เวลาผ่านไปอย่างดวงจันทร์ - ตอนที่ 15 พ่อแท้ ๆ ก็ยังทุบตี
เหลยถิงดึงโทรศัพท์กลับไป เฉินซู่ไม่พอใจมาก เธอยอมให้เหลยถิงไม่ให้เธอเห็นรูปพวกนี้ยังดีกว่า แบบนี้ก็จะได้ไม่ทำลายความหวังของเธอ
เฉินซู่ไม่ได้พูดอะไร เธอไม่รู้ว่าจะบอกความคิดและการกระทำของตัวเองให้เหลยถิงฟังยังไง มันยากที่เธอจะพูดมันออกมา
"ฉันกำลังถามเธออยู่นะ" เหลยถิงพูดเสียงดังขึ้น
"คุณก็คิดว่าฉันขโมยนาฬิกาของคุณไปอยู่แล้วนี่" เฉินซู่หลบสายตา ทว่าทรวงอกกลับรู้สึกเจ็บแปลบ ๆ
ยิ่งเธออ้ำอึ้งไม่ยอมพูด เขาก็ยิ่งอยากค้นหาความจริง "ฉันส่งคนไปตรวจสอบลายนิ้วมือบนนาฬิกา ผลก็คือมีแค่ลายนิ้วมือเธอกับฉันเท่านั้น ไม่มีคนอื่น ฉันไม่เคยให้นาฬิกากับเธอ มันก็มีแค่เธอที่ขโมยมันไปจากฉัน"
"ใช่ นาฬิกาของคุณทั้งแพงทั้งเป็นแบรนด์ดัง คุณก็รู้ว่าฉันเป็นคนจน ไม่มีเงิน ขโมยของของคุณมันก็เป็นเรื่องปกติ" เฉินซู่กัดปากตัวเอง พูดขึ้นอย่างฉะฉาน
เหลยถิงโมโห "ฉันดูท่าเธอจะยังอยู่ห้องดำไม่พอสินะ"
"ก็แล้วแต่คุณเลย จะขังฉันอยู่นานเท่าไร ฉันก็ไม่สนอยู่แล้ว" เฉินซู่ทำให้สถานการณ์ย่ำแย่ไปกว่าเดิม แต่ในตอนนี้เธอไม่อยากมีชีวิตต่อแล้วจริง ๆ
"มานี่ เอาเธอไปขังไว้ในห้องดำ ถ้าไม่ได้รับอนุญาตจากฉัน ห้ามปล่อยเธอออกมา"
เฉินซู่กลับไปที่ห้องดำที่เธอเคยอยู่ในวันแรกหลังแต่งงาน ซึ่งในตอนนี้เธอก็รู้สึกคุ้นเคยเป็นอย่างดี ห้องช่างเงียบสงบ เธออยู่ที่นี่ก็ดี ไม่ต้องกลัวจนหัวหด แล้วก็ไม่ต้องไปออกไปมีปากมีเสียงข้างนอกนั้นด้วย
แต่ผู้ชายที่ปล่อยเธอไปไม่ได้มากที่สุดคือผู้ชายคนนั้น เขาเอานาฬิกาข้อมือของคนอื่นมาให้คำมั่นสัญญากับเธอได้ยังไง!
