สัปดาห์ต่อมา เฉินซู่ก็เหมือนกำลังเดินอยู่บนน้ำแข็งบางๆ เธอรู้ว่ามีคนคอยเฝ้าดูเธออยู่ เวลาทำอะไรก็ดูไม่เป็นธรรมชาติเลย
เวลาอยู่บริษัท ถ้าเธอสงบจิตสงบใจที่ทำงานก็จะไม่นึกถึงชายลึกลับคนนั้นไปสักพัก แต่เวลาที่เธออยู่คนเดียว เธอก็ไม่รู้ว่าควรจะทำท่าทางอะไรดี
เหมือนกับเล่นละครเวทีเลย
เหอฮุ้ยหมิงโทรหาเฉินซู่ เฉินซู่ที่กำลังประชุมอยู่ก็กดวางสายก่อนจะส่งข้อความหาเธอ แต่เหอฮุ้ยหมิงก็ยังโทรมา
เฉินซู่เลยต้องออกจากห้องประชุมไปอย่างเงียบๆ ทันทีที่รับสาย เหอฮุ้ยหมิงก็รีบพูดอย่างกังวลทันที: "ซู่ซู่ ช่วยด้วย ฉันอยู่ชั้นล่างของบริษัทเธอน่ะ เธอต้องลงมาเจอฉันเดี๋ยวนี้เลยนะ"
"มีเรื่องด่วนอะไรขนานั้นน่ะ ตอนนี้ฉันกำลังประชุมอยู่น่ะสิ ขอเวลาอีกนิดได้ไหม?"
"ไม่ได้ หนึ่งนาทีก็ไม่ได้"
น้อยครั้งที่เฉินซู่จะเห็นเหอฮุ้ยหมิงกังวลขนาดนี้ เธอเหลือบมองที่ห้องประชุมและคิดในใจ: ให้ตายก็ตายแล้วกัน
เธอกำโทรศัพท์แน่นแล้วแอบออกไป
เธอรีบลงไปชั้นล่าง และเมื่อเธอเห็นเหอฮุ้ยหมิงอยู่ด้านล่าง เธอก็วิ่งเข้าไป "นี่คุณหญิง สรุปมีเรื่องอะไรน่ะ?"
"ซู่ซู่ ช่วยด้วย แฟนของฉันเพิ่งมาหาบริษัทเหลยของเธอน่ะสิ จะปรึกษากับเหลยถิงเกี่ยวกับงานเลี้ยงอาหารค่ำในคืนพรุ่งนี้ ฉันอยากให้เธอช่วยหยุดเขา"
"ตอนนี้เนี่ยนะ?"
"ตอนนี้เนี่ยแหละ" เหอฮุ้ยหมิงพยักหน้า
เฉินซู่ขมวดคิ้ว "ถ้าอย่างนั้นทำไมไม่พูดทางโทรศัพท์ล่ะ? ฉันไปหาเขาเลยไม่ดีกว่าหรือไง?"
"นั่นน่ะสิ" เหอฮุ้ยหมิงเกาผมหยิกยาวเป็นลอนของเธอ
"เธอ…เธอรอเดี๋ยวนะ เดี๋ยวฉันมาคิดบัญชีทีหลัง เธอบอกฉันมาว่าผู้ชายที่อยู่บนนั้นคนไหนคือแฟนของเธอ ชื่ออะไรแล้วก็หน้าตาเป็นยังไงด้วย"
เหอฮุ้ยหมิงเม้มปากก่อนจะพูด "มีเยอะที่ไหนกันล่ะ ตอนนี้มีแค่คนเดียว เป็นผู้จัดการภายใต้การดูแลของพ่อฉันน่ะ เขาเป็นคนตรงไปตรงมา หน้าตาก็…"
"แล้วชื่ออะไรล่ะ!" เฉินซู่กำลังจะโกรธผู้หญิงคนนี้แล้วจริงๆ
"ว่านเสวียหลี่"
เฉินซู่หันหลังก่อนจะวิ่งไป วิ่งไปทางห้องทำงานของเหลยถิง เธอวิ่งไปถึงทางเลขานุการและถามว่าว่านเสวียหลี่ได้มาหรือเปล่า
"คุณคือ…"
"ฉันมาจากแผนกการเงินน่ะค่ะ ขอร้องล่ะบอกฉันที ฉันมีเรื่องด่วนจริงๆน่ะค่ะ" เฉินซู่ทำท่าพนมมือ
เลขานุการส่ายหัวด้วยรอยยิ้มตามมาตรฐาน
เฉินซู่แอบรำคาญ เธอไม่น่าพูดว่าเธออยู่แผนกการเงินเลย เธอมาเดินหน้าห้องทำงานเหลยถิง ในใจก็คิดว่าว่านเสวียหลี่ได้เข้าไปแล้วหรือยัง
เธอโทรหาเหอฮุ้ยหมิง "ฮุ้ยหมิง ทำไมเธอไม่โทรหาแฟนของเธอแล้วบอกว่าอย่าไปหาเหลยถิงล่ะ?"
