ตอนที่ 0.1 นี่เป็นเรื่องราวที่ผมได้เกิดใหม่เป็นเด็กผู้หญิง และพยายามให้ถูกขับไล่ในฐานะคุณหนูนางร้าย แต่ก็ล้มเหลว และกลายเป็นผู้กล้า แต่ม๊า จะยังไงก็ได้
นี่เป็นเรื่องราวที่ผมได้เกิดใหม่เป็นเด็กผู้หญิง และพยายามให้ถูกขับไล่ในฐานะคุณหนูนางร้าย แต่ก็ล้มเหลว และกลายเป็นผู้กล้า แต่ม๊า จะยังไงก็ได้
ผมต้องการให้ตัวเองถูกยกเลิกการหมั้นหมาย
ถึงจะได้รับการปฏิบัติด้วยเป็นอย่างดี
ท้ายที่สุดผมก็เป็นผู้ชาย
แม้ว่าร่างกายจะเป็นผู้หญิงก็ตาม
จู่ ๆ ผมก็จำทุกอย่างได้ขึ้นมาเมื่อเช้านี้ จึงเกิดเป็นความปราถนาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยที่ต้องการยกเลิกการหมั้นหมาย
แต่จะยุติการหมั้นได้ยังไงกัน?
ผมไม่ค่อยมีความรู้ในเรื่องแบบนี้มากนัก ดังนั้นจึงอาจจะเป็นเรื่องยาก
“โอโจซามะคะ ใกล้จะถึงในเร็ว ๆ นี้แล้วค่ะ”
ผมแน่ใจว่าในอดีต การแต่งงานไม่ใช่แค่เรื่องระหว่างพ่อแม่ทั้งสองฝ่ายเท่านั้น แต่เป็นเรื่องระหว่างตระกูลด้วย และการหมั้นหมายก็เหมือนเป็นการประกาศว่า「ทั้งสองคนกำลังจะแต่งงานกัน ดังนั้นสำหรับพวกหนอนแมลงมันจบแล้ว!」
เพื่อที่จะล้มสิ่งนั้น ทั้งสองตระกูลต้องได้รับผลประโยชน์ที่มากกว่า หรือเพื่อหลีกเลี่ยงข้อเสียที่ร้ายแรงกว่าผลประโยชน์ อย่างเรื่องทางการเมืองล่ะมั้งนะ?
หากประกาศเอาสะดวกฝ่ายเดียวก็จะกลายเป็นสงครามใช่ไหมน่ะ?
นั่นคือสิ่งที่เรียกว่าค่านิยมสำหรับการยกเลิกการหมั้นหมายในยุคกลางใช่ไหมนะ?
ม๊า สิ่งต่าง ๆ อาจเปลี่ยนแปลงได้เนื่องจากการแทรกแซงทางการเมือง หรือการคอรัปชั่นของพวกระดับสูง แต่โดยพื้นฐานแล้วก็เป็นอะไรประมาณนั้นใช่ไหม?
“อ้า จะทำยังไงดีเดสสึหวา”
ให้ตายเถอะ ถึงใจจะเป็นผู้ชาย แต่ร่างกายก็ยังเป็นผู้หญิง แม้แต่เสียงที่ไม่มีความสำรวมแม้แต่น้อยนิดสมกับเป็นไทป์โอโจซามะเอาแต่ใจ ก็ยังให้ความรู้สึกน่ารัก
ยังไงก็ตาม ผมลองค้นหาดูว่ามีใครที่จะได้ผลประโยชน์จากการยกเลิกการหมั้นหมายในครั้งนี้บ้าง แต่สุดท้ายก็มีเพียงผมคนเดียวในโลกนี้เท่านั้น ดังนั้นจึงไม่สามารถคว้ามาใช้เคลื่อนไหวได้แม้แต่น้อย
ยังไงซะ ผมก็เป็นผู้ชาย
เรื่องนี้ผิดพลาดเกินไปแล้ว เนื้อในยังไงก็เป็นผู้ชาย
เป็นคุณก็คงไม่อยากแต่งงานกับผู้ชายใช่ไหมล่ะ?
แต่เนื่องจากมีร่างกายของหญิงสาวที่ให้รสนิยมเหมือนหลุดออกมาจากมังงะโชโจ ทำให้การแต่งงานของผมถูกคนอื่นอิจฉา
ในชาตินี้ ผมเกิดใหม่เป็นลูกสาวของตระกูลขุนนางสูงศักดิ์ที่มีผมสีบลอนด์ ดวงตาสีฟ้า และเส้นผมที่ปลิวสยายในอากาศ และถูกบังคับให้สวมชุดเดรสรัดรูป เพราะเกเรมาก
แม้จะเกิดใหม่แล้ว แต่เรื่องนั้นก็ช่วยไม่ได้น๊า
ถ้าจำไม่ผิด ผมเพิกเฉยต่อชั้นเรียนในชาติที่แล้วและพูดแค่ว่า「อื~ม」ทว่าที่โลกนี้ผมไม่สามารถทำได้ เพราะนอกจากจะเป็นระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์แล้วก็ยังอยู่ในช่วงเวลาที่การคุกคามของสัตว์ประหลาดยังคงรุนแรง
การเป็นขุนนางที่มีสถานะดยุด……ทั้งสุดแสนจะลำบากและน่ารำคาญมาก ๆ แต่ผมก็ทำอะไรไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องนี้ นอกจากคิดว่าโชคดีแล้วอย่างมีความสุข
แต่ผมในชาตินี้……ดันเป็นเด็กผู้หญิงซะได้……
「ดิฉัน」ที่ผมพูดถึงคือลูกสาวคนโตของดยุค และเป็นลูกสาวคนโต แล้วดูเหมือนว่าจะมีน้องชายเพียงคนเดียว
พูดอีกอย่างคือ ผมเป็นอัญมณีสูงค่าที่ถูกซื้อขายกันในราคาสูง
อย่างน้อยจะดีกว่านี้ถ้าเขาเป็นน้องคนสุดท้องในพี่ชายหลาย ๆ คน……หวังว่าพ่อแม่ในชาตินี้จะพยายามให้มากขึ้น
แต่ก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ เพราะคุณแม่ยังอายุแค่ 20 กว่า ๆ พ่อแม่บอกว่าผมเกิดหลังจากที่พวกท่านพึ่งแต่งงานกัน
แต่น่าเศร้า ผมเป็นคนเดียวที่มีอายุรุ่นราวคราวเดียวกันกับเจ้าชายองค์แรกที่เหมาะจะแต่งงานเป็นภรรยาตามกฎหมาย ดังนั้นการแต่งงานจึงถูกตัดสินใจก่อนที่ผมจะทันจำความได้ด้วยซ้ำ
แน่นอนว่าเพื่อคงไว้ซึ่งสายเลือดจนถึงยุคสมัยใหม่จึงจำเป็นต้องให้กำเนิดสมบัติล้ำค่าที่เรียกว่าเด็กสุขภาพดีจำนวนมาก
“โอเกกกกกกกกกกกกกกก้!!”
“โอโจซาม๊าาาาาาา!!”
ผมทำอะไรที่ไม่สมควรแก่การเป็นบุตรสาวขุนนางอย่างยัดปากอยู่ในถุงอาเจียนที่เมดซังนำออกมาทันที
ถุงอาเจียน ไม่ใช่สิ ถุงอาเจียนเดสสึหวาถูกวางไว้หน้าปากในเวลาที่เหมาะสมเพื่อป้องกันไม่ให้ไปโดนเสื้อผ้าเหมือนเคยชินแล้ว เพราะผมเป็นแบบนี้เสมอ
ยังไงก็ช่วยไม่ได้ การมีลูกหมายถึงต้องทำเรื่องบ้าบอพวกนั้น
“อ๊อกกกกกกกกก ――っ!”
“อันต่อไป”
“อะ ขอบใจอ๊อกกกกกกกกก”
ฟู๊ว
เมดซังยื่นชาให้ผมดื่ม ก่อนระบายอากาศในห้องและฉีดน้ำหอมไปทั่วเยอะมาก แต่เพราะแบบนั้นผมจึงรู้สึกโล่งใจเล็กน้อยแม้จะรู้สึกเหนื่อยก็ตาม
อะ ขอบคุณสำหรับชามะนาว
เอ๊ะ
เจลอยน์*ก็เป็นอัญมณีเช่นนั้นเหรอ?
(*นางเอกอ้วกสีรุ้ง)
ก็เวลาที่ผมนึกถึงผู้ชายขึ้นมา ผมก็จะคิดถึงลามก ๆ ทั้งหมดที่ต้องทำกับเขา
“อ๊อกกกกกกกกกก”
“วันนี้เยอะมากเลยนะคะ”
“โอโจซามะเองก็สงบใจไม่ได้สินะคะ……”
ฟู๊ว……เป็นเพราะผมจินตนาการโดนทำแทนที่จะเป็นคนทำใช่ไหม?
เลยต้องมาอาเจียนออกมาแบบนี้ใช่ไหมล่ะ?
พูดอีกอย่าง ผมยังมั่นใจได้เลยว่าในใจผมยังเป็นผู้ชายอยู่
และพูดอีกอย่างคือ เวลาแต่งงานคือจุดจบชีวิตของผม
เพราะนี่แค่จินตนาการถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นเท่านั้น ดังนั้นหากเกิดขึ้นจริง ผมก็จะตายแน่นอน
ความเป็นผู้ชายของผมยอมรับไม่ได้
ผมเป็นพวกชอบคนต่างเพศ
ไม่ใช่โฮโม
ผมต้องการเป็นฝ่ายรุก
ผมไม่ต้องการเป็นฝ่ายรับ
ผมอยากเป็นคนใส่เข้าไป
ไม่ใช่คนที่ถูกใส่เข้ามา
ผมอยากเกิดเป็นชายสูงศักดิ์เหมือนเจ้าชาย และใช้ชีวิตสนุกสนานกับผู้หญิงมากหน้าหลายตา
“อะ――……”
“โอโจซามะ……”
ม๊า ผมแค่รู้สึกแย่นิดหน่อยที่แค่คิดก็ตายได้ แล้วแบบนี้ผมจะมีความสุขได้ยังไงกัน?
บางทีหากปล่อยให้ใส่เข้ามาในทันทีผมคงตายจากอาการช็อก การต่อต้านระดับนั้นเลยล่ะ
ถ้าชั่วพริบตาเดียว ม๊า……อาจจะสามารถทำใจยอมรับได้ล่ะมั้ง
แค่คิดว่าจะถูกทำให้เสร็จโดยเขาก็รู้สึกท้องไส้ปั่นป่วนแล้ว ผมตั้งตารอความตายที่มีสาเหตุจากอาการช็อกเลย จิตวิญญาณของผมในฐานะผู้ชายมีมากกว่าสัญชาตญาณของร่างกายในฐานะเด็กผู้หญิงอย่างท่วมท้น
ในยุคนี้ชีวิตมนุษย์ก็มีชีวิตชั่วประเดี๋ยวเดียวจริงไหม?
การใช้ชีวิตให้คุ้มค่าเป็นเรื่องยากลำบากมาก แทบไม่มีบันทึกเหลือเลยว่ามนุษย์เริ่มตอบโต้ภัยคุกคามจากสัตว์ประหลาดตั้งแต่เมื่อใดและยังไง ดังนั้นจึงไม่รู้เลยว่าจุดจบที่จะสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปลอดภัยจะมาถึงเมื่อใด?
แม้แต่ชื่อยุดสมัยที่เรียนในชั้นเรียนในชาติที่แล้วก็มักเกิดขึ้นหลังจากที่ยุคสมัยค่อนข้างมั่นคงแล้วเท่านั้น
ก่อนอื่น ก่อนที่ความทรงจำจะกลับมาผมก็ได้ใช้สถานะลูกสาวของดยุคในการพัฒนาสิ่งต่างๆ ในประเทศโดยอาศัยสูตรโกงจากความรู้สมัยใหม่ แม้ว่าผมจะจำไม่ได้ว่าตัวเองเป็นใครก็ตาม แต่บางทีอาจจะเป็นการดันทุรังก็ได้?
อืม
ในสมัยก่อน ใครก็ตามที่มีความรู้ด้านเวทย์มนตร์ ก็จะถูกจับโยนเข้าสู่สนามรบโดยไม่คำนึงถึงเพศ……ในอนาคตอันใกล้นี้ หากผมอาจจะตายอย่างมีเกียรติในสนามรบเพื่อต่อสู้กับสัตว์ประหลาด หรือไม่ก็จะลงเอยด้วยการแตกสลายบนเตียงกับมนุษย์คู่ครองในไม่ช้านี้ มีแค่อย่างใดอย่างหนึ่ง
ตอนนี้ หากผมกลายเป็นเด็กผู้หญิงไปได้จริง ๆ ก็คงจะรีบยั่วยวนเจ้าชายให้รีบแต่งงานเพื่อที่จะได้ไปหลบอยู่ข้างหลัง ม๊า คิดว่าแบบนั้นผมน่าจะมีชีวิตที่ดีสุด ๆ ไปเลย……อนิจจา ผมเป็นผู้ชาย
……เรื่องแบบนั้น ผม
ด้วยเหตุผลบางอย่าง ผมจึงได้กลับชาติมาเกิดใหม่เป็นลูกสาวดยุค และกำลังใกล้จะถึงเส้นตายของคืนแรกในงานแต่งงานของตัวเองแล้ว
“อา คู่หมั้นอันเป็นที่รักของข้า……อา……”
“หนวกหู”
เป็นไปตามคาด ผมไม่สามารถตอบกลับแบบนั้นได้ สิ่งเดียวที่ผมทำได้คือฝืนยิ้ม และรอให้เจ้าชายทักทายในสถานที่พิเศษที่เรียกว่าพื้นที่ต้อนรับของเจ้าชาย
ผู้ชาย อ๊ากกกก……อย่าหายใจหอบแบบนั้นเซ้ น่าขยะแขยง
อะ อืม
คิดว่าถ้าเป็นเด็กผู้หญิงที่ป่วยเป็นโรคซินเดอเรลล่าก็คงจะชอบคำพูดที่ทำให้รูขุมขนทั้งหมดลุกซู่……เพราะผมเป็นผู้ชายก็มีแต่จะกลายสภาพเป็นหนังไก่เท่านั้น
ยังไงก็ตาม ผมคุ้นเคยกับการซ่อนส่วนต่าง ๆ เป็นอย่างดี เช่น ไหล่ บนเกราะหน้าอก ใบหน้า และต้นขา
พระราชวัง
ในความทรงจำ……ผมจำปราสาทที่มีลักษณะคล้ายกันนี้ในสวนสนุกชาติก่อน แต่ปราสาทนี้ใหญ่กว่าหลายเท่า
ทุกครั้งที่ผมมาที่นี่ ก็มักจะถูกทักทายโดยสิ่งที่เลวร้ายที่สุด
บ้าที่สู๊ดดดด
“ท่านหญิงวันนี้ก็ยังคงงดงามเป็นที่หนึ่งของโลก……”
คำพูดที่ทำให้ขนลุกแล่นผ่านเข้าสมอง
ทำไมถึงเอาแต่พูดประโยคเดิม ๆ ตลอดเวลากันห๋า
……เน๊ มีใครอยากสลับตัวกับผมบ้าง?
ผู้หญิงชอบผู้ชายแบบนี้ใช่ไหมล่ะ?
