เวลาผ่านไปอย่างดวงจันทร์ - ตอนที่ 60 ชีวิตสมรส
เหลยถิงหยุดการกินของตัวเองทันที เขาเหลือบมองซุปในช้อน จากนั้นก็มองไปที่คนคอยเอาใจ เขาก้มหน้าลงเล็กน้อย แล้วเธอก็ป้อนซุกเข้าปากเขา
เฉินซู่คิดว่าเคล็ดลับนี่มันช่างมีประโยชน์จริง ๆ ซินเหม่ยอิงแอบสอนเธอตามที่คาดไว้ ถ้าเธอนุ่มนวลและอ่อนโยนขึ้น เหลยถิงก็จะตะครุบเหยื่อเอง
หลังจากทานอาหาร เฉินซู่ก็ซักผ้าจนกลิ่นหอมฉุย ยังไงเธอก็รู้ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น เพราะอย่างนั้นทำให้ตัวเองทรมานน้อยลงก็ไม่ผิดอะไร
เหลยถิงลุกขึ้นจากรถเข็นทันทีที่เข้าห้อง เขาเดินเข้าไปทั่วห้อง เดี๋ยวก็มาทางนี้ สักพักก็ไปทางนั้น เฉินซู่เคยชินแล้ว ในใจก็คิดว่าหลายวันมานี้คงไม่ได้ลุกขึ้นยืนเลย คงจะอดกลั้นมาก
"เหอมู่หลินนัดเธอไปทำอะไร แล้วหลังจากนั้นคุยอะไรกับเธอบ้าง?"
"ฉันไม่ได้รายงานคุณไปแล้วเหรอ? เขาไปเข้าคลาสที่มหาวิทยาลัย ให้ฉันไปนั่งฟัง หลังจากกลับมาก็ไม่ได้คุยอะไรเลย" เฉินซู่พูดอย่างตรงไปตรงมา
เฉินซู่ไม่รู้ว่าครั้งนี้ที่เหลยถิงจากไปไกล ไม่ได้พาซีอิ่งไปด้วย เพราะให้อยู่ที่นี่จับตามองเธอ
"มีใจให้เขาหรือเปล่า?"
ที่แท้ก็ต้องการทดสอบเธอ เฉินซู่เองก็คิดอย่างจริงจังว่า "แม้ว่าเขาจะเข้าใจจิตใจผู้หญิงเป็นอย่างดี แต่มองก็รู้แล้วว่าไม่จริงจัง ฉันไม่ได้สนใจผู้ชายประเภทนี้หรอก"
"ไม่มีเลย? เธอกล้าพูกไหมว่าเธอไม่เคยคิดใช้เขาเพื่อจะหนีไปจากฉัน?" สีหน้าของเหลยถิงเย็นชาขึ้นทันที
เฉินซู่รู้สึกถึงความอันตราย "คุณให้ฉันไป ฉันก็ไป สิ่งเดียวที่ฉันคิดคือการช่วยคุณ จะใช้เขาเพื่อ? เขาที่เป็นผู้ชายเอาแต่ใจแต่ไม่รักใครสักคนเนี่ยนะ คุ้มที่จะเชื่องั้นเหรอ? คุณคิดว่าฉันโง่ขนาดนั้นเลยสินะ"
คำตอบของเธอช่วยขจัดข้อสงสัยของเหลยถิงออกไปได้ เหลยถิงนั่งลงบนโซฟาก่อนจะเหลือบมองหว่างขาของเขา "มานี่สิ"
เฉินซู่ค่อยๆ ปลดสายรัดกางเกงของเขาออกอย่างระมัดระวัง จากนั้นก็ค่อย ๆ ดึงลงมา
"อยู่ด้วยกันตั้งนาน ยังไม่คืบหน้าอีกเหรอ?" คำพูดของเหลยถิงขัดจังหวะการกระทำของเฉินซู่
เฉินซู่เองยังคิดว่าจะเรียนรู้จากผู้หญิงในภาพยนตร์หรือเรียนรู้กลอุบายเพิ่มเติมเพื่อเกลี้ยกล่อมเธอ แต่ท่าทางแบบนั้นเธอก็ไม่ไหวนะ เธอทำได้ก็แค่สวมพวกชั้นในแสนบางเท่านั้น
เธอแกะเสื้อผ้าตัวเองเผยให้เห็นเสื้อชั้นในสุดเซ็กซี่ที่เธอซื้อจากอินเทอร์เน็ต
