เลขาบนเตียง - ตอนที่ 1
EP 1: เลขาบนเตียง
ภาค เศรษฐกร นักธุรกิจหนุ่มใหญ่วัยสี่สิบสองกะรัต ชายหนุ่มหล่อจัด โคตรรวย และก็โสดสนิท เขาเป็นลูกชายเพียงคนเดียวของตระกูล เศรษฐกร มหาเศรษฐีหมื่นล้านที่ถูกทั่วโลกจับตามอง และเขาก็คือผู้ชายในฝันของผู้หญิงมากมาย แต่ภาคกลับไม่ยอมมีภรรยาเป็นตัวเป็นตน เขาคบหากับผู้หญิงมากหน้าหลายตา ทั้งนางงาม นางเอก ไม่ว่าจะภายในประเทศไทยหรือต่างประเทศ เขาก็สอยลงมาขย่มบนเตียงแทบหมดวงการ แต่กระนั้นเขาก็ยังไม่คิดจะลงหลักปักฐานกับใครจริงๆ จังๆ เสียที
เหตุผลของเขาคือความลับ… ใช่ มันคือความลับที่ไม่มีใครล่วงรู้ แม้แต่เลขาหน้าห้องที่ทำงานรับใช้เขามาเป็นเวลานานหลายปีเช่นหล่อนก็ตาม
กนกแก้ว รื่นเริง หรือที่ ภาค มักจะเรียกติดปากว่า ‘แก้ว’ หล่อนทำงานที่บริษัทของภาคมาตั้งแต่เรียนจบมาใหม่ๆ จนตอนนี้อายุอานามของหล่อนก็เกือบจะยี่สิบแปดปีบริบูรณ์แล้ว
หล่อนรู้ใจภาคทุกอย่าง โดยเฉพาะเรื่องรสนิยมทางเพศของเขา ภาคชอบผู้หญิงเปรี๊ยวจี๊ดเข็ดฟัน ชอบผู้หญิงลีลาเด็ด และชอบผู้หญิงนมใหญ่ ซึ่งหล่อนก็เป็นคนทำหน้าที่คัดกรองผู้หญิงในแบบที่เจ้านายชอบ และจัดส่งให้ถึงเตียงของเจ้านายในทุกค่ำคืน หรือทุกเวลาที่ภาคต้องการ
แต่ใครจะรู้บ้างเล่าว่า ภายใต้แว่นหนา และการแต่งตัวแสนเชยของหล่อน ได้ซ่อนความลับบางอย่างเอาไว้ ความลับที่จะเป็นความลับไปตลอดกาล
หล่อนแอบรักภาค…
ใช่… หล่อนรักเขา แต่ก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาไม่มีทางรักเลขาเฉิ่มเชยเช่นหล่อน
หล่อนไม่ได้อยู่ในสายตาของภาคเลย เขาไม่เคยมองหล่อนแบบที่ผู้ชายมองผู้หญิง หล่อนเป็นแค่เพียงทาสที่ทำงานได้อย่างรู้ใจเขาเท่านั้น แต่หล่อนก็อดทน อดทนที่จะมองเขาขึ้นเตียงกับผู้หญิงคนอื่น เพียงเพราะว่าไม่อยากอยู่ห่างจากเขานั่นเอง
“คิดอะไรอยู่หรือแก้ว”
ภาคยืนกอดอกมองเลขาสาวที่ทำงานกันมานานจนรู้ใจกันทุกอย่าง หรือจะให้พูดตรงๆ ก็คือกนกแก้วรู้จักเขา มากกว่าที่เขารู้จักตัวเองเสียอีก
เขายังจำวันแรกที่ได้ร่วมงานกับแม่สาวแว่นหนา ชอบแต่งตัวเหมือนครูอนุบาลอย่างกนกแก้วได้เป็นอย่างดี หล่อนมาสัมภาษณ์งาน แต่กลับทำกาแฟหกใส่เขาเสียอย่างนั้น เขาควรจะไล่หล่อนออกไปซะ และรับคนอื่นมาทำงานแทน แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเหมือนกัน เขาถึงเลือกหล่อน และการเลือกในครั้งนั้นก็ไม่ได้ทำให้เขาผิดหวังเลยสักนิด เพราะกนกแก้วทำหน้าที่เลขาหน้าห้องได้เป็นอย่างดี แม้ว่าหล่อนจะไม่ได้เซ็กซี่ในแบบที่เขาต้องการจากเลขาก็ตาม
