เวลาผ่านไปอย่างดวงจันทร์ - ตอนที่ 42 เขาแผนสูงมากขนาดไหน
เฉินซู่เกาหน้าผาก "เดี๋ยวฉันจะโทรหาเฉินจินซาน บอกว่าเรื่องนี้ทำไม่ได้ ฉันไม่เห็นด้วยก็แล้วกัน"
แบบนี้เหลยถิงถึงจะควบคุมอารมณ์ของตัวเองไว้ได้
วันนี้เฉินซู่ซื้อชุดและกระเป๋าเพิ่มอีกอย่างละหนึ่ง ทำให้เฉินจินซานเสียเงินไปไม่น้อย แต่เธอก็ทำงานไม่สำเร็จ แล้วเขาก็เธอก็โทษไม่ได้ เธอไปบอกปฏิเสธเฉินจินซานอย่างไร้กังวล โยนความผิดทั้งหมดให้กับเหลยถิง
เฉินจินซานทำอะไรเธอไม่ได้ จึงได้โกรธจนหน้าบูดบึ้ง
ทางด้านเฉินซู่เธออยู่จามหลายครั้ง ใช้นิ้วแม่เท้าคิดก็ยังรู้ว่าใครกำลังนินทาเธออยู่
"นายหญิงคะ นี่คุณกำลังทำอะไรอยู่เหรอคะ" ฮวาจือมองเฉินซู่ที่กำลังยุ่งอยู่ในครัวด้วยความอยากรู้อยากเห็น
"คุกกี้น่ะ"
ฮวาจือขมวดคิ้ว "คุกกี้ไม่ได้ทำแบบนี้นะคะ"
"นี่เป็นสูตรที่ฉันปรับเองน่ะ" เฉินซู่ยิ้ม "แม่ของฉันเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย มีแต่โรครุมเร้า กินของหวานไม่ได้ ฉันเลยทำคุกกี้ข้าวเหนียว ไม่ใส่น้ำตาล"
"นายหญิงคุณเก่งมากเลยค่ะ ฝีมือทำอาหารของคุณเรียนจากพ่อครัวทั้งหมดเลยไหมคะ?"
"ไม่ใช่หรอก ฉันดูวิธีการทำบนอินเทอร์เน็ตเองน่ะ พอกลับบ้านก็มาคิด แล้วลงมือทำ ทั้งหมดก็เป็นอาหารที่ธรรมดามากเลย" เฉินซู่วางคุกกี้ลงในเตาอบ
ฮวาจือรออยู่ข้าง ๆ ดูเธอกังวลมาก ผ่านไปแป๊บเดียวก็ถามเฉินซู่อีกครั้งว่าคุกกี้ได้หรือยัง
"ถึงเวลาแล้วที่เธอจะเข้าครัวแล้ว คนตะกละ" เฉินซู่ยิ้ม
"พี่สาวบอกว่าฉันเป็นนักกิน แม่ก็บอกว่าฉันเป็นถังข้าว คนอื่น ๆ เวลากินก็จะเลือกกิน ส่วนฉันกินอะไรก็ได้ แต่ถ้าเป็นของอร่อยจะกินได้เยอะกว่าค่ะ" ฮวาจือยิ้มหวานให้กับเฉินซู่ "นายหญิง คุณเป็นคนดีมาก เข้าถึงง่าย แถมยังใจดีมาก พี่สาวฉันโชคดีจริง ๆ แล้วก็พาฉันมาโชคดีด้วย"
"ฉันดูแล้วเธออยากจะประจบฉัน กินคุกกี้อีกสองอันสินะ" เฉินซู่มองดูเวลา แล้วหยิบคุกกี้ออกมา "ฉันจะเอาไปบ้าง แล้วก็จะเหลือไว้บ้าง เธอกับพี่สาวจะได้เอาไว้ทานเป็นของว่างตอนดึก"
"ขอบคุณค่ะนายหญิง" ฮวาจือมีความสุขมาก
เฉินซู่ขึ้นไปชั้นบนพร้อมกับคุกกี้ เหลยถิงอยู่ในห้องอ่านหนังสือ ขาของเขาทั้งสองข้างยืดตรงยืนอยู่หน้าชั้นวางหนังสือ เมื่อมองที่แผ่นหลังของเขา ก็รู้สึกว่าช่างสูงใหญ่บึกบึน
