เส้นทางเศรษฐีของ(ว่าที่)เชฟเหรียญทอง - ตอนที่ 362 อย่ามัวยึกยัก!
ตอนที่ 362 อย่ามัวยึกยัก!
…………….
ตู้อวิ๋นเลี่ยงไม่ใช่แขกประจำของตลาดมืด อีกทั้งยังมาเป็นครั้งแรกด้วย
ดังนั้นคนที่อยู่ในที่นี้แทบจะไม่มีใครรู้จักเขาเลย นายท่านงูก็ไม่เว้น
หึ ไม่รู้โผล่หัวมาจากไหน กล้ามาแย่งกับนายท่านงูอย่างฉัน ไม่เคยได้ยินบารมีของฉันในตลาดมืดหรือไง
เขาชำเลืองมองตู้อวิ๋นเลี่ยงแวบหนึ่ง พูดว่า “ไอ้หนุ่ม คิดจะสู้กับฉันเหรอ”
ตู้อวิ๋นเลี่ยงไม่มองนายท่านงูตรงๆ แค่นหัวเราะ “เสนอราคาต่อเถอะ”
นายท่านงูแค่นเสียง คิดในใจว่าแกมันไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำถึงได้เสนอราคา จัดการแกก็พอแล้ว
“แปดล้าน!”
พอเสนอราคาแปดล้าน เสียงสูดลมหายใจก็ดังขึ้นทันที
คนที่มาตลาดมืดมีไม่น้อย มีคนหน้าใหม่มาลองหาประสบการณ์แทบจะทุกวัน
และไม่ขาดคนจำพวกที่เห็นประโยชน์ในที่แห่งนี้แล้วตัดสินใจเริ่มเข้าวงการ
สำหรับคนพวกนี้ จะมากจะน้อยล้วนเคยได้ยินบารมีของนายท่านงูมาบ้าง
แต่ยิ่งกว่านั้นก็คือเพียงแค่ได้ยินที่เล่าลือกันมา ไม่ได้เห็นนายท่านงูเสนอราคาด้วยตาตัวเอง
พอได้เห็นวันนี้ ก็ไม่ธรรมดาอย่างที่คาดไว้
คนเขาเพิ่งจะเสนอถึงสี่ล้านห้าแสนหยวน นายท่านงูก็คร้านจะเล่นกับพวกเขาแล้ว จึงเสนอราคาแปดล้านหยวนไปเลย
หนวดพญามังกรนี้ที่จริงแล้วก็เป็นแค่รากโสมคน แปดล้านหยวน…ทุกคนแทบจะไม่อยากจะเสนอราคาแบบนี้ไป
เสนอราคาเสร็จ นายท่านงูก็เชิดหน้าขึ้นเล็กน้อย มองตู้อวิ๋นเลี่ยงอย่างเหยียดหยาม
เหล่าซุนยิ้มออกมา ต้องพูดจริงๆ ว่ายังต้องมีนายท่านงู มีนายท่านคนนี้อยู่ หอเยวี่ยซีจะยังไม่มีเงินอยู่อีกเหรอ
ก็ไม่แปลกที่การประมูลสินค้าในช่วงเวลาปกติ เถ้าแก่จะระมัดระวังมาก แต่ครั้งนี้…เธอคาดการณ์ราคาสุดท้ายไว้ที่สี่สิบล้าน!
เหล่าซุนพูด “สมกับที่เป็นนายท่านงูจริงๆ ตอนนี้ราคาที่เสนออยู่ที่แปดล้านแล้ว ยังมีใครจะเสนอราคาที่สูงกว่านายท่านงูอีกไหมครับ”
อย่างน้อยจนถึงตอนนี้ คนที่เสนอราคาแข่งกับนายท่านงูได้มีแค่เขาคนเดียวเท่านั้น
แน่นอนว่าอาจจะยังมีท่านชายไป๋อีกคน เพียงแต่นายท่านงูนั่งตรงนั้น แค่อำนาจก็ทำให้เขาไม่กล้าเสนอราคาแล้ว
ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้ราคามาถึงแปดล้านหยวน คนปกติก็ไม่กล้าเสนอไปง่ายๆ
ต่อให้เป็นคนที่คิดจะเพิ่มราคาด้วยเจตนาร้าย ตอนนี้ก็ไม่ก็ไม่กล้าหุนหันพลันแล่น ถ้าอีกฝ่ายไม่เสนอราคาขึ้นมา คุณได้แห้งในคุกบนดินแน่
จนถึงตอนนั้น คุณจะบอกว่าคุณต้องการหรือไม่ต้องการล่ะ
ถ้าต้องการ คุณอาจจะจ่ายไม่ไหว ถ้าไม่ต้องการแล้ว…ก็จะต้องเสียความน่าเชื่อถือแน่นอน
ไม่ใช่แค่นี้ ส่วนบริหารจัดการตลาดก็ไม่ได้โง่ ถึงตอนนั้นก็ไม่มีใครบอกได้ว่าจะสั่งสอนคนที่ก่อเรื่องวุ่นวายสักยกหรือเปล่า
ตอนที่เหล่าซุนจะเปิดปากพูดอีกครั้ง ตู้อวิ๋นเลี่ยงก็พูดขึ้นว่า “สิบล้าน!”
