เส้นทางเศรษฐีของ(ว่าที่)เชฟเหรียญทอง - ตอนที่ 321 ฉันจะเปิดไลฟ์สักหน่อย
ตอนที่ 321 ฉันจะเปิดไลฟ์สักหน่อย
……….
ได้ยินดังนั้น อวี่เหวินเซี่ยวก็รู้สึกร้อนผ่าว แต่ยังส่ายหน้า
“ไม่มีประโยชน์หรอกรุ่ยจื่อ ยอดฝีมือของแก๊งเสื้อผ้าสะอาดมีอยู่ไม่น้อย เราจัดการกับสองคนกระทั่งสี่คนหรือหกคนได้ แต่มากเกินไปจะไม่มีใครปกป้องนายท่านรองกับเสี่ยวเป่า”
ฟางรุ่ยก็ถอนหายใจ “นี่ก็ใช่ แต่…อวี่เหวิน ยอดฝีมือทางนั้นเป็นยังไงเหรอ”
“เหลียงฮั่นก็ถือว่าเป็นหนึ่งในนั้น!”
ได้ยินประโยคนี้ ซางเทียนซั่วข้างๆ ก็พูดว่า “เข้ ก็แค่คนที่เลียเท้าฉันเท่านั้นนี่นา แบบนี้พวกนายก็จัดการทั้งหมดได้เลยใช่ปะ”
แต่ฟางรุ่ยกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย
“ไม่แน่หรอก วันนั้นที่ปะทะกันฉันเอาชนะเหลียงฮั่นได้ แต่ความสามารถของเขาไม่ธรรมดาจริงๆ พูดง่ายๆ ก็คือเหนือกว่าข่งอวี้เซินมาก ถ้าปะทะกับสองคนนี้พร้อมกัน ฉันก็จัดการไม่ได้หรอก”
อวี่เหวินเซี่ยวพยักหน้า “ใช่ ผู้อาวุโสแปดถุงของกลุ่มเสื้อผ้าสะอาดเพิ่งเลื่อนตำแหน่งขึ้นมากันหมด พวกเขาไม่ได้ดูคุณสมบัติ บุคลิกท่าทางและคุณธรรม อาศัยแค่พละกำลังเท่านั้น”
ซ่งจื่อเซวียนสูดลมหายใจ “พูดแบบนี้ก็ไม่ใช่ผู้อาวุโสแปดถุงแล้ว แต่เป็นยอดฝีมือแปดถุงต่างหาก”
“ประมาณนั้นแหละครับ ก็หมายถึงแบบนี้แหละ ผมคิดว่าที่เฉินล่างมาครั้งนี้จะต้องเตรียมมาจัดหนักจัดเต็มแน่นอน ไม่ใช่แค่ต้องการชิงชามเมฆครามกลับไป ยังคิดจะช่วยเหลียงฮั่นกลับไปด้วย” อวี่เหวินเซี่ยวพูด
“ตอนนี้เหลียงฮั่นปลอดภัยอยู่หรือเปล่า”
ได้ยินซ่งจื่อเซวียนถามแบบนี้ กู่เสี่ยวเป่าก็เผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ส่วนอวี่เหวินเซี่ยวและซางเทียนซั่วก็หัวเราะออกมาพร้อมกัน
มองออกว่า กู่เสี่ยวเป่าเล่นอะไรแผลงๆ อีกแล้ว
“พี่รองก็วางใจเถอะ ตอนนี้เหลียงฮั่นจะตายไม่ได้ ทั้งยังขยับไม่ได้ด้วย ที่สำคัญที่สุดคือไม่ว่าอะไรก็ต้องเชื่อฟัง”
“หืม หมายความว่ายังไง” ซ่งจื่อเซวียนไม่เข้าใจอย่างชัดเจน
ซางเทียนซั่วพูด “อาจารย์ เสี่ยวเป่าทิ้งเหลียงฮั่นไว้ในบ่อเกรอะที่ถนนเส้นด้านหลังเรา ห่างประมาณสามเมตรมีตู้เหล็กอยู่ ไอ้หมอนั่นนั่งอยู่บนนั้น ขอแค่คิดจะหนีก็น่าจะตกลงไปในบ่อน่ะ”