ตอนนี้มาพร้อมกับตำแหน่งพรีเมียมที่ชื่อว่าราชินีเลยน๊า?
ยิ่งไปกว่านั้น ถึงแม้ว่าผมจะเป็นผู้หญิง แต่ก็ค่อนข้างสูงกว่าทั่วไป แต่ว่าผู้ชายคนนี้ตัวใหญ่กว่าผมอีก
น่าจะเกิน 2 เมตร
สูง
ยังไงก็ตาม เขามีรูปร่างสูง แต่ไม่มีกล้ามเนื้อ มีรูปร่างผอมเพรียว เป็นพวกหนุ่มหล่อ……ม๊า ผมสีบลอนด์ และตาสีฟ้าที่ดูเหมือนอะไรบางอย่างที่หลุดมาจากมังงะโชโจ……พวกเราดูคล้ายกัน แม้เพศในชาตินี้ของผมจะตรงข้ามก็ตาม
ม๊า เป็นพวกอิเคะเม็งล่ะนะ
ถึงจะไม่อยากยอมรับแต่ก็ดีงามสุด ๆ
ผมไม่อยากพูดอะไรแบบนี้เลย แต่
หรือผมจะถือโอกาสทำให้เขาฉุนจนสติขาดผึงใส่ผมดี?
พอได้เกิดใหม่ครั้งต่อไป ผมก็อยากเกิดเป็นผู้ชายที่หล่อและสูงแบบผู้ชายคนนี้
“เจ้าหญิง……อ้า…..”
“ไม่ต้องการเดสสึหว่า สถานะของดิฉันไม่ใช่คนของราชวงศ์เดสสึหว่า โอโฮะๆๆๆ”
เดสสึหว่า เดสสึโนโย๊ว เดสสึหว่าโย๊ว เดสสึโน๊ว
「ต้องพูดแบบนี้จริง ๆ เหรอ」คุณป้าครูสอนพิเศษเป็นคนสอนยัดวิธีพูดแบบนี้ให้กับผม
ผมคิดกับตัวเองว่า「พูดแบบนี้โอเคแล้วจริง ๆ เหรอ?」แต่เห็นได้ชัดว่าไม่มีปัญหา
เหมือนว่าจะเป็นวิธีพูดแบบเดียวกับสุภาพสตรีและโอโจซามะคนอื่น ๆ ด้วยเหมือนกัน
ทุกคนตั้งใจใช้「โอโฮะๆๆๆ」กันอย่างจริงจัง
แต่ผมเองก็ตั้งใจใช้อย่างจริงจัง โอโฮะๆๆๆ
ขุนนางยุคกลางนั้นน่าทึ่งมาก
“โห๊ว เดรสวันนี้รวมเอาดีไซน์ยอดฮิตของภาคใต้มาด้วย……”
อะ ไอ้เวร อย่ามาแตะต้องหน้าอกของผมเหมือนไม่ใช่เรื่องผิดเซ้
ไม่ใช่เรื่องไร้ยางอายรึไงที่มาพายทัช*ขณะที่ผมกำลังกอดอกดันทรงอยู่น่ะ?
(*การสัมผัสหน้าอกของผู้หญิงถือเป็นการกระทำที่สุภาพบุรุษมาก)
แม้ว่าผมจะตัวแข็งทื่อด้วยความขนลุก แต่ก็เรียนรู้จนเชี่ยวชาญเทคนิคในการดึงสติกลับมาได้อย่างช่ำชอง สิ่งเดียวที่ผมทำได้คือตอบกลับ「เดสสึหว่า!」ด้วยใบหน้ายิ้ม และแสร้งทำเป็นไม่รู้ตัว
ผมได้หมั้นหมายกับชายที่มีตำแหน่งเหนือกว่า……
แต่ถ้าผมพูดอะไรประมาณว่า 「นี่มันล่วงละเมิดทางเพศนะเดสสึหว่าโย๊ว!!」 แล้วจับเขาทุ่มข้ามไหล่ ทั้งครอบครัวควจะถูกส่งไปยังกิโยติน……?
เพราะแบบนั้น วันนี้เองผมก็ต้องอดทนเช่นกัน
พยายามอย่าจินตนาการถึงความสิ้นหวังที่เรียกว่าสุสานของชีวิตอันไร้แสงสว่าง ต้องแต่งงานกับเจ้าหมดนี่และต้องมีคืนแรกด้วยกัน
อะ รู้สึกอยากจะอ้วก……
แต่ทำได้เยี่ยมมากตัวผม ในการควมคุมจิตใจและใส่พลังมากมายกับท้อง
“อา〝เอ่อ เหนื่อยจริง”
“โอโจซามะ ทำเช่นนั้นไม่ได้นะคะ”
เสียงที่คุ้นเคยของเมดซังดังมาจากข้างหลัง ขณะที่ผมกระโดดขึ้นบนเตียง
ก็ช่วยไม่ได้นิหน่า……?
ตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมา เจ้าชาย ราชา ราชินี และคนอื่น ๆ อีกหลายคนก็เอาแต่เรียกผมว่า 「เจ้าหญิง! เจ้าหญิง!」กัน
ผม ไม่ใช่ผู้หญิง……ไม่ได้โหยหาที่จะถูกเรียกเหมือนเป็นไอดอลแบบนี้สักนิด……ผมอยากจะคิดว่ามีใครสักคนไปกดดันให้พวกเขาต้องเรียกแบบนั้น……สินะ?
ผมอยากจะคิดแบบนั้น แต่ในโลกนี้ ผมเป็นลูกสาวของดยุด และเป็นเรื่องธรรมดาที่ผู้หญิงในยุคนี้จะต้องมีลูก
มันเป็นโลกห่วย ๆ แต่ผมก็ยังอยากขอบคุณที่ให้เกิดมาอยู่ในชนชั้นที่ดีมาก ๆ อย่างน้อยก็ยังดีกว่าเด็กจำนวนมากที่โดนตาแก่ตัณหากลับบังคับให้ไปทำเรื่องวิปริต
……แม้ว่าผมจะเป็นผู้ชาย แต่ก็ได้รับการปฎิบัติเหมือนเป็นผู้หญิง
แต่ถ้าโดนถามว่า「ฝั่งไหนดีกว่า ตาแก่กับชายหนุ่มรูปงาม?」ผมก็คงชี้「ทางนี้……」อย่างไม่เต็มใจ ถึงอย่างงั้นของที่ไม่ชอบก็คือไม่ชอบ
บ้าเอ๊ย!
“shit เดสสึหว่า!”
“โอโจซามะ ถึงจะใช่คำศัพท์ที่ไม่มีความหมาย แต่คำพูดก็ยังถ่ายทอดอารมณ์ได้อยู่นะคะ?”
“damn it เดสสึหว่า!”
“โอโจซามะ……”
นานแค่ไหนแล้วนะที่ภาษาและตัวอักษรสมัยใหม่ที่คนโลกนี้ไม่สามารถเข้าใจได้ช่วยให้ผมรอด
ไม่ว่าจะพูดแรงแค่ไหนก็จะไม่ถูกโกรธ
ม๊า ความหมายก็ยังพอสามารถสื่อถึงกันได้ ดังนั้นผมจึงไม่สามารถพูดได้หากอยู่ในที่สาธารณะ
แต่เพราะแบบนั้น ผมจึงต้องแต่งงานกับผู้ชายอย่างไม่มีข้อยกเว้นเน๊ะ
นี่ไม่ใช่โลกที่คิระคิระที่จะตัดสินใจชีวิตของตัวเองได้
「เกิดมาเป็นผู้หญิงแต่ก็ไม่อยากแต่งงานกับผู้ชาย」「ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะแต่งกับผู้หญิงสักคน」นี่กลายเป็นเรื่องราวความฝันอันแสนห่างไกล
ท้ายที่สุดแล้ว นี่คือยุคที่คลอดเด็กออกมาเท่าไหร่ก็ไม่พอ เพราะยุคสมัยแห่งการปรองดองกับพวกปีศาจยังมาไม่ถึง
เช่นเดียวกับเกมกระดานยอดนิยมเมื่อเร็ว ๆ นี้ ราชาปีศาจพูดกับเหล่ามนุษยชาติว่า「ข้าจะทำอะไรดี หากพวกเจ้ามอบสมบัติที่ล้ำค่าดี ๆ แก่ข้า ข้าจะเบามือให้ก็ได้」「ข้าจะส่งสี่จตุรัสเทพไปบุกตามลำดับความอ่อนแอให้ดีไหม」「มาจัดให้กองกำลังที่ยิ่งอยู่ใกล้ปราสาทราชาปีศาจเท่าไหร่ก็ยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้นกันเถอะ」「มาวางหีบสมบัติทิ้งไว้ในที่ดี ๆ กันเถอะ」ในแง่หนึ่งก็เหมือนโลกใบนี้จะมอบความปราณีให้มาก ๆ
พูดง่าย ๆ ก็คือ ยุคนี้จะอยู่ในระดับเลวร้ายที่จะทำสงครามนับครั้งไม่ถ้วนจนคนรุ่นหลังเบื่อหน่ายไปกับมัน
หากมองจากมุมมองของท้องถิ่นจะรู้สึกสิ้นหวังค่อนข้างรุนแรง
และสถานการณ์ก็เลวร้ายชนิดที่แทบจะไม่มีที่ให้ถอยหนีได้อีกแล้ว
「เราจะขับไล่พวกปีศาจออกไปได้จริงหรือ……? มนุษยชาติจะไม่ถูกทำลายล้างไปก่อนหรือ…..? 」เลวร้ายในระดับนั้นเลย
……นี่ เป็นไปได้ไหมว่าบางทีผม อาจจะกลับชาติมาเกิดในโลกที่คล้ายกับอดีตก็ได้?
เพราะช่วงเวลานี้……แม้จะยาวนานามาหลายร้อยปีแล้ว แต่ก็ยังไม่มีวี่แววของจักรพรรดิพระองค์แรกที่สามารถเอาชนะราชาปีศาจ และก่อตั้งอาณาจักรปรากฎขึ้นมาในยุคนี้เลย……?
จากการที่เป็นผู้กล้ากวาดล้างราชาปีศาจ เขาจึงได้รับเจ้าหญิงและประเทศมาสถาปนาให้กลายเป็นจักรวรรดิ เขาคือคนในอุดมคติสำหรับผู้ชายอย่างเรา ๆ
อยากรู้จังว่าจะปรากฎตัวออกมาเมื่อไหร่
ม๊า นี่ก็ผ่านมาหลายร้อยปีแล้ว ความน่าจะเป็นที่จะไม่ได้เจอจึงมีสูงกว่า
แต่ถ้าสมมติว่าเข้าไม่มีตัวตนอยู่จริง มนุษยชาติก็คงถึงคราวสิ้นสุดแล้ว
“…………แย่แล้วเดสสึหว่า”
“โอโจซามะ ใกล้ได้เวลาเปลี่ยนชุดแล้วค่ะ”
ไม่ว่าจะมองยังไง อนาคตของโลกที่ปราศจากผู้กล้าก็มืดมน
แย่แล้วเดสสึหว่า!
ม๊า ที่จริงก็ไม่ได้สำคัญสำหรับผม
ไม่สิ ไม่ใช่ว่าไม่สำคัญแต่สำหรับผมมันเป็นเรื่องรองต่างหาก
สำหรับผม การทำลายล้าง และความตาย คือการแต่งงานไงล่ะ
ผู้ชาย พูดอีกอย่าง ถ้าผมแต่งงานกับเขา เขาก็จะเรื่องสกปรกกับผม
“อ๊อกกกกกกกกกก”
“โอโจซามะ ก็เพราะไม่ยอมถอดคอร์เซ็ทออกก่อนไงคะ……”
มุ พูดไปแล้วก็ใช่
ผมลุกจากเตียงและอาเจียนออกใส่ถุงที่ถูกเตรียมไว้อย่างรวดเร็ว ในขณะเดียวกันพวกเมดซังก็เข้ารุมถอดเสื้อผ้าของผม
ผู้ยิ่งใหญ่ไม่ก้าวด้วยตัวเอง
หรือพูดให้ถูก ผมไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ตามใจ
งานของทุกคนถูกกำหนดไว้เป็นรายคน
นั่นคือวิธีที่ทุกคนมีชีวิตอยู่ หากผมทำเอง จะมีผู้หญิงหนึ่งคนต้องไปจบลงอยู่ที่ข้างถนน
แต่ในยุคสมัยนี้ ก็ยังน่ามหัศจรรย์มากที่สามารถหาเลี้ยงชีพได้ด้วยการทำงานง่าย ๆ แบบนี้……
ผมคร่ำครวญให้กับอนาคตของตัวเองที่ทำอะไรไม่ได้ อย่างน้อยผมก็เลือกที่จะปลอบใจตัวเองด้วยการดื่มด่ำความสุขที่ได้รับการดูแลจากสาว ๆ คนโปรดของผม……ถึงจะทำให้พวกเธอเป็นผู้หญิงของผมไม่ได้ เพราะดันมีร่างกายผู้หญิง
แต่เอาเถอะ……ยังไงนี่ก็ฮาเร๊ม……ฮาเร็มเดสสึหว่า……
แต่ผมมีความสุขมากเพราะไม่โต……โอ้ย ผมดีใจมากที่มีคนน่ารักคอยดูแลเป็นอย่างดีขนาดนี้
“นี่คือชุดของคืนนี้ค่ะ”
“ว้าว……วิเศษไปเลยค่ะ……”
“โอโจซามะ……งดงามมากเลยค่ะ”
หลังจากที่อ้วกเสร็จ ผมก็ถูกจับให้สวมชุดเซ็กซี่ที่เรียกว่า négligée*
(*ชุดนอนเนื้อผ้าซีทรูสำหรับสวมใส่ในเวลากลางคืนและในห้องนอน)
……อืม
มีอะไรมากมายถูกเตรียมไว้สำหรับค่ำคืนกับเจ้าชาย
ผมรู้
ผมเคยชินกับการถูกเปลื้องผ้าจนเปลือยแล้ว ผมรู้ดี
“ต้องการปรับตรงจุดไหนไหมคะ? โอโจซามะ”
เซ็กซี่เดสสึหว่า♡
……อืม อาหารตาชั้นดี
กระจก……เห็นได้ชัดว่าเป็นของที่มีราคาแพงมาก และวิธีทำก็แตกต่างจากกระจกที่ผมรู้จัก……ที่สะท้อนให้เห็นอยู่ในนั้น คือ เด็กผู้หญิงผมสีบลอนด์ยาวสลวย และตาสีฟ้า
เธออาจจะตัวสูงกว่าตัวผมในชาติที่แล้วเสียอีก และใบหน้าของเธอก็งดงามมาก……ผมไม่สามารถหาคำจำกัดความมาอธิบายตัวตนของเธอได้เลย แต่หากให้พูดแล้วก็「・สาวงาม」ล่ะ
ไม่สิ ผู้ชายจะมีคำอธิบายที่ซับซ้อนเฉพาะเมื่อพูดถึงเรื่องหน้าอกเท่านั้น……?