ชิ้งๆๆ!
เบนสายตาไปอีกครั้ง
วันนี้ตู้อวิ๋นเลี่ยงเป็นจุดสนใจที่เด่นที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย
ความกล้าของนายท่านงูเป็นอดีตไปนานแล้ว แต่วันนี้คนที่กล้าเสนอราคาแข่งกับนายท่านงูคนนี้ เหมือนว่าจะดึงดูดสายตาคนอื่นมากกว่า
คนไม่น้อยยกนิ้วโป้งให้กันหมด
กล้าสู้กับนายท่านงู นี่คือความกล้าหาญ ดันราคาเพิ่มไปสองล้านได้ เสนอสิบล้านออกมาตรงๆ อำนาจแบบนี้ก็ไม่แพ้นายท่านงูแม้แต่น้อย
นายท่านงูขมวดคิ้วทันที สำหรับเขาแล้ว ตู้อวิ๋นเลี่ยงกำลังเป็นจุดสนใจ ตนก็ไม่ต่างไปจากโดนเหยียบย่ำเลย
เรื่องแบบนี้ทนไม่ได้อยู่แล้ว!
“เหอะๆ ตอนนี้สิบล้านของนายท่านตู้สูงที่สุดครับ!”
“สิบห้าล้าน!”
นายท่านงูเสนอราคาทันที!
ราคาเสนอนับตั้งแต่ราคาแรกสุดเพิ่มขึ้นทีละห้าแสน จนมาสองล้าน ตอนนี้มาถึงห้าล้าน!
เมื่อเสนอราคาในช่วงท้ายสุด กำลังเงินของทั้งสองฝ่ายจะค่อยๆ ลดทอนลง ยิ่งราคาสูงเท่าไร ราคาที่เพิ่มขึ้นจะต้องยิ่งเร็วขึ้นเท่านั้น เสียงสุดท้ายก็ย่อมยิ่งใกล้เข้ามาแล้ว
“สิบแปดล้าน!”
ตู้อวิ๋นเลี่ยงไม่มีวี่แววจะยอมแพ้อย่างเห็นได้ชัด เสนอราคาพลางมองหนวดพญามังกรอย่างไม่ละสายตา
“นายท่านตู้เสนอราคาถึงสิบแปดล้านแล้วครับ!”
ขณะที่เหล่าซุนพูด ก็หน้าบานไม่หุบแล้ว หอเยวี่ยซีได้เงิน เขาก็ดึงเปอร์เซ็นต์ออกมาได้ ถึงจะน้อยมาก แต่สำหรับการเลี้ยงครอบครัวนั้นไม่มีปัญหาเลย
“โอ้ ไม่ไหวแล้วเหรอ เพิ่มแค่สามล้านเองนี่” นายท่านงูมองตู้อวิ๋นเลี่ยง
ตู้อวิ๋นเลี่ยงหักนิ้ว “คุณสนใจแค่เสนอราคาก็พอ”
ได้ยินดังนั้น นายท่านงูก็อดหรี่ตาลงไม่ได้ “ท่าทางแบบนี้ของนาย…ถ้าได้หนวดพญามังกรไปจริงๆ ฉันจะปล่อยนายไปได้ยังไง”
“คุณก็ลองดูสิ!”
