เริ่มทำพาร์ทไทม์เป็นพ่อบ้านได้ไม่ทันไร ดูเหมือนครอบครัวของสาวงามอันดับหนึ่งของโรงเรียนจะถูกใจผมเข้าซะแล้ว - ตอนที่ 16 เครือข่ายล้อมรอบของเหล่านายท้าย
- Home
- เริ่มทำพาร์ทไทม์เป็นพ่อบ้านได้ไม่ทันไร ดูเหมือนครอบครัวของสาวงามอันดับหนึ่งของโรงเรียนจะถูกใจผมเข้าซะแล้ว
- ตอนที่ 16 เครือข่ายล้อมรอบของเหล่านายท้าย
หลังกลับบ้านไปเตรียมตัวเสร็จสรรพ ฮารุโตะก็มาเยือนบ้านโทโจเป็นครั้งที่สาม
ณ บริเวณหน้าประตูของคฤหาสน์อันสง่างามไม่เปลี่ยนแปลง ฮารุโตะยื่นปลายนิ้วไปกดปุ่มอินเตอร์โฟน
ทันใดนั้น ก็ได้ยินเสียงตอบกลับแทบจะทันที
『ค่าค่〜า โอสึกิคุง?』
「ครับ โอสึกิเองครับ มาให้บริการทำงานบ้านแทนครับ」
『กำลังรออยู่เลย〜 เรียวตะー พี่ชายมาแล้วนะ! ไปเปิดประตูให้พี่เขาหน่อย! อ๊ะ โอสึกิคุง เดี๋ยวเรียวตะไปเปิดประตูให้ช่วยรอแปบนึงนะจ๊ะ』
「ครับ ขอบคุณครับ」
แทบจะเวลาเดียวกับที่ฮารุโตะกล่าวคำขอบคุณจบ ประตูหน้าบ้านก็เปิดออกอย่างแรง
「พี่ชาย!」
「ไง เรียวตะคุง สวัสดี」
「สวัสดีฮะ! พี่ชายเรียวเข้า! ปลาสุดยอดมากเลยล่ะฮะ!」
เรียวตะที่อยู่ในสภาวะอารมณ์พุ่งปรี๊ด กล่าวอย่างตื่นเต้น
เขาดึงมือฮารุโตะเหมือนดั่งครั้งก่อนแล้วลากพาไปยังห้องนั่งเล่น
「ยินดีต้อนรับ โอสึกิคุง」
พอเข้ามาในห้องนั่งเล่น อิคุเอะก็ลุกจากโซฟาและส่งเสียงทักทายฮารุโตะพร้อมผุดยิ้มอย่างอบอุ่น
「ขอรบกวนด้วยนะครับ」
「ไง! โอสึกิคุง! มาจนได้สินะ!」
ต่อด้วย ชูอิจิกล่าวต้อนรับฮารุโตะ
พร้อมกล่องแช่แข็งขนาดค่อนข้างใหญ่วางอยู่ใต้เท้า
ฮารุโตะมองไปยังกล่องแช่แข็งขนาดใหญ่ใบนั้นแล้วพูด
「คุณโท …ได้ยินจากคุณอายากะมาแล้วล่ะครับว่า คุณชูอิจิตกได้ปลาหางเหลืองกับปลากะพงแดงมา」
พอฮารุโตะกล่าวแบบนั้น ชูอิจิก็ทำหน้าราวกับจะบอกว่า「ได้ยินมาจนได้สินะ!」แล้วเปิดปากบรรยายเป็นน้ำไหลไฟดับ
「ใช่แล้วล่ะ! พอดีในบริษัทของคู่ค้ามีคนชอบล่องเรือหาปลาเป็นงานอดิเรกอยู่น่ะ เลยได้มีโอกาสขึ้นเรือกับคนๆนั้นบ่อยๆ แล้วก็ แบบว่า〜 วันนี้ดันแจ็คพอตแตกซะงั้น! จังหวะที่เจ้าปลาหางเหลืองนี่ติดเบ็ด ตอนแรกไอ้เราก็คิดประมาณว่า ติดกับเข้าให้แล้วสินะอะไรแบบนั้น! แต่พอออกแรงดึงสุดแรงเกิดยังไงเจ้านี่กลับไม่ยอมกระดิก พอมาถึง20เมตรสุดท้าย เจ้านี่ก็ดิ้นอีกรอบ จนสายเบ็ดถูกดึงซะตึงเปรี๊ยะ แหม 〜เป็นการต่อสู้ที่ถึงตายได้เลยล่ะ! สุดท้ายกว่าจะงัดเจ้าปลาหางเหลืองนี่ขึ้นมาได้ก็ใช้เวลาไปประมาณ15นาที ไม่สิ30นาทีเลยล่ะ…」