ประเด็นสำคัญคือเธอไม่ได้เป็นเพียงผู้หญิงธรรมดา แต่ยังสูงและมีกล้ามเนื้อที่แข็งอีกด้วย
เหมือนกับได้รับพรจากอีรอสให้มีสุขภาพดีเลยเน๊ะ
น่าเสียดายที่หน้าอกของผมเล็กไปหน่อย……แต่ถึงบอกว่าเล็ก แต่ก็เป็นเพราะรูปร่าง ดังนั้นพิจารณาดูดี ๆ ก็น่าจะประมาณคัพซีน่ะ เมื่อเทียบกับคุณแม่ของชาตินี้แล้ว มั่นใจได้เลยว่า「ผมจะสามารถคลอดลูกที่มีสุขภาพแข็งแรงได้มากมาย!」
“อ๊อกกกกกกกกก”
“โอโจซามะ……ช่างน่าสงสาร……”
ฟู๊ว
โล่งใจที่ไม่มีอะไรจะให้อ้วกออกมาอีกแล้ว เลยเป็นแค่น้ำย่อย และไม่มีกลิ่นเหม็น
พูดตามจริง ของเสียของผมไม่มีกลิ่นเหม็นเลย
แปลกมากเลยล่ะ
อันที่จริงก็ฟังดูเหมือนกำลังโดนตามใจที่บอกว่ามีกลิ่นหอม แต่ก็ช่วยไม่ได้เพราะเป็นเรื่องจริง
นอกจากนี้ ด้วยเหตุผลบางอย่าง มันจึงเป็นของเหลวสีรุ้งที่สวยเหมือนกับกับในมังงะ……ผู้หญิงของจริงก็เป็นแบบนี้สิเน๊
เห็นได้ชัดว่าเป็นเรื่องจริงที่ว่าของอะไรก็ตามที่ปล่อยจากสาวงามนั้นนับว่าเป็นรางวัล
ผมไม่รู้เรื่องพวกนี้ อย่างน้อยก็เท่าที่จำได้จากความทรงจำชาติที่แล้ว ผมเข้าใจว่าตัวเองตายก่อนที่จะทันได้มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับเด็กผู้หญิงในชาติก่อน
อ้า เสียของเหลือเกิน
การตายโดยที่ไม่มีโอกาสได้ใช้สิ่งที่มีติดตัวมาแต่กำเนิด ช่างเป็นหนทางตายที่น่าเศร้าที่สุดของมนุษย์คนหนึ่ง
ตอนนี้ ผมได้แต่คิด เพราะมันไม่มีอยู่ที่นี่แล้ว
“……ขอบคุณ ดิฉัน จะนอนแล้วเดสสึหว่า”
แต่ตอนนี้ผมหมดสิ้นแล้วทั้งเรี่ยวแรงทางกายและจิตใจ ผมจึงคลานขึ้นไปบนเตียง
พวกเธอปิดม่านที่นอนตามหลัง
“…………………………………”
ไฟดับลงและห้องก็เงียบสงัด
นั่นคือตอนที่ผมตัดสินใจ
“……กะแล้ว มาทำไอ้นั่นกันเถอะเดสสึหว่า”
ไอ้นั่นที่ว่าหมายถึงการโดนถอนหมั้น
ผมดึงความรู้ที่มาจากชาติที่แล้วออกมา ก่อนที่จะจำคำบางอย่างที่เรียกว่าการโดนถอนหมั้น
และการทำให้เกิดเรื่องเช่นนั้นขึ้น
หากผมทำสิ่งที่เลวร้ายจริง ๆ และทำให้ถูกประณามจากเจ้าชาย เขาก็จะยกเลิกการหมั้นหมายและเนรเทศผมออกไป
ผมจำไม่ได้ว่ามันคือยังไงกันแน่ เพราะผมไม่ได้สนใจจริง ๆ แต่ก็น่าจะราว ๆ นั้น คุณหนูนางร้ายถูกประณาม โดนยกเลิกการแต่งงาน และถูกเนรเทศ
ผิดไหมนะ?
ม๊า ผมไม่สนใจรายละเอียดหรอก
ผมมีจุดประสงค์แค่อยากถูกเนรเทศจาการประณาม พวกรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ค่อยไปคิดเอาตอนเฉพาะหน้าก็ได้จริงไหม?
เพราะการทำเรื่องร้าย ๆ มันง่ายใช่ไหมล่ะ?
ง่ายกว่าการได้รับคำชมจากการทำดีตั้งเยอะ
“เอาล่ะ เดสสึหว่า”
ตัดสินใจแล้ว
ผมจะเป็นคุณหนูนางร้าย ทำให้งานหมั้นพังทลาย ถูกประณาม และถูกเนรเทศ
กำหนดเวลาคือคืนแต่งงานในอีกประมาณหนึ่งปีข้างหน้า
ในช่วงหนึ่งปีนั้น มาทำเรื่องเลวร้ายให้เยอะแยะ แล้วถูกเนรเทศกันเถอะ!
ผมยังไม่แน่ใจว่าควรจะทำเรื่องเลวร้ายแบบไหน แต่ตัวผมในชาตินี้ช่างสมบูรณ์แบบ
ผมสีบลอนด์สวย ดวงตาสีฟ้าเหมือนอัญมณี และหน้าอกที่ใหญ่พอให้ต้องสวมชุดชั้นใน นอกจากนี้ยังมีพรสวรรค์ที่โดดเด่น สามารถจดจำสิ่งใด ๆ ได้อย่างรวดเร็ว มีความคิดสร้างสรรค์ และใช้เวทมนตร์ได้
จริง ๆ แล้ว ถ้าเป็นผู้ชาย……ถึงจะไม่เป็นแบบนั้น แต่ก็คงจะดีกว่านี้ถ้าเกิดเป็นคนธรรมดาและไม่ต้องแต่งงาน
ม๊า ตอนนี้ไม่มีประโยชน์ที่จะบ่นแล้ว
มันไม่ได้เปลี่ยนความจริงที่ว่าผมมีหน้าอกที่โดดเด่นแปะติดอยู่
แล้วความจริงที่ว่าตัวเองน่ารัก แค่ยืนอยู่หน้ากระจกทำให้มีความสุขแล้ว
“ฮิเมะซามะ!”
“อาร๊า เซย์โจวซามะ โกกิเกงโย๊ว”
ขณะที่ผมกำลังคิดว่าวันนี้ตัวเองน่ารักแค่ไหน ผมก็ได้ยินเสียงฝีเท้าวิ่งมาจากปลายโถงทางเดิน
เธอมีผมสีเทา ใบหน้าที่เป็นมิตร และหน้าอกที่ใหญ่
ถ้าผมมีน้องสาว ผมจะเลือกผู้หญิงแบบนี้ เธอเป็นเด็กที่ดูเหมือนน้องหมา
อา~ ท่านพ่อท่านแม่ของชาตินี้โปรดช่วยมีลูกให้มากกว่านี้ทีสิ
เมื่อตระหนักได้ว่า「อ้า เด็กคนนี้เหมาะที่จะให้เป็นสตรีศักดิ์สิทธิ์ล่ะ」ผมจึงใช้สถานะของลูกสาวดยุคและว่าที่ราชินีคนต่อไป ให้เด็กคนี้เป็นผู้ได้รับคำพยากรณ์ และทำให้กลายเป็นสตรีศักดิ์ เซย์โจวจังล่ะ
“ฮิเมะซามะ วันนี้ก็ดูงดงามเช่นเคยนะเพคะ!”
“เซย์โจวซามะ ท่านเองก็ดูวิเศษมากเดสสึหว่า”
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สิ่งมหัศจรรย์ที่สามารถแกว่งไปมาได้อย่างแอคทีฟ ที่ไม่มีทางพบเห็นได้ที่อื่นโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับขุนนางและเหล่าโอโจซามะทั้งหลาย
“ฮ้าาาา……….จากฮิเมะซามะอีกแล้ว”
ถึงจะบอกว่าเส้นผมสีเทา แต่ถ้าพูดอีกอย่างก็คือ ผมสีเงิน……ยังมีความจริงที่ว่าเธอยังถูกดูถูกเนื่องจากปัญหาเวทย์มนตร์ เธอดูเหมือนสตรีศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในเรื่องราวมที่มีคุณหนูนางร้ายเลย
แล้วยังมีหน้าอกที่ใหญ่มาก?
เธอเป็นเด็กนิสัยดีจริง ๆ ?
กอดในอ้อมแขน?
หน้าอก?
หน้าอกคือเรื่องสำคัญ
ไม่มีผู้ชายที่ไหนจะไม่อ่อนแอต่อหน้าหน้าอก
“ฮิ……ฮิเมะซาม๊า……”
บางทีเด็กคนนี้คงโดนรังแกมามาก พอผมช่วยเอาไว้ก็เลยดูเหมือนจะมีระดับความชอบต่อผมที่สูงมาก
หากราชินีองค์ต่อไปตรัสว่า「นี่คือสีเงินเดสสึหว่า」ทุกคนก็ต้องพูดว่า「นี่คือสีเงิน ไม่ใช่สีเทา!!」และหากบอกว่า「คนนี้คือคนโปรดของข้าเดสสึหว่า」ทัศนคติของทุกคนก็จะเปลี่ยนไป 180 องศา นี่คือธรรมเนียมปฎิบัติของระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ไงล่ะ
ผมไม่ชอบเรื่องแบบนั้น เพราะผมเป็นคนธรรมดาสามัญในชาติก่อน แต่ถ้าผมพูดอะไรสักอย่างแล้วการกลั่นแกล้งหยุดลงได้ ก็ถือว่าไม่มีปัญหา
ขณะที่กำลังหวนคิดถึงอดีต
“ฮิเมะซาม๊า!”
“อาร๊า~♡”
เธอก็กระโดดเข้ามากอดผมแน่น……และเนื่องจากความสูงของผมกับเธอที่แตกต่างกันมาก ใบหน้าของเซย์โจวจังจึงฝังอยู่บนหน้าอกของผม และหน้าอกของเธอก็แนบชิดกับหน้าท้องของผมอย่างสมบูรณ์แบบ
เด็กสาวหน้าอกโตสกินชิพกันเข้นข้นขนาดนี้เลยสิน๊า หน้าอกกกกกกก
อืมอืม ดีจังดีจังน๊า
ในความเป็นจริง ทุกคนค่อยเอาแต่รักษาระยะห่าง เพราะผมมีสถานะที่สูงส่ง คนที่เข้ามาสัมผัสร่างกายโดยตรงแบบนี้ มีแค่เด็กคนนี้กับไอ้เวรนั้น
“อ้า เจ้าหญิง วันนี้ก็ยังคงงดงามเช่นเดิม”
“อาร๊า องค์ชาย ท่านอยู่ที่นี่ด้วยเหรอ……”
ผมพยายามระวังอย่างเต็มที่ที่จะไม่ลดโทนเสียงลง แต่อารมณ์ของผมกลับแย่ลงมาก
ผมมีความสุขมากจนเลือกที่จะเพิกเฉยต่อตัวน่าลำบากใจข้าง ๆ
เจ้าชายที่กำลังเอามือสยายผมยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น
“……เจ้าชาย สวัสดิยามเช้านะเพคะ”
“……สตรีศักดิ์สิทธิ์ ดูเหมือนเจ้าก็ยังแข็งแรงดีนะ”
อาเร๊ะ?
ยังไงดี รู้สึกเหมือนจู่ ๆ โทนเสียงของทั้งคู่ก็ต่ำลง?
ทางเดินนี้หนาวขนาดนั้นเลยเหรอ
อ้า รู้สึกตัวสั่นแปลก ๆ
เมื่อเร็ว ๆ นี้าเรื่องนี้เริ่มเกิดขึ้นบ่อยมาก ผมก็ได้แต่สงสัยว่าทำไมกันน่ะ
เจ้าชายลบรอยยิ้มจาง ๆ ออกไป และเซย์โจวจังก็ทำหน้าจริงจัง และจ้องกันอย่างตั้งใจ
“………………………………”
“………………………………”
ชายหญิงมองหน้ากันด้วยสายตาจริงจัง
……รู้สึกดีจัง!
ทั้งสองคนดูเหมือนรู้ใจซึ่งกันและกันแล้วสินะ
เพราะผมต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการทำให้พวกเขามาเจอกัน
เซย์โจวจังเป็นสามัญชน และ เจ้าชายเป็นเชื้อพระวงศ์
ด้วยโลกทัศน์ของยุคกลาง สถานะทางสังคมที่แตกต่างกันอย่างมาก ทำให้พวกเขาไม่ควรจะมีโอกาสได้พูดคุยกันแต่แรกด้วยซ้ำ
แต่แน่นอนว่าต้องมีข้อยกเว้น และนั้นคือสิ่งที่ผมทำ ผมได้ทำหลายสิ่งหลายอย่างเพื่อสร้างกระแสสังคมให้「เด็กในวัยเดียวกันกับพวกผมต้องได้รับการปฏิบัติโดยไม่มีการแบ่งแยกสถานะ」 นอกจากนี้เซย์โจวจังที่กลายเป็นสตรีศักดิ์สิทธิ์ก็ได้รับความโปรดปรานจากเทพธิดาอีกด้วย ดังนั้นในทางปฏิบัติแล้วเธอจึงเป็นนักบวชที่ถือว่าเป็นชนชั้นพิเศษใช่หรือไม่?
ด้วยเหตุนี้ ผมจึงคิดว่าการจับคู่สตรีศักดิ์สิทธิ์กับเจ้าชายจึงเป็นเรื่องที่ดี
ง่ายดีใช่ไหมล๊า
ผมมั่นใจว่าเซย์โจวจังต้องดีใจอย่างแน่นอน หากมีเรื่องราวแบบซินเดอเรลล่าเกิดขึ้นมา จากเด็กสามัญชนที่ถูกรังแกสู่การได้แต่งงานกับเจ้าชายลำดับที่หนึ่งของประเทศ
เพราะยังไงเด็กผู้หญิงก็ยังเป็นเด็กผู้หญิง
ไม่ใช่โอโอะๆๆๆปลอมแบบผม
สบายมากสบายมาก
“……องค์ชาย? ได้ยินว่าวันก่อนท่านได้เต้นรำที่แสนวิเศษกับฮิเมะซามะ……และก็อยู่ด้วยกันจนดึกดื่นด้วยนิเพคะ น่าอิจฉามากเลยนะเพคะ”
“……สตรีศักดิ์สิทธิ์ ที่โรงเรียนเจ้าก็เอาแต่เกาะติดเจ้าหญิงของข้าตลอดไม่ใช่รึ ไม่คิดว่าจะใกล้ชิดกันเกินไปหน่อยรึไง……อย่าลืมซะละ ว่าข้ายอมอดทนเพราะนั้นเป็นความต้องการของเจ้าหญิง”
“ไม่เอาเพคะ องค์ชาย เป็นเรื่องปกติของ『เพื่อน』ไม่ใช่เหรอเพคะ เน๊ะ ฮิเมะซามะ?”
“เอ๊ะ? อะ ใช่แล้วเดสสึหว่า เป็นเพื่อนรักกันเลยเดสสึหว่าเน๊ะ?”
“ก่อนอื่น เจ้าหญิงคือคู่หมั้นของข้า……”
“อ้า เพคะ ใช่แล้วเดสสึหว่า”
อืมอืม ทั้งสองคนคงจะอาย เพราะพึ่งจะรู้จักกันได้ไม่นาน
เซย์โจวจังก็ดูขี้อายเหมือนกัน เจ้าชายเองก็จ้องมองเธออย่างจริงจัง
ใกล้จะถอนหมั้นแล้วสิน๊า!
