระอักกระอ่วน ไม่คิดว่าคนที่ตนยั่วยุก่อนหน้านี้จะมีศักยภาพขนาดนี้…
แต่เขาก็ไม่สนใจ ความมั่งคั่งเป็นแค่ด้านหนึ่ง ถ้าสู้สุดชีวิตไป อันธพาลข้างกายตนพวกนี้ได้กินมังสวิรัติแน่
สนามการประมูลวันนี้ชัยชนะจะตกเป็นของใครก็ยังไม่แน่
หากนายท่านงูได้หนวดพญามังกรไป เรื่องก็จบแค่นี้ น่าจะไม่มีใครกล้าปล้นของของนายท่านงูหรอก
แต่หาไอ้หนุ่มนั่นได้ไป…
เหอะๆ วันนี้น่าจะต้องเกิดการนองเลือดแล้ว
ที่จริงสิ่งที่ท่านชายไป๋คิดก็เหมือนกับสิ่งที่คนที่นี่คิด
คืนนี้ จู่ๆ ก็มีเด็กหนุ่มคนหนึ่งโผล่มา แถมตอนนี้เสนอราคาถึงหกสิบล้าน…
หากนายท่านงูไม่เอาแล้ว เด็กหนุ่มคนนี้จะปกป้องหนวดพญามังกรนี่ไว้ได้จริงๆ เหรอ
เหล่าซุนพยักหน้าน้อยๆ พูดว่า “นายท่านรองเสนอราคาหกสิบล้าน นายท่านงู คุณว่า…”
ในใจนายท่านงูค่อนข้างสับสนแล้วจริงๆ
หกสิบล้าน…
ไอ้หนุ่มนี่มาจากไหน นี่คิดจะเสนอราคาแข่งกับข้าจริง หรือแค่จะเล่นกับข้าวะ
ถ้าเป็นอย่างหลัง งั้นวันนี้นายท่านงูก็เผชิญหน้ากับการเพิ่มราคาด้วยเจตนาร้ายสองครั้งแล้ว
ต่อให้วันนี้จะได้หนวดพญามังกรไป ก็หลีกเลี่ยงการเป็นที่ตลกขบขันไม่ได้
แต่ถ้าอยากได้จริงๆ วันนี้ยอมถอยให้อีกฝ่ายไปทั้งอย่างนี้ ก็น่าขายหน้าเกินไป
คิดถึงตรงนี้ นายท่านงูก็หันหน้าไปมองซ่งจื่อเซวียน “ไอ้หนู หกสิบล้านเรอะ แกไม่ได้ล้อเล่นใช่ไหม แกมีหกสิบล้านหรือเปล่า”
ซ่งจื่อเซวียนหัวเราะ “เหอะๆ นายท่านงูพูดแบบนี้ได้ไง ตอนนี้เป็นการประมูลนะครับ ไม่ต้องมาตรวจสอบศักยภาพของผมว่ามีพอหรือเปล่าหรอก
แถม…”
ซ่งจื่อเซวียนจงใจหยุดแล้วพูดว่า “นี่ก็เป็นขีดจำกัดของผมเหมือนกัน ถ้านายท่านงูเสนอราคา ต่อให้เสนอไปเพิ่มหนึ่งแสนหยวน ผมก็ไม่เอาแล้ว!”
ได้ยินดังนั้น หวังเฉิงยงด้านข้างก็อดหันหน้าไปยิ้มไม่ได้ พูดในใจว่า ไอ้ตัวแสบ เจ๋งจริงๆ
ส่วนนายท่านงูที่ได้ยินคำพูดนี้ก็คิ้วขมวด
เห็นรอยยิ้มของซ่งจื่อเซวียน ในสายตาของเขาคือการแสร้งทำเป็นสงบนิ่ง
ถ้าข้าเดาไม่ผิด เจ้าเด็กนี่น่าจะใกล้ตกใจตายแล้วมั้ง ก็อาศัยท่าทีของเขาแบบนี้ งั้นก็เป็นการเพิ่มราคาด้วยเจตนาร้ายแน่นอน
ถ้าเสนอไปอีกแกก็ไม่เอาแล้วเหรอ งั้นข้าก็จะไม่เสนอ อยากจะดูว่าเด็กอย่างแกจะควักหกสิบล้านหยวนออกมายังไง
ถึงตอนนั้นเด็กนี่จ่ายไม่ไหว ไม่ใช่แค่ถูกใส่ชื่อในรายชื่อเสียเครดิตเท่านั้น ขณะเดียวกันนายท่านงูก็จะได้หนวดพญามังกรมาในราคาที่เสนอไปเมื่อครู่ด้วย
ได้ทั้งขึ้นทั้งล่อง!