"เขาไม่รับสายนี่นา ฉันไม่ได้โง่ขนาดนั้นซะหน่อย" เหอฮุ้ยหมิงพูดอย่างขุ่นเคือง
เฉินซู่กุมขมับอย่างช่วยไม่ได้ "รอเดี๋ยวนะ ฉันหาวิธีก่อน"
เฉินซู่วางสายก่อนจะมองไปรอบๆ ถ้าตอนนี้ว่านเสวียหลี่เข้าไปแล้ว งั้นเธอก็ทำได้แค่เอาใจช่วย แต่ถ้ายัง เธอก็รออยู่ตรงประตู มาตอนนี้ นางคงทำได้เพียงช่วยเธอ หากเธอยังไม่เข้าไป เธอก็รอตรงหน้าประตูนี้
ทันใดนั้นก็มีเสียงออกมาจากห้องน้ำ เฉินซู่เหลือบมองชายร่างสูงที่มีผิวสีเข้มเล็กน้อยที่ออกมาจากด้านใน เดินไปก็มองชุดสูทตัวเองไป สีหน้าของเขาดูแย่ที่ดูเหมือนจะมีรอยเปื้อนที่กำจัดไม่ได้
เดี๋ยวนะ เหอฮุ้ยหมิงพูดว่าอะไรนะ แฟนของเธอดูเอ๋อๆ…
ผู้ชายคนนี้ดูเอ๋อๆ ไม่ใช่เหรอ?
"ว่านเสวียหลี่?" เฉินซู่ส่งเสียงเรียก
จู่ๆ ชายคนนั้นก็เงยหน้าขึ้นแล้วชี้ไปที่ตัวเอง "คุณผู้หญิงเรียกผมงั้นเหรอครับ?"
สุดท้ายก็ใช่จริงด้วย เฉินซู่ก็รีบเข้าไปทักทายทันที "เหอฮุ้ยหมิงขอให้ฉันมาน่ะค่ะ เธอเป็นแฟนของคุณใช่ไหมคะ"
ทันใดนั้นเขาก็ตื่นตระหนกเล็กน้อย "คุณอย่าพูดไร้สาระสิ ฮุ้ยหมิงไม่ใช่…คุณหนูเหอไม่ใช่แฟนของผมหรอกครับ"
เฉินซู่อยากจะหัวเราะ คนๆ นี้โกหกไม่เป็นด้วยซ้ำ "ฉันเป็นเพื่อนสนิทของเหอฮุ้ยหมิงน่ะค่ะ คุณไม่จำเป็นต้องปิดบังฉันหรอก เธอขอให้ฉันขึ้นมาห้ามไม่ให้คุณเจอท่านประธานเหลยน่ะค่ะ ยังมีอีกนะคะ ทำไมโทรศัพท์มือถือคุณถึงโทรไม่ได้ล่ะคะ เธอหาคุณไม่เจอน่ะค่ะ"
ว่านเสวียหลี่หยิบโทรศัพท์ออกมา หน้าจอว่างเปล่าไร้การตอบสนอง "ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกัน ผมว่าผมชาร์จมาเต็มแล้วนะ"
"ช่างเถอะค่ะ คุณยังไม่ได้เจอท่านประธานเหลยใช่ไหมคะ?"
