เรื่องราวของการซื้อเพื่อนร่วมชั้นอาทิตย์ละครั้ง Shuu ni Ichido Kurasumeito wo Kau Hanashi - ตอนที่ 8 ที่บอกว่าเซ็นไดซังหวานน่ะ โกหกชัด ๆ ตอนที่ 2
- Home
- เรื่องราวของการซื้อเพื่อนร่วมชั้นอาทิตย์ละครั้ง Shuu ni Ichido Kurasumeito wo Kau Hanashi
- ตอนที่ 8 ที่บอกว่าเซ็นไดซังหวานน่ะ โกหกชัด ๆ ตอนที่ 2
ที่บอกว่าเซ็นไดซังหวานน่ะ โกหกชัด ๆ ตอนที่ 2
เซ็นไดซังใช้นิ้วที่เรียวยาวหยิบทรัฟเฟิลเข้ามาชนที่ริมฝีปากอย่างพอดีคำ แต่เพราะฉันจะกินนิ้วเธอด้วยเลยอ้าปากให้กว้างขึ้น แต่ทันทีที่ลิ้นได้สัมผัสกับช็อคโกแลต ก็โดนความหวานของน้ำตาลผงดึงความสนใจจนเผลอกัดช็อคโกแลตเข้า ฉันจึงคว้าข้อมือของเธอไว้
「ไม่กินเหรอ?」
เธอถามขึ้นมาโดยเมินความเจตนาของฉันด้วยการยัดทรัฟเฟิลเข้ามาในปาก พอปล่อยข้อมือเธอออก รสชาติความหวานของน้ำตาลผงก็กระจายไปทั่วปากโดยที่ยังไม่ทันได้เคี้ยวด้วยซ้ำ
ช็อคโกแลตเหลืออยู่อีก 5 ก้อน
ฉันยอมปล่อยเรื่องนิ้วแสนซนของเธอไปก่อน แล้วค่อย ๆ เคี้ยวช็อคโกแลตที่อยู่ในปาก
อร่อยจัง
แม้ว่ามันจะหวาน แต่ความหวานนั้นก็อยู่ในปากได้ไม่นาน ทรัฟเฟิลที่ละลายบนลิ้นอย่างช้า ๆ ต่อให้กินสักกี่ก้อนก็ไม่เบื่อเลย
「ปากขาวหมดแล้ว」
เซ็นไดซังยิ้มและยื่นมือที่เรียวยาวมาเช็ดที่ปากฉัน แต่ฉันปัดมือเธอออก
「หวานเกินไปรึเปล่า?」
แทนที่จะบ่นเรื่องที่โดนปัดมือออก กลับมาถามเรื่องรสชาติแทน การทำแบบนี้มันทำให้ฉันโกรธ
เหมือนกับเซ็นไดซังที่เห็นที่โรงเรียน
ในห้องเรียนที่ไม่ว่าตอนไหนก็ยิ้มเสมอ ไม่เคยแสดงอาการโกรธให้เห็นสักครั้ง
ฉันอยากจะฉุดเธอที่เอาแต่ทำตัวขีดเส้นกั้นอย่างกับมีว่าแค่ตัวเองที่อยู่คนละระดับกันให้ลงมาอยู่ในระดับเดียวกัน ทั้ง ๆ ที่อยู่ในห้องนี้ไม่ใช่ที่โรงเรียนแท้ ๆ
「ที่นี่ไม่ใช่โรงเรียนสักหน่อย」
ฉันปรับระดับพัดลมฮีทเตอร์ขึ้นอีก 1 ระดับ แล้วดื่มไซเดอร์
「หมายความว่าไงเหรอ?」
「ก็เธอเล่นทำตัวเป็นคนดีอยู่นี่」
「ไม่ได้เล่นสักหน่อย คนดีจริง ๆ นี่นา」
เซ็นไดซังยิ้มแย้มและพูดออกมาอย่างหน้าไม่อาย
「แต่ที่อยู่ตรงนี้ไม่ใช่คนดีใช่มั้ยล่ะ เพราะถ้าเป็นคนดีละก็ คงจะทำตัวหวานแหววกับฉันเหมือนกับช็อคโกแลตนี่แล้วล่ะ」
「เอ๋ ก็ทั้งใจดีและทำตัวหวานอยู่แล้วนี่ ถึงขนาดเอาช็อคโกแลตเพื่อนมาให้เลยเชียวนะ」
「ช็อคโกแลตเพื่อนอะไรล่ะ เดิมทีพวกเรา–」