「คุณคะ พูดร่ายยาวขนาดนั้น อุตส่าห์ได้ปลาสดใหม่มาทั้งที เดี๋ยวความสดก็ลดหรอกนะคะ?」
ชูอิจิตาเป็นประกายวิบวับพร้อมเล่าบรรยายสถานการณ์ตอนตกปลาหางเหลืองได้ ให้ฮารุโตะฟังอย่างเร่าร้อน
แต่ก็ถูกอิคุเอะขัดขากลางคัน
「อุมุ นั่นสินะ อุตส่าห์ได้ปลาสดๆมาทั้งที รบกวนโอสึกิคุงช่วยจัดการพวกมันให้ทีนะ」
「ครับ เชื่อมือได้เลยครับ」
ฮารุโตะพยักหน้าเจือยิ้มเฝื่อนให้ชูอิจิผู้แสดงท่าทีอาลัยอาวรณ์เล็กน้อย
「ว่าก็ว่าเถอะครับ ไม่ว่าตัวไหนก็เป็นปลาที่มีขนาดน่าประทับใจมากเลยนะครับ?」
เมื่อฮารุโตะกล่าวพลางชำเลียงมองกล่องแช่แข็งตรงเท้าของชูอิจิ ชูอิจิก็เปิดปากเล่าบรรยายทันที
「เจ้าปลากะพงแดงนั่นด้วย! ทีแรกก็รู้สึกว่ารอกมันกระตุกเบาๆ! พอคิดว่า『หืม?』พร้อมกับตวัดคันเบ็ดขึ้นอย่างเร็ว!พอทำแบบนั้นมันก็ติดเบ็ดอย่างดงาม ถึงมันจะดิ้นสุดแรงแต่ก็ไม่หลุด…」
「คุณคะ?」
「อ๊ะ ก็แหม……อุมุ โอสึกิคุง รบกวนเรื่องปรุงอาหารได้รึเปล่า?」
ชูอิจิผู้ถูกอิคุเอะขัดจังหวะอีกครั้ง แสดงท่าทีจ๋อยเล็กน้อย
「ถ้างั้น ก่อนอื่นต้องยกกล่องแช่แข็งใบนี้ไปที่ห้องครัวก่อนครับ」
ฮารุโตะแสดงท่าทีเห็นใจเล็กน้อยให้ชูอิจิผู้พูดเล่าถึงความตื่นเต้นตอนตกปลาอย่างเร่าร้อน พร้อมกระนั้นก็ตัดสินใจให้ความสำคัญกับความสดของปลาเป็นอันดับแรก แต่พอจับกล่องแช่แข็งทำท่าจะยกขึ้น
น้ำหนักกลับมากกว่าที่คิดจนฮารุโตะทำหน้ามุ่ย
「เดี๋ยวฉันช่วยยกอีกฝั่งนะ」
「อ๊ะ ขอโทษครับ ช่วยได้เยอะเลยครับ」
ขนาดของปลาหางเหลืองอยู่ที่ประมาณ70เซน ส่วนปลาอินทรีเองก็อยู่ประมาณ60เซ็น แถมยังมีปลากะพงแดงขนาดประมาณ40ถึง50เซนอีกตัว ทั้งยังน้ำแข็งที่ใส่อยู่ในกล่องแช่แข็งอีก ถึงจะไม่ได้เหลือบ่ากว่าแรงคนๆเดียวแต่ก็ไม่ใช่ความหนักที่จะยกได้สบายๆ เช่นกัน
ชูอิจิและฮารุโตะทั้งคู่ช่วยกันยกกล่องแช่แข็งไปที่ห้องครัว
「ขอบคุณครับ ช่วยได้เยอะเลยครับ ถ้างั้นขอเริ่มจัดการเลยนะครับ ส่วนเรื่องเมนูมีอะไรที่อยากทานเป็นพิเศษรึเปล่าครับ?」
ขณะที่ฮารุโตะกล่าวถามเช่นนั้น ประตูห้องนั่งเล่นก็เปิดออกพอดีและอายากะก็เข้ามาในห้อง
「อ๊ะ โอสึกิคุง มาแล้วสินะ คือว่า……ยินดีต้อนรับ」
「อ๊ะ ครับ คือว่า……ขอรบกวนด้วยนะครับ」
ทั้งคู่ผู้ยังติดใจเรื่องที่เกิดขึ้นที่โฮมเซ็นเตอร์เมื่อครู่อยู่ ทักทายกันอย่างอึดอัดเล็กน้อย
