เลขากลีบฉ่ำ - ตอนที่ 10
พราวฟ้าทรุดตัวนั่งบนเตียงภายในห้องนอนของตัวเองด้วยหน้าตาที่ยังคงเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนมันยังติดตรึงอยู่ในสมองราวกับเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อกี้นี้เอง
ภาพที่ราฟาเอลโยกคลึงไอ้ท่อนยักษ์เข้ามาใส่ร่างของหล่อน และหล่อนก็รีบถ่างขารีบอย่างเต็มอกเต็มใจ ยังชัดเจนอยู่ในหัว
โอ้ว…
มือเล็กยกขึ้นปิดหน้า เมื่อความเจ็บแปลบในส่วนนั้นย้ำเตือนให้ระลึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับราฟาเอลที่โรงแรมแห่งนั้นได้อย่างติดตรึง
ราฟาเอลมีรูปโฉมที่งดงามเหลือเกิน ยิ่งยามที่เนื้อตัวของเขาไม่มีเสื้อผ้าเลย เขาก็ยิ่งสมบูรณ์แบบ กล้ามเนื้อไม่ว่าจะตรงส่วนไหนก็ล่ำสัน แน่นหนั่น หล่อนจำได้ว่าตัวเองทั้งลูบ ทั้งกัดเนื้อตัวของเขา และเขาเองก็ลูบไล้ และกัดผิวสาวไม่ต่างหาก
หล่อนยังจดจำความรู้สึกยามถูกจูบได้เป็นอย่างดี ราฟาเอลเป็นผู้ชายที่จูบเก่งมาก และลีลาทางเพศของเขาก็แสนจะวิเศษ ไม่ว่าเขาจะเลีย จะดูด จะกัด จะเม้มตรงไหน หล่อนก็สะท้าน ร้องครางราวกับผู้หญิงร่านตัณหาทุกทีไป
“โอ้… ไม่นะ…”
ดวงหน้างามแดงก่ำ และส่ายสะบัดไปมา หล่อนพยายามจะลืมเรื่องที่โรงแรมให้ได้ แต่ยิ่งพยายาม ภาพที่เขาแลบลิ้นสีสดออกมา และตวัดเลียหัวนม… ใช่ เขาเลียหัวนมสีชมพูระเรื่อของหล่อน และไม่ใช่แค่เลียอย่างเดียว เขาเลียไปดูดไปด้วยพร้อมๆ กัน หัวนมทั้งสองข้างของหล่อนเปียกชุ่มไปด้วยคราบน้ำลายจากเขา ความเสียวจากการถูกดูดอมหัวนม ทำให้อวัยวะเพศของหล่อนมีน้ำเหนียวๆ ไหลออกมา
ถึงหล่อนจะอายุยี่สิบห้าปีแล้ว แต่เรื่องทางเพศหล่อนแทบไม่รู้จักเลย เพราะตั้งแต่เกิดมา หล่อนยังไม่เคยคบหากับชายใดมาก่อน แม้แต่แอบหลงรักคริสเตียโนเพียงคนเดียวเท่านั้น
แล้วทำไมตอนที่อยู่ใต้ร่างของราฟาเอล ทำไมตอนที่ถูกราฟาเอลจับแหกขา และเขาก้มหน้าลงมาโลมเลีย หล่อนถึง… ถึงลืมคริสเตียโนไปหมดเลยล่ะ
ความอับอายและความอัปยศแล่นพล่านไปทั้งร่าง ความรู้สึกยามที่ถูกลิ้นสีสวยของราฟาเอลโลมเลียที่กลีบสาว มันยังติดตาตรึงใจ
หล่อนอับอายจนพยายามจะหุบขาและเลื่อนตัวหนี เมื่อลิ้นสากสัมผัสลงมาหาครั้งแล้ว แต่พอถูกเขาเลียต่อไปอีกสักสองสามที ความอับอายก็ถูกแทรกซึมด้วยความเสียวเสียดที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน
หล่อนร้องครางราวกับหญิงร่านตัณหา และนั่นก็ยังไม่น่าอับอายเทียมเท่ากับที่หล่อนร่อนเด้งกลีบสวาท ขึ้นให้เขาโลมเลียอย่างเต็มอกเต็มใจ แถมหล่อนยังกดยังทึ้งศีรษะของราฟาเอลให้เขาได้ลงลิ้นกับความเป็นหญิงมากที่สุดเท่าที่จะทำได้อีก
โอ้… นี่หล่อน… ทำอย่างนั้นไปได้ยังไง