ได้ยินคำพูดพวกนี้ ซ่งจื่อเซวียนเข้าใจความหมายแฝงอยู่แล้ว
สถานการณ์ตอนนี้คือทั้งสองกำลังสู้ราคากัน เห็นได้ชัดว่าอำนาจของนายท่านงูเหนือกว่าเล็กน้อย ขณะเดียวกันก็เป็นการเตือนตู้อวิ๋นเลี่ยง
ถ้าเสียมารยาทกับฉันอีก ถึงได้ของมีค่าไป ข้าก็แย่งมาได้
แต่เห็นท่าทีของตู้อวิ๋นเลี่ยง เห็นได้ชัดว่ายังคงผ่อนคลายเช่นเดิม เขาอาจจะไม่ได้เห็นนายท่านงูอยู่ในสายตาก็ได้
ไม่ว่าเมื่อก่อนนายท่านงูอย่างแกจะเจ๋งแค่ไหน นั่นไม่ใช่ประวัติศาสตร์ทั้งนั้นเหรอ วันนี้ข้ามาแล้ว จะพะเน้าพะนอแกไม่ได้หรอก!
“ได้ งั้นก็เสนอราคาก่อนแล้วกัน ยี่สิบห้าล้าน!” นายท่านงูพูดพลางถลึงตา
ยี่สิบห้าล้าน…
ราคาเริ่มต้นที่หนึ่งล้านห้าแสนหยวนยังแพงไปสำหรับคนไม่น้อย แต่ตอนนี้นับว่าพวกเขาเข้าใจแล้ว…
ไม่ว่าราคาเริ่มต้นที่ประมูลอยู่ที่เท่าไร ความจริงสำหรับพวกเขาก็ไม่ได้เกี่ยวข้องเท่าไรอยู่แล้ว
ครั้งนี้การเสนอราคาเพิ่มขึ้นไปอีกเจ็ดล้าน จำนวนเงินที่เสนอเพิ่มพุ่งขึ้นอย่างบ้าคลั่งอีกครั้ง
ตอนนี้ ทุกคนมองไปทางตู้อวิ๋นเลี่ยงอีกครั้ง กระทั่งมีบางคนเริ่มโห่ร้องแล้ว
“เพิ่มสิ เพิ่ม!”
“ฮ่าๆ สู้กับนายท่านงู เร้าใจดีจริง!”
“นั่นสิ วันนี้ไม่ใช่แค่เห็นสไตล์ของนายท่านงูกับตา ยังได้เปิดหูเปิดตากับนายท่านตู้ท่านนี้ด้วย!”
“รีบเพิ่มราคาสิครับนายท่านตู้!”
ตู้อวิ๋นเลี่ยงล้วงบุหรี่ออกมา จุดแล้วสูบเข้าไป “สามสิบห้าล้าน!”
ครั้งนี้ นายท่านงูก็ค่อนข้างอึ้ง
สามสิบห้าล้าน
เขาดูถูกนายท่านตู้คนนี้ไปแล้ว เสนอราคาที่สามสิบห้าล้านได้…ไม่ใช่คนธรรมดา
เขานึกว่าท่านผู้เฒ่าเฉิงไม่มา ตนอาจจะไม่มีคู่ต่อสู้ในตลาดมืดอะไรแล้ว คิดไม่ถึงว่าวันนี้จะได้เจอกับตอแข็ง
นายท่านงูขมวดคิ้วเล็กน้อย ถึงเขาจะหน้าใหญ่ใจโต แต่ใครจะอยากใช้เงินเยอะล่ะ
เดิมคิดว่าจะไม่มีใครกล้าแย่งกับตน ตอนนี้ทำให้ตนต้องใช้เงินอย่างน้อยหลายสิบล้าน เขาย่อมไม่สบายใจอยู่แล้ว
“หึ ในเมื่อเอ็งชอบเล่น ข้าก็จะเล่นกับเอ็ง สามสิบหกล้าน!”