อิคุเอะผู้สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงจากท่าทีของทั้งคู่ มองไปยังลูกสาวของตนอย่างรื่นรมย์
「อะ อะไรเล่า?」
ลูกสาวผู้รับสายตาจากแม่ ตัวกระตุกเล็กน้อยพร้อมกล่าวถามออกมา
「โอสึกิคุงน่ะ หลังจากนี้จะทำอาหารโดยใส่ความรักเข้าไปด้วย แล้วอายากะมีอะไรอยากทานไหมเอ่ย?」
「คะ ความรักเนี่ย ขะ ของแบบนั้นไม่เห็นจะรู้จัก」
อายากะขมวดคิ้วและตอบกลับผู้เป็นแม่
กลับกัน อิคุเอะกลับทำหน้าสนุกยกใหญ่และครั้งนี้ก็เปลี่ยนไปมองที่ฮารุโตะ
「ต้องรู้อยู่แล้ว〜! เนอะ โอสึกิคุง? ที่อาหารของโอสึกิคุงอร่อยไม่ใช่แค่เพราะทำอาหารเก่งอย่างเดียว แต่เพราะยังใส่ความรักลงไปเต็มเปี่ยมด้วยใช่ไหมจ๊ะ?」
「เอ๊ะ อ๊ะ ครับ คือว่า……ก็ทำอย่างใส่ใจโดยใส่ความจริงใจลงไปด้วยครับ」
「นั่นไง!โอสึกิคุงน่ะ อุตส่าห์จะทำอาหารอย่างใส่ใจเพื่ออายากะเลยนะ?」
「ไม่ครับ คือว่า ……ไม่ใช่แค่คุณอายากะ แต่เป็นทุกคน……」
「ตายแล้ว! โอสึกิคุงเนี่ยใจดีจัง」
「ไม่ครับ……」
ฮารุโตะผุดยิ้มเฝื่อนพร้อมยืนยันได้แล้วว่า อิคุเอะคือผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในบ้านโทโจ
「นี่ๆ พี่ชาย ผมอยากกินซาชิมิ」
เรียวตะร้องขอฮารุโตะผู้กำลังสับสนเพราะไม่อาจแยกแยะถ้อยคำที่ไม่รู้ว่าจริงจังหรือล้อเล่นของอิคุเอะ
ฮารุโตะผู้มองเห็นโอกาสหลบหนีจากอิคุเอะ จึงย่อตัวลงสบตากับเรียวตะและตอบกลับ
「เข้าใจแล้ว เอาเป็นว่าจะใช้ปลาทั้งสามตัวทำซาชิมิให้นะ」
「เย้!!」
ถ้อยคำของฮารุโตะ ทำให้เรียวตัวยิ้มออกมาอย่างไร้เดียงสา
ชูอิจิเองก็พยักหน้าพร้อมกล่าวเช่นกัน
「ท้ายที่สุดถ้าเป็นปลาสด ยังไงก็อยากกินแบบซาชิมิ เพราะไม่ว่ายังพวกเราก็เป็นคนญี่ปุ่นน่ะนะ」
「รับทราบครับ ถ้างั้น อาหารเย็นวันนี้เอาเป็นปลาหางเหลืองกับปลากะพง แล้วก็ปลาอินทรีสไลด์บางนะครับ คุณอิคุเอะกับคุณอายากะก็ไม่ว่าอะไรใช่ไหมครับ?」
ฮารุโตะกล่าวถามทั้งสองคน
「ค่า แน่นอน ตั้งตารอเลยล่ะจ้ะ」
「ฉันเองก็อยากกินซาชิมิเหมือนกัน」
หลังจากได้รับการอนุมัติจากครอบครัวโทโจทุกคนแล้ว ฮารูโตะก็เริ่มลงมือทำอาหารทันที
ทันใดนั้น ชูอิจิก็เข้ามาในครัวพร้อมมือข้างหนึ่งถือถุงพลาสติก
「จะว่าไปโอสึกิคุง เพราะกะจะให้ทำซาชิมิตั้งแต่แรกแล้ว เลยซื้อผักกับพวกอุปกรณ์ที่น่าจะได้ใช้มาด้วยน่ะ」