นี่เป็นการดูถูกเธอครั้งแรก ทั้งยังเป็นการดูถูกความไว้วางใจที่ไร้เงื่อนไขของเธอด้วย เสียแรงที่เธอเคยจินตนาการว่าพ่อของเด็กในท้องนั้นเป็นคนที่ดีมากในระหว่างตั้งท้อง
เฉินซู่พิงผนังกำแพง เส้นผมตกลงมาปิดแก้ม เธอชันเข่าทั้งสองข้างขึ้น มือทั้งสองวางทับไว้บนหัวเข่า ซุกใบหน้าลงไปแบบนั้น อะไรที่เรียกว่าเรื่องที่น่าเศร้าที่สุดไม่มีสิ่งใดเกินกว่าหัวใจที่แตกสลาย ตอนนี้เธอเข้าใจมันแล้ว
บริษัทของเฉินจินซานสามารถดำเนินกิจการได้อย่างมั่นคงเนื่องจากเงินทุนของเหลยถิง แต่เขารับปากว่าคืนเงินของเหลยถิง ทว่าเขาไม่ได้วางแผนที่จะจ่ายคืน แต่เขาคิดจะทำธุรกิจอีกครั้ง รอเงินหมุนกลับมา แล้วค่อยเอาเงินคืนให้กับเหลยถิง
เขาเล่าให้เหลยถิงฟังแล้วครั้งหนึ่ง แต่ก็เหลยถิงก็ฝากเลขามาปฏิเสธ
เฉินจินซานไม่อยากยอมแพ้ เมื่อนึกถึงท่าทีของเหลยถิงที่มีต่อเฉินซู่ในครั้งก่อนที่ทานอาหารด้วยกัน ในใจเขาคิดว่า ตัวหมากที่ตัวเองส่งไปใช้งานน่าจะทำประโยชน์อะไรได้บ้างแล้ว ไม่งั้นเงินสองหมื่นหยวนที่ใช้ไปกับสองแม่ลูกก็จะคงสูญเปล่าไป
เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น เฉินจินซานอยากจะไปเยี่ยมอีกฝ่ายสักหน่อย แต่กลัวว่าเจ้าของบ้านจะไม่อยู่ ดังนั้นเขาจึงโทรหาเฉินซู่ก่อน เสียงรอสายดังขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า ก็ยังไม่มีคนรับสาย
เขาจึงตัดสินใจลองไปก่อนค่อยว่ากัน ยังไงเขาก็เป็นพ่อตาของเหลยถิง คงไม่ห้ามเขาไม่ให้เข้าบ้านหรอก
ด้วยความคิดนี้เอง เฉินจินซานจึงเข้าไปเยี่ยมอีกฝ่าย ซึ่งในขณะนั้นเฉินซู่ก็ยังคงถูกขังอยู่ในห้องดำ
เหลยถิงตื่นมาก็เห็นเฉินจินซาน เขาก็ยังไม่ได้เปิดปากพูดอะไร เหลยถิงก็มองความคิดของเขาออก
"เฉินซู่อยู่ในห้องใต้ดิน มานี่ พาเขาไป"
เฉินจินซานรู้สึกงุนงงกับท่าทางของเขา ห้องใต้ดิน? ทำไมเฉินซู่ถึงอยู่ในห้องใต้ดินได้ล่ะ?
คนรับใช้พาเฉินจินซานไปที่ห้องใต้ดิน มันทั้งมืดสลัวทั้งคับแคบ เห็นฝุ่นที่ลอยคลุ้งอยู่ในอากาศได้อย่างชัดเจน สิ่งของต่าง ๆ วางกองรวมกันรกเลอะเทอะไปหมด นี่เป็นที่ที่คนอาศัยอยู่เหรอเนี่ย?
"ซู่ซู่เป็นภรรยาของคุณเหลยไม่ใช่เหรอ? ทำไมเธอถึงมาอยู่ในที่แบบนี้ล่ะ?" เฉินจินซานอดไม่ได้ที่จะถามขึ้น
สาวใช้ที่ชื่อเสี่ยวเตี๋ยนึกถึงครั้งล่าสุดที่เธอถูกเฉินซู่ตบไปหนึ่งฉาด และตอนนี้เธอยังคงผูกใจเจ็บ "ที่นี่ไม่มีใครคิดว่าเธอเป็นนายหญิงตั้งแต่แรกแล้วค่ะ อย่างมากเธอก็เป็นแค่นายหญิงในนามเท่านั้น ที่จริงแล้วเธอก็ไม่ต่างอะไรกับสาวใช้เลยค่ะ คุณเหลยอารมณ์เสีย ก็เลยจับเธอมาขังไว้ที่นี่ คุณคิดว่าเธอยังถือว่าเป็นนายหญิงอยู่ไหมคะ?"