“ดิฉันดีใจมากที่ทั้งสองท่านดูจะเข้ากันได้เป็นอย่างดีเลยนะเดสสึหว่า!”
ผมอดไม่ได้ที่จะเอามือประสานกันใกล้ใบหน้า เป็นอากัปกริยาเจ้าเล่ห์ที่ครูสอนพิเศษที่สวมแว่นสามเหลี่ยมสอนผมเอาไว้ แต่ผมไม่เคยสนใจ
ถึงยังไง ผมทำไปก็ไม่มีใครสนใจอยู่แล้ว
“…………ถ้าฮิเมะว่าอย่างงั้นล่ะก็”
“…………ถ้านั่นคือสิ่งที่เจ้าหญิงต้องการล่ะก็”
จากนั้นทั้งสองก็ก้าวเข้ามาใกล้กันและเริ่มพูดคุยเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ
สงสัยจังว่ากำลังคุยถึงเรื่องอะไรกันอยู่ถึงได้หน้าแดงกันแบบนั้น อยากฟังด้วยจังเลย
ดูเหมือนว่าต้องใช้เวลาอีกสักพักกว่าที่พวกเขาจะกลายเป็นคู่รักกัน……แต่หวังว่าผมจะสามารถจางหายไปได้ในตอนที่งานแต่งงานในอีกหนึ่งปีมาถึง
ขอให้โชคดีน๊า
ผมจะขอใช้ชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์หลังถูกเนรเทศเดสสึหว่า
โดยดั้งเดิมแล้ว ในชาติก่อน ผมเป็นคนประเภทที่ชอบใช้เวลาพักผ่อนอยู่กับบ้าน ดังนั้นจึงไม่ชอบราชวงศ์หรือขุนนาง ผมอยากใช้ชีวิตในชนบท
ผมเข้าใจได้แล้วว่าทำไมคนสมัยใหม่ที่เหนื่อยล้าถึงอยากไปท่องเที่ยวในชนบท และใช้ชีวิตสว์ไลฟ์ทำงานฟาร์มอย่างสบายใจ……ในชาติก่อน ผมอาจเป็นนักเรียนมัธยมปลาย และในชาตินี้ก็ยังอยู่ในวัยนักเรียนมัธยมปลายอยู่ดี
……ลองคิดดูแล้ว ดูเหมือนว่าจักรพรรดิ์พระองค์แรกจะได้นำสิ่งที่เรียกว่าโรงเรียนมาใช้อย่างเป็นทางการ แต่เรื่องนั้นเกิดขึ้นเมื่อไหร่กันน่ะ?
เป็นโรงเรียนที่บริหารโดยอาสาสมัครที่มีทั้งสามัญชนและขุนนางที่พยายามอย่างเต็มที่เพื่อทำความรู้จักกับเซย์โจวจัง แต่ขนาดก็ค่อนข้างเล็ก……อื~ม
“อันที่จริง โลกนี้กำลังจะพินาศในไม่ช้า
“รู้อยู่แล้วหว่า”
ผมไม่เพียงแค่อยู่ในตำแหน่งที่สูงส่ง แต่ยังสามารถใช้เวทย์มนตร์ได้มากมายอีกด้วย ดังนั้นผมจึงถูกส่งไปทำภารกิจบางอย่าง
ม๊า ผมแค่ไม่อยากอยู่กับเจ้าชายก็เลยรับหน้าที่นี้อย่างแข็งขัน
นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมสิ่งมีชีวิตที่ดูเหมือนเทพธิดาจึงออกมาจากบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่ผมมาเพื่อรับภารกิจจากราชา
แล้วรู้ได้ยังไงว่าเธอเป็นเทพธิดา?
บางทีอาจจะเพราะคุณลักษณะแห่งน้ำ ผมสีฟ้า และเสื้อผ้าซีทรูที่โปร่งใสมาก ที่ทำให้เธอดูสวยมาก เรียกได้ว่าเธอเป็นเทพธิดาจริง ๆ เดสสึหว่าโย๊ว!
นอกจากนี้เรื่องราวของเทพธิดาจอมซุกซนที่รักจักรพรรดิ์มากเกินไปยังโด่งดังในหนังสือภาพมาจนถึงทุกวันนี้
ม๊า ผมเดาว่าสิ่งนั้นที่อวบอิ่มภายใต้ผ้าซีทรูที่มองทะลุได้ เป็นสัญญาณของยุคสมัยอย่างแน่นอน
แต่แล้วโลกก็กำลังจะสิ้นสุดลง
กะแล้ว นี่เป็นโลกที่ท่านผู้ก่อตั้งไม่มีตัวตนสินะ
“เราอยากจะขอให้เธอ ผู้สืบเชื้อสายโดยตรงของเรา ช่วยปราบราชาปีศาจด้วยเถอะ”
“อะไร? ไม่ใช่รชวงศ์เหรอ? อะ ดีจริง ๆ เหรอเดสสึหว่า?”
บางทีเจ้าชายผู้สมบูรณ์แบบอาจะเหมาะสมกว่าทั้งในแง่ความชอบธรรมและอายุ น่าเสียดายที่เขาไม่อยู่ที่นี่ตอนนี้ แต่ดีแล้วจริง ๆ เหรอ?
หากรออีกสักสองสามวันก็น่าจะพาเขามารับคำพยากรณ์ของแท้แทนได้?
ม๊า บางทีสำหรับเทพธิดาแล้วลูกหลานตระกูลดยุคที่มีสายเลือดของราชวงศ์ไหวเวียนอยู่ก็อาจไม่มีความแตกต่างมากนัก
โฮร่า สำหรับพระเจ้าแม่แบบแบบไหนก็เหมือน ๆ กันหมดไง
“เราจะขอกล่าวอีกครั้ง……”
ผมรับฟัง ในขณะที่ชื่นชมบอดี้ไลน์ที่สวยงามของเธอ ดูเหมือนว่ามนุษยชาติจะต้องพินาศในที่สุด
ผมยังได้เห็นอนาคตในอีกประมาณหนึ่งปีต่อจากนี้ด้วย
สุดยอด
ม๊า ก็เธอเป็นเทพธิดาเลยทำได้ขนาดนั้นล่ะนะ
…………พูดอีกอย่างหนึ่งก็คือ ดูเหมือนผมจะตายในสนามรบ
ผมจะไม่ได้ตายด้วยน้ำมือของเจ้าชาย แต่เป็นด้วยมือของปีศาจ
แต่ท้ายที่สุดแล้วผมก็ยังอยากที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปหากสามารถทำได้
นอกจากนี้ ผมยังมีคนรู้จักมากมาย ทั้งพ่อแม่ พวกเพื่อน ๆ ในโลกชาตินี้
“ดังนั้นแล้ว ได้โปรดเอาชนะราชาปีศาจด้วยเถิด”
“เรื่องนั้นไม่มีปัญหาอะไรหรอกค่ะ แต่ว่า……ราชาปีศาจนั้น ไม่เคยประกาศสงครามหรือประกาศชัยชนะเลยนะเดสสึหว่า?”
“สิ่งนั้นคือสิ่งมีชีวิตที่ไร้ซึ่งเจตจำนง เป็นบางสิ่งบางอย่างเหมือนกลไกที่คอยควบคุมเหล่าปีศาจเท่านั้น”
อ้า ใช่ใช่ ประมาณว่าเจ้านั้นคือเจตจำนงของโลกสิน๊า
เป็นสถานการณ์คลาสสิกบอเกมกระดานเลย
ผมชอบเรื่องแบบนั้น
“นี่เป็นเรื่องที่ยากลำบากที่มีเพียงเธอเท่านั้นที่สามารถทำได้……หากเธอเต็มใจที่จะยอมรับ เราจะทำให้ความปรารถนาของเธอเป็นจริง ในรุ่งอรุณแห่งชัยชนะ”
“เอ๊ะ? เมื่อกี้กำลังบอกว่าสามารถทำทุกอย่างให้เป็นจริงได้ใช่ไหม!?”
“?”
ว้าว ผมคุ้นเคยกับภาพจำเทพธิดาที่มีอยู่ในเทพนิยายมากเกินไป……เพราะวิธีการพูดของเธอที่เป็นกันเองมาก……ชุดซีทรูเหมือนสาวหื่……เหมือนสาวน่ารักนั่นอีก……
“แน่นอน หากหากโอนการควบคุมพลังเวทมนตร์มาให้เรา ทุกสิ่งจะเป็นไปได้”
“เอาจริงดิ!?”
“เอาจริ……อ้า จริงแน่นอน”
เทพธิดาซามะดูเหมือนจะไม่สนใจการเสียมารยาทในระดับเล็ก ๆ น้อย ๆ
สมกับเป็นเทพธิดาซามะผู้เป็นพระเจ้าอันสูงส่ง
แต่พอลองถามอย่างเป็นกันเองว่า「อะไรก็ได้!?」เธอก็ตอบว่า「อะไรก็ได้」เหมือนกัน!
พูดแล้วน๊าเทพธิดาซามะ!
อะ ต้องตอบเทพธิดาซามะแล้วเดสสึหว่า!!
“ตกลงเดสสึหว่า!!!”
หมายความว่า เรื่องนี้ต่อให้ใช้สมองกล้ามเนื้อคิดยังไงก็เข้าใจได้ หากปราบราชาปีศาจลงได้ก็ไม่จำเป็นต้องแต่งงานกับเจ้าชายแล้วยังไงล่ะ!!
ถูกต้องที่สุดเลยเดสสึหว่า!!
แย่แล้ว มีความสุขเกินไปหน่อย แต่…..?
ตั้งแต่ที่ผมจำความทรงจำของชาติก่อนได้ ความคิดที่ว่าต้องแต่งงานกับเจ้าชายก็ทำให้ผมป่วย ยิ่งจำได้มากเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้ผมเห็นแต่ความสิ้นหวังมากขึ้นเท่านั้น แต่ว่าตอนนี้เทพธิดาแห่งโชตชะตากำลังยิ้มให้กับผมอยู่ที่นี่แล้ว
“?”
โฮร่า เทพธิดาซามะตัวจริงกำลังโชว์กระดูกไหปลาร้าและหน้าอกที่สวยงามของเธออยู่ตรงหน้า
ไม่สิ……นี่เป็นสิ่งที่วิเศษจริง ๆ
เอ๊ะ?
ถามว่าตัวผมเองก็เป็นผู้หญิงไม่ใช่เหรอ?
เรื่องนั้นก็ส่วนเรื่องนั้น เรื่องนี้ก็ส่วนเรื่องนี้
การมีกระเพาะของหวานแยกมากเท่าที่ต้องการเป็นเรื่องดีเสมอไงล่ะ
“……เธอ……ไม่สิ ตอนนี้สบายดีใช่ไหม……”
ทั้งที่เธอรับรู้ได้ถึงสายตาที่หยาบคายนิดหน่อยของผมจากดวงตาที่เปร่งประกายไม่ปิดบังแท้ ๆ เธอเป็นคน อะ ไม่สิ เป็นเทพธิดาซามะที่ดีจริง ๆ
ใช่แล้วล่ะ ดีสุด ๆ ไปเลย
แถมตอนนี้พวกเรายังเป็นเพศเดียวกันด้วย ผมเลยไม่ต้องไปกังวลกับพวกรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ หน้าอกสวย ๆ ไม่ต้องกังวล
ถ้าถูกโกรธ ผมก็แค่ตอบกลับไปว่า「ในฐานะผู้หญิงด้วยกัน ดิฉันรู้สึกอิจฉาเดสสึหว่า? 」
ในแง่หนึ่งก็ถือว่าเป็นข้อได้เปรียบที่สามารถบอกว่าเพศของตัวเองเป็นผู้หญิงได้
นอกจากนี้ สำหรับผมที่มีความทรงจำเกี่ยวกับชาติก่อน ผมคิดที่จะใช้ตำแหน่งในชาตินี้ และพรสวรรค์ด้านเวทมนตร์ที่น่าทึ่งที่มีในร่างกายชาตินี้ในการช่วยทำให้มนุษยชาติรู้สึกดีขึ้นต่อให้จะเพียงแค่เล็กน้อยก็ตาม
ถ้าผมททำตามคำแนะนำของเทพธิดาซามะ และโชคดีพอที่จะทันพบ และเอาชนะราชาปีศาจได้อย่างรวดเร็ว ผมก็ไม่จำเป็นต้องแต่งงานกับเจ้าชายหรือผู้ชาย…… !!
เมื่อพิจารณาถึงความสำเร็จในการปราบราชาปีศาจ และคำพยากรณ์โดยตรงจากเทพธิดาซามะ การแต่งงานจะถูกยกเลิกได้อย่างแน่นอน
แม้แต่ในยุคกลาง หากคุณถูกเนรเทศก็ไม่จำเป็นต้องเกาะติดกับผู้ชายเพื่อประสบความสำเร็จ
เป็นการดีสุด ๆ ที่จะได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในร่างกายนี้ และค้นหาผู้หญิงที่เหมาะสมซึ่งมีศักยภาพ
แย่แล้ว ตื่นเต้นม๊ากมาก
นี่คงเป็นครั้งแรกตั้งแต่ที่ผมจำชาติก่อนได้
“จะทำเดสสึหว่าาาาาาา!!”
“ถึงจะไม่ใช่เรื่องหายาก……ที่วิญญาณและร่างกายจะ……”
เทพธิดาซามะซึ่งอยู่ในตำแหน่งผู้พิทักษ์มนุษยชาติก็ยิ้มเช่นกัน
สายลมพัดมาที่ผม
ตอนนี้ไม่มีทางอื่นนอกจากต้องรับหน้าที่เท่านั้น!
ถึงผมจะบ่นพึมพำอะไรก็ไม่รู้ แต่รู้อยู่แล้วว่าผู้หญิงก็เป็นแบบนี้แหละเดสสึหว่า ผมก็เลยไม่สนใจอะไรนอกจากหน้าอกหน้าอก
“ฮิเมะจัง…..ไม่สิ ลูกสาวข้า! ได้โปรดทำให้แน่ใจว่าจะกลับมาได้อย่างปลอดภัยด้วยเถอะนะ!”
“อะค๊า ดิฉันจะปราบราชาปีศาจตามคำพยากรณ์ของเทพธิดาซามะให้ได้เดสสึหว่า”
“เจ้าสามารถกลับมาได้ตลอดเวลาเลยนะ……? เมื่อสิ่งต่าง ๆ เริ่มยากลำบาก ก็จงปล่อยให้เป็นหน้าที่ของลูกชายข้าและเหล่าอัศวินได้เลย”
“องค์ราชินี หากเกิดเหตุอันตรายขึ้น เซย์โจวจั……ซามะจะพาหลบหนีให้เองเดสสึหว่า”
เทพธิดาซามะคือผู้หญิงที่มีความสามารถ……ไม่ใช่รึไง เห็นได้ชัดว่าเธอเป็นเทพธิดาซามะที่รู้สึกดีที่ได้ร่ายคำพยากรณ์ยิงเข้าใส่หัวของพวกราชา และตัวละครหลักอื่น ๆ
ผมกำลังคิดว่า「จะอธิบายเรื่องนั้นยังไงดี」แต่ทั้งหมดที่ต้องทำก็เป็นเพียง「แจ้งให้ทราบ」เท่านั้น
ย้า เป็นการเริ่มต้นที่ดีน๊า
โอ๊ะโตะ เป็นการเริ่มต้นที่ดีเดสสึหว่า
“ข้าจะปกป้องเจ้าหญิงเอง ถึงแม้ว่าจะต้องแลกด้วยชีวิตก็ตาม!”
