เวลาผ่านไปอย่างดวงจันทร์ - ตอนที่ 26 ฆ่าเขาดีหรือปกป้องเขาดี
คนขับรถบ้านนี้ เฉินซู่ก็ใช้ไม่ได้ ปกติที่เธอไปทำงานเธอก็จะนั่งแท็กซี่ เธอใช้เงินที่เหลยถิงให้มาเพื่อขึ้นแท็กซี่แทนเงินเดือนของเธอ แบบนี้ก็จะได้เก็บเงินเดือนของเธอไว้ วันหลังจะได้เปลี่ยนสุสานให้แม่ได้
เมื่อไปถึงร้านอาหาร ก็รีบลงจากรถแล้วเข้าร้านอาหารโดยสวมเสื้อสเวตเตอร์พันรอบตัว เมื่อถึงห้องก็ขมวดคิ้วเมื่อเห็นเหลยถิงที่กำลังเมาไม่ได้สติ
เขาปล่อยให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ยังไงกัน?
"ตื่นได้แล้ว เรากลับบ้านกันเถอะ" เฉินซู่ดันเขา เหลยถิงนอนอยู่บนโต๊ะและไม่มีการตอบสนองใดๆ
"พี่สะใภ้ ขอโทษจริงๆ นะ เราไม่รู้ว่าคุณเหลยคอไม่แข็ง ถ้าเกิดรู้คงไม่ให้เขาดื่มเยอะขนาดนี้แน่"
"ใช่แล้วๆ พี่สะใภ้ดูคุณเหลยหน่อยสิว่าต้องไปไปโรงพยาบาลไหม?"
เฉินซู่โบกมือ ชายพวกนี้พูดจริงบ้างไม่จริงบ้าน เธอได้ยินก็รำคาญ "ไม่ต้องหรอก พวกคุณกลับบ้านเถอะ ฉันพาเหลยถิงออกไปก่อนล่ะ"
เธอยกศีรษะของเหลยถิงขึ้น เหลยถิงก็เอนศีรษะพิงรถเข็นและเธอก็เข็นออก
"คนขับรถของคุณล่ะ?" เฉินซู่ถามเขา
เหลยถิงยังคงไม่ได้สติ ขมวดคิ้วเป็นบางครั้ง แต่ไม่คิดจะลืมตา
ช่างมันเถอะ เรียกแท็กซี่กลับแล้วกัน
เฉินซู่เรียกแท็กซี่ เธอขะแบกเหลยถิงขึ้นรถ แต่เหลยถิงกลับไม่ขยับเลย สำหรับเธอ เหลยถิงหนักเกินไป คนขับทนดูไม่ได้ก็มาช่วยเธอ ได้กลิ่นแอลกอฮอล์จากตัวผู้ชายก็เริ่มบ่น: "สามีคุณดื่มเยอะไปเหรอ? คุณผู้หญิงคนเดียวจะดูแลเขาได้ยังไงกัน"
เฉินซู่ไม่พูดอะไร เธอกลัวว่าเหลยถิงจะยังมีสติอยู่
รถขับต่อไป เหลยถิงก็เอนกายลงบนไหล่ของเธอเงียบๆ เธอไม่เคยอยู่กับเขาแบบนี้มาก่อน เพียงครู่เดียวที่เธอรู้สึกว่าเขาหล่อเหลา โครงหน้าวิจิตรงดงาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่เงียบสงบและอ่อนโยนแบบนี้ รูปลักษณ์ของเขาก็โดดเด่นขึ้นมา
ถ้าในเวลาปกติจะมีใครกล้าจ้องเขาแบบนี้? ต่างก็คิดว่าเขาอารมณ์ไม่ดี หล่อแค่ไหนก็เป็นได้แค่คนอารมณ์ฉุนเฉียว
เมื่อกลับถึงบ้าน เสี่ยวอวี่ก็เข้ามาช่วยเฉินซู่
"นายหญิงคะ คุณผู้ชายดื่มมาแบบนี้ ไปโรงพยาบาลดีไหมคะ?"