ตอนนี้ ในฝูงชนก็ส่งเสียงโห่ออกมาเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าพวกเขาคิดว่านายท่านงูเพิ่มราคาน้อยเกินไป ไม่สมกับนิสัยใจกล้าเลย
ซ่งจื่อเซวียนยิ้มเล็กน้อย “เสี่ยหวัง คุณว่า…สองคนนี้ใครจะได้หนวดพญามังกรไป”
“บอกไม่ได้ จะว่าพื้นฐานครอบครัวของนายท่านงูนี่ก็น่าจะยิ่งใหญ่มาก แต่นายท่านตู้คนนี้…หน้าตาไม่คุ้น แต่ใจจริงก็ไม่อ่อนด้อยเลยเหมือนกัน”
“ใช่ ตอนนี้จู่ๆ นายท่านงูก็ผ่อนการเพิ่มราคาลง ใกล้จะถึงงบแล้วใช่ไหมเนี่ย” ซ่งจื่อเซวียนพูด
“ไม่แน่หรอก ประมูลก็คือการประมูล ไม่ใช่การผลาญเงิน ใช้เงินน้อยได้ไม่จำเป็นต้องใช้เงินเยอะ”
ซ่งจื่อเซวียนได้ยินก็พยักหน้าน้อยๆ “ก็มีเหตุผล”
ตู้อวิ๋นเลี่ยงก็ลดอัตราเร่งเช่นกัน
ซ่งจื่อเซวียนแอบยิ้ม ท่าทางสองคนนี้จะใกล้ถึงงบแล้วสินะ ถ้าราคาขายแบบนี้…น่าจะลองเล่นได้สักหน่อย
คิดถึงตรงนี้ ซ่งจื่อเซวียนก็หยิบโทรศัพท์ออกมา พิมพ์ข้อความส่งไป
ไม่นานนัก ทั้งสองคนก็เสนอราคาถึงสี่สิบสามล้าน
ตอนนี้เอง คนที่สังเกตการณ์อยู่รอบๆ ก็เงียบกว่าก่อนหน้านี้มาก แทบจะไม่มีใครโห่ร้องออกมาเลย
มาถึงขั้นนี้ เหมือนว่าพวกเขาจะเข้าใจว่าศึกการประมูลครั้งนี้ใกล้จะจบแล้ว ส่วนใครจะชนะ…ก็ต้องดูตอนนี้
“สี่สิบห้าล้าน!” นายท่านงูถลึงตาโตพูด “ต่อสิ!”
อารมณ์ของนายท่านงูร้อนกว่าเมื่อครู่เล็กน้อยอย่างชัดเจน สาเหตุง่ายมาก ราคาตอนนี้ใกล้จะถึงงบเขาเข้าไปเรื่อยๆ แล้ว
เขาพยายามอาศัยความจริงกดข่มอีกฝ่าย พยายามทำให้อีกฝ่ายถอดใจ
ตอนนี้ปัญหาไม่ใช่แค่จะครอบครองหนวดพญามังกรได้ไหม หน้าตาก็สำคัญเหมือนกัน
นายท่านงูอย่างเขาไม่อยากจะเสียหน้าในครั้งนี้
ได้ยินดังนั้น ตู้อวิ๋นเลี่ยงก็สูดลมหายใจลึก เขาไม่ได้อยากเพิ่มเงินแล้ว
ขณะที่ทุกคนมองมาทางเขา เหล่าซุนก็เบนสายตาไป
“นายท่านตู้ ตอนนี้นายท่านงูเสนอสี่สิบสามล้าน คุณจะยังเพิ่มราคาไหมครับ”
ตู้อวิ๋นเลี่ยงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง พูดว่า “ฉันขอโทรศัพท์ก่อน!”
“โทรศัพท์เหรอ ฮ่าๆๆ ไอ้หนู นายล้อกันเล่นหรือไง ประมูลแข่งกันอยู่นายจะโทรศัพท์เนี่ยนะ”
นายท่านงูพูดพลางหัวเราะลั่น “นายจะโทรหาใคร โทรไปถามเมียว่าให้เงินสักหน่อยได้ไหมน่ะเหรอ”
พอนายท่านงูพูดแบบนี้ ผู้คนก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้
ตู้อวิ๋นเลี่ยงรู้สึกแค่ว่าหน้าร้อนขึ้นมา
อย่างไรเสียครั้งนี้งบที่เถ้าแก่ให้มาก็คือสี่สิบห้าล้านหยวน เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าการประมูลโสมคนรากเดียวจะใช้เงินมากขนาดนี้จริงๆ
ดังนั้นก่อนหน้านี้เขาถึงแย่งหญ้าสวินหย่งกับซ่งจื่อเซวียนได้
เหล่าซุนครุ่นคิด เพื่อกำไรของหอเยวี่ยซี เขาจึงพยักหน้า “ได้ครับ แต่ให้เวลาคุณได้แค่หนึ่งนาทีเท่านั้นนะครับ”
ตู้อวิ๋นเลี่ยงพยักหน้า หยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาคนคนหนึ่งทันที
เขาป้องโทรศัพท์พูดไปหลายประโยคอย่างระมัดระวัง แล้ววางสายทันที
“ห้าสิบล้าน!”
โกลาหลไปทั้งร้าน!
นี่คือได้เงินจากเมียแล้วเหรอ
แถมยัง…พอต้องการก็ได้มาเจ็ดล้านเลย!