“ขอบพระคุณมากเดสสึหว่า”
“ฉะ ฉันเองก็จะปกป้องท่านให้ดีที่สุดเลยค่ะ”
“ขอบคุณน๊าเดสสึหว่า!”
ดูเหมือนพวกเขาพยายามพูดให้บรรยากาศดี เห็นได้ชัดว่ากลายเป็นปาร์ตี้ผู้กล้าที่ประกอบไปด้วย ผม เจ้าชาย เซย์โจวจัง และเหล่าอัศวินคนอื่น ๆ แทน
แม้แต่เจ้าชายก็ยังต้องฟังสิ่งที่ผมพูด ถ้าผมพูดเป็นนัยถึงความรักนวลสงวนตัวของผมเขาก็ต้องฟัง เซย์โจวจังค่อนข้างผูกพันกับผมอยู่แล้ว ดังนั้นเธอจึงฟังสิ่งที่ผมพูดเป็นส่วนใหญ่ ส่วนคนอื่น ๆ มีสถานะต่ำกว่าผมแต่แรกอยู่แล้ว เลยไม่มีปัญหาอะไร
พูดอีกอย่างก็คือ……จากนี้ไปทุกอย่างจะอยู่ภายใต้การควบคุมของผม…… !
ม๊า ในความเป็นจริง ยิ่งชนชั้นสูงขึ้นเท่าไหร่ก็ยิ่งมีพลังเวทมนตร์มากขึ้นเท่านั้น เจ้าชายคือคนที่มีพลังค่อนข้างมากที่สุด สมาชิกของกลุ่มอัศวินส่วนใหญ่ก็เป็นขุนนางเช่นกัน ดังนั้น ม๊า ก็สมเหตุสมผลแล้ว
ดูเหมือนว่าเซย์โจวจังจะต้องขอบคุณบัฟที่มอบให้โดยเทพธิดาซามะ แต่ก็ทำให้เธอก้าวขึ้นมาอยู่ในระดับเดียวกันกับเจ้าชาย และกลายเป็นทางหนีที่ดีที่สุดของพวกเรา
ทำโอเวอร์เกินไปหรือเปล่างั้นเหรอ?
แต่เนื่องจากผู้ก่อตั้งซามะไม่อยู่ที่นี่ด้วย พวกเราจึงต้องทำทุกสิ่งที่สามารถทำได้เพื่อกำจัดพวกปีศาจ
ที่เรียกว่าโนเบลสส์ โอบลิจ ในยุคกลางการที่ชนชั้นสูงได้รับสิทธิพิเศษและมีชีวิตที่ดี นั่นก็เพราะพวกเขามีหน้าที่ประพฤติตัวอย่างทรงเกียรติที่ต้องทำ
“……สตรีศักดิ์สิทธิ์ เจ้าอย่าทำให้เจ้าหญิงต้องลำบากด้วยการเอาแต่ใจจะได้ไหม? อย่าทำให้นางต้องเหนื่อยล้าสะสม เพราะเจ้าขอให้เธอคุยด้วยซะทุกครั้งที่มีอะไรเกิดขึ้น”
“……ม๊า เจ้าชายเองก็เอาแต่ประจบประแจงอยู่ตลอดมิใช่หรือเพคะ อย่างน้อยก็ข่วยทำตัวให้สมกับเป็นลูกผู้ชายจนกว่าจะสามารถเอาชนะราชาปีศาจได้ได้หรือเปล่าล่ะเพคะ?”
“………………โห๊ เจ้าค่อนข้างดื้อรั้นจริงนะ”
“………………เพคะ ก็เป็นสตรีศักดิ์สิทธิ์ไงเพคะ”
“………………………………”
“………………………………”
อืมอืม ดูเหมือนพวกเขาจะเข้ากันได้ดีทีเดียว
ถึงดูเหมือนพวกเขากำลังทะเลาะกันอยู่ แต่ในความเป็นจริงแล้ว พวกเขาจะมีบทสนทนาแบบนี้ได้ก็ต่อเมื่อทั้งคู่จับผมไว้อยู่ระหว่างกลางเท่านั้น
สุนัขเป็นสัตว์สังคม ดังนั้นพวกมันจึงเห่าและทะเลาะกันบ่อยมาก เมื่อรู้ว่าจะไม่ทำร้ายกันเอง
พูดถึงเรื่องนั้นแล้ว
เวลาที่ผมไม่อยู่ด้วยก็ดูเหมือนจะคุยกันแบบปกติล่ะ……ไอ้นั่นสินะ เรื่องโรแมนติกคอมเมดี้ที่พระนางชอบทะเลาะกันอยู่เสมอ
ผมแน่ใจว่าใช่แน่นอน
ทั้งคู่กินข้าวจากหม้อเดียวกันโดยที่นั่งใกล้จนไหล่ชนกัน และทั้งคู่ก็ช่วยกันถือเสื้อผ้าของเซย์โจวจังด้วย……รีบ ๆ ต่อกันให้ติดได้แล้ว!
“…………เจ้าหญิงเป็นของข้า”
“…………จะจริงหรือเพคะ?”
ผมแน่ใจเลยว่าเวลาที่ผมไม่อยู่ด้วยทั้งคู่จะพูดว่า「ก่อนหน้านี้ข้าไม่สามารถพูดให้จบได้……ตอนนี้ข้าเป็นคู่หมั้นอย่างเป็นทางการของเจ้าหญิง แต่……」「ไม่เพคะ……ถึงสถานะของพวกเราจะแตกต่างกัน แต่……」ต้องเป็นแบบนั้นแน่นอน
ผมมีเรื่องราวมากมายจากชาติที่แล้วซึ่งหาได้ยากในโลกนี้ ดังนั้นผมจึงเชี่ยวชาญเรื่องราวเหล่านี้ไงล่ะ
“ทางนี้เอง……ก็มาเป็นคู่กันเหมือนกัน……”
อ้า เทพธิดาซามะในชุดซีทรูที่ตัวตนกึ่งโปร่งใสกำลังเฝ้าดูทั้งสองอย่างตั้งใจ
ถึงกระนั้น หน้าอกและหว่างขาของเธอก็มองเห็นได้ชัดเจน ขอบพระคุณเป็นอย่างสูงเลยเดสสึหว่า♡
ผมชอบการเดินทาง
ยังไงก็เป็นผู้ชายล่ะนะ
เรื่องสนุกก็คือเรื่องสนุก
เช่นเดียวกับสถานการณ์บนเกมกระดาน หากแพ้แม้แต่ครั้งเดียวมันก็จะกลายเป็นทางตัน ซึ่งทำให้ทั้งมีความรู้สึกตึงเครียดอยู่รอบตัว ทั้งน่าตื่นเต้นมาก
นี่คือเกมแห่งความตายที่ผมเคยได้ยินข่าวลือมา…… !
“แม้แต่เจ้าหญิงเองก็กังวลสินะ แต่อย่าได้กังวลไปเลย ข้าอยู่ที่นี่แล้ว”
“อะ ได้ยินแล้ว”
“ฉันด้วย ฉันก็อยู่ที่นี่ค่ะ!”
“มีความสุขมากเลยเดสสึหว่า!”
คำพูดจากความเข้าใจผิดเรื่องอาการสั่นด้วยความตื่นเต้นจากเจ้าชาย ทำให้ผมขนลุก แต่ก็ถูกเขียนทับทันทีด้วยเซย์โจวจัง
“……ช่วงนี้สาว ๆ ดูท่าทางจะสนุกกัน……”
“ว่าแล้ว แม้แต่เวลาแบบนี้เองก็……”
แม้แต่ในเวลาแบบนี้ คนเป็นขุนนางก็ยังต้องปล่อยให้ผู้คนมาค่อยดูแลสิ่งต่าง ๆ ให้
การมีเหล่าเมดซังมาคอยดูแลเช็ดเหงื่อให้นั้นช่างแสนสุข
ปาร์ตี้ของผม เซย์โจวจัง เจ้าชาย และคนอื่น ๆ อีกมากมายก็กำลังคืบหน้าไปอย่างราบรื่น
เพราะผมได้รับข้อมูลทั้งหมดมาจากเทพธิดาซามะเกี่ยวกับซากปรักหักพังที่ดูเหมือนปราสาทของราชาปีศาจ และแผนที่จนถึงที่นั่น
ก็ถือเป็นเรื่องง่ายสำหรับทุกคนที่ถูกรวมรวบมา
“อาหารจานหลักในเมนูคืนนี้คือ สเต็ก 『สัตว์ประหลาดที่เหมือนวัว』ขอรับ ก่อนอื่น ทางนี้คือ ซุป『สัตว์ประหลาดที่มีลักษณะคล้ายหอย』……”
“อร่อยเดสสึหว่า!”
“……อร่อยอย่างคาดไม่ถึงจริง ๆ”
“ถึงหน้าตาจะดูไม่เหมือน……”
คอร์ดจัดเต็มของเชฟภาคสนามนี่ค่อนข้างอร่อยเลย
เนื่องจากไม่อยากให้เป็นการรบกวนการต่อสู้ ดังนั้นปริมาณจึงน้อยกว่าปกติ แทนที่ด้วยเนื้อที่เยอะซึ่งถือเป็นข้อดีอย่างมาก
หากทำเป็นหลับตาว่าวัตถุดิบที่หาได้คือ สัตว์ประหลาดในท้องถิ่น
ม๊า นอกอาณาจักรมนุษย์คือโลกปีศาจ และปริมาณอาหารที่สามารถนำติดมาได้มีจำกัด ซึ่งส่วนใหญ่เป็นน้ำ
ถึงรูปลักษณ์ภายนอก และจริยธรรมจะแตกต่างกันเล็กน้อย แต่ก็ นั่นคือทั้งหมดที่สามารถทำได้
ในยุคสมัยใหม่นี่ก็แค่เมนูอาหารแปลกเท่านั้น
“อาร๊า องค์ชาย? ไม่ชอบ『สัตว์ประหลาดที่เหมือนกุ้ง』นั่นหรือ?”
“อุมุ……ข้าแค่ไม่ชอบรูปลักษณ์”
“เช่นนั้นจะเปลี่ยนกับของดิฉันก็ได้นะเดสสึหว่า แต่ดิฉันทานไปครึ่งหนึ่งแล้ว มิเป็นไรใช่ไหมเดสสึหว่า?”
“อุ อืม”
ก็จริงที่ว่าดูแย่ไปหน่อยเนื่องจากปัญหาเรื่องสีและขนาด แต่ก็ขอบคุณสำหรับอาหารอร่อย
เจ้าชาย……เขาจู้จี้จุกจิกเรื่องของกินมาตั้งแต่เด็ก และไม่ชอบเนื้อสัตว์เป็นพิเศษ ดังนั้นเขาจึงแบ่งให้ผมเสมอ
เขาก็มีด้านดีเหมือนกัน
แม้ว่าจะเป็นชายที่แข็งแกร่ง แต่เขากลับไม่ชอบเนื้อ ช่างแปลกเสียจริง
นอกจากนี้ยังชอบของหวานมาก
เขายังช่วยแอบกินของหวานที่หวานเกินไปสำหรับผมให้ด้วย เป็นคนดีจริง ๆ
“……ทำไมถึงคิดไม่ได้กัน……”
“อาร๊า เซย์โจวซามะ ช่างวิเศษจริง ๆ ที่ท่านทานได้อย่างงดงามอยู่เสมอเดสสึหว่า!”
“เอ๊ะ เอ๊ะเอ๊ะ ขอบพระคุณมากค่ะ……”
ว่าแล้วเชียว หากเป็นคนธรรมดาสามัญจะคุ้นเคยกับอาหารที่เน้นราคาถูกและปริมาณ
“มุ สตรีศักดิ์สิทธิ์ ใช้สิ่งนี้กับจานนั้นสิ”
“อะ เช่นนั้น……ขอบพระคุณมากค่ะ”
“เจ้าหญิง ข้าคิดว่าไวน์นี้จะเข้ากันได้ดีกว่ากับจานถัดไป”
“อาร๊า ขอบพระคุณเดสสึหว่า”
แม้ว่าเขาจะดูเสแสร้ง แต่บางครั้งสวิตช์แปลก ๆ ก็เปิดขึ้นกลายเป็นเจ้าชายผู้ห่วงใย
เขาจะพูดไปเรื่อย ๆ หรืออดไม่ได้ที่จะยื่นมือเข้ามายุ่ง……ยังกับคุณแม่
ถึงจะเป็นเจ้าชาย
แต่หมอนี้ ถือว่าเป็นคนดีคนหนึ่งเลยน๊า
ยกเว้นแค่ตอนร่ายวลีตลก ๆ ที่เล็งเป้าพยายามจีบผม แต่โดยปกติแล้วเขาก็เป็นคนดี ฉลาด สามารถเข้าใจสิ่งที่ผมพูดได้ แม้จะเป็นความรู้ที่ผมได้มาจากการโกงก็ตาม เขามีความแข็งแกร่งที่เหมาะสมกับเกมกระดานครั้งนี้……จริง ๆ แล้วเขาก็เป็นคนดีตราบเท่าที่ไม่เกี่ยวกับเรื่องการแต่งงาน
อ้า ช่างดีเกินไป
ผมรู้สึกว่าสิ่งต่าง ๆ มากมายไม่เข้ากันเลย
“อือ――……?”
“มีอะไรผิดปกติงั้นหรือ?”
“ไม่เพคะ ไม่มีอะไร”
ถ้าผมเป็นผู้ชาย……หรือเป็นผู้หญิงที่ไม่ต้องแต่งงานกับผู้ชาย ม๊า ผมก็คิดว่าพวกเราก็จะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันได้
อันที่จริง ผมจำได้ว่าพวกเราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันจนกระทั่งตอนที่อายุประมาณสิบขวบ ในตอนนั้นผมไม่ได้ตระหนักถึงเรื่องแบบนั้น
ม๊า ผมไม่สามารถเปลี่ยนการเกิดได้
นี่เป็นการเกิดรอบที่สองของผม
“มุ――……”
“อาร๊า เซย์โจวซามะ?”
“ไม่มีอะไรค่ะ”
ผมไม่สนเจ้าชาย เพราะเซย์โจวจังที่ถูกทำให้ฟุ้งซ่านโดยเจ้าชายนั้น น่ารัก
ผมไม่ได้รู้สึกแย่ที่ได้รู้ว่าพวกเขามีความรู้สึกที่ดีต่อกัน
อา~ ถ้าผมเป็นผู้ชาย ผมคงจะรับเด็กผู้หญิงคนนี้มาเป็นภรรยาแล้ว
แต่ก็ช่วยไม่ได้ ผมเกิดเป็นผู้หญิง เจ้าชายเกิดเป็นผู้ชาย และเซย์โจวจังเกิดเป็นผู้หญิง
ในเมื่อผมไม่สามารถเข้ากับเจ้าชายได้ในระดับเลวร้าย ผมก็รู้สึกสบายใจที่สามารถทำให้ทั้งสองคนใกล้ชิดกันได้
“……ทำไมเธอถึงไม่ระวังจิตใจอันละเอียดอ่อนของผู้คนให้มากกว่านี้กันนะ?”
“?”