ซ่งจื่อเซวียนอดยิ้มออกมาไม่ได้ ร้ายเกินไปแล้ว
“อย่าปล่อยให้เขาหิวตายล่ะ ถ้าเขาตายจะทำอะไรก็ลำบากแล้ว”
“พี่รองวางใจ เรื่องนี้ฉันจัดการแค่พอสมควร ฉันคิดว่าจะทำให้ไอ้เฉินล่างไสหัวออกไปจากตู้เหมินภายในสามวันแหละ”
“สามวันเหรอ”
“ถูกต้อง สามวัน แต่พี่รองน่าจะต้องยื่นมือมาช่วยด้วย” กู่เสี่ยวเป่าพูด
“อย่างนั้นก็ดี ความสัมพันธ์เราไม่ต้องพูดเรื่องพวกนี้แล้ว” ซ่งจื่อเซวียนพูด
กู่เสี่ยวเป่ายิ้มน้อยๆ “ตอนนี้จะมาอยู่ที่บ้านของพี่รองบ่อยๆ ไม่ได้ ดังนั้นขั้นแรก เราควรจะเปลี่ยนที่”
ซ่งจื่อเซวียนคิด “เสี่ยวเป่า ที่จริงที่นี่ก็น่าจะปลอดภัยนะ คนของกลุ่มเสื้อผ้าสะอาดเพิ่งจะมา ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับตู้เหมินด้วย ไม่แน่ว่าอาจจะหาที่นี่ไม่เจอก็ได้นี่”
“ไม่ใช่พี่รอง ที่สำคัญพวกเขาไม่ใช่คนธรรมดา กลุ่มเสื้อผ้าสะอาดก็ขึ้นตรงกับแก๊งขอทานเหมือนกัน ขอแค่เป็นคนของแก๊งขอทาน ไม่มีข่าวไหนที่ไม่รู้”
ซ่งจื่อเซวียนชะงัก เหมือนที่กู่เสี่ยวเป่าพูดจะค่อนข้างมีเหตุผล
แก๊งขอทาน…เป็นกลุ่มสายสืบอย่างแท้จริง ต่อให้พวกกลุ่มเสื้อผ้าสะอาดไม่ไปขอทาน แต่จับคนของกลุ่มเสื้อผ้าสกปรกมาถามก็รู้แล้ว
“แก๊งขอทานแข็งแกร่ง แต่ก็ใหญ่เกินไป ในเมื่อใหญ่ก็จะหลีกเลี่ยงพวกใจเสาะไม่ได้ ขอแค่มีสักคนบอกที่อยู่ของพวกเราออกไปก็อันตรายแล้ว”
กู่เสี่ยวเป่าพูดต่อ เขาที่เป็นหัวหน้าแก๊งคนนี้อายุดูเหมือนจะยังน้อย แต่กลับเข้าใจแก๊งขอทานเป็นอย่างดี
คิดถึงรายละเอียดพวกนี้ไว้หมดแล้ว อย่างไรต้องเข้าใจมากพอถึงจะมีคุณสมบัติควบคุมแก๊งที่ใหญ่ขนาดนี้ได้
ซ่งจื่อเซวียนพยักหน้าน้อยๆ “งั้นจะเปลี่ยนที่…เปลี่ยนเป็นที่ไหนล่ะ”
พวกเขามองไปทางกู่เสี่ยวเป่า เหมือนว่าเด็กคนนี้กลายเป็นมันสมองไปแล้วในพริบตา
กู่เสี่ยวเป่ากลับยังยิ้มอย่างใจเย็นเช่นเดิม “หึๆ…ฉันคิดไว้นานแล้ว พี่รอง พี่ว่าที่ตู้เหมินนี่…ที่ไหนปลอดภัยที่สุด”
“ปลอดภัยที่สุด…”
ได้ยินประโยคนี้ ซ่งจื่อเซวียนก็เหมือนจะเข้าใจอะไรบางอย่าง ยิ้มพูด “นายหมายถึงหอหงเยวี่ยเหรอ”
“เฮ้ย พี่รองฉลาดจริงๆ!”