เห็นภรรยาของเขาเป็นเช่นนั้น ผู้ชายไม่น้อยก็ส่ายหน้ากันหมด เรื่องนี้…อดอิจฉาไม่ได้จริงๆ
จากนั้น ตู้อวิ๋นเลี่ยงก็มองไปทางนายท่านงู เขาเชิดคางขึ้น “ตาคุณแล้ว”
นายท่านงูหน้าหดหู่ไปหมด ท่าทางครั้งนี้เขาจะได้กระอักเลือดออกมาแล้วจริงๆ
งบที่เขาเอามาคราวนี้ที่จริงไม่ได้มากมายขนาดนั้น เดิมคิดว่าไม่มีการสู้รบปรบมืออะไร ใครจะไปรู้ว่าประมูลไปถึงห้าสิบล้านจนได้
นี่เกินงบเขาไปแล้วชัดๆ
“นายท่านงู ตาคุณแล้ว ถ้าคุณถอดใจ หนวดพญามังกรก็จะเป็นของนายท่านตู้แล้วนะครับ” เหล่าซุนพูดด้วยรอยยิ้มบางๆ
ตอนนี้เอง แรงกดดันไปอยู่ที่ฝั่งของนายท่านงูอีกครั้ง
ถึงช่วงเวลาสำคัญแล้ว ถ้าเขาถอดใจ นับจากนี้ก็จะไม่มีใครประจบประแจงเขาอีกแล้ว
“ห้าสิบ…”
นายท่านงูกัดฟันแน่น “ห้าสิบเอ็ดล้าน!”
“เยี่ยม!”
“สุดยอดเลย นายท่านงู!”
คนไม่น้อยพูดคำว่าเยี่ยมออกมา ขณะเดียวกันก็มีคนเริ่มเชียร์ให้ตู้อวิ๋นเลี่ยงเพิ่มราคา
แต่ตู้อวิ๋นเลี่ยงกลับส่ายหน้าด้วยรอยยิ้ม เห็นได้ชัดว่าไม่ต้องการเพิ่มราคาแล้ว
เห็นรอยยิ้มของเขา คนไม่น้อยก็เข้าใจความหมายแฝงนี้แล้ว
การเสนอราคาครั้งสุดท้ายของคนคนนี้เป็นการเพิ่มราคาด้วยเจตนาร้ายจริงๆ ขอแค่นายท่านงูเสนอเพิ่มอีก ไม่ว่าจะเท่าไร เขาก็ไม่ต้องการแล้ว
ในการประมูลแบบนี้ก็พบเห็นได้บ่อยมาก
ตอนที่รู้ว่าอีกฝ่ายให้ตายก็จะเอาของสิ่งนี้มาให้ได้ สามารถดันราคาให้สูงสักหน่อยได้ แต่ก็ทำได้แค่เล็กน้อยเท่านั้น
พูดอีกก็คือมีความเป็นไปได้ที่อีกฝ่ายจะถึงขีดจำกัดแล้วเช่นกัน อย่างนั้น…ใครจะควักเนื้อไปจ่ายก็ไม่แน่
เห็นได้ชัดว่าครั้งนี้ตู้อวิ๋นเลี่ยงจบการเพิ่มราคาด้วยเจตนาร้ายได้อย่างงดงาม ทำให้นายท่านงูกระอักเลือดแปดล้านอย่างเปล่าประโยชน์
นี่แปดล้านเชียวนะ ต่อให้เป็นคนรวยก็เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่สนใจแปดล้านเลยสักนิด
นายท่านงูก็เข้าใจแล้ว รู้สึกโมโหในใจขึ้นมา ดีนี่ไอ้หนู เล่นงานนายท่านงู วันนี้แกไม่ต้องคิดจะใช้ชีวิตต่อไปดีๆ เลย!
เห็นดังนั้น ซ่งจื่อเซวียนก็ยิ้ม “น่าสนใจ น่าสนใจจริงๆ ดูท่า…นายท่านงูมั่นใจมากว่าจะชนะแล้ว”
หวังเฉิงยงได้ยินก็เหลือบมองเขาแวบหนึ่ง
“ไอ้หนู อย่ามัวยึกยัก ถ้าเอามาครอบครองได้ตอนนี้ คุ้ม!”
ซ่งจื่อเซวียนอึ้ง ตาแก่นี่…คิดไม่ถึงว่าจะเข้าใจตนขนาดนี้นะเนี่ย
…………………………………………
…………….