「อ๊ะ อย่างนั้นเหรอครับ?ถ้างั้นขอดูข้างในได้รึเปล่าครับ?」
ฮารุโตะรับถุงพลาสติกจากชูอิจิและตรวจสอบสิ่งที่อยู่ภายใน
ข้างในมี มีดขูดเกล็ดปลา มีดฝานซึ่งง่ายต่อการทำหัวไชเท้าฝอยและพวกผักอย่างแครอท หัวไชเท้า แตงกวารวมไปถึงของที่ใช้ตกแต่งอย่างชิโซะ
「คุณชูอิจิ ขอบคุณครับ ถ้ามีของพวกนี้ สีสันของซาชิมิก็คงจะดีขึ้นด้วยครับ」
พอฮารุโตะกล่าวอย่างสุภาพ อิคุเอะก็ผุดยิ้มราวกับจะหยอกล้อชูอิจิ
「คนๆนี้ล่ะก็ ซื้อของมาได้ตั้งเยอะขนาดนี้ แต่ดันลืมวาซาบิซึ่งเป็นหัวใจหลักซะได้」
「ฮ่าฮ่าฮ่า แหม〜 ช่างน่าขายหน้ายิ่งนัก」
ถ้อยคำของอิคุเอะ ทำเอาชูอิจิยกมือข้างหนึ่งขึ้นเกาหลังหัวแกรกๆ อย่างเขินอาย
“เพราะเหตุใดอายากะถึงได้ถ่อไปที่ซุปเปอร์เพื่อซื้อวาซาบิแค่อย่างเดียวกันนะ” พอฮารุโตะได้รู้ความจริงข้อนั้นก็รู้สึกสดชื่นขึ้นมาทันที
「ถ้างั้นจะเริ่มแล่เลยนะครับ」
อย่างแรก ฮารุโตะนำเอาปลาหางเหลืองวางลงบนเขียงลูบน้ำเล็กน้อยพร้อมกับเริ่มเลาะเกล็ด
พอเลาะเกล็ดออกหมดแล้ว ก็ตัดหัวและเอาเหงือกออก หลังจากผ่าท้องเอาเครื่องในออกแล้ว ก็หั่นแบ่งเป็นสามส่วน
ทำเอาชูอิจิผู้ได้เห็นปลาหางเหลืองถูกหั่นเป็นสามส่วนในพริบตารู้สึกประทับใจ
「คล่องแคล่วจังนะ แค่ได้ดูก็รู้สึกดีแล้ว」
「ขอบคุณครับ ตัวผมเองก็ไม่คิดไม่ฝันว่าจะได้แล่ปลาที่สุดยอดขนาดนี้เหมือนกันครับ เลยรู้สึกกังวลว่าจะแร่ออกมาดีรึเปล่าแต่เพราะได้เจ้านี่ช่วยเลยแร่ได้อย่างสบายเลยล่ะครับ」
ฮารุโตะที่พูดแบบนั้นยกมีดบังตอที่ถืออยู่ขึ้นเล็กน้อย
เป็นมีดบังตอที่ทางบ้านโทโจเตรียมไว้ให้ซึ่งมีการแกะสลักตรงปลายด้ามจับ บ่งบอกได้ว่าเป็นมีดที่ค่อนข้างมีระดับ
ด้วยความคมอันโดดเด่นนั้น แม้จะเป็นปลาหางเหลืองที่ทั้งตัวใหญ่และกระดูกแข็งก็สามารถแร่ได้อย่างปลอดภัย
หลังจากหั่นปลาทั้งหมดเป็นสามส่วนแล้ว ฮารุโตะก็ค่อยเอาก้างกับเลือดที่ยังเหลืออยู่ออกทีละตัว เพื่อให้รับประทานได้ง่ายขึ้น
「สุดยอดเลยนะจ๊ะ ฉันเองก็ควรไปเรียนวิธีแล่ปลาเหมือนฮารุโตะดีไหมนะ」
อิคุเอะที่นั่งอยู่ตรงห้องนั่งเล่น มองเข้ามาในครัวพร้อมพูด
「ถ้าไม่ว่าอะไรผมสอนให้ได้นะครับ?」
ฮารุโตะตอบกลับพร้อมถลกหนังปลาทั้งสามออก
「ตายแล้วจริงเหรอ? ถ้างั้นครั้งหน้าสอนให้หน่อยได้ไหมจ๊ะ? อายากะล่ะว่าไง? เผื่อได้แล่ปลาให้สามีในอนาคตกินฝึกไว้ก็ไม่เสียหายนะ?」
「เอ๊ะ ? ไม่สิ คือหนู……」
