"นายหญิงคะ" เสี่ยวอวี่เรียก
เสี่ยวเตี๋ยฉวยโอกาสฟ้องก่อน "นายหญิงคะ ฮวาจือทำแจกันแตกค่ะ แจกันใบนี้คุณหนูเหลยหย่าซื้อมาจากการประมูลเมื่อปีก่อนแล้วให้คุณผู้ชาย คุณผู้ชายชอบมากด้วย แต่ตอนนี้กลับโดนยัยเด็กนี่ทำแตกค่ะ"
เฉินซู่เอ่ยปาก "ฮวาจือไม่ได้รับบาดเจ็บใช่ไหม?"
เสี่ยวเตี๋ยพูดไม่ออก
ฮวาจือเองก็อึ้งเช่นกัน ก่อนจะส่ายหัวด้วยความสับสน
"ไม่บาดเจ็บก็ดีแล้วล่ะ ทำความสะอาดเถอะ แล้วก็อย่าส่งเสียงดัง ฉันอยากจะนอนน่ะ" เฉินซู่หันหลังและจากไป
เสี่ยวเตี๋ยเดิมตามไปก่อนพูดว่า "นายหญิงคะ! นี่คุณกำลังปกป้องคนใช้งั้นเหรอคะ?"
"อืม ใช่แล้วล่ะ ชัดขนาดนี้แล้วยังดูไม่ออกอีกเหรอ?" เฉินซู่มองเธออย่างใจกว้าง
เสี่ยวเตี๋ยจะไปคิดได้ไงว่าเธอจะยอมรับมันอย่างง่ายๆ ขนาดนี้ จนไม่สามารถตอบได้ครู่หนึ่ง
ฮวาจือกับเสี่ยวอวี่ต่างก็มองหน้ากัน
"ฉันจะไม่พูดเป็นครั้งที่สองนะ ใครก็ตามที่ตะโกนส่งเสียงรบกวนการนอนฉันอีกครั้ง ฉันคงต้องลงมือเอง" เฉินซู่พูดเสียงเรียบและเตรียมจะขึ้นไปนอนตายที่ชั้นบน
เสี่ยวเตี๋ยยังไม่ยอมแพ้ "ฉันจะถ่ายรูปไปบอกคุณผู้ชายเดี๋ยวนี้แหละ"
เฉินซู่หันกลับมา เดินไปที่ด้านข้างเสี่ยวเตี๋ย คว้าโทรศัพท์จากมือของเธอแล้วปาลงกับพื้นอย่างแรง "เธอไม่ได้ยินที่ฉันพูดสินะ?"
"คุณปามือถือฉัน! อย่าคิดว่าตัวเองขึ้นเตียงคุณผู้ชายแล้วจะเป็นนายหญิงจริง คุณดูเอาสิ ใครเห็นคุณเป็นเจ้าของบ้านบ้างล่ะ?" เสี่ยวเตี๋ยเท้าเอวโกรธ
เฉินซู่มองท่าทางที่อวดเบ่งของเธอก็รู้ว่าเธอจะไปได้ไกลแค่ไหน แน่นอนว่าเสี่ยวเตี๋ยไม่รู้
"ยุ่งยากจริงนะ ฉันรู้สึกเธอขัดตามานานแล้ว" เฉินซูคว้าผมของเสี่ยวเตี๋ย เธอสูดลมหายใจก่อนจ้อง เฉินซู่พูดนิ่งๆ "ฉันเคยเตือนเธอแล้วใช่ไหมว่าอย่ายั่วโมโหฉัน เธอไม่ฟังเองนะ"
"คุณตบฉัน คงคิดว่าตัวเองดูถูกคนอื่นได้จนได้กล้าลงมือที่นี่!" เสี่ยวเตี๋ยพูดพร้อมจะดึงผมของเฉินซู่
เฉินซู่ส่งสัญาณให้เสี่ยวอวี่ ฮวาจือที่ไม่เคยเห็นสถานการณ์แบบนี้ก็นิ่งอึ้งอยู่กับที่ ยังเป็นเสี่ยวอวี่ที่ตอบสนองได้อย่างรวดเร็วและเข้ามาช่วยเฉินซู่จับเสี่ยวเตี๋ยเอาไว้
เฉินซู่ปล่อยผมของตัวเองและบีบใบหน้าของเธอ "ถึงฉันจะแย่แค่ไหนก็เป็นผู้หญิงที่เหลยถิงแต่งงานด้วย อย่างน้อยฉันก็ขึ้นเตียงกับเขาแล้ว แล้วเธอล่ะ ก็แค่คนรับใช้ อยากจะปีนขึ้นมาตำแหน่งฉัน วันนี้ฉันคงต้องเมตตาสั่งสอนเธอแล้วล่ะ"
เวลานี้เสี่ยวเตี๋ยถึงได้รู้สึกกลัว ผู้หญิงตรงหน้าที่มักจะอดทน ทำไมวันนี้ถึงได้เปลี่ยนไป?