นี่คือสิ่งที่เธอใช้เวลาคิดนานมาก เพราะกลัวว่าคนขายจะทำข้อมูลรั่วไหล เธอย้ำเตือนอีกฝ่ายว่าต้องบรรจุในกล่องอาหาร และตั้งกันสองชั้น แถมเธอยังใช้เถาเป่าปลอมอีกต่างหาก
ไหล่และเอวของเฉินซู่บิดไปคนละทิศคนละทางอย่างเย้ายวน
เหลยถิงที่เป็นคนเข้มงวด ไม่ว่าจะเผชิญอะไร เขาก็จะมีสติอยู่เสมอ แต่พอเฉินซู่มีท่าทางแบบนี้ เลือดในกายเขาก็พุ่งพล่าน จนแทบรอไม่ไหวที่จะกระทำเธอ
"แบบนี้คุณยังพอใจไหม?" เฉินซู่รวบผมขึ้นเผยให้เห็นคอหงส์เรียว ทุก ๆ ตารางนิ้วขาวนวลและมีเลือดฝาดจากความเขินอาย
เหลยถิงทนไม่ไหวแล้ว เขาอุ้มอีกคน จนเฉินซู่อุทานด้วยความตกใจ เขาโยนอีกคนลงบนเตียงจนบางส่วนของเฉินซู่เด้งไปมาทำให้เลือดเหลยถิงสูบฉีดเร็วขึ้น สติที่คอยระงับไว้ก็กระเจิงทันที
"วังโห้วจับตัวเธอตรงไหนบ้าง?" เขาจับผมของเฉินซู่อย่างแรง
เฉินซู่เอียงคอไปข้างหลัง เจ็บหนังศีรษะเล็กน้อย เหลยถิงออกแรงตรงโคนผมแต่กลับไม่ได้ดึงแรง
"เขาจับไหล่แล้วก็หลังของฉัน แต่ฉันทาน้ำพริกลงไป จนเขาไม่กล้าจับอีก" นัยน์ตาของเฉินซู่เองก็มีความซุกซนซ่อนอยู่
เหลยถิงกดจูบเธออย่างแรง
แต่ก่อนเขาจูบเธออย่างรำคาญ ทำไปเหมือนเครื่องตอกเสาเข็มที่แข็งทื่อ และบางครั้งเขาก็จะทำเบาๆ เมื่อเขารู้สึกสงสาร
เฉินซู่ที่ถูกเขากดจูบอย่างพายุที่โหมกระหน่ำ ก็นึกไปถึงครั้งแรกที่เจอผู้ชายคนนั้น เขาคนนั้นก็จูบเธอแบบนี้ ระหว่างที่ทั้งหวังทั้งปรารถนาและความพอใจ เฉินซู่ก็ได้เอาทั้งเหลยถิงและชายคนนั้นมาปะปนรวมกัน
เธอเองก็จูบตอบอย่างกระตือรือร้น ละทิ้งความเขินอายและความจองหอง เหลือไว้เพียงความผ่อนคลายและความเพลิดเพลิน
คืนนี้พวกเขาเข้ากันได้ดีแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย
เฉินซู่ตื่นขึ้นมาในวันรุ่งขึ้น มองรอยจูบที่อยู่ทั่วร่างของตัวเองในกระจก เธอคิดไว้ว่าหลังจากคืนนั้น เธอก็จะเป็นแบบนี้ แต่ว่ารอยจูบในวันนี้ทำเธอยิ้ม แต่วันนี้กลับทำเธอขมวดคิ้ว
ทำไมเธอถึงคิดว่าเหลยถิงเป็นคนไปได้ล่ะ?! นี่มันเป็นมลทินกับเขาคนนั้นในใจเธอนะ
เฉินซู่สังเกตเห็นเหลยถิงวันนี้ได้สวมนาฬิกาเรือนนั้น แถมยังมีสร้อยคอด้วย เธอไม่ได้สนใจจี้นั่น เขาใส่จี้นั่นไว้ในเสื้อก็ไม่ง่ายที่จะเห็น
"หลี่เทียนโซ่วเป็นคนที่ใช้ได้เลยนะ ครั้งก่อนเขาช่วยฉันไว้ ถ้าวังโห้วไปแล้ว คุณจะให้เขาเป็นผู้จัดการฝ่ายการเงินไหม?" เฉินซู่กล่าวถาม
"เธออยากแนะนำให้ฉัน?"