เทพธิดาซามะที่พูดกับผมเป็นครั้งคราวก็งดงามเช่นกัน…….ขอบคุณขอบคุณ
การเดินทางเป็นไปอย่างราบรื่นจนผมรู้สึกเหมือนจะได้เจอจอมมารในอีกไม่นาน
แผนคือ การฆ่าอย่างรวดเร็ว และกลับไปอย่างมีชัย……นั่นคือแผนที่วางไว้ ดูเหมือนผมจะคิดในแง่ดีมากเกินไป
ม๊าเน๊
ผมพยายามคิดเชิงบวกมากมายเพื่อที่จะได้ไม่ต้องไปรู้สึกถึงความหลงใหลและความหื่นกระหายจากเจ้าชาย
แต่ว่าน๊า……
“……ไม่ ไม่น๊า ไม่เคยเห็นได้ยินมาก่อนหน้านี้เลยว่าราชาปีศาจมีพลังกายที่ไม่มีที่สิ้นสุดแบบนี้เดสสึหว่า!!!”
“เจ้าหญิง!”
“ฮิเมะซามะ!”
ผมระเบิดอารมณ์ออกไป……ทว่าด้วยพลังแห่งการศึกษา ผมลุกขึ้นหลังจากล้มลงกลางซากปรักหักพังโดยพยายามไม่โชว์กางเกงใน
เสียงกลั้นขำจนตัวสั่นดังขึ้นเหนือหัวผมตอนที่ล้มลงกับพื้น
ม๊าย หมายถึงยังเหลือเวลาอยู่ใช่ไหม…….เทพธิดาซามะ?
ข้อมูลกลยุทธ์ของเธอ หากลองมองให้ดี ๆ จะเห็นว่าส่วนของราชาปีศาจจะบอกว่า「จากนี้ ลองตรวจสอบด้วยตัวเองดูสิ!」มันเหมือนกับหนังสือกลยุทธ์ที่สร้างขึ้นใหม่จากความทรงจำของผมอย่างแน่นอนใช่ไหม!?
ไม่คิดว่ารอบนี้เกินขอบเขตไปหน่อยรึไง ถึงผมจะยกโทษให้ เพราะความน่ารักและขี้เล่นที่ทะลุผ่านซีทรู แต่นี่ไม่ใช่เรื่องตลอดแล้ว!?
“……แย่แล้วเดสสึหว่า”
ต้องขอบคุณร่างกายของผมในชาตินี้ และสิ่งต่าง ๆ อย่างความรู้โกง ๆ ที่ได้จากการกลับชาติมาเกิดใหม่ที่โผล่เข้ามาในหัวที่ทำให้พวกเรามาถึงที่นี่ได้โดยไม่มีปัญหาใด ๆ แต่เมื่อผมเริ่มต่อสู้กับราชาปีศาจ ก็ตระหนักได้ว่าเลเวลของศัตรูสูงแค่ไหน
……นี่มัน ความพ่ายแพ้เต็มรูปแบบเลยไม่ใช่เรอะ?
ไม่สิ ม๊า สำหรับผมก็ถือว่าดีกว่าต้องตายจากอาการช็อกที่โดนเจ้าชายทำนั่นทำนี่ อะ……อ้า ไม่สิ จะไปดีได้ไง เซย์โจวจังก็ต้องตายด้วยนะ
“……กะแล้วเชียว ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องใช้สิ่งนั้นสินะ? แต่……”
เจ้าชายกำลังพึมพำอะไรบางอย่างแต่ผมก็ไม่สนใจ
พูดแล้วก็เป็นปาร์ตี้ที่ไม่สมดุลจริง ๆ มีผมเป็นอำนาจยิงหลักและสายแทงค์ และมีผู้ช่วยสองคน+อัศวินที่อยู่ด้านหลัง
ในความเป็นจริง หากผมต้องเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ที่เลเวลต่ำกว่า ผมคงมีช่วงเวลาสบาย ๆ แต่ต้องขอบคุณเทพธิดาซาม๊าเลยที่ไม่ยอมมอบข้อมูลอะไรโดยตรงเลย ทำให้ผมเลยเลือกใช้เส้นทางที่สั้นที่สุด
จริง ๆ แล้วก็ยังเหลือเวลาอีกหลายเดือนกว่าที่มนุษยชาติจะถูกทำลายล้างาตามที่เทพธิดาซามะบอกไว้
หากผมรู้อนาคตก็คงสามารถหลีกเลี่ยงได้ แต่ถึงอย่างงั้นการเดินทางเป็นเส้นตรงก็ยังดีกว่าชีวิตในค่ายพักแรมที่ทำไม่ได้แม้แต่แช่น้ำร้อนผ่อนคลายในเวลาสั้น ๆ
แต่……ผมรู้สึกได้เลยว่าเวทมนตร์ และความแข็งแกร่งทางกายภาพของผมไม่เพียงพอที่จะต่อกรกับราชาปีศาจได้โดยสิ้นเชิง
ไม่ใช่ทุกคนที่สามารถตามผมทันได้ รวมถึงทั้งสองคนด้วย
……นี่ ในช่วงแรกผมเอาแต่คิดว่าจะไม่สามารถทำได้ทันเวลาได้ จนละเลยการเพิ่มระดับให้กับคนอื่น ๆ เจ้าชาย เซย์โจวจัง ไม่เหมาะกับการเป็นผู้นำ……?
บางทีผมทำพลาดไปแล้ว……?
ยิ่งคิดเท่าไหร่ก็ยิ่งแย่แล้ว
ยิ่งไปกว่านั้น นี่เป็นดันเจี้ยนประเภทที่ไม่สามารถออกไปได้จนกวาจะเอาชนะได้……ม๊า ยังไงซะที่นี่ก็คือ ปราสาทของราชาปีศาจล่ะนะ……
“……เจ้าหญิง!”
ในที่สุดก็สงบลงแล้วเหรอ เจ้าชายเปล่งเสียงที่ดังผิดปกติ
“ทั้งสองคน ได้โปรดอยู่หลังดิฉันไว้ การโจมตีแม้แต่ครั้งเดียวก็สามารถทำให้ทั้งสองถึงแก่ชีวิตได้นะเดสสึหว่า เพราะดิฉันคุ้นเคยกับสนามรบดีแล้ว”
” ………………………………”
ผมแข็งแกร่งขึ้นอย่างล้นหลามด้วยบัฟของเทพธิดาซามะ แต่ทั้งสองคนก็แข็งแกร่งพอที่จะไม่ทำให้ตัวเองเดือดร้อน และผมยังรู้สึกขอบคุณที่พวกเขาพยายามใช้เวทย์ฟื้นฟูอย่างหนักกับผม
นั่นคือเหตุผลที่ผมอยากทำอะไรสักอย่างก่อนที่พวกเขาจะได้รับบาดเจ็บสาหัส……
“เจ้าหญิง ――ข้าขอฝากที่เหลือด้วย”
“ห๊ะ?”
เขาก้าวไปข้างหน้า พร้อมเผยธาตุแท้ออกมาแล้วววววว
ห๊ะ? เดสสึหว่า?
“สตรีศักดิ์สิทธิ์ ข้าขอให้เจ้าทำตามแผนที่วางไว้…..ไม่สิ ขอร้อง”
“……ค่ะ เจ้าชาย”
“เอ๊ะ?”
ผมดีใจที่เห็นพวกเขาทั้งสองคืบหน้า แต่เดี๋ยวก่อน เดี๋ยวก่อน……พลังเวทมนตร์จำนวนมหาศาลกำลังเอ่อล้นออกมาจากร่างกายของเจ้าชายไม่ใช่รึไงน่ะ?
เอ๊ะ?
หมอนั่นมีความสามารถมากขนาดนั้นเลยเรอะ?
“หากเป็นเจ้าหญิงคงจะคัดค้านเป็นแน่ ดังนั้นข้าจึงได้ปรึกษากับเพียงสตรีศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น เวทมนตร์มรณะที่สืบทอดมาในราชวงศ์”
“ไม่สิ เดี๋ยวก่อน ได้โปรดฟังดิฉันก่อนเดสสึหว่า!?”
แย่แล้ว แย่แล้ว แย่แล้ว
ไม่ว่าจะมองมุมไหน บทสนทนาแบบนั้นมันก็!?
ผมมีความรู้มากมายจากชาติก่อนจึงสามารถเข้าใจได้!?
ยังเร็วเกินไปที่จะใช้ของพรรค์นั้น!
ยังเร็วเกินไปที่จะยอมแพ้!!
ผู้ชายใจร้อนไม่เป็นที่นิยมนะย๊า!?
นอกจากนี้ โฮร๊า ราชาปีศาจยังไม่เปิดร่างสองเลยด้วยซ้ำ!
“――ฉันจะสนับสนุนจนกว่าท่านจะสามารถสัมผัสราชาปีศาจให้เองค่ะ เพราะอย่างงั้นแล้ว เจ้าชาย”
“สตรีศักดิ์สิทธิ์ ขอบคุณ……เจ้าหญิงเป็นของเจ้าแล้ว”
เจ้าชายเริ่มพุ่งเข้าโจมตีพร้อมกับปล่อยพลังเวทมนตร์มหาศาลออกมา
เดี๋ยวก่อนสิ ทั้งสองคนฟังผมก่อน
“ดะ เดี๋ยวก่อนเซ้! ดิฉันน่ะ!”
“――เจ้าหญิง”
ใบหน้าสุภาพบุรุษที่จริงจังหาได้ยากกำลังมองมาที่ผม
“หากต้องมองโลกที่ไม่มีเจ้า……นี่เป็นความเห็นแก่ตัวของข้า เพียงครั้งเดียวในชีวิต”
“อะ……”
นี่เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นสีหน้าแบบนี้บนใบหน้าของผู้ชายคนนี้ ผมขยับตัวไม่ได้ เพราะไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี
ความรักชั่ววู่บไม่ได้นะ
“ฮิเมะซามะ……ฉันได้สัญญากับเจ้าชายเอาไว้แล้ว ขอโทษด้วยค่ะ”
“อะ รอก่อน!?”
เมื่อผมพยายามจะพูดกับเจ้าชายว่า「โม๊ว วลีชวนเลี่ยนก็ไม่เป็นไร หยุดเถอะ?」เซย์โจวจังก็เข้ามาบังขวางเอาไว้จนผมไม่สามารถเข้าไปขวางได้
……รอก่อน
รอเดี๋ยวก่อนสิ
จริงอยู่ว่าผมเกลียดการทำเรื่องลามกกับเขามากจนอ้วก แต่ผมชอบเขาในฐานะเพื่อน และไม่อยากให้เขาตาย
ถ้าหากพวกเราถอยกลับไปถามเทพธิดาซามะ ผมแน่ใจว่าอาจจะมีบางอย่างที่ทำได้แน่นอน
เพราะอย่างงั้น ได้โปรด
“――ราชาปืศาจ ข้ามาหาแกแล้ว――”
“……เจ้าชาย――――――――っ!!”
แต่ ผมเข้าใจดี
เมื่อเจ้าชายไปถึงราชาปีศาจ เขาก็เติมเต็มร่างกายของเขา……ด้วยพลังเวทมนตร์ทั้งหมดที่ประกอบขึ้นเป็นร่างกายของเขา――ตัวตนของเขา
นั่นควรจะเป็นสิ่งที่ทำให้ผมกังวลมากที่สุดในชาตินี้ แต่――ตอนนี้ กำลังจะหายไปเป็นครั้งแรก
“……ถ้าท่านตัดสินใจผูกสัมพันธ์กับเซย์โจวซามะและประณามดิฉัน……ก็คงจะดี……”
“เจ้าต้องลำบากเป็นอย่างมากแน่ ๆ สำหรับการปราบราชาปีศาจ……ฮิเมะจัง”
“คงจะเหนื่อยจากการเดินทางสินะจ๊ะ……พักผ่อนก่อนเถอะจ๊ะ”
“…………………………………………..องค์ราชา องค์ราชินี”
ผมก้มหัวลงต่ำ……ก่อนหันความสนใจไปที่โลงศพี่ถูกแบกอยู่ข้าง ๆ
“……ดิฉัน ลูกชายคนสำคัญของพวกท่าน……”
……แม้ว่าคนอื่นจะยังมีชีวิตอยู่ แต่ก็ไม่สมเหตุสมผลเลยไม่ใช่รึไง ที่เขาเป็นคนเดียวที่ตาย
เขาพยายามอย่างหนัก เพราะต้องการทำเรื่องซุกซนกับผม แต่……ก็ไม่สมเหตุสมผลเลยอยู่ดี
ผมได้ยินเขาพูดว่า「ข้าจะทำทุกอย่างเพื่อเจ้าเมื่อการต่อสู้ครั้งนี้จบลง」ซ้ำแล้วซ้ำเล่า……เป็นการสูญเสียครั้งใหญ่สำหรับแม้แต่ในฐานะผู้ชาย
นายมันงี่เง่า
เป็นคนที่งี่เง่าที่สุดเลย
――หลังจากนั้น สิ่งที่เหมือนราชาปีศาจก็หายไป และพวกสัตว์ประหลาดก็สูญเสียการควบคุมไปด้วย
แต่ผมคิดว่าทุกอย่างจะต้องฟื้นกลับคืนเทียบเท่าในยุคที่ท่านผู้ก่อตั้งมีบททาทอย่างแน่นอน
ระหว่างทางกลับ เทพธิดาซามะก็พูดอย่างไร้กังวลว่า「จากนี้ที่เหลือก็แค่เพียงเก็บกวาดอีกเล็กน้อยก็ไม่เป็นไรแล้วล่ะ?」 ดังนั้นผมเดาว่าสำหรับยุคปัจจุบันคงไม่เป็นไรแล้ว
……แต่สำหรับผม
“ฮิเมะซามะ……”
แม้แต่เสียงของเซย์โจวจังตอนนี้ก็ทำได้แต่ลอยผ่านไป
……เจ้าชาย……เขาเป็นเพื่อนสมัยเด็กของผมตั้งแต่ที่ผมยังเด็กมากในโลกนี้ เขาเป็นเพื่อนรัก……
แน่นอนว่าในหัวผมเข้าใจดี
ตอนนั้นผมอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่สามารถหนีได้ ไม่มีทางเอาชนะราชาปีศาจได้เลย……ไม่สิ ผมเดาว่าคงไม่สามารถเอาชนะได้เว้นแต่ว่าผมจะทำแบบเดียวกับเขา
จากสิ่งที่ผมได้ยินมาด้วยจิตใจที่สับสน ดูเหมือนว่าราชวงศ์จะมีเวทมนตร์เสียสละตัวเอง
ในฐานะเจ้าชาย เขาจึงได้เรียนรู้
ผมคิด「ไม่ เจ้าชายลำดับแรกที่สำคัญไม่ควรใช้ของแบบนั้นสิ」แต่เจ้าชายบอกว่า เขายอมเสียสละตัวเองเพื่อผม เห็นได้ชัดว่าแม้แต่องค์ราชาก็ไม่สามารถหยุดได้
ผมรู้สึกเหมือนพวกเขากำลังจะบอกว่า มีเพียงคนหนุ่มสาวในราชวงศ์เท่านั้นที่สามารถใช้ได้ หรือมีแค่เขาคนเดียวเท่านั้นที่สามารถเรียนรู้ได้ แต่ถึงอย่างงั้นผมก็ไม่เข้าใจจริง ๆ
“เพราะอย่างงั้น……”
……หากผมตัดสินใจผิดที่นั่น จะไม่ใช่แค่พวกเราเท่านั้นที่ตาย แต่จะเป็นมนุษยชาติทั้งหมดก็จะถูกโจมตีโดยสัตว์ประหลาด
เรื่องนั้นผมเข้าใจ
ราชาปีศาจ ผมรู้ดีว่าไม่อาจเอาชนะได้ เพราะโดนการโจมตีแบบทุ่มสุดตัวของผมก็ยังรอด
“ผู้กลับชาติมาเกิดใหม่เอ๋ย”
“……เทพธิดาซามะ”
ดูเหมือนว่าผมจะกำลังร้องไห้โดยไม่รู้ตัวอยู่คนเดียวในห้อง เทพธิดาซามะอยู่ตรงหน้าผม
ผมสงสัยตัวเองมากเหลือเกินว่าทำไมถึงได้ร้องไห้มากขนาดนี้ ผมคิดกับเขาเป็นเพื่อนสมัยเด็กในชีวิตชาตินี้ แต่เขาก็เสียสละตัวเองเพื่อผม
……ตอนนี้ ดูเหมือนว่าผมจะรู้สึกหดหู่ใจมากจริง ๆ จนไม่รู้สึกอะไร แม้แต่กับชุดซีทรู
เป็นเรื่องจริงสินะ
ถ้าถามผมว่าการสูญเสียอันไหนจะดาเมทมากกว่ากัน ระหว่างเพื่อนสนิทกับแฟน……ผมก็คงตอบช็อกจนเหมือนตายทั้งคู่ แต่ในฐานะผู้ชายก็คงบางทีเพื่อนสนิท
“จิตใจของเธอดูจะสงบลงได้บ้างแล้วสินะ”
“……ค่ะ”
“เธอตัดสินใจเรื่องความปราถนาได้แล้วหรือยัง?”