คิดถึงตรงนี้ นายท่านงูก็พยักหน้าน้อยๆ งั้นข้าก็ไม่เสนอราคาเพิ่มแล้วกัน ชมความน่าขายหน้าของแกเงียบๆ
อย่างไรนายท่านงูก็คิดว่าเกินงบไปแล้ว ถ้าไม่เพิ่มราคาอีก ต้องใช้บันไดสักอันให้เขาลง
หกสิบล้านของซ่งจื่อเซวียน เป็นบันไดนี่ได้พอดี
นายท่านงูหันหลังไป นั่งไขว่ห้างต่อที่เก้าอี้ไท่ซือ ท่าทีแบบนั้นเห็นได้ชัดว่าไม่คิดจะเสนอราคาแล้ว
และตอนนี้ ตู้อวิ๋นเลี่ยงก็ลำบากใจ
เขาจะเพิ่มราคาดีไหม
อย่างไรเป้าหมายของเขาก็คือทดสอบศักยภาพของซ่งจื่อเซวียน ไม่ได้อยากได้หนวดพญามังกรจริงๆ เพราะราคานี้เกินงบประมาณของเถ้าแก่ไปแล้ว
ถ้าเพิ่มราคาตอนนี้ ถ้าซ่งจื่อเซวียนไม่เอา เขาจะไปหาหกสิบล้านมาจากไหน
อีกทั้งเห็นท่าทีของนายท่านงู ก็ไม่คิดจะประมูลแล้ว
เพิ่มราคาตอนนี้ ได้ขุดหลุมฝังตัวเองแน่ร้อยเปอร์เซ็นต์
คิดถึงตรงนี้ ตู้อวิ๋นเลี่ยงก็ถอดใจ ทำเพียงแค่มองต่อไป
เหล่าซุนคนนี้เป็นใคร ไม่ได้จัดงานประมูลที่นี่แค่วันสองวันเสียหน่อย ประสบการณ์แน่นอยู่แล้ว
ซ่งจื่อเซวียนเสนอราคาเรียบร้อย ความสนใจของเขาทั้งหมดก็อยู่ที่นายท่านงูและตู้อวิ๋นเลี่ยง
จากปฏิกิริยาของทั้งสองก็เข้าใจอย่างหนึ่งแล้ว วันนี้หนวดพญามังกรนี่…นายท่านรองเป็นคนได้ไป!
“ครับ นายท่านรองครั้งที่หนึ่ง นายท่านรองครั้งที่สอง นายท่านรองครั้งที่สาม…”
วินาทีสุดท้าย เหล่าซุนกวาดสายตาไปทั้งร้านรอบหนึ่ง ทุกคนแทบจะรอผลด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
“จบการประมูล!”
ทันทีที่พูดว่าจบการประพูด นายท่านงูก็พูด “ไอ้หนู ไปจ่ายเงินไป หนวดพญามังกรนี่เป็นของแกแล้ว ฮ่าๆๆ…”
ความหมายของนายท่านงูชัดเจนมาก กำลังบอกทุกคนว่าที่เจ้าเด็กคนนี้ทำไปเป็นการเพิ่มราคาด้วยเจตนาร้าย ข้าไม่หลงกลหรอก
ส่วนเด็กนี่…ซื้อไม่ไหวอยู่แล้ว!
ซ่งจื่อเซวียนยิ้ม หยิบบัตรใบหนึ่งส่งให้ฟางรุ่ยทันที ให้เขารีบไปจ่ายเงิน
เขา…จ่ายเงินจริงๆ เหรอ
หวังเฉิงยงยิ้มพูด “ไอ้หนู นายนี่โคตรซุนจื่อ[1]จริงๆ เสนอไปหนึ่งล้านก่อนให้สองคนนั้นคิดว่านายอยากเสนอราคา แต่เงินอาจจะมีไม่เยอะ
จากนั้นครั้งต่อมาก็เสนอหกสิบล้าน ให้พวกเขาคิดว่านายดันราคาเล่น เลยไม่แย่งนายกันหมดเลย
ฮ่าๆๆ ซุนจื่อ โคตรจะซุนจื่อเลย!”