เธอไม่ใช่ภรรยาจริงๆเสียหน่อย แล้วก็ไม่มีใครมองว่าเธอเป็นด้วย เธอกล้าดียังไงถึงทำแบบนี้?!
"ใครก็ได้ มีเรื่องเเล้ว! ช่วยด้วย!" เสี่ยวเตี๋ยร้องขอความช่วยเหลือ
เฉินซู่พยักหน้าตามสิ่งที่เธอต้องการ
สักพักพวกสาวใช้ในบ้านก็มารวมตัวกันที่ห้องนั่งเล่น ยังมีคนขับกับยามเฝ้าประตูก็วิ่งเข้ามาด้วย
"พอดีเลย วันนี้มีคนอยู่ที่นี่พอดี" เฉินซู่พูดขึ้นเสียง "เสี่ยวเตี๋ยทำแจกันใบโปรดของคุณผู้ชายแตก วันนี้ฉันจะสั่งสอนเธอต่อหน้าทุกคน เเล้วพวกเธอก็จำเอาไว้ด้วยล่ะ"
เสี่ยวเตี๋ยตกใจ "ไม่ใช่นะ ฉันไม่ได้ทำนะ ฮวาจือเป็นคนทำแตกชัดๆ คุณใส่ร้ายฉัน!"
ฮวาจือเองก็ยังคงไม่รู้เรื่องรู้ราว เรื่องกลับไปมารวดเร็วจนเธอรับไม่ทัน
"ทำไมฉันถึงต้องใส่ร้ายเธอด้วย? เสี่ยวอวี่เองก็เป็นพยาน" เฉินซู่มองไปที่เสี่ยวอวี่
เสี่ยวอวี่พยักหน้ารัวเร็ว "ใช่เเล้ว นายหญิงพูดถูก ฉันเองก็เห็นว่าเธอเป็นคนทำแจกันแตก"
เสี่ยวเตี๋ยบ้าไปแล้ว เธอยังคงปฏิเสธแต่ก็ไม่มีคนเชื่อ
เฉินซู่เห็นท่าทีของทุกคนก็มองออกว่าเสี่ยวเตี๋ยคงจะอยู่ที่นี่ไม่ได้แล้ว คนที่ทำงานกับเธอมานานก็ไม่มีคนออกมาพูดแทนเธอ เห็นได้ชัดว่าความนิยมเธอนั้นแย่แค่ไหน
"ปิดปากเขาให้ที ฟังแล้วน่ารำคาญ" เฉินซู่อุดหูพูด
ฮวาจือที่ตอบสนองก็ใช้เทปปิดปากเสี่ยวเตี๋ย
"แจกันใบนี้มีค่ามากจนไม่สามารถบอกราคาได้ แต่ยังไงเสี่ยวเตี๋ยก็ชดใช้ไม่ไหวอยู่ดี เพราะงั้นหักเงินเดือนเธอหนึ่งปีแล้วก็ไล่ออก" เฉินซู่ประกาศ
เสี่ยวเตี๋ยส่ายหัวไม่หยุด แต่ก็ไม่สามารถพูดอะไรได้
"ฉันรู้ เธอคงจะไม่พอใจ ได้ ฉันจะให้เธออยู่ที่นี่จนกว่าคุณผู้ชายจะกลับมา เสี่ยวอวี่ โยนเข้าห้องดำและไม่ได้รับอนุญาตให้กินหรือดื่มน้ำจนกว่าคุณผู้ชายจะกลับมา"
"ค่ะ นายหญิง"
เฉินซู่โบกมือ "ทุกคนไปได้แล้วล่ะ ไม่มีอะไรก็อย่ารบกวนฉันนอน"
เธอขึ้นไปชั้นบนและหลับต่อ กำจัดเสี่ยวเตี๋ยที่ขวางทางได้ก็อารมณ์ดีขึ้นมาหน่อย
หลังจากนั้นไม่นาน เสี่ยวอวี่ก็ยกถ้วยชาขึ้นมาบอกว่ามีผลทำให้ผ่อนคลาย
"นายหญิงคะ ขอบคุณที่ช่วยฮวาจือนะคะ"
"เสี่ยวเตี๋ยเอาแต่เล็งฮวาจือ เพราะว่าเป็นน้องเธอเเละเป็นคนของฉัน ฉันไม่มีเหตุผลที่จะต้องดูเขารังแกพวกเธอหรอก เอาล่ะ ปลอบเด็กอย่างฮวาจือหน่อย ดูท่าเธอคงจะตกใจกลัวแล้วมั้ง"
เสี่ยวอวี่รู้สึกขอบคุณและเธอก็ตัดสินใจที่จะดูแลนายหญิงกับฮวาจือให้ดี
ตอนเย็น เหลยถิงก็กลับมา
เฉินซู่บอกเรื่องที่แจกันแตกวันนี้กับเหลยถิง "ฉันจัดการกับคนไปแล้ว แต่เขาไม่ยอม ฉันเลยให้เขาอยู่ห้องดำรอคุณกลับมา คุณจะไปเจอหน่อยไหม?"