"ยังเลยครับ ทันทีที่มาผมก็เกิดอยากเข้าห้องน้ำน่ะครับ"
เฉินซูยื่นโทรศัพท์ให้เขาและบอกให้คุยกับเหอฮุ้ยหมิง เหอฮุ้ยหมิงไม่พูดพร่ำทำเพลงก่อนจะบอกให้เขารีบลงไปข้างล่าง เขากำลังจะลงไปอย่างรวดเร็วจนเกือบลืมคืนโทรศัพท์ให้เฉินซู่
เมื่อนึกถึงการประชุมที่แผนกการเงิน เฉินซู่ก็รีบกลับไปโดยหวังว่าผู้จัดการจะไม่เห็นว่าเธอแอบหนีออกมา
ใครจะรู้ว่าทันทีที่เข้าไปก็เจอเข้ากับคุณสวี๋ทันที
"เธอรีบไปห้องทำงานของผู้จัดการเถอะ เมื่อกี้เธอออกไปก่อนเวลา เขาเลยโกรธมากน่ะ" คุณสวี๋หันมาก็พูดอย่างมีความสุขบนความทุกข์ของคนอื่น
"เข้าใจแล้วค่ะ ขอบคุณค่ะคุณซวี๋" เมื่อเฉินซู่นึกถึงร่างอ้วนของผู้จัดการวังกับใบหน้าอูม เธอก็ไม่อยากจะรับมือด้วยแล้ว แต่ก็ทำไม่ได้
เธอเคาะประตูห้องผู้จัดการวังอย่างใจจดใจจ่อ
"เธอมาพอดี ฉันกำลังตามหาตัวเธออยู่เลย" ผู้จัดการวังลุกขึ้นยืนและปิดประตู "เธอว่าเธอเพิ่งมาที่บริษัทไม่กี่วัน การตรวจสอบครั้งก่อนเธอก็นอนบนโต๊ะ ฉันก็ได้เตือนเธอไปแล้วนะ ครั้งนี้ประชุมเธอก็ออกไปก่อน ถ้าเธอไม่อยากทำ ประตูใหญ่ของบริษัทเหลยก็อยู่ชั้นล่างนี่เอง เธอเดินออกไปสิ"
"ฉันไม่ได้ตั้งใจจะออกก่อนนะคะ" เฉินซู่ปกป้องด้วรีบอธิบายด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา
"ไม่ได้ตั้งใจงั้นเหรอ เธอออกไปก่อนได้เหรอ? เดี๋ยวทีหลังคนก็หาเหตุผล ก็ไม่ต้องประชุมกันแล้ว?" ผู้จัดการวังมีเหตุผลที่จะพูดหักล้างเฉินซู่อยู่เสมอ
เฉินซู่เลิกดิ้นรนและขอโทษอย่างไม่ลืมหูลืมตา "ครั้งหน้าฉันจะไม่ทำแล้วค่ะ แม้ว่าจะมีเรื่องใหญ่แค่ไหน ฉันก็จะไม่ออกไปก่อนค่ะ ผู้จัดการคะ ฉันรู้ว่าฉันทำผิดค่ะ"
"เธอก็พูดได้น่ะสิ ถ้ามีอีกครั้ง เธอก็ออกไปเลย" ผู้จัดการวังเตือนเฉินซู่ก่อนจะโบกมือให้เธอ "มานี่สิ มาดูบัญชีของเดือนก่อนที"
เฉินซู่เดินไปที่คอมพิวเตอร์ของเขา เขาขยับร่างอ้วนไปที่ด้านข้างของเฉินซู่ก่อนจะพูดว่า "เข้ามาใกล้อีกหน่อยสิ แบบนั้นแล้วจะไปเห็นชัดได้ยังไงกันล่ะ"
"ได้ค่ะ ฉันไม่ได้สายตาสั้นน่ะค่ะ มองเห็นชัดเลยค่ะ" เฉินซู่ยิ้ม
ทันทีที่เขายกแขนชี้ไปที่หน้าจอ ข้อศอกของเขาจะไปโดนสะโพกของเฉินซู่ เธอเขยิบไปอีกด้าน เขาก็พูดขึ้นอีกครั้ง: "เธออยู่ไกลขนาดนั้นแล้วเห็นจุดทศนิยมของตัวเลขเหรอ? เข้ามานี่สิ ฉันจะอธิบายให้เธอฟัง วันหลังเธอต้องทำเองนะ"
"ได้ ได้ค่ะ" เฉินซู่โน้มตัว มือหนึ่งค้ำโต๊ะเอาไว้ มีช่องว่างให้ผู้จัดการวังให้ยกแขนขึ้นพอดี
ผู้จัดการวังนั่งตัวตรงและมองไปที่คอเสื้อที่เปิดเล็กน้อยของเฉินซู่ เฉินซู่ก็รีบชี้ไปถามตรงตัวเลขบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ "ตรงนี้คืออะไรเหรอคะ?"
ผู้จัดการวังกำลังจะอธิบาย เฉินซู่ก็ฉวยโอกาสดึงเสื้อผ้าขึ้น ถึงตอนนี้เธอจะเห็นชัด ถึงการจัดการของบริษัทเหลยจะเข้มงวด แต่ก็ยังมีคนที่ไม่ดีอยู่ดี
ในที่สุดก็ดูบัญชีของเดือนที่แล้วเสร็จ เหมือนเฉินซู่กำลังต่อสู้กับกองโจรอยู่เลย เธอออกจากห้องทำงานของผู้จัดการและไปที่ห้องน้ำเพื่อเช็ดบริเวณที่เธอถูกผู้จัดการวังสัมผัสด้วยผ้าขนหนูเปียก
"เฉินซู่ เธอกำลังทำอะไรน่ะ?" คุณซวี๋เห็นท่าทางเธอก็ถามอย่างประหลาดใจ
เฉินซู่ตอบออกไป "ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ฉันเผลอทำให้เสื้อผ้าเปื้อนน่ะค่ะ เช็ดนิดหน่อยก็สะอาดแล้วค่ะ"
คุณซวี๋เม้มริมฝีปากก่อนจะยิ้ม "มีคนลวนลามเธอหรือเปล่า?"
MANGA DISCUSSION