ฟางรุ่ยพูด “ถูกต้อง หอหงเยวี่ยปลอดภัยที่สุดจริงๆ ใครไปที่นั่นก็ไม่กล้าแตะต้อง นอกเสียจากพวกเขาไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อแล้ว”
อยู่ที่ตู้เหมินมานาน อีกทั้งสำหรับสังคมชั้นสูงก็รู้ๆ กันหมด หอหงเยวี่ยเป็นสถานที่ที่ยอดเยี่ยมมาก
ที่ยอดเยี่ยมไม่ใช่แค่ความหรูหราและสง่างาม ยิ่งไปกว่านั้นก็คือมันมีตำแหน่งที่เป็นไปตามกฎของธรรมชาติ
เนื่องจากเป็นสถานที่ระดับไฮเอนท์ตั้งแต่ยุคแรกๆ ไม่ว่าจะเป็นคนรวยจะนักการเมืองก็เลือกมารวมตัวและพูดคุยกันที่นี่
อีกทั้งเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า หอหงเยวี่ยไม่เพียงแค่มีชา ขนม ของว่าง ยังมีทีมครัวด้านหลังที่โดดเด่นมากอีกด้วย สามารถรังสรรค์อาหารระดับไฮเอนท์ให้ได้
นี่ก็ยิ่งสอดคล้องกับจุดประสงค์ในการอวดอ้างของคนรวยและคนมีตำแหน่ง
และเป็นเพราะพวกเขาพึ่งพาหอหงเยวี่ย ก็จะค่อยๆ กลายเป็นปกป้องหอหงเยวี่ยไปโดยปริยาย
ถึงขนาดว่าใครที่ปกป้องหอหงเยวี่ยได้ จะกลายเป็นการข้ออวดอ้างอย่างแท้จริง บวกกับความสวยของหลี่ม่านหงที่เป็นเถ้าแก่เนี้ยของหอหงเยวี่ยแล้ว ยิ่งทำให้คนวัยกลางคนที่ประสบความสำเร็จไม่น้อยยินยอมพุ่งเข้าไปปกป้องอย่างไม่คิดหน้าคิดหลัง
แน่นอนว่าในบรรดาคนที่ปกป้องพวกนี้ย่อมไม่ขาดพวกผู้นำของเมืองตู้เหมินอยู่แล้ว นี่จึงทำให้การอวดอ้างของหอหงเยวี่ยมีมากขึ้นเรื่อยๆ
จนตอนนี้ ไม่ว่าจะบุคคลสำคัญคนไหนๆ ก็จะใช้หอหงเยวี่ยเป็นที่ที่หาทรัพยากรและหาเส้นสาย ไม่มีใครก่อเรื่องที่นี่ได้
ดังนั้นจึงไม่มีทางอนุญาตให้ใครก็ตามก่อเรื่องที่นั่นแน่นอน กระทั่งหน้าประตูก็ไม่ได้ อยากจะทะเลาะกันก็ขับรถไปตีกันไกลๆ
ซ่งจื่อเซวียนพยักหน้าน้อยๆ “ไม่เลว ให้ฉันติดต่อหวงฟาสักหน่อยไหม”
กู่เสี่ยวเป่ายิ้มพูด “ตลกละ ต้องใช้เขาด้วยเหรอ บริษัทของเรามีบัตรวีไอพีของหอหงเยวี่ยอยู่ อวี่เหวินเซี่ยว นายจัดการหน่อย ถามว่าที่พักของพวกเขาเท่าไร”
อวี่เหวินเซี่ยวหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออกจริงๆ ที่ที่สูงส่งนั่น กลางคืนก็ต้องปิดร้าน คิดไม่ถึงว่าจะ…มีที่พักด้วย
“ช่างเถอะ พวกเราไปกันก่อน ฉันจะถามเอง”
เห็นท่าทางลำบากใจของอวี่เหวินเซี่ยว กู่เสี่ยวเป่าก็พูด
ทันใดนั้น พวกเขาจัดเก็บของเรียบร้อยแล้วก็จากไป
“จริงสิ ถ้างั้น…จะทำยังไงกับเหลียงฮั่นล่ะ” อวี่เหวินเซี่ยวพูด
“ไอ้หัวหมูนั่น ไม่กินสักสองสามมื้อคงไม่หิวตายหรอก!”