อิคุเอะที่เห็นท่าทีลังเลเล็กน้อยของอายากะ จึงผุดยิ้มพลางหัวเราะ”หุหุหุ”
「ไม่อยากเหรอ? อ๊ะ แต่ว่าถ้ามีคนอย่างฮารุโตะคุงเป็นสามีก็คงไม่มีปัญหาเนอะ?」
「เดี๋ยว! ม่าม้า! โอสึกุคุงก็อยู่แท้ๆพูดอะไรออกมาเนี้ย!?」
อายากะหน้าแดงทันทีเมื่อได้ยินถ้อยคำตรงไปตรงมาของแม่
อิคุเอะผู้ได้เห็นท่าทีเช่นนั้นของลูกสาวก็พูดต่ออย่างใจเย็น
「ตายแล้ว แม่แค่บอกว่า『คน・อย่าง・ฮารุโตะ・คุง』เฉยๆนะจ๊ะ?」
「……ม่าม้า อะ」
อายากะเบ้ปากพร้อมแสดงท่าทีบูดบึ้งให้การเย้าแหย่ของอิคุเอะ
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนอิคุเอะจะหันไปคุยกับฮารุโตะอย่างสนุกสนานเสียแล้ว
「โอสึกิคุง ขอโทษนะจ๊ะที่ลูกสาวบ้านนี้ดันเข้าใจผิดแปลกๆซะได้ ถึงอายากะจะมีจุดที่ใสซื่ออยู่บ้างแต่ หลังจากนี้ก็ช่วยสนิทกับเธอหน่อยนะ」
「ฮะฮะฮะ ทางนี้เองก็ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยครับ」
ฮารุโตะที่มาถึงขั้นตอนการแร่ปลาทั้งสาวตัวแล้ว รู้สึกติดใจอายากะที่ปล่อยออร่าประท้วงผู้เป็นแม่ออกมาราวกับจะบอกว่า『ฉัน กำลังอารมณ์ไม่ดี』 เขาจึงทำได้แค่ตอบกลับพร้อมยิ้มอย่างใสซื่อคืนไป ซึ่งแม้แต่ตอนนี้การประท้วงของลูกสาวก็ไม่มีท่าทีว่าจะส่งไปถึงผู้เป็นแม่แม้แต่น้อย
จากนั้น ชูอิจิก็ทำท่ามือจับคางแล้วค่อยๆเปิดปากพึมพำด้วยสีหน้าลึกลับ
「งั้นเหรอ ถ้าอายากะกับโอสึกิคุงแต่งงานกัน โอสึกิคุงก็จะกลายมาเป็นลูกเขย หรือก็คือลูกบุญธรรมงั้นเหรอ……อุมุ เป็นไปได้ ไม่สิแต่ว่า จะให้ลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนแต่งออกบ้านตอนนี้มันก็ออกจะเร็วไปหน่อย……」
ชูอิจิพึมพำกับตัวเองพร้อมเข้าสู่โลกส่วนตัวด้วยท่าทีกลัดกลุ้ม
พอได้ยินเสียงพึมพำเช่นนั้นของเขา การประท้วงที่มีต่อแม่ของอายะกะก็ได้ปลิวหายทันที
「เดี๋ยวสิป๊ะป๋า!! อย่าเพ้อแปลกๆเอาเองนะ!! 」
ในกรณีของอิคุเอะ อายากะนั้นรู้ดีว่าเป็นการพูดล้อเล่นไม่สิ การหยอกล้ออย่างเห็นได้ชัด เพราะงั้นเธอถึงได้แสดงท่าทีไม่พอใจแต่ ใจจริงนั้นไม่ได้เป็นอย่างนั้นเสียทีเดียว หรือก็คือ เป็นการหยอกล้อกันระหว่างลูกสาวกับแม่เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม คำพูดของชูอิจิในตอนนี้นั้นกลับแฝงด้วยความจริงจัง
ซึ่งหาได้พูดกับใครอื่น เพียงแต่ครุ่นคิดและพึมพำกับตัวเองเท่านั้น ทำให้รู้สึกเหมือนกำลังพูดจริงทำจริงอย่างไรอย่างนั้น