แม้จะพยายามจะหยุดคิดเรื่องนั้นยังไง แต่ความรู้สึกยามที่ถูกสอดใส่จากท่อนเอ็นยักษ์ของเขาก็ยังคงตามหลอกหลอนตลอดเวลา ตอนนี้ในหัวของหล่อน ไม่มีชื่อของคริสเตียโนอยู่อีกแล้ว
“ราฟาเอล…”
หล่อนครางชื่อของเขาในลำคอ และก็ภาวนาให้ไม่ต้องพบเจอกันอีก หลังจากที่หล่อนเลือกจะหนีจากมากกลางดึกแบบนั้น
ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูดังขึ้น ทำให้หล่อนต้องรีบซ่อนความรู้สึกทุกอย่างเอาไว้ในอก ก่อนจะรีบลุกขึ้น แต่พอลุกขึ้นก็อดที่จะนิ่วหน้าด้วยความเจ็บลึกไม่ได้
หล่อนยังคงเจ็บอยู่…
“ตื่นหรือยังพราว เดี๋ยวไปทำงานไม่ทันนะลูก”
“ตื่นแล้วจ้ะแม่”
หญิงสาวกัดฟันเดินไปเปิดประตูให้กับมารดา และฝืนยิ้ม
“แล้วนั่นปากไปโดนอะไรมา ทำไมบวมเชียว”
จะโดนอะไรล่ะ นอกจากถูกราฟาเอลจูบทั้งคืนจนปากแทบเปื่อย
พราวฟ้ารีบยกมือขึ้นปิดปากของตัวเองเอาไว้ และก็แก้หัวออกไป
“พราวเดินชนเสาน่ะแม่”
“ซุ่มซ่ามน่ะเราน่ะ” แม่ตำหนิไม่จริงจังนัก ก่อนจะเอ่ยขึ้น
“งั้นรีบไปอาบน้ำอาบท่านะ แม่ทำกับข้าวเอาไว้ให้แล้ว จะได้มากินก่อนไปทำงาน”
“จ้ะแม่”
แม่เดินจากไปแล้ว หล่อนจึงดึงประตูปิด ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องน้ำ เสื้อผ้าถูกถอดออกไป และนั่นก็ทำให้เห็นรอยคิสมาร์กที่ราฟาเอลทิ้งเอาไว้บนเนื้อตัวของหล่อนหลายแห่ง
ดวงหน้างามแดงระเรื่ออีกครั้ง และก็อดที่จะคิดไปถึงความรู้สึกยามถูกดูดถูกกัดไม่ได้
เนินหน้าอกมีแต่รอยดูดของราฟาเอล หัวนมก็ช้ำเพราะเขาทั้งดูดทั้งกัด ที่ลำคอก็มีรอยแดงเล็กๆ อยู่สองที่ และที่ตรงนั้น… จุดซ่อนเร้นของหล่อน มันก็คงจะมีรอยคิสมาร์กอยู่มากมายเช่นกัน เพราะราฟาเอลใช้เวลาเลียและดูดนานกว่าที่อื่น
บ้าจริง… ทำไมหล่อนต้องรู้สึกเสียววาบไปทั้งท้องน้อยแบบนี้นะ
“ลืม… ลืมให้ได้นะพราวฟ้า”
หล่อนสั่งตัวเองเสียงเบาๆ น้ำตาอดที่จะไหลซึมออกมาไม่ได้ เมื่อนึกถึงความเป็นจริง
“เขาไม่มีทางมาจริงจังกับผู้หญิงอย่างเธอหรอก ดังนั้นต้องลืมให้ได้นะพราวฟ้า”
แม้จะบอกตัวเองยังไง แต่หัวใจก็ยังอดที่จะเศร้าหมองไม่ได้อยู่ดี
พราวฟ้าหอบร่างกายที่บอบช้ำของตัวเองมาทำงานจนได้ เพราะคิดว่าการหมกตัวอยู่ในห้องจะทำให้ยิ่งคิดมาก อย่างน้อยๆ การได้ทำงาน ก็จะสามารถหยุดคิดเรื่องนั้นได้สักสามสี่ชั่วโมงก็ยังดี
ประตูลิฟต์เปิดกว้างออก หล่อนก้าวออกไป และเดินไปนั่งที่โต๊ะทำงานที่ตั้งอยู่หน้าห้องของคริสเตียโนด้วยท่าทางเซื่องซึม
สักพักคริสเตียโนก็เดินออกมาหาที่โต๊ะ
“คุณพราว ผมมีเรื่องจะให้คุณช่วยหน่อยน่ะ”
หล่อนระบายยิ้มให้กับคริสเตียโน และก็อดแปลกใจตัวเองไม่ได้ เมื่อหัวใจที่เคยเต้นแรงยามอยู่ใกล้กับชายหนุ่ม ตอนนี้มันเต้นราบเรียบมาก แถมไอ้อาการร้อนวูบวาบที่เคยเกิดขึ้นกับคริสเตียโนก็ยังหายไปอีกด้วย
นี่มันเกิดเรื่องบ้าอะไรเนี่ย…?