พูดจบ กู่เสี่ยวเป่าก็เดินออกไป
ล็อกประตูเรียบร้อย ซ่งจื่อเซวียนก็ตามพวกเขาออกมา
ถึงจะบอกว่าบ้านเล็กๆ นี้ค่อนข้างทรุดโทรม แต่ช่วงนี้ซ่งจื่อเซียนก็ยังอยู่ที่นี่กับฟางรุ่ย ที่นี่มีความทรงจำของพวกเขามากเกินไป ตอนที่ล็อกประตูเรียบร้อยแล้ว เขายังอดมองประตูบ้านตนเองหลายครั้งไม่ได้
…
หอหงเยวี่ย
ในห้องทำงานของหลี่ม่านหง มีกลิ่นที่ซึมซาบเข้าไปใจตลบอบอวล
ธูปในกระถางธูปคือกลิ่นไม้กฤษณาแท้ อีกทั้งอยู่ในระดับของฉีหนานแน่นอน
หอมแต่ไม่ฉุน สดชื่น ปลอดโปร่ง ไม่มีความรู้สึกไม่สบายแต่อย่างใด
จุดเพียงชิ้นเล็กๆ ชิ้นเดียว เกรงว่าราคาก็อยู่ที่หลักพันหยวนกลางๆ แล้ว
ราคาแบบนี้คนทั่วๆ ไปเอื้อมไม่ถึงอยู่แล้ว
กิจการหอหงเยวี่ยมั่นคง อีกทั้งรายได้เป็นกอบเป็นกำ เพื่อธุรกิจ หลี่ม่านหงก็ทุ่มเทกำลังไปมากมาย
อาจจะเพราะมีภาระมากเกินไป ตอนที่นอนไม่พอ เธอก็จะอาศัยการจุดธูปมาทำให้ผ่อนคลาย
ในห้องทำงานมีโต๊ะทำงานสองตัวมาตลอด แต่มีหลี่ม่านหงใช้อยู่แค่คนเดียว ส่วนใครเป็นเจ้าของโต๊ะอีกตัวนั้น แทบจะมีไม่กี่คนที่รู้
ว่ากันว่ามีแค่ตอนที่เปิดกิจการ บางคนที่มาเยือนหอหงเยวี่ยก็เคยเห็นว่าที่นี่มีเถ้าแก่อีกคน
จากนั้น…เธอก็ไม่ได้ปรากฏตัวออกมาอีกเลย
“เจ๊หง ธูปนี่ดูมีคลาสอีกแล้วนะ คราวหลังใช้เงินร้านก็ระวังหน่อยสิ”
หญิงสาวหน้าตาอ่อนเยาว์นั่งอยู่ตรงข้ามโต๊ะทำงานของหลี่ม่านหง พูดโพล่งออกไป
ได้ยินดังนั้น หลี่ม่านก็เงยหน้ามองเธอ “เจ้าเด็กหน้าตายยังจะพูดอีกนะ วันๆ ฉันเหนื่อยแทบตาย เธอนี่ยังดี เที่ยวอยู่ด้านนอกยาวๆ แถมไม่พูดว่าจะมาช่วยฉันสักคำ”
“แหะๆ ใครใช้ให้เจ๊ม่านหงของฉันมีความสามารถล่ะ พูดตามตรง ผู้นำหลี่ได้เจ๊หรือยัง”
หญิงสาวพูดพลางยิ้มเจ้าเล่ห์
เธอรู้ว่าคนอยากร่วมหลับนอนกับหลี่ม่านหงที่หอหงเยวี่ยมีเยอะแยะมากมาย ไม่ว่าจะเพราะความสวยหรือบุคลิกของเธอ ก็ทำให้คนนับไม่ถ้วนหลงใหลกันหมด
แต่ในบรรดานั้นไม่ว่าจะเป็นเจ้าพ่อวงการใต้ดินหรือเถ้าแก่ที่มั่งคั่งร่ำรวย หลี่ม่านหงก็ไม่สนใจ
มีเพียงคนเดียวที่เป็นไปได้ นั่นก็คือผู้นำหลี่ หรือก็คือผู้นำคนสำคัญของเมืองตู้เหมิน
หลี่ม่านหงได้ยินก็กลอกตาใส่เธอ “ไสหัวไปเลย เธอคิดว่าพี่สาวเธอเป็นอะไร ขายตัวหรือไง”
หญิงสาวหลุดหัวเราะ “เอาเถอะ ดูท่าพี่สาวฉันจะโมโหใหญ่แล้ว จริงสิ เงินฉันจะหมดแล้ว พี่ให้เงินค่าขนมฉันหน่อยสิ”