อายากะที่เริ่มร้อนใจ จึงพยามยามดึงพ่อที่กำลังจมดิ่งใต้จิตสำนึกกลับมา
อย่างไรก็ตาม ตัวตนเจ้าปัญหาผู้บริสุทธิ์และไร้เดียงสาก็เข้าโจมตีทีเผลอ
「พี่ชายจะแต่งงานกับพี่สาวเหรอฮะ?」
「เฮ๊ะ!? เอ๊ะ? ไม่สิ เรื่องแบบนั้น……」
「เดี๋ยวเถอะเรียวตะ! ตอนนี้โอสึกิคุงกำลังใช้มีดอยู่นะอย่าพูดอะไรที่ทำให้พี่เขาเสียสมาธิสิ! มันอันตรายนะ! 」
อายากะรีบจับมือน้องชายที่กำลังมองดูฮารุโตะใช้มีดอยู่แล้วดึงออก
「แต่ว่า ถ้าพี่สาวแต่งงานกับพี่ชาย พี่ชายก็จะกลายเป็นพี่ชายจริงๆของผมใช่มั้ยละฮะ?」
กำลังจินตนาการถึงตอนที่ฮารุโตะได้กลายเป็นพี่ชายจริงๆอยู่กระมัง เรียวตะถึงได้จับจ้องไปที่เธอด้วยสีหน้าตื่นเต้น ทำเอาอายากะเบียนหน้าหนีอย่างไม่ได้ตั้งใจ
「ตะ แต่งกันได้ที่ไหน!! พวกเรายังอยู่แค่ม.ปลายเองนะ!」
「ตายจริง ถ้าพ่อแม่เห็นชอบก็แต่งงานกันได้นะจ๊ะ?」
「ม่าม้าน่ะ! เงียบไปเลย!」
จากนั้น สิ่งต่างๆที่ราวกับเป็นเรื่องราวในเลิฟคอมเมดี้ก็แผ่ขยายทั่วบ้านโทโจไปอีกสักพัก
ฮารุโตะผู้รับรู้ถึงอันตรายที่ว่าถ้าเข้าไปยุ่งก็มีแต่จะทำให้เหตุการณ์เลวร้ายขึ้น จึงทำได้แค่ตั้งหน้าตั้งตาทำงานของตัวเองต่อไป
จากนั้น อาหารทั้งหมดก็เสร็จ ฮารุโตะจึงหยิบจานใบใหญ่ที่จัดเรียงซาชิมิขึ้นมา
「คือว่า〜ตอนนี้ ทำซาชิมิเสร็จแล้วครับ……」
ฮารุโตะถึอจานใบใหญ่ที่ใส่ซาชิมิไปที่โต๊ะอาหารอย่างลังเล
ครอบครัวโทโจได้ตกอยู่ในสภาวะวุ่นวายระหว่างที่เขากำลังทำอาหาร
ชูอิจิผู้ครุ่นคิดด้วยสีหน้าจริงจังกับเรียวตะผู้เล่าบรรยายเกี่ยวกับการแต่งงานอย่างไร้เดียงสา ต่อด้วยอายากะที่หน้าแดงพลางพยายามห้ามปาม และอิคุเอะที่เข้าไปร่วมวงในเหตุการณ์นั้นเป็นครั้งคราวอย่างสนุกสนาน
ฮารุโตะส่งเสียงทักครอบครัวโทโจที่อยู่ในสภาพแบบนั้นอย่างเขินอาย
「คือว่า……ผมทำซุปปลาหางเหลืองไว้ด้วยเพราะงั้น เชิญทานได้เลยครับ」
.
.
.
ห่างหายกันไปนานเลยครับกับเรื่องนี้ ขออัปเดตสถานะสักหน่อยแล้วกัน
หลายคนคงจะรู้แล้วว่านิยายเล่มสองพึ่งวางแผงไปเมื่อวันก่อนซึ่งถือว่าออกต่อจากเล่มแรกเร็วมาก(ประมาณสามเดือน)
แล้วก็มีประกาศว่าจะดัดแปลงเป็นเวอร์ชั่นมังงะด้วย แต่ไม่รู้ว่าจะมาตอนไหนนะ
(อาจารย์คนวาดมังงะ:https://x.com/urua_oekaki)
สุดท้ายก็คิดว่าจะกลับมาแปลเรื่องนี้ต่อละแบบค่อยเป็นค่อยไปอาจจะสัปดาห์ละสองตอน(มั้ง)