–ไม่ใช่เพื่อนกันสักหน่อย แต่ก็ไม่ได้พูดออกไป
บางทีเธออาจจะไม่ได้ตั้งใจพูดออกมาแต่แรก เรื่องที่เราจะเป็นเพื่อนกันหรือไม่ได้เป็นก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร การเอาช็อคโกแลตเพื่อนมาให้ก็ไม่ได้เป็นตัวพิสูจน์ว่าเป็นเพื่อนกันสักหน่อย
ไม่ว่าจะยังไงก็ช่างมันเถอะ
「อะไรเหรอ? พูดต่อสิ?」
「อยากกินอีกชิ้นแล้ว」
พอฉันพูดกลบเกลื่อนไป เซ็นไดซังก็หยิบทรัฟเฟิลสีชมพูตามที่ฉันขอไปขึ้นมา
「อันนี้ได้มั้ย?」
「ก็ได้」
ฉันมองไปที่นิ้วของเธอ
วันนั้นที่สั่งให้เธอเลียเท้าให้ เธอกัดนิ้วฉัน
แถมยังมาเลียตรงรอยที่กัดไปอีก
เจ็บจนโวยวายออกไปเสียงดัง
ทั้ง ๆ ที่รู้สึกแย่แท้ ๆ แต่กลับไม่ได้เกลียดอย่างที่คิด
การได้รับความรู้สึกที่ไม่ต้องการนั้น แม้คิดว่าจะทำให้เธอได้รับสิ่งเดียวกันก็จริง แต่จะให้ไปเลียเท้าเธอน่ะ ไม่มีวันเด็ดขาด เพราะงั้นถ้าเป็นมือล่ะก็พอไหวอยู่
ถึงจะมีวิธีการที่ไม่ต้องมาทำเรื่องยุ่งยากอย่างการป้อนช็อคโกแลตและสั่งไปตรง ๆ ก็ตาม แต่แบบนั้นมันน่าเบื่อ ความรู้สึกที่ยากจะอธิบายนั่นน่ะ มันต้องเกิดขึ้นแบบไม่ทันตั้งตัว
「เชิญจ้ะ」
ฉันอ้าปากกว้างตามเสียงหวาน ๆ ที่เชื้อเชิญ นิ้วของเซ็นไดซังและทรัฟเฟิลเข้ามาในปาก
วางฟันลงบนช็อคโกแลตจากนั้นก็ “กัด” โดยใส่แรงไปเต็มที่
สัมผัสความนุ่มของเนื้อที่กัด ทำให้นึกถึงความรู้ตื่นเต้นเหมือนกับตอนที่ลงมีดไปที่เนื้อสเต็กชิ้นหนาเลย จะว่าไป ช่วงนี้ไม่ได้กินสเต็กกับพ่อเท่าไหร่เลย
「มิยากิ มันเจ็บนะ」
เสียงท้วงของเซ็นไดซังดังขึ้น
แต่ว่า ไม่ปล่อยหรอก
กัดให้แรงขึ้นจนรู้สึกสัมผัสโดนกระดูก
「เดี๋ยวเถอะ มิยากิ ก็บอกว่าเจ็บไง」
เสียงที่เธอพูดต่างจากตอนอยู่ที่โรงเรียน ทั้งทุ้มและแข็งกว่า
ห้องที่ไม่ค่อยร้อนตอนนี้กลับร้อนขึ้น ทั้งรสหวานของช็อคโกแลต และสัมผัสแข็ง ๆ ของกระดูก ‘มากกว่านี้’ ในหัวของฉันมันมีเสียงอย่างนั้นดังก้องอยู่
ฉันเพิ่มแรงกัดลงไปบนนิ้วอีกนิด
ขนาดที่อีกนิดจะกัดเข้าเนื้อแล้ว นิ้วของเซ็นไดซังสั่นเล็กน้อย
「มิยากิ !」
ด้วยเสียงที่แหลมดังขึ้น ฉันก็ปล่อยนิ้วเธอออก หลังจากนั้นก็ค่อย ๆ ลิ้มรสช็อคโกแลตที่ยังหลงเหลืออยู่ในปาก
「……เอาคืนเหรอ?」
เซ็นไดซังมองนิ้วแล้วพูดออกมาเบา ๆ
ดูไม่เหมือนว่ากำลังโกรธ
แต่ว่าเจ็บน่าดู
「ก็ไม่รู้สินะ ยืมมือหน่อยสิ」
