เฉินซู่ทำผมของตัวเองให้ยุ่งเหยิงเล็กน้อย เธอเดินออกไป คว้าลูกบิดประตูแล้วพูดกับวังโห้วว่า "ถ้าคุณกล้าใส่ร้ายฉัน ให้ฉันขาดงาน ฉันจะวิ่งออกไปข้างนอกแล้วบอกว่าคุณลวนลามฉัน ฉันเสียแค่งานตำแหน่งเล็ก ๆ แต่ไม่รู้ว่าผู้จัดการวังคุณจะตกงานนี้ไปเลยหรือเปล่านะคะ"
วังโห้วตกใจมาก วินาทีก่อนเขายังคิดว่าตัวเองทำแผนชั่วสำเร็จแล้ว สาวสวยเช่นนี้ เอาเธอมาวางไว้ตรงหน้าให้เขาได้เชยชมทุกวัน เป็นเรื่องที่น่ายินดีเรื่องหนึ่งในชีวิต แต่เขาไม่คาดคิดมาก่อนว่า พนักงานแสนธรรมดาที่ดูอ่อนหวานว่าง่าย จะหันมาข่มขู่เขาได้
"เฉินซู่ เธอต้องคิดให้ดี ๆ นะ ชีวิตของเธอในแผนกการเงินต่อจากนี้จะเป็นยังไง ทั้งหมดมันก็ขึ้นอยู่กับฉันนะ" วังโห้วเผยท่าทางดุร้ายออกมา
"ถ้าคุณไม่ปล่อยฉันไปดี ๆ งั้นเราก็ตกนรกไปด้วยกันเลยดีกว่า" เฉินซู่พูดแล้วผลักประตู
วังโห้วปอดแหก "เดี๋ยวก่อน ๆ โอเค ยอมแล้ว ๆ เธอรอก่อน"
เฉินซู่ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ในที่สุดเธอก็ผ่านบททดสอบอย่างปลอดภัย เธอติดกระดุมใหม่ จัดการผมให้เรียบร้อย เธอเดินออกจากห้องทำงานของวังโห้ว วันนี้เธอก็ได้ทำโอที แต่นอกจากงานของเธอแล้ว เธอยังถูกคนอื่นใช้งานอีกด้วย
เธอรู้อยู่แล้ว ว่าเป็นวังโห้วบอกให้ใช้งานเธอ
ตอนนี้เธอได้แต่ก้มหน้าก้มตาทำงานไม่หยุดเท่านั้น
คุณสวี๋แอบเข้าไปในห้องทำงานของวังโห้วอย่างเงียบ ๆ "ผู้จัดการคะ คุณใส่ใจเฉินซู่มากขนาดนี้ ไม่แน่ว่าอาจจะมีคนอยู่เบื้องหลังเธอนะคะ คุณก็เห็นว่าความสามารถแบบนั้น จะเข้ามาในบริษัทเหลยของพวกเราได้ยังไง ต้องมีคนยัดเธอเข้ามาแน่นอน ยัดคนเข้ามาใต้จมูกของประธานเหลยได้ คนคนนี้ดูถูกไม่ได้เลยนะคะ"
"ฉันกลัวเขาสักที่ไหน กล้ามายั่วโมโหฉัน ฉันก็จะให้เธอรู้ผลที่ตามมา" วังโห้วขยำก้นของคุณสวี๋อย่างแรง "ฉันไม่สนหรอก เธอจะจัดการยัยนั่นให้ฉัน เอาให้หล่อนต้องมาอ้อนวอนฉันเลยนะ"
คุณสวี๋ก่นด่าหมูอ้วนตัวนี้ในใจ แต่ปากกลับต้องฝืนยิ้มหวานแล้วพูดว่า "แน่นอนค่ะ ผู้จัดการสบายใจได้เลยค่ะ"
เฉินซู่เข้าใจว่าตัวเองได้ตกลงในหลุมพรางขนาดใหญ่ในที่ทำงานเข้าแล้ว การทำให้คนตำแหน่งระดับสูงไม่พอใจก็หมายถึงช่วงเวลาที่ยากลำบากกำลังจะคืบคลานมา ซึ่งก็มีหลายคนที่ตกงานไปด้วยเหตุผลแบบนี้เช่นกัน
แต่เธอเสียงานนี้ได้ไม่ได้ เธอต้องทนรับมันให้ไหว
แผนกการเงินไม่ได้มีแค่ผู้จัดการของวังโห้วคนเดียวเท่านั้น แต่ยังมีรองผู้จัดการหลี่เทียนโซ่วที่เป็นคนดี แต่แผนกทั้งหมดอยู่ภายใต้การควบคุมของวังโห้ว อำนาจของหลี่เทียนโซ่วนั้นมีน้อยนิด ถ้าตำแหน่งเขาและวังโห้วสลับกันได้ หรือเพียงแค่เตะวังโห้วออกไป อย่างนี้ทุกคนก็น่าจะมีความสุข
