เริ่มทำพาร์ทไทม์เป็นพ่อบ้านได้ไม่ทันไร ดูเหมือนครอบครัวของสาวงามอันดับหนึ่งของโรงเรียนจะถูกใจผมเข้าซะแล้ว - ตอนที่ 10 ความรู้สึกของ โทโจ อายากะ③
- Home
- เริ่มทำพาร์ทไทม์เป็นพ่อบ้านได้ไม่ทันไร ดูเหมือนครอบครัวของสาวงามอันดับหนึ่งของโรงเรียนจะถูกใจผมเข้าซะแล้ว
- ตอนที่ 10 ความรู้สึกของ โทโจ อายากะ③
พอกลับมาจากการซื้อของ、ฉันก็มุ่งตรงมาหมกตัวอยู่ในห้องของตัวเองอีกครั้ง
「อือ……น่าอายสุดๆ ……」
ฉันกระโจนลงบนเตียงและซุกหน้าลงบนหมอน
ทำไมฉันถึงถามโอสึกิคุงไปแบบนั้นกันนะ?
จนถึงตอนนี้ ไม่เคยสนใจว่าคนอื่นจะคิดกับตัวเองยังไงแท้ๆ โดยเฉพาะการประเมินค่าจากผู้ชายนี่ไม่ต้องใส่ใจเลยก็ได้ทั้งยังรู้สึกว่าน่ารำคาญนิดๆด้วยซ้ำ
ทั้งที่เป็นแบบนั้น……
「ฮารุโตะคุงเองก็คิดว่าฉันน่ารักเหมือนกันรึเปล่านะ ……」
พูดเองดันมาอายเองซะได้ แบบว่า หน้ามันรู้สึกร้อนยังไงก็ไม่รู้
ฉันกดหน้าลงบนหมอนปล่อยเสียง 「อือ〜」ออกมาอย่างไร้ความหมาย และเริ่มแกว่งขาขึ้นลงไปมา
ที่โอสึกิคุงมาบ้านนี่เป็นครั้งที่สอง ใช่ แค่สองครั้ง
ทั้งที่เป็นแบบนั้น ทำไมฉันถึงเอาแต่นึกถึงแต่เรื่องของโอสึกิคุงกันล่ะ?
「หรือว่าฉัน กับโอสึกิคุงแล้ว จะ……」
คำตอบหนึ่งก้องกังวาลในหัวของฉัน
「ไม่ไม่ไม่! ไม่เด็ดขาด! ไม่มีทางเป็นแบบนั้นเด็ดขาด」
ฉันปฏิเสธคำตอบนั้นสุดกำลัง
เรื่องที่จะฉันชอบโอสึกิคุงน่ะแทบจะเป็นไปไม่ได้
ก็ไม่มีชนวนสาเหตุที่ทำให้ชอบนี่นา
คุยก็ไม่ค่อยจะได้คุยกัน แถมบุคลิกของเขาก็แทบจะไม่เข้าใจ
มีแต่เรื่องที่ไม่รู้ทั้งนั้น
เรื่องที่จะไปชอบอะไรนั่น ต้องเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว
แต่ก็ ถ้าเทียบกับเด็กผู้ชายคนอื่นในโรงเรียนแล้ว จริงอยู่ว่าตอนนี้รู้สึกใกล้ชิดกับฮารุโตะคุงมากกว่านิดหน่อย……
บรรยากาศรอบตัวก็ดูสงบแถมมีมารยาท ดูเป็นคนไม่รีบร้อนอะไร ไม่ได้ตัดสินฉันจากแค่ภายนอก เรียวตะติดแจ ใจดีดูแลคนอื่นเก่ง ทำอาหารก็เก่ง ทำความสะอาดก็เนี๊ยบ ละ แล้วก็ มีเรื่องที่หม่าม้าถูกใจโอสึกิคุงด้วยนี่นะ
……หืม? เอ๊ะ? หรือว่าโอสึกิคุงเนี่ยค่อนข้างมีเสน่ห์?