“………….ความปราถนา”
“ใช่แล้ว เมื่อราชาปีศาจถูกกำจัด เราจะทำให้ความปราถนาหนึ่งข้อของเธอเป็นจริง แม้จะต้องทำให้โลกบิดเบี้ยวก็ตาม เรารักษาสัญญาณเสมอ ไม่ว่าเธอจะปรารถนาอะไรก็ตาม เราจะทำให้เป็นจริง”
“…………………………………”
สิ่งที่ผมต้องการไม่มีความหมายอีกต่อไป
เพราะแต่แรกแล้วผมอยากจะบังคับเปลี่ยความรู้สึกของเจ้าชายให้มุ่งไปที่เซย์โจวจังแทน หรือถ้าทำได้ ผมก็แค่ต้องการให้เขาเลิกชอบผมแบบโรแมนติกไปซะ
แต่ ในเมื่อหมอนั่นตายไปแล้ว…….
หืม?
“……ตอนนี้ อะไรก็ได้”
“เราบอกเธอไปก่อนหน้านี้แล้วไม่ใช่เหรอ?”
เทพธิดาซามะเอียงหัวน่ารัก
เมื่อราชาปีศาจที่ดูกกลืนทรัพยากรหายไป ตอนนี้ เราจะทำฝนดวงตกดวงจันทร์สักดวงหรือสองดวงก็เป็นเรื่องง่าย ๆ เลยล่ะ? การใช้ดวงจันทร์เป็นฝนดาวตก วิเศษไปเลยใช่ไหมล่ะ?”
“ไม่ไม่ไม่ไม่ ไม่จำเป็นต้องทำขนาดนั้นเลยค๊า”
――คำพูดของเทพธิดาคือ「อะไรก็ได้」
“การฟื้นคืนชีพใครสักคนหนึ่งล่ะ”
“เป็นไปได้ หากวิญญาณยังไม่ไปเกิดใหม่”
“……………………………………っ!”
หลังจากที่ได้ยินอย่างนั้น ในที่สุดผมก็……รู้สึกเหมือนได้เอาชนะราชาปีศาจแล้ว
ความปรารถนาของผมคือขอให้เจ้าชายฟื้นคืนชีพ
เจ้าชายสิ้นพระชนม์ได้เพียงไม่กี่วัน
เท่าที่ฟังดูเหมือนวิญญาณจะยังวนเวียนอยู่
ถ้างั้น ตัดสินใจแล้ว
“แน่ใจแล้วสินะ? เธอก่อนหน้านี้”
ผมเคยบ่นเรื่องการแต่งงานของผมกับเจ้าชายให้เทพธิดาซามะฟัง
“ค่ะ แต่ ดีแล้วค่ะ……ดีแล้วเดสสึหว่า ยิ่งไปกว่านั้น……ถ้าเพื่อนที่ตายไปแล้วกลับมามีชีวิตได้อีกครั้ง ดิฉัน…….ผม”
ในชาติที่แล้ว ผมเป็นแค่พลเมืองธรรมดาสามัญในยุคที่สงบสุข ส่วนในชาตินี้ ชีวิตผมถูกเลี้ยงดูเหมือนไข่ในหิน
ยังไงก็ตาม ในชาตินี้ ผมต้องต่อสู้กับสัตว์ประหลาดไม่เว้นวัน เคยเห็นแม้แต่ร่างของทหารที่ถูกสัตว์ประหลาดบดขยี้ต่อหน้าต่อตา
ดังนั้น ผมจึงรู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรมที่จะไม่ขอพรให้กับคนเหล่านั้น…….
แต่
แต่ถึงยังงั้น หากจะบอกว่าให้เห็นแก่ตัวในเวลาเช่นนี้ก็ไม่เป็นไร
” ――เข้าใจแล้ว”
ร่างอ่อนนุ่มของเทพธิดาซามะที่เข้ามากอดผมก่อนที่จะทันรู้ตัว ก็เคลื่อนออกจากสายตา
การที่ผมกำลังคิดอะไรบ้า ๆ อย่างการออกคำสั่งกำหนดให้ชุดเครื่องแบบของทุกคนเป็นแบบมิโกะซัง และห้ามสวมชุดชั้นใน ออกมาได้ แปลว่าผมรู้สึกสงบลงแล้ว
“มาคืนชีพเจ้าชายกันเถอะ ――แต่ทว่า”
“……แต่ทว่า?”
“มนุษย์ ไม่เสมอไปที่ร่างกายและวิญญาณจะมีความสัมพันธ์กันอย่างสูง”
“………………………….เอ๊ะโตะ?”
“เช่นเดียวกับเธอ……ไม่สิ บางครั้งก็เช่นเดียวกับคุณที่มีความแตกต่างอย่างมากระหว่างรูปลักษณ์และวิญญาณภายใน”
“ออฟฟุ”
อืม……ม๊า ก็นั่นสินะ
ยกตัวอย่าง ที่มีความแตกต่างที่เห็นได้ชัด ระหว่างผมที่เป็นเด็กมัธยมปลายธรรมดา ๆ กับสาวสวยโดดเด่น ลูกสาวของดยุคที่เป็นว่าที่ราชินีสิน๊า……
ผมพยายามปิดบังตัวเองด้วยมารยาทที่อาจารย์สาวแว่นสามเหลี่ยมสอนยัดเข้ามาในหัวของผม แต่โดยพื้นฐานแล้วก็เป็นแบบนั้นจริง ๆ
“มีหลายสิ่งที่คุณสามารถซ่อนเอาไว้ได้ด้วยรูปลักษณ์และทัศนคติ เช่นเดียวกับตัณหาของคุณ”
“เรื่องนั้นไม่มีข้อแก้ตัวจริง ๆ หว่า”
อืม ผมคงไม่คิดอะไรหรอก ถ้าฉากตรงหน้าไม่มีหน้าอกอยู่
แต่ก็ช่วยไม่ได้ ก็เพราะผมเป็นผู้ชายนิหน่าเดสสึหว่า……ความต้องการที่เติบโตขึ้นในใจมันห้ามกันไม่ได้นิเดสสึหว่า……
“จะเกิดอะไรขึ้นในระหว่างที่เรากำลังคืนชีพให้ เราเองก็ไม่รู้เช่นกัน เราจะทำทุกอย่างที่ทำได้ เป็นแบบนั้นแล้ว?”
“ตราบใดที่ทำให้เขากลับมามีชีวิตได้อีกครั้ง……จะอะไรก็ได้เดสสึหว่า”
“อะไรก็ได้ สินะ?”
ทันใดนั้นน้ำเสียงของเธอก็สดใสขึ้น เมื่อผมเงยหน้าขึ้นมองเทพธิดาซามะก็เห็นเธอดูมีความสุขมาก
“ค่ะ ………….เอ๊ะ?”
“เราทำตามคำพูดเสมอนะ?”
“เอ๊ะ? เดี๋ยว เทพธิดาซาม๊า!?”
ไหงจู่ ๆ ก็รู้สึกถึงความวุ่นวายสุด ๆ จากเทพธิดาซามะกันล่ะ?
เทพธิดาซามะยิ้มน่ารักมาก แต่ก็กวนใจมากด้วย!
“เราไม่อยากจะเชื่อเลยว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้น……ม๊า นั่นสิน๊า เพราะคุณเป็นเช่นนั้น เจ้าชายผู้ถูกกำหนดให้อยู่กับคุณก็เป็นเช่นนั้นเองก็……”
“อะไรรึค๊า!? บอกดิฉันก่อน”
“ม๊ายด๊าย♪”
“กรุณาอย่าพูดด้วยเสียงน่ารักแบบนั้นสิค๊าาาาาาา!”
ผมจำได้แล้ว
โดยพื้นฐานแล้วพระเจ้าจะชอบซุกซน แสวงหาความสำราญ และ……เอาแต่ใจตัวเอง
“ฮิเมะจัง! คำพยากรณ์จากเทพธิดาล่ะจ๊ะ!”
“ฮิเมะซามะ! เหมือนกับตอนที่ฉันกลายเป็นสตรีศักดิ์สิทธิ์……”
“อา~ ค๊าค๊า ดิฉันก็ได้มาเช่นกันเดสสึหว่า――……”
ราชินี สตรีศักดิสิทธิ์ และเหล่าบริวารต่างก็มารวมตัวกันในสถานที่ที่เจ้าชายถูกฝังในจังหวะที่ดีเกินไป
……เทพธิดาซามะ เธอ ไม่สิ หล่อนคิดบ้าอะไรขึ้นมากันย๊า……”
“! โลงศพของเจ้าชาย!”
“อ้า ใช่ใช่ กำลังส่องแสงอยู่เดสสึหว่าเน๊”
“……ฮิเมะซามะ? เหตุใดถึงดูฉุนเฉียวเช่นนั้นกันคะ?”
สตรีศักดิ์สิทธิ์เงยหน้าขึ้นมองผมหลังจากที่เธอวิ่งเข้ามาหา และเอาหน้าอกมาทับตัวผมเหมือนเช่นเคย แต่ผมก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว
“แค่จิตนาการไปเองเดสสึหว่า ดิฉันยังรู้สึกโศกเศร้าอยู่เดสสึหว่า”
แค่ความคุ้นเคยกลับคืนมา ☆
พอมาคิดดูแล้ว ถ้าเจ้าชายฟื้นคืนชีพขึ้นมา พวกเขาคงจะดีใจมากจนต้องรีบจัดงานแต่งงานกันทันทีแน่นอน ซึ่งหมายความว่าชีวิตของผมเปราะบางยิ่งกว่าเทียนเล่มนั้นเสียอีก
อะ จู่ ๆ เทียนเล่มนั้นก็ดับลง พร้อมกับลมที่พัดออกมาจากโลงศพ
“………………………………..”
ทุกคนรุมล้อมโลงศพซึ่งส่งเสียงดังอย่างกะทันหัน
“……ผู้กลับมาเกิดใหม่เอ๋ย”
“เทพธิดาซามะ”
เทพธิดาซามะโปร่งแสงปรากฏตัวขึ้น แต่บางทีอาจมีเพียงผมเท่านั้นที่มองเห็นเธอสินะ?
“กะแล้วว่าน่าจะขอพรอย่างอื่นแทนเดสสึหว่า……ต้องหาโอกาสหนีแล้ว”
” ――เรื่องนั้นอาจจะไม่จำเป็นอีกแล้วก็ได้?”
“เฮะ?”
“เจ้าชาย! ปลอดภัยดีไหม! ข้าเป็นกังวลมากน…… !? เจ้า ชาย…… ?”
“ม๊า……เรารู้สึกเหมือนกลับไปเป็นเด็ก……. !”
“อ้า อ๊า~~ ไม่อยากเห็นไม่อยากได้ยินเดสสึหว่า”
ผมถูกขับเคลื่อนด้วยสัญชาตญาณที่อยากจะจะพุ่งออกไป และหลบหนี
อะ ใช่แล้ว แค่ต้องแน่ใจก่อนว่าเจ้าชายปลอดภัยแล้วค่อยหนี
“……อาโน๊ เจ้าชาย……เหรอคะ?”
“อ้า ……มุ? เสียงใครกัน”
“……เฮะ?”
ผมสงสัยว่าทำไมทุกคนถึงประหลาดใจกัน และแม้แต่เซย์โจวจังก็ยังประหลาดใจ แม้แต่เจ้าชายคนสำคัญก็……ไม่สิ
ผมได้ยินเสียงแหลมสูงที่ผมไม่เคยได้ยินมาก่อน
มีคนอื่นที่ผมไม่รู้จักมาด้วยเหรอ?
“ในระหว่างการคืนชีพ เราได้มอบร่างกายที่เหมาะสมแก่วิณณาญของคนผู้นั้น ――ตรงตามเพศของชายที่คุณเรียกว่าเจ้าชาย”
“เฮะ?”
คน ๆ นี้ ……อะ แม่เทพธิดานี่ พูดอะไรกันนี่?
“……เจ้าหญิง!ปลอดภัยดีใช่ไหมเจ้าหญิง!!”
“…………………………????”
เมื่อได้ผมยินเสียงของหญิงสาวที่ไม่รู้จัก ผมจึงรีบหันกลับไปดู……มีสาวโลลิแสนสวยสวมชุดซีทรูแบบเดียวกับเทพธิดาอยู่!
อุมุอุมุ แม้จะเล็กกว่า แต่ก็ดูดีเมื่ออยู่ใต้ซีทรู
ใบหน้าของเธอดูคล้ายกับราชินี……
เฮะ?
ใคร?
“เจ้าหญิง? มุ? เจ้าหญิง ตัวโตสูงขึ้นไม่ใช่น้อยเลยนะ? ไม่สิ สำหรับเราจะแบบไหนเธอก็เป็นคนที่เรารักที่สุด”
“ไม่……เอโต๊ะ คือว่า”
เมื่อผมมองคนร้ายที่แต่งชุดสุดยอด เทพธิดาซามะก็ขยิบตาส่งให้ผมอย่างเจ้าเล่ห์
……เอ๊ะ?
“……บ้าอาร๊าย นี่คือสิ่งที่หมายถึงเหรอค๊า!”
แล้วก่อนที่ผมจะทันตั้งตัว ซีทรูซามะก็กำลังคุยอยู่กับซีทรูเบอร์สองซัง ซีทรูเบอร์สองซังที่แบนเรียบดูเหมือนจะเข้าใจสถานการณ์ทั้งหมดแล้วจึงหันไปทางราชาและคนอื่น ๆ อย่างมั่นใจ
“เข้าใจแล้วล่ะ……จริง ๆ แล้วดูเหมือนว่าเราจะเป็นผู้หญิงล่ะ พึ่งมีคำพยากรณ์ของเทพธิดาซามะลงมาที่เรา”
“ห๊ะ?”