เฉินซู่คิดว่า เธอต้องหาพันธมิตร
วันนี้ เฉินซู่กลับบ้านช้า เหลยถิงทานข้าวเรียบร้อยแล้ว เธอคิดว่าเหลยถิงจะอารมณ์เสียใส่เธอ แต่เขากลับไม่เป็นอย่างนั้น
เมื่อเธอทานข้าวเสร็จ ก็ล้มตัวนอนบนโซฟาด้วยความเหนื่อยอ่อน เธอไม่อยากทำอะไรทั้งนั้น กระทั่งอาบน้ำก็ยังไม่อยากอาบด้วยซ้ำ
"นายหญิง ฉันเตรียมน้ำไว้แล้วนะคะ คุณแช่ตัวสักหน่อย จะได้สบายตัวขึ้นนะคะ"
"ขอบคุณนะเสี่ยวอวี่" เฉินซู่ถอดเสื้อผ้าออกแล้วลงแช่ตัวในอ่างอาบน้ำ อุณหภูมิของน้ำที่กำลังพอดีโอบล้อมกล้ามเนื้อที่ปวดล้าของเธอ ทั้งยังความร้อนค่อย ๆ ซึมผ่านเข้ากระดูกของเธอ มันสบายมากจริง ๆ
เธอวางผ้าเช็ดตัวไว้ด้านหลังของหัว พิงอ่างอาบน้ำแล้วผล็อยหลับ
เหลยถิงเดินเข้ามา เห็นเธอนอนแช่อยู่ในอ่างอาบน้ำ อุณหภูมิของน้ำก็ลดลงมากแล้ว
เขาเปิดฝักบัว น้ำเย็นเฉียบสาดลงบนใบหน้าของเฉินซู่ เฉินซู่ตกใจ ร่างกายลื่นจมลงไปในอ่างอาบน้ำ น้ำเข้าไปจมูกและหูของเธอเต็มไปหมด เธอตะกายขึ้นมาจากน้ำโดยสัญชาตญาณ
เหลยถิงปิดฝักบัว เฉินซู่ก่ายอยู่บนขอบอ่างอาบน้ำแล้วไอออกมาชุดใหญ่ เธอสำลักน้ำในจมูกจนรู้สึกทรมาน ทั้งเจ็บทั้งปวดไปหมด
เธอมองไปที่เงาสูงใหญ่ตรงหน้า แล้วกำหมัดแน่น
"ตื่นหรือยัง?"
ทันใดนั้นเฉินซู่ก็โผเข้ามากัดต้นขาของเขา เบ้าตาของเธอแดงก่ำ ทั้งโกรธ ทั้งสำลักน้ำ
เหลยถิงจะขยับก็ขยับไม่ได้ เขาพบว่าตอนนี้เฉินซู่เหมือนแมวมากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อก่อนเธอก็กับสุนัขที่ต้องทำให้เชื่อง แมวน่าสนใจมากกว่าสุนัข นิสัยของแมวนั้นดุร้าย แล้วเขาก็ชอบนิสัยดุร้ายนั้นด้วย
ความโกรธของเฉินซู่ค่อย ๆ ลดลง แล้วฟันของเธอก็ไม่มีแรงอีกต่อไป เธอปล่อยขาของเหลยถิงอย่างช้า ๆ ยืดหัวขึ้นแล้วถามว่า "ฉันคิดว่าคุณจะตีฉัน"
ตีสุนัขมีประโยชน์ แต่ตีแมวไม่ใช่ เหตุผลนี้เหลยถิงเข้าใจดี เขายกคางของเฉินซู่ขึ้น ย่อตัวลง
"ฉันไม่ตีผู้หญิง แต่ฉันจะใช้วิธีที่โหดเหี้ยมกว่ามาบอกให้เธอรู้ว่าเมื่อกี้การกระทำของเธอมันโง่ขนาดไหน" เหลยถิงโหดร้ายป่าเถื่อนมาก
ริมฝีปากของเฉินซู่สั่นระริกอย่างห้ามไม่ได้ เธอรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป และเธอต้องหาทางรับมือ
เหลยถิงดึงเธอออกจากอ่างอาบน้ำ ห่อเธอด้วยผ้าขนหนูผืนใหญ่แล้วโยนเธอลงบนเตียง
เฉินซู่มีความสัมพันธ์กับเขาหลายต่อหลายครั้ง ทุกครั้งมีแต่ความรู้สึกไม่สบาย มีเพียงความเจ็บปวดและอึดอัดเท่านั้น ยกเว้นคืนนั้น นอกจากความเจ็บปวดในตอนเริ่มต้น ก็ยังความสุขอยู่ในตอนท้าย
เธอยังลองยอมรับเหลยถิง แล้วเธอก็พบว่าทุกครั้งที่เธอไม่ปฏิเสธหรือต่อต้าน เธอจะทุกข์ทรมานน้อยกว่า