เฉินจินซานตกใจมาก เขาไม่คิดไม่ฝันว่าเฉินซู่จะมีชีวิตแบบนี้ เขาคิดว่าเธอมีชีวิตที่ดีมาก ครั้งสุดท้ายที่โต๊ะอาหารเย็น…
ทั้งหมดเป็นเรื่องโกหกงั้นเหรอ?
"เฉินซู่อยู่ตรงนั้นค่ะ" เสี่ยวเตี๋ยชี้ไปที่มุมมุมนั้น
เฉินซู่ผล็อยหลับด้วยความงุนงง ที่นี่มืดมาก มืดจนเธอไม่สามารถแยกระหว่างกลางวันและกลางคืนได้ เมื่อเธอได้ยินเสียงคน เธอจึงค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมองเห็นเงาของคนสองคน
"นายหญิงคะ พ่อของคุณมาหาคุณค่ะ" เสี่ยวเตี๋ยเรียกนายหญิงของเธอด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน
เฉินจินซานเหรอ? ร่างกายของเฉินซู่ราวกับถูกฟ้าผ่าดังเปรี้ยง เธอรีบยืดหลังเธอขึ้นตรงทันที แสร้งวางท่าเป็นภรรยาของเหลยถิงแบบนั้นต่อไป จากนั้นเธอก็คิดใหม่ สภาพจนตรอกของตัวเองในตอนนี้ก็ต้องถูกเฉินจินซานเห็นอยู่แล้ว เพราะงั้นถึงแสร้งทำไปจะมีความหมายอะไร?
ไม่มีความหมายเลยสักนิด
เฉินจินซานโกรธจัด คาดไม่ถึงว่าเขาจะถูกผู้หญิงคนนี้หลอกเข้าจริง ๆ!
"เธอมันก็เหมือนกับแม่ของเธอ เสแสร้งเก่ง! เธอมันเสแสร้งไปเรื่อย ฉันก็คิดว่าเธอจะมีอนาคตดี ๆ มีสามีคอยประคบประหงม ถ้าฉันไม่มาหาเธอในวันนี้ก็คงไม่รู้ ว่าเธอมันเก่งขนาดนี้ เก่งจนถูกสามีขังไว้ห้องใต้ดิน เธอทำให้บ้านตระกูลเฉินต้องอับอาย!" เฉินจินซานตวาดด่าเฉินซู่ต่อหน้าเสี่ยวเตี๋ย
จิตใจของเฉินซู่หดหู่มาก แต่เธอใช่ว่าจะไม่ละอายใจ แล้วก็เกลียดเป็นเหมือนกัน!
ฟังเสียงหัวเราะเยาะเย้ยของเสี่ยวเตี๋ย แล้วยังต้องฟังคำดูถูกของเฉินจินซานอีก เธออยากจะฆ่าพวกเขาตอนนี้เลยด้วยซ้ำ!
"แล้วเรื่องของหนูมันเกี่ยวอะไรกับพ่อล่ะ" เฉินซู่พูดขึ้นอย่างเย็นชา
เฉินจินซานวิ่งเข้าไปดึงเธอขึ้นมา จิ้มนิ้วไปที่หัวเธอหลายครั้ง "เธอมันก็เหมือนกับแม่ของเธอนั่นแหละ เป็นนังสารเลวที่ไร้ค่า!"