“เฮ้อ เธอนี่นะ ตั้งใจมาช่วยฉันทำงานไม่ได้หรือไง หรือจะหาแฟนสักคนก็ได้”
หลี่ม่านหงพูดพลางดันบัตรใบหนึ่งไปด้านหน้าของหญิงสาว “หกล้านหยวน ใช้ให้น้อยๆ หน่อย”
“แค่นี้เองเหรอ ร้านเราจะเจ๊งแล้วหรือไง” หญิงสาวพูด
“หุบปากไปเลย ดูซิว่าเธอจะทนได้ไหม พูดถึงเรื่องใช้เงินก็ไม่มีใครสู้เธอได้แล้ว ปีนี้ฉันไม่ได้ใช้เงินเยอะขนาดนี้ด้วยซ้ำ” หลี่ม่านหงพูดพลางถลึงตาใส่เธอ
หลี่ม่านหงไม่กล้าพูดดุเกินไป เพราะเธอรู้ดีว่าหญิงสาวทรงเสน่ห์ตรงหน้าเคยช้ำรักมาก่อน
อีกทั้งยังเกี่ยวข้องกับหอหงเยวี่ยด้วย เป็นผู้ชายคนนั้นของเธอที่ทำให้หอหงเยวี่ยตั้งตัวขึ้นมาได้
แต่….เขาก็ทิ้งเด็กสาวคนนี้ไป
นับจากนั้น เด็กสาวก็ไปเที่ยวที่ต่างๆ เพื่อลืมผู้ชายคนนั้น
ส่วนหลี่ม่านหงย่อมเต็มใจเป็นตู้เอทีเอ็ม บริหารหอหงเยวี่ยไปพลาง ให้เงินเด็กสาวไปพลาง ให้เธอค่อยๆ เยียวยาตัวเอง
ขณะที่ทั้งสองกำลังคุยกันอยู่ เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น
“เจ๊หงคะ มีแขกมาค่ะ ที่ถือบัตรวีไอพีคนนั้น”
หลี่ม่านหงได้ยินก็พยักหน้า “เข้าใจแล้ว เดี๋ยวฉันลงไป”
ความจริงตอนที่ลูกน้องมาแจ้ง อีกฝ่ายอยู่ที่หน้าประตูกันหมด พวกเขาเห็นกล้องวงจรปิดก็รู้ว่าแขกมาแล้ว ถ้าเป็นแขกคนสำคัญ ก็จะรีบแจ้งหลี่ม่านหงทันที
พอพวกกู่เสี่ยวเป่ามาก็ชูบัตรราคาหลายแสนใบหนึ่งออกมา ย่อมเป็นลูกค้าคนสำคัญอยู่แล้ว หลี่ม่านหงก็ต้องมาต้อนรับด้วยตัวเอง
“เอ๊ะ วีไอพีเหรอ เป็นใครกัน” หญิงสาวถาม
หลี่ม่านหงจัดปกเสื้อเล็กน้อย ลุกขึ้นพูดด้วยรอยยิ้ม “ถ้าฉันบอกว่าขอทานเธอจะเชื่อไหม”
ได้ยินดังนั้น หญิงสาวคนนั้นก็อึ้งไปเล็กน้อย “เชื่อ แต่ว่า…เจ๊หง ตอนนี้ขอทานเมืองตู้เหมินมีเยอะมาก ระวังหน่อยนะ”
“หืม เธอจะบอกว่ากลุ่มเสื้อผ้าสะอาดก็มาแล้วเหรอ” เหมือนว่าหลี่ม่านหงก็รู้เรื่องพวกนี้อยู่บ้าง
หญิงสาวพยักหน้า “อืม ระวังตัวหน่อย”
“วางใจเถอะ ก่อเรื่องวุ่นวายไม่ไหวหรอก ที่หอหงเยวี่ย…พวกเขาน่าจะไม่กล้าก่อเรื่องนะ”
“เอาน่า พี่รีบไปเถอะ ฉันจะเปิดไลฟ์สักหน่อย ดูว่าจะหาเงินได้บ้างไหม”
หลี่ม่านหงได้ยินก็กลอกตาใส่เธอ หันหลังเดินออกไป
ส่วนหญิงสาวคนนั้นก็เปิดโทรศัพท์ ดูแฟนคลับนับแสนคนในไลฟ์คราวก่อนที่ซ่งจื่อเซวียนแข่งกับเลคริเซียส อดยิ้มออกมาไม่ได้
……………………………………..
……….