"มาทานอาหารว่างมื้อดึกเถอะ ไม่หวานด้วย คุณน่าจะชอบนะ"
เหลยถิงหันกลับมา ในมือถือหนังสืออยู่ เขาเหลือบมองจานในมือของเฉินซู่ "ฉันไม่กินคุกกี้"
"จะไม่ชิมจริงเหรอ? เพิ่งเอาออกมาจากเตา ยังร้อนอยู่เลยนะ" สีหน้าเฉินซู่แสดงออกเหมือนกับถ้าคุณไม่กินจะเสียใจทีหลังนะ
เหลยถิงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เขาอยากจะชิม แต่เมื่อกี้เพิ่งบอกไปว่าจะไม่กิน ถ้าเขาชิมตอนนี้ จะไม่กลืนน้ำลายตัวเองเหรอ?
เฉินซู่วางคุกกี้วางไว้ข้างถ้วยกาแฟ "ถ้าหิวก็ชิมได้นะ ถ้าไม่หิวก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวอีกแป๊บฉันมาเก็บจานนะ"
หลังจากที่เฉินซู่เดินจากไป เหลยถิงยังคงอ่านหนังสือต่อไป แต่สายตาของเขาจ้องมองไปที่คุกกี้ไม่หยุด หน้าตาของมันดูไม่ค่อยสวยงามนัก แต่ไม่รู้ว่าทำไม เขากลับอยากกินมัน
เขาหยิบคุกกี้ขึ้นมากัดหนึ่งคำ หลังจากพยักหน้าแล้วก็กินต่อไป ไม่นาน คุกกี้ทั้งจานก็ถูกเขาเขมือบลงท้องไปจนหมด ตอนที่เขาจะยื่นมือไปหยิบอีก ในจานก็ว่างเปล่าแล้ว เหลือเพียงเศษคุกกี้อยู่เท่านั้น
เฉินซู่เห็นเหลยถิงเดินออกมาจากห้องอ่านหนังสือ เธอก็ไปเก็บจาน เมื่อเธอเห็นว่าจานสะอาดเอี่ยม มุมปากของเธอก็กระตุกรอยยิ้มขึ้น
กินของคนอื่นไปย่อมต้องจ่ายค่าตอบแทน เหลยถิงกินอาหารของเธอ เขาก็ต้องมีของตอบแทนให้เป็นธรรมดา
เฉินหร่านไม่มีความสุขที่ทำงานในแผนกกฎหมาย ย้ายไปแผนกธุรการก็จะยิ่งไม่มีความสุขเข้าไปอีก ในแผนกนั้นเป็นผู้หญิงเกือบทั้งหมด และที่ใดมีผู้หญิง ที่นั่นก็มีพวกปากหวานก้นเปรี้ยวมากมาย ชุดของเฉินหร่านนั้นค่อนข้างฮิตในกลุ่มคนอายุเดียวกัน แต่ในกลุ่มผู้หญิงที่โตแล้ว มันกลับจะทำให้สร้างศัตรูเพิ่มขึ้นมากเท่านั้น
ดังนั้น เฉินซู่จะให้เฉินหร่านได้สมหวังอย่างแน่นอน
"ฉันโทรหาเฉินจินซานแล้ว ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้พูดจาแย่ ๆ ใส่ แต่พูดตามจริงพวกเราไม่ใช่แบบนั้น ฉันเป็นภรรยาของคุณเรื่องนี้ก็เปิดตัวไปแล้ว หลี่หรงภรรยาของเฉินจินซานเธอเป็นพวกปากมากขี้นินทา ถ้าเธอพูดเรื่องไม่ดีเกี่ยวกับพวกเราออกไป ฉันกลัวว่ามันจะกระทบต่อชื่อเสียงของคุณ" เฉินซู่พูดกับเหลยถิง
"เธออยากให้เฉินหร่านมาอยู่ใกล้ฉันงั้นเหรอ?"