เฉินซู่ส่ายหัวแต่ก็พยักหน้า "เขาเป็นคนซื่อสัตย์ ไม่ใช่คนประเภทที่ชอบกดขี่ลูกน้องหรือเอาเปรียบเพื่อนร่วมงานหญิง ถ้าเขาสามารถเป็นผู้จัดการได้ อย่างน้อยชีวิตของเราก็น่าจะดีขึ้นมาหน่อย"
"ฉันรู้แล้ว"
เฉินซู่คิดว่าเรื่องจะต้องเป็นไปตามที่เธอคิดไว้ เธอไปทำงานอย่างรู้สึกดี เป็นครั้งแรกที่ไม่ได้ไม่ชอบที่ทำงานขนาดนั้น แต่…
เหลยถิงไม่ได้เลื่อนตำแหน่งหลี่เทียนโซ่ว แต่กลับหาคนใหม่มาแทนที่วังโห้ว
เมื่อผู้จัดการคนใหม่มา ทุกคนต่างก็ยืนอยู่ข้างนอกเพื่อฟังเขาแนะนำตัวและฟังเขาพูด เฉินซู่แอบมองหลี่เทียนโซ่ว และเขาก็ยังปกติเหมือนเดิม
เฉินซู่คิดไว้จริง ๆ ว่าถ้าหลี่เทียนโซ่วขึ้นมาเป็นผู้จัดการคนใหม่ เธอจะสามารถทำงานในแผนกการเงินได้อย่างราบรื่น มองอะไรก็จะง่ายขึ้น แต่ตัวเลือกของเหลยถิงกลับไม่ดีเท่าทีเธอต้องการ
ผู้จัดการคนใหม่ชื่อ เก๋อเจี้ยน ดูสไตล์เหมือนนักธุรกิจชั้นนำ ทันทีที่เพิ่งมาก็ดูค่อนข้างใจดี แต่เขาก็บอกถึงสไตล์การทำงานของเขาด้วย พูดย่อ ๆ คือเขาเป็นคนนิสัยดี แต่ทำงานได้โหดมาก
ในวันเดียวกัน ตอนเย็นกลับมาบ้าน เฉินซู่ก็เอาเสื้อชั้นในแสนเซ็กซี่ของเมื่อวานทิ้ง เพราะถึงยังไงเขาก็ไม่ยอมทำเรื่องให้ แล้วเธอจะประจบประแจงเขาไปเพื่อะไรด้วย?
เหลยถิงอดไม่ได้ที่จะนึกถึงรสชาติของเมื่อคืนและเขาก็รู้ว่าคืนนี้ผู้หญิงเอาใจคนนั้นคงไม่มีความสุข
"รู้ไหมว่าทำไมฉันถึงไม่ใชหลี่เทียนโซ่ว?"
บางครั้งผู้ชายก็ใช้ไม้แข็งในการขอมีอะไรกับผู้หญิงไม่ได้ แม้ว่าเหลยถิงจะตรงไปตรงมา แต่เขาก็เข้าใจความจริงข้อนี้
และเขาก็รู้ดีว่านิสัยเฉินซู่นั้นเป็นอย่างไร
"คุณจะใช้เขาหรือไม่ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับฉัน บริษัทเป็นของคุณอยู่แล้ว" เฉินซู่พยายามทำให้น้ำเสียงให้ฟังดูปกติ
"ไม่เกี่ยว? แล้วจะเป็นอะไร" เหลยถิงเปิดลิ้นชักในห้องแต่งตัว
เฉินซู่ถอนหายใจ ในนั้นมีของที่เธอซื้อทางออนไลน์ เธอรีบกระโดดขึ้นเตียงก่อนเลิกผ้าห่มขึ้น "เหนื่อยจังเลย ฉันนอนก่อนนะ"
"ตอนนี้บอกอยากนอน เร็วไปหน่อยไหม" เหลยถิงหยิบของที่เธอซื้อมาก่อนจะโยนลงบนเตียง "ฉันจะไปอาบน้ำ เธอเองก็แต่งตัวให้เสร็จ"
เฉินซู่หน้าแดง นี่มันใส่ยังไงล่ะ? นี่มันเสื้อชั้นในสุดเซ็กซี่ที่ซื้อ 1 แถม 1 เพราะงั้นเธอถึงกดไว้ด้านล่างสุดของกล่อง
เมื่อได้ยินเสียงน้ำหยุดลง เฉินซู่ก็ลุกมาถอดเสื้อผ้าจนหมด ก่อนจะสวมชุดนั่นอย่างกล้าหาญ ทันทีที่เหลยถิงออกมา เฉินซู่ที่อายจนอยากมุดหน้าหนีก็ปิดไฟอย่างประหม่า
เธอไม่เคยต้องอายขนาดนี้มาก่อนเลย
เหลยถิงเปิดโคมไฟข้างเตียง เลิกผ้าห่มขึ้น และเนื้อกายสีชมพูทำให้ลมหายใจเขาชะงัก
"คุณแน่ใจใช่ไหมว่าจะเอาแต่มองแล้วไม่ทำอะไรน่ะ?" เฉินซู่พลิกตัวนอนตะแคง มือรองใต้ศีรษะ ส่วนเว้าโค้งมีเสน่ห์จนน่าดึงดูด