ฉันจัดการช็อคโกแลตที่ละลายลงท้องจนหมด พอฉันเร่งเข้า เซ็นไดซังทำหน้าไม่ชอบใจเท่าไหร่คงเพราะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป แต่ก็ไม่ได้ต่อต้านฉัน เธอยื่นมือมาแตะที่ริมฝีปากของฉันอย่างเงียบ ๆ โดยที่ไม่ได้ออกคำสั่งด้วยซ้ำ
ฉันเอาลิ้นเลียไปที่นิ้วของเธอ
ในขณะที่กำลังเลียไปตามรอยฟันที่กัดเมื่อกี้ เซ็นไดซังก็ดึงผมหน้าม้าที่โดนตัดจนสั้น
「ตัดผมมาเหรอ?」
ถึงจะบอกว่าตัดสั้นไปก็จริง แต่มันก็แค่นิดเดียว
ไม่ได้มากถึงขนาดที่เซ็นไดซังจะรู้ตัวโดยที่ไม่คุยกันตอนอยู่โรงเรียนหรอก
ช่องว่างระหว่างเรานั้นห่างกันราวกับแม่น้ำคงคานั่นแหละ –ถึงแม้จะจำไม่ได้ว่าแม่น้ำคงคามันกว้างขนาดไหนก็เถอะ เราถูกแบ่งกันอย่างชัดเจน
ทั้ง ๆ ที่มีช่องว่างขนาดนั้นแท้ ๆ แต่การที่เซ็นไดซังรู้ถึงหน้าม้าของฉันที่ตัดสั้นไปแค่นิดเดียวได้มันก็ทำให้ใจเต้นขึ้นมา
ฉันกัดนิ้วเธอแรงขึ้นแทนคำตอบนั้น
แต่ว่ากลับโดนยัดนิ้วเข้ามาในปากเร็วกว่า
นิ้วที่ดันลึกเข้ามาราว 2 ข้อนิ้วก็ขยับราวกับว่ากำลังหาอะไรอยู่ ทันทีที่สัมผัสโดนที่กระพุ้งแก้ม ก็รู้สึกแปลบไปหมดทั้งตัว
ความรู้สึกที่ควบคุมไม่ได้พวยพุ่งออกมา
ทั้ง ๆ ที่รู้สึกแย่แท้ ๆ แต่ความรู้สึกแปลก ๆ ที่คิดว่าไม่อยากให้หยุดกลับค่อย ๆ โตขึ้นในจิตใจ
แย่จริง ๆ
ฉันกัดนิ้วนุ่ม ๆ ที่ขยับวนอยู่ในปาก แต่ไม่ทันจะได้เลีย นิ้วก็ถูกดึงออกไปอย่างแรง
「อร่อยมั้ย?」
ฉันมองไปยังเซ็นไดซังที่ถามมาราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ไม่รู้ว่าเธอจะรู้สึกเจ็บและเสียวแปลก ๆ เหมือนกับที่ฉันโดนเธอกัดที่เท้าหรือเปล่า
ไม่รู้เลย
บนใบหน้าของเซ็นไดซังมีรอยยิ้มที่ปิดบังอารมณ์ของเธอไว้
ฉันที่ไม่ได้เห็นการตอบสนองเป็นไปตามที่คิด ก็ตอบไปอย่างเย็นชา
「ช็อคโกแลตอร่อยกว่าเยอะ」
「นั่นสิน้า เอาอีกมั้ย?」
เซ็นไดซังพูดโดยไม่หุบยิ้ม
ฉันล่ะเกลียดใบหน้าของเธอที่ทำราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นจริง ๆ
เสียงร้องที่เจ็บเพราะโดนกัดนิ้วก็ไม่มี ยิ่งไปกว่านั้น ไม่มีทางที่เธอจะโอเคกับการโดนเลียนิ้วแบบนี้ด้วย เพราะงั้น ไม่ว่าจะยังไงก็ต้องลบท่าทางที่ทำเป็นสบาย ๆ ของเธอออกไปให้ได้
「อันนั้น」
ฉันชี้ไปยังทรัฟเฟิลสีน้ำตาลที่มีบางอย่างเหมือนกับผงโกโก้โรยอยู่
「อ้าปากสิ」
เซ็นไดซังพูดขึ้นพร้อมหยิบช็อคโกแลตก้อนที่ 3 ตามที่ฉันขอขึ้นมา