เฉินซู่รีบส่ายหัว "ไม่ใช่อย่างแน่นอน ถ้าเฉินหร่านอยากไปที่แผนกธุรการปล่อยเธอไปเถอะ ไม่ว่าเธอจะพยายามหนักแค่ไหน ก็ปีนขึ้นไปตำแหน่งเลขานุการของคุณไม่ได้หรอก"
เหลยถิงไม่ได้พูดอะไร เฉินซู่รู้สึกว่าเรื่องนี้น่าจะมีโอกาสห้าสิบห้าสิบที่จะสำเร็จ
สองวันต่อมา เฉินจินซานไม่เพียงส่งวีแชทมาหาเฉินซู่ เขาทั้งโทรหาเธอ เพื่อให้เธอไปเกลี้ยกล่อมเหลยถิงอีกครั้ง เฉินซู่คาดเดาว่า เป็นเฉินหร่านที่กดดันที่บ้านอย่างหนัก เฉินจินซานถึงมารบเร้าเธอครั้งแล้วครั้งเล่า
ตอนทานอาหารเที่ยง เฉินซู่เป็นฝ่ายเดินไปนั่งโต๊ะเดียวกับเหลยหย่า
เหลยหย่าเหลือบมองเฉินหร่านและเสี่ยวจั่วที่อยู่ไม่ไกล พูดกับเฉินซู่ว่า "เธอเห็นไหม? จับพี่ชายของฉันไม่สำเร็จ เธอเลยเริ่มลงมือกับเพื่อนร่วมงานผู้ชายแล้ว"
"จริงเหรอ? บางทีอาจเป็นแค่ความสัมพันธ์แบบเพื่อนร่วมงานทั่วไปก็ได้นะ? แผนกของพวกเราก็มีผู้หญิงกับผู้ชายก็นั่งทานข้าวด้วยกันเยอะแยะ"
"เธอไม่รู้จักเฉินหร่านดี" เหลยหย่ากระตุกยิ้มอย่างเหยียดหยาม "ถ้าเอาชนะใจเพื่อนร่วมงานหลายคนไม่สำเร็จ ก็จะเลือกลงมือกับชายหนุ่มที่ยังไม่แต่งงานโดยเฉพาะ เสี่ยวจั่วที่เป็นแบบนั้น เธอก็ยังลงมือได้ เธอมันหิวแล้วกินไม่เลือกจริง"
"งั้นคนในแผนกก็ไม่ชอบเธอมากเลยใช่ไหม" เฉินซู่กลั้นยิ้ม
"เธอว่าไงนะ? ถ้าเธอตั้งใจทำงาน ทั้งแผนกไม่ถึงกับไม่ชอบเธอกันหมดหรอก แต่ใครใช้ให้เธอแอบทำอะไรลับหลัง อยากจับพี่ชายของฉันกันล่ะ" เหลยหย่าพ่นลมออกจากจมูก "ตอนทานข้าว ยังมีเวลาโปรยเสน่ห์ เห็นแวบแรกก็ดูรู้ว่างานคงจะเยอะไม่พอ"
เฉินซู่รู้สึกกังวล เด็กใหม่นั้นอยู่ยากจริง ยิ่งเป็นเด็กใหม่ที่มีแต่คนไม่ชอบนั้นยากยิ่งอยู่ยากกว่า น่าเสียดายที่เฉินหร่านเรียนรู้ทักษะการลื่นเป็นปลาไหลจากเฉินจินซานมา แต่กลับใช้ไม่ได้ ในบริษัทเหลย
"ฉันไม่ทานต่อแล้ว มองเธอแล้วทานไม่ลง" เหลยหย่าวางช้อนลง แล้วเดินไปเคาะที่โต๊ะของเฉินหร่าน เฉินหร่านทำหน้าไม่พอใจ วางช้อนลงแล้วเดินไปกับเหลยหย่า
เฉินซู่รู้สึกมีความสุขในใจไปชั่วขณะ เฉินหร่านเป็นแบบนี้ ทุกวันกลับบ้านไปร่ำไห้กับเฉินจินซานแน่นอน ลูกสาวที่รักของตัวเองถูกรังแกในที่ทำงาน อีกทั้งตัวเองยังช่วยอะไรไม่เลยสักนิด ในใจเฉินจินซานจะมีความสุขได้ยังไง?