ซ่งจื่อเซวียนยิ้ม กดเสียงต่ำ
“ทำไมคำพูดนี้จากปากของคุณถึงไม่น่าฟังขนาดนี้ล่ะ คุณไม่คิดว่านี่เป็นความฉลากหลักแหลมเหรอ”
“หา? ฮ่าๆ ใช่ ฉลาด ฉลาดนั่นแหละ”
ถึงซ่งจื่อเซวียนจะไม่ทำตัวเป็นจุดสนใจ มีกิจการเล็กๆ แต่กับหวังเฉิงยงไม่ใช่
นิสัยของเขาก็เป็นแบบนี้ เย้ยฟ้าท้าดิน ตอนนี้แทบจะตะโกนออกมาแล้ว
ไม่นานนัก ฟางรุ่ยก็จ่ายเงินเสร็จ กอดกล่องไม้นั่นเดินมาด้านหน้าซ่งจื่อเซวียน
“นายท่านรอง ยังมีอันนี้ด้วยครับ”
ฟางรุ่ยพูดพลางส่งบัตรสีดำทองให้ซ่งจื่อเซวียน
ซ่งจื่อเซวียนรับบัตรมาดู บัตรเป็นเหล็ก งานเคลือบด้านบนละเอียดมาก
ส่วนลวดลายดอกไม้กับตัวอักษรสีทองทั้งหมดใช้ผงทองฝังเข้าไป ความมันเงาที่สะท้อนออกมาเป็นประกายแสงของโลหะแท้ๆ
“นายท่านรอง นี่เป็นบัตรวีไอพีชั้นพิเศษ เมื่อครู่ตอนที่คุณจ่ายเงินก็ลดไปสิบห้าเปอร์เซ็นต์ครับ”
ซ่งจื่อเซวียนอึ้ง “เอ๊ะ จ่ายแค่แปดสิบห้าเปอร์เซ็นต์เหรอ งั้นก็คุ้มจริงๆ”
ได้ยินประโยคนี้ ผู้คนก็ตกใจ บัตรวีไอพีพิเศษ?
พวกเขารู้กันหมดว่าบัตรวีไอพีพิเศษของหอเยวี่ยซีนี่ต้องสะสมยอดใช้จ่ายแปดสิบล้านถึงจะได้มา
ท่าทางเด็กหนุ่มคนนี้จะไม่ได้มาครั้งแรก แค่ก่อนหน้านี้ทำตัวไม่ให้เป็นจุดสนใจ ทุกคนจึงไม่รู้จักเท่านั้น
จากนั้น ซ่งจื่อเซวียนก็ล้วงบัตรวีไอพีชั้นสามเมื่อครู่ใบนั้นส่งคืนให้เหล่าซุน
“งั้นอันนี้ก็คืนคุณแล้วกันครับ ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมขอตัว”
เหล่าซุนพยักหน้าด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย “นายท่านรองไปได้เลยตามสะดวกครับ”
ซ่งจื่อเซวียนลุกขึ้น เดินออกไปจากหอเยวี่ยซีท่ามกลางสายตาจับจ้องของฝูงชน ส่วนผู้ชมพวกนั้นก็หลีกทางให้เอง
ซ่งจื่อเซวียนตอนนี้ พอประมูลก็กลายเป็นผู้ที่อยู่เหนือกว่าแล้ว
ไม่นานนัก คนในหอเยวี่ยซีก็แยกย้าย งานเลี้ยงระดับมหากาฬเลิกแล้ว ทุกคนก็เริ่มต่างคนต่างดูสินค้า
ส่วนเหล่าซุนก็ขึ้นไปชั้นสอง วางบัตรไว้บนโต๊ะเถ้าแก่
“เถ้าแก่ ทำไม่คุณ…ไม่ให้นายท่านรองออกประตูนี้ล่ะครับ เขาจะได้ปลอดภัยหน่อย”
เหล่าซุนพูดพลางชี้ที่ประตูในห้องทำงาน
ประตูนี้ทะลุออกไปด้านนอก แทบจะออกไปจากตลาดมืดได้โดยที่ไม่มีใครรู้
แน่นอนว่า ทั้งตลาดมีแค่ที่นี่ที่มีประตูทะลุออกไป
ผู้หญิงคนนั้นได้ยินก็ยิ้ม “เหอะๆ ถ้าเขายังจัดการคนพวกนี้ไม่ได้…งั้นก็ไม่ต้องใช้ชีวิตแล้ว”
เหล่าซุนขมวดคิ้วเล็กน้อย “เอ่อ…เถ้าแก่เนี้ย ผมเดาว่าทางนายท่านงูจะเคลื่อนไหวเงียบๆ ท่านชายไป๋ก็อยู่ วันนี้ยังมีนายท่านตู้อีกคนด้วย…”
“ฮ่าๆๆ คนพวกนั้นน่ะเหรอ คนที่มีศักยภาพซื้อหนวดพญามังกรของฉันได้…นายคิดว่านายท่านรองซ่งอย่างเขาธรรมดามากหรือไง”
………………………………………….
[1] ซุนจื่อ เป็นผู้เขียนตำราพิชัยสงคราม ที่นับว่าเป็นตำรายุทธศาสตร์ทางทหารที่มีอิทธิพลมากของประเทศจีน
…………….