หล่อนทำงานเก่ง ละเอียด รอบคอบทุกอย่าง และบางครั้งก็ช่วยเขาแก้สถานการณ์ได้เป็นอย่างดี เพราะแบบนี้ไงเขาถึงไม่ยอมให้หล่อนจากไปไหน ผูกมัดหล่อนเอาไว้ด้วยเงินเดือนก้อนโต แต่นั่นไม่ใช่งานเดียวที่หล่อนทำได้ดีหรอก เพราะกนกแก้วยังทำหน้าที่สับรางผู้หญิงที่จะขึ้นเตียงให้กับเขาได้อย่างยอดเยี่ยม หล่อนคัดเลือกผู้หญิงได้ตรงสเป็คเขาที่สุด
“เอ่อ… บอส…”
หญิงสาวตื่นจากภวังค์ เมื่อเสียงของเจ้านายที่ตนเองคิดถึงอยู่ทุกขณะจิตดังขึ้น หล่อนหันไปมองเขา ก็พบว่าเขายืนหล่อลากไส้อยู่ไม่ไกลนัก ดวงตาสีดำขลับจ้องมองมาที่หล่อน และอมยิ้ม
“ทำไมต้องทำหน้าตกใจด้วยล่ะครับ หรือว่ากำลังคิดถึงแฟนอยู่”
เขาเดินเข้ามาใกล้มากยิ่งขึ้น และก็ทำให้หัวใจของหล่อนแรงระรัว แต่ก็จำต้องกลบเกลื่อนเอาไว้ ภายใต้สีหน้าเรียบเฉยไม่แสดงความรู้สึก
“แก้ว… ยังไม่มีแฟนหรอกค่ะบอส”
“ไม่น่าเชื่อนะ คุณอายุยี่สิบเจ็ดแล้วนะแก้ว อีกไม่กี่เดือนก็จะยี่สิบแปด นี่ไม่คิดจะมีครอบครัวเลยหรือ”
หล่อนฝืนยิ้มบางๆ
“แก้วคงยังไม่เจอคนที่ชอบน่ะค่ะ”
เขาพยักหน้ารับน้อยๆ กอดอกมองหล่อนไม่วางตา
“งั้นก็คงเหมือนผมนั่นแหละ เพราะที่ผมยังไม่แต่งงาน ก็เพราะยังไม่เจอผู้หญิงที่ใช่”
“แต่บอสก็นอนกับผู้หญิงมากมาย…”
“นั่นเป็นเพราะร่างกายของผมต้องการปลดปล่อย”
เขาหัวเราะร่วน ราวกับว่าหัวข้อที่กำลังสนทนากันอยู่นั้นคือความขบขัน แต่หล่อนขันไม่ออกจริงๆ
“แก้วทราบค่ะ”
เขายิ้มอีก ยิ้มหล่อกระชากใจแบบสุด แต่หล่อนก็ทำได้แค่มอง แต่ไม่มีสิทธิ์แตะต้อง
“จำงานเลี้ยงเมื่อคืนนี้ได้ใช่ไหมครับแก้ว”
“เอ่อ จำได้ค่ะ”
เขายิ้มอีกแล้ว
“ผมต้องการนางแบบคนนั้นนะ ติดต่อให้ผมสองวันสองคืน ผมจ่ายไม่อั๋น”
หล่อนเจ็บลึกแบบนี้ทุกครั้งที่รู้ว่าเขาจะนอนกับใคร แต่ก็จำต้องยิ้มทำตามหน้าที่
“แก้วติดต่อผ่านผู้จัดการส่วนตัวของเธอแล้วค่ะ แล้วเธอก็รับปากจะมาร่วมงานแล้วด้วยค่ะ”
“ดีมาก คุณนี้เป็นเลขาที่สุดยอดที่สุดที่ผมเคยมีมาก่อนเลยนะแก้ว”
“ขอบคุณค่ะบอส”
“ปีนี้ผมจะปรับเงินเดือนขึ้นให้คุณสิบเปอร์เซ็น แล้วก็จะมอบโบนัสพิเศษให้ด้วย”
หล่อนยกมือไหว้ภาค ทั้งๆ ที่หัวใจเจ็บช้ำเหลือเกิน เพราะถ้าเลือกได้ หล่อนคงไม่ทำแบบนี้
“ขอบคุณอีกครั้งค่ะบอส”
“โอเค งั้นเดี๋ยวคุณเตรียมเอกสารประชุมตอนสิบโมงให้พร้อมนะ เราจะเข้าประชุมด้วยกัน”
“ค่ะ บอส”
ผู้ชายตัวสูงในชุดทำงานเรียบหรูเดินหายกลับเข้าไปในห้องทำงานแล้ว แต่หล่อนยังคงมองตามไปจนประตูไม้ปิดสนิทลง
หยาดน้ำตารินไหลเอ่อคลอสองขอบตา โชคดีที่มีแว่นหนาช่วยอำพรางความอ่อนแอเอาไว้ได้
หล่อนยกมือขึ้นกุมหน้าอกของตนเอง ตรงตำแหน่งที่มีหัวใจอยู่ และพึมพำทรมาน
“เจ็บ… จัง…”
“ทำไมวันนี้กลับบ้านเร็วนักล่ะลูก”