กำลังพูดเรื่องอะไรกันเด็กนี่
ผมหมายถึง……ไม่รู้หรอกนะว่าเป็นสามัญชนหรือเปล่า แต่ถ้าเข้าไปคุยกับราชาแบบนั้นจะโดนตัดหัวเอาง่าย ๆ ได้นะ
“……มีคำพยากรณ์ถึงเราเช่นกัน ใช่แล้ว เพราะแบบนี้เจ้าชายจึงไม่เคยต้องการมีอะไรกับผู้หญิงเลย แม้ว่าข้าจะพยายามแนะนำ เพราะไม่อยากให้มีอะไรผิดพลาดในคืนแรกกับเจ้าหญิง แต่ลูกข้ากลับปฏิเสธเสมอมา……”
“ห๊ะ?”
ราชา เมื่อกี้ว่าไงนะ?
เจ้าชายไม่เคยพูดแบบนั้นกับผมเลยแม้แต่คำเดียว แต่?
“เทพธิดาซามะส่งถึงเราด้วย แต่……เช่นนั้น เพราะแบบนั้นเจ้าชายถึงเคลื่อนไหวร่างกายได้ไม่ดีนักสินะ พอมาคิดดูดี ๆ แล้ว เราจำได้ว่ามีผู้บอกว่าลูกคนแรกของเราจะเป็นลูกสาว แต่กลับกลายเป็นลูกชาย”
“ห๊ะ”
ราชินี?
ไม่สิ เป็นเรื่องจริงที่เจ้าชายมักจะอยู่ในบ้านเสมอ
“ฮิเมะซามะ ฉะ ฉันเองก็……คือว่า จริง ๆ แล้ว ฉัน เจ้าชายขอให้ฉันช่วยแอบสอนทำอาหารให้กับเขาหน่อย ……อะ อา และจริง ๆ แล้ว เจ้าชายก็ชอบเสื้อผ้ามาก เมื่อมีเวลาก็จะสวม ……กับชุดของฮิเมะซามะ…….”
“ห๊ะ?”
เซย์โจวจังพูดเรื่องที่เหมือนระเบิดลง
เอ๊ะ ที่ผมเห็นพวกเขาทั้งสองคนดูเข้ากันได้ดี หรือว่า?
” ……………………………… “
……ที่แอบไปกินจากจานเดียวกันสองคน ที่มองเสื้อผ้าของเซย์โจวจัง ทั้งหมดก็……
“เจ้าหญิง”
“อะ คะ”
เสียงดังขึ้นจากคนที่เตี้ยว่าผมมาก
ซีทรูเบอร์สองซัง
เธอตัวเล็กกว่าผมซึ่งมีส่วนสูงประมาณผู้ชายในโลกนี้มาก และตัวเล็กกว่าเซย์โจวจังด้วยซ้ำ……แต่สีผมของเธอ สีตา รูปร่างของเธอ บรรยากาศของเธอ……เป็นสาวสวยที่ให้ความรู้สึกเหมือนรู้จักเธอมานาน เริ่มพูดขึ้น
“จริง ๆ แล้ว เราเป็นคนไร้ความสามารถ”
“ฮะ”
เด็กคนนี้กำลังจะพูดอะไรสักอย่าง
ช่างลามกที่สุดเลยเดสสึหว่าโย๊ว!
“แต่ทว่า เทพธิดาซามะบอกกับเราว่า นั่นเป็นเพราะเพศของกายเนื้อที่ผิด จากนั้นเจ้าก็ขอ ―― ให้เราได้กลับมามีชีวิตอีกครั้งใน『กายเนื้อที่ควรจะเป็น』”
“…………..ไม่รู้เดสสึหว่า…….?”
“เจ้าหญิง……เจ้าคิดถึงเรื่องของเราไปไกลมากถึงขั้นนั้น………”
อืม ไม่รู้จ๊า
ผมไม่รู้ว่าเขาได้ซ่อนบางสิ่งที่สำคัญไว้ขนาดนี้
“~♪ “
“……..”
เข้าใจล่ะ
เทพธิดาซามะดูเหมือนกำลังสนุก……ไม่สิ สีหน้าหล่อนกำลังยินดีสุด ๆ ไปเลยไม่ใช่รึไง
โฮร่า เริ่มเต้นคนเดียวแล้วเห็นไหม?
“ช่างน่าเสียดาย เราไม่สามารถเป็นสามีของเจ้าได้อีกต่อไป……แต่ตั้งแต่แรกแล้ว เราเองก็คงไม่สามารถมอบความสุขให้กับผู้หญิงได้ บางทีนี่อาจจะเป็นสิ่งที่ดีแล้วจริง ๆ”
“เช่นนั้นหรือเพค๊า”
……จบแล้ว
ขณะที่กำลังคิดว่า「ในที่สุด ผมก็หลีกเลี่ยงความตายจากอาการช็อกหลังโดนผู้ชายทำเรื่องลามกได้แล้ว~」และตอบกลับอย่างมีชีวิตชีวา
“ผู้กลับชาติมาเกิดเอ๋ย เราจะมอบคำพยากรณ์สุดท้ายให้กับคุณ”
“……อะไรหรือค่ะ เทพธิดาซามะ”
เธอวิ่งวนรอบตัวผม……ไม่สิ ผมกับซีทรูเบอร์สองซังอดีตเจ้าชาย จนสิ่งนั้นใต้ซีทรูเด้งไปมาอย่างเพลิดเพลิน แสดงถึงความสุขสูงสุด
แต่ผมตอนนี้เริ่มไม่มีความสุขแล้วสิ
“เรา เป็นเวลาหลายพันปีแล้วที่เราไม่ได้เห็นบางสิ่งที่น่าสนใจ”
“อย่างงั้นเหรอ”
“คุณพยายามอย่างมากตั้งแต่ที่กลับมาเกิดใหม่”
“อย่างงั้นเหรอ”
“และ ตอนนี้ถึงเวลาของสิ่งที่เรียกว่าโบนัสรึเปล่านะ?”
“อย่างงั้นเหรอ”
“เป็นโอกาสอันดี มาเพิ่มลูกหลานกับเจ้าชายกันเถอะ”
“อย่างงั้……พูดว่าอะไรน๊า”
“พูดอีกอย่าง มันจะงอกออกมาล่ะ ♪ “
“อาโน๊ รอก่อน เทพธิดาซาม๊า!?”
“แต่เพราะอาจจะทำให้ลำบากหลาย ๆ อย่าง เราเลยให้มันงอกออกมาเฉพาะตอนกลางคืนล่ะ อ้า อีกอย่าง ในเมื่อคุณกลายเป็นคนโปรดของเราแล้ว เราจะมอบคำพยากรณ์เพื่อให้คุณเป็นราชาองค์ใหม่ กรุณามีชีวิตให้ยืนยาวหน่อยนะ? ไม่ต้องเป็นห่วง เราจะทำให้คนที่คุณใช้มัน『เชื่อมต่อ』มีอายุที่ยืนยาวเหมือนกับคุณเอง ♪ “
“ห๊ะ?”
เอ๊ะโตะ?
นั่นหมายความว่า ไม่ใช่ว่าผมขโมยตำแหน่งของท่านผู้ก่อตั้งหรอกเหรอ นี่มันเรื่องใหญ่เลยไม่ใช่รึไง?
……ไม่สิ รอก่อน
มีทฤษฎีที่ว่าพระมเหสีของจักรพรรดิองค์แรกเป็นเจ้าหญิงบ้างล่ะ เป็นสตรีศักดิ์สิทธิ์บ้างล่ะ
……จ๊า ไม่มีทาง จักรพรรดิพระองค์แรก!?
“ผู้กล้าที่กลับมาพร้อมชัยชนะ และช่วยเจ้าหญิงที่ถูกจองจำเอาไว้ได้ และผูกสัมพันธ์กัน ดูเหมือนจะเป็นเรื่องธรรมดาในโลกของคุณ อะ และอีกอย่าง บางทีคุณคงจะไม่สามารถยับยั้งชั่งใจที่จะใช้งานสิ่งที่งอกออกมาจากคุณได้ ดังนั้น เราจะพูดให้สตรีศักดิ์สิทธิ์คนนั่นไปอยู่ด้วย นี่เป็นคำพยากรณ์ เธอเลยถูกบังคับให้แต่งงานกับคุณ ♪ “
“เละเทะไปแล้ว!?”
“เรียกจิเร็ม*สินะคะ ความทรงจำของคุณเต็มไปด้วยความทรงจำที่แสนสนุกมากเลย ♪ “
(*อิเซไคจิเร็ม แนวเรื่องราวเกี่ยวกับตัวเอกต่างโลกสายโกงที่เล่นสนุกอยู่ในฮาเร็ม)
“ได้โปรดอย่ามาล้อเล่นกับชีวิตของคนอื่นแบบไม่คิดเซ้…….เดสสึหว่าาาา!!!”
หลังจากนั้น
“รู้สึกอย่างไรที่ได้เป็นจักรพรรดิที่รวบรวมนานาประเทศเข้าด้วยกัน?”
“อยากใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์แล้ว แต่……”
“ก็วิ่งบนเส้นทางแห่งจิเร็มอย่างดุเดือดเลยไม่ใช่เหรอ?”
“ผมเติบโตในแบล็คคอมพานีของยุคเรวะ……ผมไม่เหมาะกับประเทศนี้เดสสึหว่า”
ใครบอกว่าราชาเป็นข้ารับใช้ของรัฐกัน
ผมได้กลายเป็นจักรพรรดิเหนือราชา
เทพธิดาซามะก็ไป ๆ มา ๆ ในห้องทำงานรูปไข่เหมือนเมื่อก่อน
เมื่อไม่จำเป็นต้องโปร่งแสงแล้ว เธอก็เลิกสวมซีทรู น่าผิดหลังนิดหน่อย
นอกจากนี้ความคิดที่จะใช้ชุดเครื่องแบบมิโกะซังก็ถูกปฏิเสธเช่นกัน……
“ทั้งที่คุณทำทุกอย่างที่คุณต้องการกับผู้หญิงสองคนนั้นไปขนาดนั้นแล้ว คุณก็ยัง……แต่ก็สมแล้วที่จิตวิญญาณของคุณยังคงเป็นผู้ชาย ไม่เป็นไรเหรอที่จะแต่งงานให้มากมากกว่านี้อีก? อะ มีเราอยู่ด้วยรวมเป็นสามคนสินะ? เราไม่รู้ตัวเลยนะเนี่ยว่าถูกนับรวมเข้าไปด้วย”
“กรุณาอย่ามาอ่านความคิดของคนอื่นโดยไม่ได้รับอนุญาตสิ? นอกจากนี้ดิฉัน ไม่สิ ผมพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้เธอกับอีกสองคนใช้ชีวิตร่วมกันได้……ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นถือว่าพวกเราสมรู้ร่วมคิดกัน……”
“ก่อนอื่นนวดให้ใช่ไหม?”
“ก่อนอื่นนวดให้ทีเดสสึหว่า”
“นวดหนึ่งครั้ง 1 วันค๊า♪”
“ทุกครั้งที่ถูกนวดอายุขัยของผมก็ยืดออกไป……”
อ้า ตอนนี้คิดดูแล้ว จักรพรรดิองค์แรกก็มีอายุยืนยาวมาก
เงาสองเงาวิ่งเข้ามา
“……เจ้าหญิง!อา ไม่ใช่ ที่รัก!……ทะ เทพธิดาซามะ ขอให้เป็นวันที่ดีและแข็งแรงค่ะ”
“อดีตเจ้าชาย ตอนนี้เธอมีความสุขไหม?”
“ค่ะ!แม้แต่อาการแพ้ท้องนี้ก็ยังทำให้มีความสุข!”
“………………………………”
ทันใดนั้น ซีทรูเบอร์สองซังและอดีตเจ้าชาย……และจักรพรรดินีองค์ปัจจุบันก็ปรากฏตัวขึ้น
ผมเบนสายตาหนี……จากท้องที่โตขึ้นเล็กน้อยของเจ้าชายที่กลายมาเป็นสาวโลลิ……
“………………………………”
ความรู้สึกผิดศีลธรรมหลั่งไหลออกเหมือนน้ำตก
ผมไม่ได้มี……งานอดิเรกแบบนั้น……จริง ๆ นะ
“เป็นเช่นนั้นเหรอ จะใช่แน่เหรอ?”
“……………ใช่แน่นอน”
“อะ อาโน๊”
จากนั้นเสียงของสตรีศักดิ์สิทธิ์ก็ดังขึ้น
“เทพธิดาซามะ…….คือ ลูกของพวกเรา”
“จะคลอดได้ง่ายและปลอดภัยอย่างแน่นอนจ๊ะ♪”
“ว๊าย……ขอบพระคุณมากเลยค่ะ!”
“……แล้ว ใช่แน่เหรอ?”
“……………ใช่แน่นอน”
ผมเบือนหน้าหนีจากส่วนนูนด้านล่างที่มีขนาดใหญ่และหนักขึ้นของเธอ ไม่ใช่จินตนาการของผม
อะ ทางนี้คืองานอดิเรกของผมเองครับ
จะไม่มีการปฏิเสธแล้ว
“อำนาจสูงสุด พิชิตโลก ลูกหลานมากมาย ทั้งหมดนั้นดูเหมือนจะเป็นจิเร็มหมดเลยน๊า?”
“……ผมแค่อยากมีชีวิตที่เงียบสงบ……”
อืม
นี่เป็นผลลัพธ์โดยตรงที่ผมไม่ได้โดนทำเรื่องลามกจากผู้ชาย โล่งอกไปที
แม้ว่าจะกลับมาเกิดใหม่เป็นผู้หญิง แต่ผมก็สามารถเป็นผู้ชายได้ในช่วงเวลาจำกัด ดังนั้นโล่งอกไปที
แต่ว่าน้า?
“คุณหนูนางร้าย ใช้ชีวิตในชนบท สโลว์ไลฟ์ ทั้งหมดที่ผมโหยหา…..เดสสึหว่า……”
“ช่างไม่ซื่อสัตย์เลยน๊า แต่ว่า”
เทพธิดาผู้มองทะลุยิ้มอย่างซุกซน
“ชีวิตแบบนี้ยังดีไม่พอเหรอ? ไม่ใช่ว่าผู้ชายชอบอะไรแบบนี้ไม่ใช่เหรอจ๊ะ?”
Chapters
Comments
- ตอนที่ 0.2 นี่เป็นเรื่องราวที่ผมได้เกิดใหม่เป็นเด็กผู้หญิง และพยายามให้ถูกขับไล่ในฐานะคุณหนูนางร้าย แต่ก็ล้มเหลว และกลายเป็นผู้กล้า แต่ม๊า จะยังไงก็ได้ ตุลาคม 27, 2023
- ตอนที่ 0.1 นี่เป็นเรื่องราวที่ผมได้เกิดใหม่เป็นเด็กผู้หญิง และพยายามให้ถูกขับไล่ในฐานะคุณหนูนางร้าย แต่ก็ล้มเหลว และกลายเป็นผู้กล้า แต่ม๊า จะยังไงก็ได้ ตุลาคม 26, 2023
MANGA DISCUSSION