หล่อนถามตัวเองอย่างสับสน ก่อนจะสรุปกับตัวเองได้ว่า ตอนนี้สิ่งที่อยู่ในหัวของหล่อนตลอดเวลา ก็คือเรื่องเมื่อคืน กับ… ราฟาเอล
นั่นสิ… ทำไมตอนนี้หล่อนถึงเอาแต่คิดถึงผู้ชายคนนั้นนะ ทั้งๆ ที่ก็รู้ว่าความสัมพันธ์เมื่อคืนมันเป็นแค่ความผิดพลาดเท่านั้น
พราวฟ้าสูดลมหายใจเข้าปอดแรงๆ ก่อนจะระบายยิ้มออกมา
“บอสมีอะไรให้พราวทำเหรอคะ”
“จำได้ไหมว่าเมื่อวานผมพาน้องชายมาดูงานที่นี่”
“จำ… ได้ค่ะ บอสมีอะไรเหรอคะ”
“คือเมื่อวานน่ะ ผมจะแนะนำให้คุณรู้จักกับเขา แต่คุณก็ลาป่วยไปเสียก่อน อ้อ ว่าแต่วันนี้คุณโอเคแล้วใช่ไหมครับ”
“เอ่อ… ค่ะ”
“แต่ดูหน้าตาซึมๆ นะครับ หรือว่าจะพักอีกสักวันดี”
สายตาที่คริสเตียโนมองมา ไม่ได้มีผลต่อจังหวะการเต้นของหัวใจสาวอีกแล้ว
มันแปลกมาก…
ทั้งๆ ที่เมื่อวาน หล่อนยังเมาหัวราน้ำเพราะอกหักจากเขาอยู่เลย
เพราะราฟาเอลสินะ…
หญิงสาวคิดเศร้าๆ ก่อนจะรีบซ่อนความรู้สึกทั้งหมดลงไปในอก
“พราวสบายดีค่ะ ไม่เป็นไรแล้ว”
“คุณแน่ใจนะ”
“ค่ะบอส”
“โอเค งั้นวันนี้ผมจะให้คุณไปช่วยเทรนงานให้กับน้องชายผมก็แล้วกัน”
“แล้วใครจะช่วยงานบอสล่ะคะ”
“วันนี้ไม่มีอะไรสำคัญหรอก แค่พบลูกค้าสองคนเอง เอาเป็นว่าผมฝากน้องชายของผมด้วยก็แล้วกันนะครับ”
“เอ่อ… ได้ค่ะบอส”
คริสเตียโนระบายยิ้มพึงพอใจ และนั่นก็ยิ่งทำให้ใบหน้าของชายหนุ่มหล่อระเบิดเถิดเทิง แต่… หล่อนกลับไม่ได้รู้สึกอะไรกับเขาอีกแล้ว
“โอเค งั้นคุณลงไปชั้นสิบห้านะ ห้องทำงานของน้องชายผมอยู่ที่นั่น”
“อ้อ… ได้ค่ะบอส”
“โอเค ผมฝากด้วยแล้วกัน”
หล่อนตอบรับคำสั่งของเจ้านายอย่างนอบน้อม และเมื่อคริสเตียโนเดินจากไปแล้ว หล่อนก็จัดการปิดคอมพิวเตอร์ที่เพิ่งเปิดได้ไม่ถึงห้านาที และลุกขึ้นจากเก้าอี้ประจำตัว
ระหว่างการเดินทางลงไปยังชั้นสิบห้า ซึ่งเป็นชั้นเป้าหมาย พราวฟ้าก็ถูกความทรงจำเมื่อคืนเล่นงานมาตลอดทาง