กนกแก้วเดินเข้ามาในบ้านตอนบ่ายสองโมงเย็น ทำให้มารดาที่กำลังตากผ้าอยู่อดที่จะถามด้วยความสงสัยไม่ได้ เพราะปกติหล่อนกลับบ้านไม่เคยเร็วกว่าสองทุ่มเลยแม้แต่วันเดียว
“วันนี้แก้วมีงานเลี้ยงที่บริษัทฯ น่ะจ้ะแม่ บอสก็เลยให้กลับมาเตรียมตัวน่ะจ้ะ”
“อ้าว แม่ลืมไป แก้วเคยบอกแม่แล้วนี่น่า”
กรมาศ หญิงสูงวัยเอ่ยขึ้นอย่างเอียงอาย และหัวเราะกลบเกลื่อน
“วันนี้แก้วคงกลับดึกหน่อยนะจ๊ะแม่”
“ไม่เป็นไรหรอก แก้วโตแล้ว ดูแลตัวเองได้ แม่ไม่ห่วงหรอก”
“แล้วแม่อยู่คนเดียวได้นะจ๊ะ”
“แหม แม่อยู่คนเดียวที่ไหน มีเพื่อนสี่ขาอีกตั้งสี่ตัวแน่ะ”
ยังไม่ทันจบคำ สุนัขไทยตัวใหญ่สี่ตัวก็วิ่งกระโจนกันเข้ามาหากนกแก้วอย่างดีใจ พวกมันทั้งเลียทั้งตะกุยจนเสื้อผ้าที่กนกแก้วใส่เป็นรอย แต่หญิงสาวไม่เคยหัวเสียใส่พวกมันเลย เพราะรู้ดีว่าพวกมันรักและคิดถึงตนเอง
“โหๆ เลียใหญ่เลย…”
หล่อนหัวเราะออกมาอย่างอารมณ์ดี และก็เล่นกับสุนัขอย่างสนุกสนาน ท่ามกลางสายตาของมารดาที่มองมาอย่างมีความสุข
“เจ้าปุย เจ้าด่าง เจ้าขาว เจ้าดำ ไปวิ่งเล่นที่อื่นได้แล้ว”
แม่ของหล่อนสั่งสุนัขเสียงมีเมตตา และพวกมันก็พากันวิ่งไปเล่นที่สวนข้างบ้านกันอย่างว่านอนสอนง่าย หล่อนมองตามไปอย่างเอ็นดู
“เป็นหมาก็ดีนะแม่ ไม่ต้องคิดอะไรมาก แค่รอเจ้าของกลับมา และเล่นด้วยกัน”
“พูดแบบนี้ แสดงว่ามีเรื่องทุกข์ใจใช่ไหมลูก”
แม่ของหล่อนเดินเข้ามาหา ยกมือขึ้นลูบศีรษะของหล่อนเบาๆ
“ปล่อยวาง พระท่านสอนแบบนี้นะแก้ว”
หล่อนฝืนยิ้มให้กับมารดา
“แก้วก็พูดไปอย่างนั้นแหละจ้ะแม่ ไม่มีอะไรหรอก ว่าแต่วันนี้แม่มีกับข้าวแล้วหรือยังจ๊ะ ถ้ายังแก้วจะได้ออกไปซื้อมาให้ก่อน”
“มีแล้วจ้ะ แม่มีปลาทูเหลืออยู่ ว่าจะทำน้ำพริกกะปิกินน่ะ”
กนกแก้วยกมือขึ้นแตะปากตัวเอง
“แซ่บด้วย แก้วอยากอยู่กินจังเลย”
“เอาไว้พรุ่งนี้แม่ทำให้กินก็แล้วกัน วันนี้ไปงานเลี้ยงกับเจ้านายเถอะ”
หล่อนยิ้มเศร้าๆ แต่ก็รีบสลัดความเศร้าทิ้งไป เพราะเกรงแม่จะไม่สบายใจ
“จ้ะแม่ งั้นแก้วขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะจ๊ะ”
“ตามสบายเถอะ อ้อ แล้วแก้วจะไปยังไงล่ะ”
“เดี๋ยวบอสแวะมารับจ้ะ”
กรมาศระบายยิ้มกว้าง
“เจ้านายของแก้วก็ดีนะ ดูเป็นห่วงเป็นใยลูกน้องดีเหลือเกิน”
“บอสใจดีแบบนี้กับทุกคนแหละจ้ะแม่”
หล่อนฝืนยิ้มให้กับมารดาอีกครั้ง ก่อนจะสาวเท้าเข้าไปในบ้าน สีหน้ายามที่มารดาไม่ได้เห็นช่างเต็มไปด้วยความเศร้าหมอง
หล่อนต้องทนยิ้ม ทั้งทนหัวเราะ ในขณะที่ภายในเจ็บปวดนัก ยามที่ต้องพาผู้หญิงที่ไม่ใช่ตนเองส่งไปให้เขาบนเตียง
หน้าที่… ท่องเอาไว้ว่ามันคือหน้าที่…
หญิงสาวบอกตัวเองดังๆ ในอก แต่ก็ไม่อาจจะหักห้ามความเสียใจเอาไว้ได้เลย