เฉินซู่จ้องมองเขาไม่ขยับเขยื้อน ดวงตาฉ่ำน้ำเต็มไปด้วยความหวาดกลัว แล้วก็ต้องทำเป็นสั่นกลัวด้วย เธอก็ไม่รู้ว่าใครเคยบอกกับเธอว่า ผู้ชายแพ้ผู้หญิงตอนที่แสดงความอ่อนแอ และตอนนี้เธอก็กำลังแสดงความอ่อนแอออกมา
เหลยถิงบีบจมูกที่แดงก่ำของเธอ และขูดสันจมูกของเธอ เฉินซู่ก้าวถอยหลัง จ้องไปที่เขาอย่างตกตะลึง
เขายังคงไม่ได้เล้าโลม แต่ในครั้งนี้ เฉินซู่ไม่รู้สึกเจ็บ เธอรู้สึกว่าการกระทำของเหลยถิงนั้นเบากว่าเมื่อก่อน ดูเหมือนจะมีอะไรแตกต่างไปเล็กน้อย
"กอดฉันไว้" น้ำเสียงของเขาก็ยังคงแข็งกระด้างเหมือนเดิม
เฉินซู่เหยียดแขนที่ขาวราวกับหิมะทั้งสองข้างคล้องรอบคอที่มีเส้นเลือดสีเขียวนูนขึ้นมาของชายหนุ่มอย่างว่าง่าย เหลยถิงก้มลงมองร่างกายของพวกเขาที่แนบชิดกัน ผิวขาวตัดกับผิวสีเข้ม เพียงแค่มองเพียงครั้งเดียวก็กระตุ้นให้เลือดลมสูบฉีด
เหลยถิงค่อย ๆ พบความสุขจากร่างกายของเฉินซู่ เขาไม่รู้สึกเบื่ออีกต่อไป ทั้งยังคิดจะเพิ่มเวลาในคืนนี้ให้ยาวนานขึ้น เขารู้สึกว่าร่างกายของเฉินซู่มีเนื้ออยู่น้อยนิด ดูเหมือนว่าเขาจะลุ่มหลงในร่างกายของเธอไปแล้ว
เฉินซู่เพิ่งจะผ่าตัดเสร็จ ก็ถูกพลิกไปพลิกมาอยู่ครึ่งค่อนคืน จึงรู้สึกเจ็บท้องน้อย เธอขดตัวอยู่บนเตียง เอามือกุมท้องตลอด รู้สึกไม่สบายตัวยิ่งกว่าตอนมีประจำเดือน
เหลยถิงขมวดคิ้ว โทรเรียกหมอประจำครอบครัวให้มาทันที หมอที่ถูกเรียกมาแต่เช้าตรู่จ่ายยาให้กับเฉินซู่ ถือโอกาสกำชับว่าอย่ามีเซ็กส์มากเกินไป
เฉินซู่หน้าแดงก่ำ เธอก้มหน้าไม่กล้าพูดอะไร แต่เหลยถิงที่นั่งอยู่ในรถเข็นกลับไม่สะทกสะท้าน
หลังจากทานยาแล้ว เฉินซู่มองไปที่เหลยถิง "ทำไมวันนี้คุณใจดีจัง"
"ฉันแค่ไม่อยากให้ใครมารบกวนเวลานอนของฉัน" เหลยถิงคลุมผ้าห่มไว้บนตัว พลิกตัวแล้วผล็อยหลับไป
เฉินซู่รู้สึกว่าแผนการแสร้งทำเป็นน่าสงสารนั้นได้ผลแล้ว ดูเหมือนว่าผู้ชายเป็นพวกทำดีด้วยแล้วใจอ่อน
หลายวันต่อมา เฉินซู่ถูกบริษัทใช้งานหนักจนเหนื่อยหอบราวกับสุนัข ดูเหมือนทั้งสำนักงานจะพุ่งเป้ามาที่เธอมาชั่วขณะ เฉินหร่านก็อยู่ในสถานการณ์เดียวกันเช่นกัน
เสี่ยวจั่วเคยเห็นเฉินหร่านแค่สองครั้ง แล้วเฉินหร่านเย็นชากับเขามาก เขาถึงรู้ได้ว่าเฉินหร่านเขี่ยเขาทิ้งแล้ว เขาพูดในแผนกกฎหมายลับหลังว่า "เมื่อก่อนยังเรียกพี่เสี่ยวจั่วอยู่เลย ตอนนี้ไม่สนใจไยดีกันสักนิด เหอะ ผู้หญิงนี่นะ"
เฉินหร่านไม่ได้ยินเรื่องซุบซิบพวกนี้ ทุกวันเธอทำงานยุ่งมาก แทบทุกวันที่เธอกลับไปร้องไห้คร่ำครวญว่าตัวเองตอนอยู่ที่บริษัทน่าสงสารมากขนาดไหน
เธอช่างน่าสงสารจริง ๆ ไม่ใช่แค่งานเยอะ เธอยังถูกนินทา แถมยังแกล้งตลอดด้วย
MANGA DISCUSSION