"ก็แค่ดื่มเหล้าเอง ไม่ต้องหรอก" เฉินซู่ลังเล เธอเรียกเหลยถิงหลายต่อหลายครั้ง แต่เขาก็ไม่ตอบ
เฉินซู่ก็เริ่มหงุดหงิดทีละน้อย
"ไม่อย่างนั้นก็ไปส่งที่โรงพยาบาลเถอะ เสี่ยวอวี่ เธอโทรหาคนขับรถให้หน่อยนะ" เฉินซู่พูด
เสี่ยวอวี่ตอบรีบและติดต่อคนขับรถ
เวลานี้เหลือเพียงเหลยถิงและเฉินซู่อยู่ในห้องสองคน เฉินซู่จ้องไปที่ขาของเหลยถิงและร่างกายของเขา ดวงตาก็ร้อนขึ้นจนอยากจะเผาร่างกายเขาให้เป็นหลุม
ถ้าตอนนี้เธอจบชีวิตของเขา…
วันที่ยากลำบากของตัวเองก็จะจบลงไม่ใช่เหรอ? ทุกอย่างก็จะย้อนกลับไปได้ก่อนที่จะแต่งงานกับเขา อย่างน้อยเธอก็มีอิสระ
เธอเพียงป้อนอะไรบางอย่างให้เขาหรือตีด้วยท่อโดยที่ไม่ทันรู้ตัว แม้แต่เหลยถิงเองก็ไม่สังเกตเห็น…
ไม่ได้ เธอลบล้างความคิด เหลยถิงตายไปแล้วใครจะช่วยเธอชดใช้ความแค้น?!
เขายังตายไม่ได้ เธอยังต้องทนต่อความโหดร้ายของเขาต่อไป
"นายหญิงคะ คนขับอยู่ข้างล่างแล้วค่ะ"
"โอเค เธอมาช่วยฉันหน่อยสิ" เฉินซู่และเสี่ยวอวี่อุ้มเหลยถิงจากเตียงมาที่รถเข็น
เสี่ยวอวี่อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ "แต่ก่อนคุณผู้ชายไม่เคยเป็นแบบนี้เลยนะคะ เขาเคยเป็นผู้ชายที่ร่าเริงแล้วก็ยิ้มเป็น"
"จริงเหรอ?" เฉินซู่เลิกคิ้วขึ้น เธอนึกไม่ออก
"จริงค่ะ" เสี่ยวอวี่พูดอย่างเสียใจ "ต่อมาก็ประสบอุบัติเหตุ คุณผู้ชายพักรักษาตัวในโรงพยาบาลเป็นเวลานาน หลังจากออกจากโรงพยาบาลก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ…นั่นคือสิ่งที่คุณได้สัมผัสได้ในตอนนี้ค่ะ"
เฉินซู่จดจำคำพูดของเสี่ยวอวี่ไว้ในใจ พวกเธอพาเหลยถิงไปที่โรงพยาบาล หมอบอกว่าเหลยถิงมึนเมาจากแอลกอฮอล์และจำเป็นต้องพักที่โรงพยาบาลเพื่อสังเกตอาการ
"เสี่ยวอวี่ เธอกลับไปก่อนนะ มาส่งอาหารตอนเช้าก็พอ ลำบากเธอแล้วล่ะ"
"เป็นหน้าที่น่ะค่ะ นายหญิงไม่ต้องสุภาพกับฉันหรอกนะคะ"
เฉินซู่อยู่ที่โรงพยาบาลเป็นเพื่อนเหลยถิง จนกระทั่งเช้าวันรุ่งขึ้นเหลยถิงถึงจะตื่น มองไปที่ผู้หญิงที่นอนฟุบอยู่ข้างเตียง เขาก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมา
มีข้อความบนหน้าจอจากซีอิ่ง และเหลยถิงก็เลื่อนเข้าไปดู
เธอดูแลท่านตลอดทาง เเล้วก็ไม่ห่างไปไหนทั้งยังครอบคลุมมากด้วย —— ซีอิ่ง
เหลยถิงปิดโทรศัพท์ และสายตาก็จับจ้องไปที่เฉินซู่ที่อยู่ข้างๆ "เธอดูแลคนไข้อย่างนี้เหรอ?"