ตราบใดที่พวกเขาไม่มีความสุข ในใจของเฉินซู่ก็รู้สึกสุขใจเป็นอย่างมาก
ไม่เกินสองวัน เหลยถิงก็ย้ายเฉินหร่านไปที่แผนกธุรการ เฉินจินซานโทรมาขอบคุณเฉินซู่ เขายังบอกด้วยว่าเดี๋ยวจะถึงช่วงเทศกาลแล้ว เขาจะไปไหว้แม่ของเฉินซู่
เฉินหร่านก็ยังส่งวีแชทมาขอบคุณเฉินซู่ ในใจของเฉินซู่คิดคำสองคำขึ้นมา ปลอมเปลือก
แต่ว่า เธอก็รอข่าวดีว่าเฉินหร่านถูกรังแกในแผนกธุรการอยู่
แล้วก็ยังมีเสี่ยวจั่ว…ที่เป็นหมากที่ใช้ประโยชน์ได้ไม่เลวนั้นอีก
พอเฉินหร่านถูกย้ายไป เหลยหย่ามาหาถึงบ้าน "พี่ ทำไมพี่ถึงย้ายเฉินหร่านออกไปล่ะ ระยะเวลาทดลองงานที่แผนกกฎหมายยังไม่ครบเลยนะ"
"บริษัทต้องการแบบนั้น"
"แค่เพราะว่าเธอเป็นลูกสาวของเฉินจินซาน เธออยากไปแผนกไหนก็ได้งั้นเหรอ?" เหลยหย่าพูดอย่างโกรธเคือง "ฉันก็ยังเป็นน้องสาวของพี่อยู่นะ!"
"แล้วเธออยากไปแผนกไหนล่ะ?" คำถามนี้ของเหลยถิง ทำเอาเหลยหย่าพูดไม่ออก
ตอนแรกเป็นเธอที่เลือกแผนกกฎหมายเอง เพราะสิ่งที่เธอเรียนคือกฎหมาย สิ่งที่ชอบก็คือกฎหมาย เพียงแต่ว่าเรียนไม่เก่งเท่านั้นเอง
"พี่ทำตามใจเธอแบบนี้ไม่ได้นะ เฉินจินซานมีอะไรดีนักหนา ไม่ใช่แค่ช่วยบริษัทเหลยทำธุรกิจตามที่สั่งงั้นเหรอ? เขาก็ขี้ประจบไม่ต่างจากหมาปั๊ก ถ้าไม่พึ่งพาบริษัทเหลยช่วยเหลือ เขาจะเอาตัวรอดจนถึงตอนนี้ได้ไหม?"
เหลยหย่าจับแขนของเหลยถิงพูดอย่างออดอ้อนขึ้นว่า "พี่ พี่ใจดีมากแค่ไหนแล้วที่ให้เฉินหร่านมาที่แผนกของฉัน มีฉันจับตาดูเธอแทนพี่ ไม่ให้เธอก่อเรื่อง ทำไมพี่ถึงเอาเธอเข้าไปที่…พี่ พี่คงไม่ได้ชอบเธอใช่ไหม?"