"เธอจัดการยังไงล่ะ?" เหลยถิงไม่สนใจสาวใช้และไม่ได้สนใจเฟอร์นิเจอร์ด้วยซ้ำ เขาอยากรู้จริงๆว่าเฉินซู่ผู้น่าสงสารจะจัดการกับสาวใช้คนนั้นยังไงกัน
"หักเงินเดือนหนึ่งปีแล้วก็ไล่ออกน่ะ"
เหลยถิงเหลือบมองเธออย่างดูถูก "แค่นี้เองเหรอ?"
"เธอเป็นแค่สาวใช้ก็คงจะมีเงินเก็บไม่มาก บ้านก็ไม่ค่อยมีเงินเท่าไร ปรับเยอะไปเธอก็ชดใช้ไม่ไหวอยู่ดี สิ่งสำคัญคือในอนาคตไม่มาอยู่ตรงหน้าฉันก็พอ ช่วยให้คุณหายกังวล ฉันเองก็ไม่ชอบ"
"ระวังเขาจะแค้นฝังหุ่นล่ะ" เหลยถิงเตือน
"ไม่กลัวหรอก ยังไงก็ทำอะไรฉันไม่ได้อยู่ดี" เฉินซู่สังเกตสีหน้าของเหลยถิงอย่างระมัดระวัง และเธอก็โล่งใจที่เห็นว่าเขาไม่ได้พูดถึงเรื่องเมื่อคืน
แสงในห้องหนังสือเหมาะกับสายตาคนที่สุด เมื่อเฉินซู่นำกาแฟมาให้เขา ก็แอบเหลือบมองที่ขาของเหลยถิงเงียบๆ
ทันใดนั้น เหลยถิงก็ลุกขึ้นยืนตรงหน้าเธอ เฉินซู่ตกใจจนอ้าปากหวอ
"คุณ…คุณ…" เฉินซู่มองชายตรงหน้าที่สูงกว่าเธอไปอีก
"จำไว้ ถ้ามีบุคคลที่สามรู้ความลับของฉัน ฉันจะทำให้เธอได้รู้สึกแย่อย่างแน่นอน" เหลยถิงเกี่ยวหลังคอเธอไว้และเอ่ยเตือน แววตามาดร้ายที่จ้องมาทำให้เฉินซู่ปิดปากแน่น
ให้ตายก็ไม่กล้าพูดหรอก
แต่เมื่อเหลยถิงลุกขึ้นยืนเต็มความสูง รูปลักษณ์ก็ดูโดดเด่น เเล้วทำไมต้องแสร้งทำเป็นพิการด้วย?
นี่ช่างเป็นเรื่องเหลือเชื่อจริงๆ
เขารั้งเธอไว้ท่านั้นก่อนวางเธอลงบนโต๊ะ ในหัวเฉินซู่ก็ฉายฉากที่คุ้นเคย
เคยมีชายคนหนึ่งทำแบบเดียวกันกับเธอ เขาเตี้ยกว่าเหลยถิงนิดหน่อย ไม่สิ วันนั้นเธอสวมรองเท้าส้นสูง ถ้าถอดส้นสูง ผู้ชายคนนั้นก็สูงกว่าเธอตั้งเยอะ
ชายคนนั้นเองก็ผลักเธอเข้าประตูห้องน้ำ เอาครั้งแรกของเธอไปอย่างบ้าคลั่ง ก่อนจะทิ้งนาฬิกาไว้ให้เธอ
MANGA DISCUSSION