เฉินซู่ที่หลับอยู่แบบสะลึมสะลือ ได้ยินเสียงของเหลยถิงก็ตื่น "คุณตื่นแล้วเหรอ? ฉันจะไปเรียกหมอมาตรวจนะ"
"ไม่ต้องหรอก" เหลยถิงมองออกไป "ฉันหิวแล้วน่ะ"
"เสี่ยวอวี่กำลังมาส่งอาหารเช้าแล้ว เดี๋ยวฉันเร่งให้นะ" เฉินซู่ยังไม่ตื่นเต็มที่ ดวงตายังคงว่างเปล่า
เธอเร่งเสี่ยวอวี่ เสี่ยวอวี่บอกว่ากำลังมาแล้ว เธอก็รายงานสถานการณ์ให้เหลยถิง จู่ๆก็เห็นว่าเหลยถิงวันนี้อารมณ์ดี และไม่ได้โมโหเพราะทานอาหารไม่ตรงเวลา
"เรียกเลขาของฉันหน่อย เเล้วเธอก็ออกไปได้แล้ว" เหลยถิงพูด
เฉินซู่พยักหน้าอย่างมีความสุขในใจ สมหวังแล้ว
เธอกลับไปล้างเหนื้อล้างตัวและทานข้าวเช้าก่อนจะเปลี่ยนเสื้อผ้าไปทำงาน เมื่อเธอเข้าบริษัท เธอก็รู้สึกง่วงจนแทบทนไม่ไหว ดื่มกาแฟไปหนึ่งแก้วถึงพอทนได้
"เฉินซู่ วันนี้เธอดูเหนื่อยนะ เมื่อคืนนอนดึกเหรอ?"
"ค่ะ คนที่บ้านป่วยน่ะค่ะ" เฉินซู่อ้าปากหาว
"ป่วยเหรอ? ร้ายเเรงหรือเปล่าล่ะ?"
เฉินซู่โบกมือโดยไม่ตอบ ถ้าคุยขึ้นมาเธอกลัวว่าตัวเองจะเผยสิ่งที่เธอพูดไม่ได้ออกไป คุณสวี๋เห็นเธอผิดปากแน่นก็ยิ่งสงสัยมากขึ้น
"งั้นตอนเที่ยงก็ไม่ต้องไปทานข้าวหรอก พักเถอะนะ เดี๋ยวฉันเอาข้าวมาให้"
"จริงเหรอคะ? ขอบคุณคุณสวี๋มากนะคะ" เฉินซู่มองเธออย่างขอบคุณ
คุณสวี๋เป็นคนที่ดูแลเฉินซู่ที่ห้องทำงานนี้ เช่น เอาอาหารหรือขนมมาให้เธอ สิ่งเหล่านี้ทำให้เฉินซู่รู้สึกสนิทสนมมากขึ้น เพราะสมัยเรียน เพื่อนที่พักและเพื่อนร่วมชั้นของเธอเองก็สนิทกันแบบนี้
แต่เธอไม่ชอบที่บางครั้งคุณสวี๋จะสอดแนมเรื่องส่วนตัวของเธอ ซึ่งทำให้เธอรู้สึกว่าจุดประสงค์ของคุณสวี๋ไม่บริสุทธิ์ และเธอจะนึกถึงประโยคนั้นเป็นครั้งคราว: ที่ทำงานก็เหมือนสนามรบ
ปัง เฉินซู่กำลังวูบหลับก็เกิดเสียงดังจนเธอตื่น
"ทำไมเธอถึงมานอนที่นี่ล่ะ วันนี้มีคนมาตรวจ เธอไม่รู้เหรอ?" ผู้จัดการหวางทำหน้าดุ
เฉินซู่ที่โดนดุก็อึ้ง เธอไม่รู้นี่นา ก่อนจะรีบขอโทษ "ขอโทษนะคะผู้จัดการ ฉันไม่รู้ว่าจะมีคนมาตรวจน่ะค่ะ ถ้ารู้ ฉันไม่มีทางนอนที่นี่แน่ๆ ค่ะ"
"เธอพูดตอนนี้แล้วมีประโยชน์อะไร? คนเขามาแล้ว แล้วก็ไปแล้วด้วย!" ผู้จัดการวังระเบิดความโกรธใส่เฉินซู่
ต่อหน้าผู้คนมากมายในสำนักงาน ใบหน้าของเฉินซู่ถือว่าได้หายไปแล้ว ถึงกระนั้น เธอก็ยังต้องก้มหน้าขอโทษเพราะกลัวว่าเธอจะถูกลงโทษ
ผู้จัดการวังจ้องเฉินซู่อย่างดุเดือด และสะบัดมือจากไป ร่างกายที่อ้วนท้วมเล็กน้อยประกอบกับท่าทางการเดิน ดูไม่ได้ไม่สง่างามอะไร แต่พอโมโหขึ้นมาก็น่ากลัวมาก ถึงยังไงเฉินซูก็ได้เรียนรู้แล้ว
"เฉินซู่ ฉันขอโทษนะ ฉันเพิ่งกลับมาเลย นี่อาหารของเธอ" คุณสวี๋รีบเข้ามา เฉินซู่จะไปเอาความอยากอาหารที่ไหนมาทานข้าวกัน
เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีคนเข้ามาตรวจสอบ