ดูเหมือนว่าตอนนี้เลือดของเฉินซู่จะเดือดปุด ๆ แล้ว เธอไม่ยอมให้ใครดูถูกแม่ของเธอ โดยเฉพาะเฉินจินซาน เธอกำหมัดแน่น เลือดไหลออกจากบาดแผลชุ่มผ้าก๊อซเธอไม่สนใจ เธอรู้แค่ว่าเธอเกลียดผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าสุด ๆ
"พ่อพูดอีกทีสิ" เธอกดเสียงต่ำ สายตาที่ซ่อนอยู่ในความมืดนั้นเย็นชาจนน่ากลัว
เฉินจินซานรู้สึกแค่ว่าเธอเป็นขยะเปียกไร้ประโยชน์ เขาก็โมโหอีกครั้ง ผลักเฉินซู่ "ฉันบอกว่า เธอก็เหมือนกับแม่ของเธอ เป็น…"
ก่อนที่เขาจะพูดจบ เฉินซู่ก็หยิบบางอย่างมาจากบนตู้ข้าง ๆ แล้วทุบไปที่หัวของเฉินจินซาน
เฉินจินซานไม่ได้คาดคิดว่า เฉินซู่ผู้ซึ่งเคยอดทนกล้ำกลืนความโกรธมาโดยตลอดจะทำเรื่องไร้ศีลธรรมหันมาทำร้ายพ่อแบบนี้
"เธอกล้าตีฉันเหรอ?" เฉินจินซานกุมหัวของตัวเอง
เฉินซู่ไม่พูดให้มากความ เธอลากร่างกายที่บอบช้ำและอ่อนล้าของเธอ ถือไม้เบสบอลที่ถูกทิ้งไว้ในมือ แล้วตีลงที่เฉินจินซาน "พ่อไม่มีสิทธิ์ที่จะด่าแม่ ทั้งโลกนี้พ่อมีสิทธิ์น้อยที่สุดด้วยซ้ำ พ่อทำแม่ท้อง แล้วก็ไม่รับผิดชอบ ตอนแม่ป่วย พ่อก็ไม่สนใจ ถ้าพ่อไม่เอาเงินมาให้ช้า แม่ก็คงไม่ต้องจากไปเร็วขนาดนี้ พ่อไปตายซะเถอะ ไปตายซะ!"
เสี่ยวเตี๋ยยืนตกตะลึงอยู่ข้าง ๆ เธอมองดูเฉินซู่ที่สูง 165 เซนติเมตรทำร้ายเฉินจินซานที่สูง 178 เซนติเมตร แถมเธอเป็นลูกสาวที่ทุบตีพ่อของตัวเองอีกด้วย
เฉินจินซานจับมือของเฉินซู่ ผลักเธอออกไปอย่างแรง ยกมือขึ้นแล้วตบเธอไปหนึ่งฉาด "ยัยบ้า แม่ของเธอมันจงใจปีนขึ้นเตียงของฉันตั้งแต่แรก ถึงได้มีเธอออกมาได้ เธอคิดเหรอว่าฉันจะอยากได้แม่ของเธอนัก? ตอนแรกก็ไม่คิดหรอกนะ แต่ที่ฉันให้เงินสองแสนกับพวกเธอไปผ่าตัดมันก็ดีเกินไปด้วยซ้ำ"
เฉินซู่ยิ่งฟังก็ยิ่งโกรธ ทำไมบนโลกนี้ถึงมีผู้ชายที่ทำเรื่องอย่างว่าเสร็จก็จากไปไม่สนใจไยดี ไม่มีความรับผิดชอบแบบนี้
"เดี๋ยวก่อน เฉินจินซาน รอฉันก่อน!" เฉินซู่คำราม จากนี้เป็นต้นไป เธอไม่มีสิทธิ์ที่จะเสียใจ ไม่มีสิทธิ์ที่จะซึมเศร้าอยู่แบบนี้ เธอต้องการให้เฉินจินซานชดใช้ในสิ่งที่เขาทำ เธอเกลียดบ้านตระกูลเฉิน!
เฉินจินซานไม่ต้องการเกี่ยวข้องกับเธออีกต่อไป "วันหลังอย่าพูดว่าเธอเป็นลูกสาวของบ้านตระกูลเฉินอีก ฉันขายขี้หน้าคนอื่น"
หลังจากที่เขาพูดจบก็หมุนตัวเดินจากไป ตอนนี้สติของเสี่ยวเตี๋ยก็คงยังไม่กลับมา
เฉินซู่หอบหายใจอย่างหนัก ค่อย ๆ สงบสติอารมณ์ลง เธอยกไม้เบสบอลในมือขึ้นแล้วชี้ไปยังเสี่ยวเตี๋ย "ทำไม อยากถูกตีด้วยหรือไง?"