「เดี๋ยว! เดี๋ยวก่อน!ใจเย็นเข้าไว้ตัวฉัน ใจเย็นเข้าไว้」
จริงอยู่ว่า โอสึกิคุงอาจจะมีเสน่ห์ ตรงนั้นต้องขอยอมรับอย่างซื่อตรง อืม มีแต่ต้องยอมรับแล้วล่ะ
ปัญหาคือ เรื่องที่ว่าฉันชอบโอสึกิคุงที่เป็นแบบนั้นจริงรึเปล่าต่างหาก
ยังไงกันนะ……ยัง น่าจะยังไม่ได้ชอบ
ก็ ช่วงเวลาที่เราได้เจอกันมันสั้นเกินกว่าจะชอบพอกันนี่นา แบบนี้ มันก็ไม่ต่างจากเจ้ารักแรกพบที่ตัวเองเอาแต่พูดว่าไม่เข้าใจจนถึงตอนนี้เลยไม่ใช่เหรอ
ฉันหลงรักโอสึกิคุงตั้งแต่แรกพบ? ไม่มีทาง! ไม่ใช่เด็ดขาด!!
「……ไม่……รึเปล่า?」
อ๊า! โถ่! ไม่เข้าใจ! ไม่เข้าใจความรู้สึกของตัวเองเลยสักนิด! แบบว่ามันยุ่งเหยิงไปหมด!
ความรักในอุดมคติของฉันคือ ทั้งคู่ค่อยๆสนิทกันจากความสัมพันธ์ที่ได้จากการทักทายพูดคุย รู้จักซึ่งกันและกันจนกลายเป็นเพื่อนที่สามารถออกไปเที่ยวด้วยกันได้ จากนั้นก็สนใจกันและกัน และกลายเป็นความรักในที่สุด
ถ้าฉันตกหลุมรักโอสึกคุงตอนนี้ล่ะก็ คงได้แยกทางจากอุดมคตินั้นแน่ๆ
「ก่อนอื่น ต้องเริ่มจากเป็นเพื่อนกับโอสึกิคุงให้ได้ก่อน จากนั้นก็ค่อยๆสนิทกันจนกลายเป็นคนรัก อืม นั่นต่างหากคือสิ่งที่เรียกว่า ความรักที่แท้จริง」
ฉันกอดอกพยักหน้า อืมๆ อยู่คนเดียว
แล้ว、เอ๊ะ?
แบบว่าฉัน จิตนาการล่วงหน้าว่าได้เป็นคนรักของโอสึกิคุงตามใจชอบเลยไม่ใช่เหรอ?
แบบนี้มันว่าแล้วเชียว……ฉันตกหลุมรักโอสึกิคุงไปแล้วรึเปล่า?
「อาอือออ〜〜! ไม่ใช่! ก็บอกว่าไม่ใช่ไง〜!」
ยัง! ก็บอกว่ายังไง!
แต่ว่า……สมมุติว่า、ใช่ สมมุติว่าถ้าได้เป็นคนรักของโอสึกิคุงจริงๆล่ะก็……
「……อาจจะ……ดีก็ได้」
แค่คิดหน้าก็ร้อนฉ่าแล้ว
เพราะความอาย ฉันยกมือทั้งสองขึ้นปิดหน้าและส่ายไปมาเพื่อสลัดความรู้สึกของตัวเอง
เดิมที ที่สนใจโอสึกิคุงมากขนาดนี้ก็เพราะ ซากิพูดว่า『อายากะดูเหมาะกับโอสึกิคุงนะ』กับหม่าม้า『หลงโอสึกิคุงเข้าให้แล้ว?』นั่นแหละ
เพราะแบบนั้น ฉันถึงได้สนใจโอสึกิคุงขึ้นมาขนาดนี้ไงเล่า!
ระหว่างที่กำลังคิดเรื่องพรรค์นั้นอยู่ มังงะแนวความรักที่อัดแน่นอยู่ตรงชั้นหนังสือก็เข้ามาอยู่ในวิสัยทัศน์
ทันใดนั้น ฉันก็ปิ๊งไอเดียหนึ่งขึ้นมา
「ใช่แล้ว!แค่พิสูจน์ความรู้สึกของตัวเองก็พอแล้วนี่นา!」
ในมังงะ ตอนที่นางเองตกหลุมรักอัตราการเต้นของหัวใจก็จะเพิ่มขึ้นจนส่งเสียง ตึกตัก ทันทีที่ได้สบตากับผู้ชายที่ตนตกหลุมรัก แล้วก็ขอแค่ได้คุยกัน ก็รู้สึกมีความสุขจนทุกอย่างนุ่มฟูไปหมด
ตัวเองในตอนนี้ถ้าได้สบตาและคุยกับโอสึกิคุง จะใจเต้นตึกตักแล้วทุกอย่างนุ่มฟูไปหมดเหมือนนางเอกในมังงะมั้ยนะ?
ถ้าเกิด หัวใจของตัวเองไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงล่ะก็ ก็เท่ากับว่าฉันไม่ได้ตกหลุมรักโอสึกิคุงนั่นเอง
กลับกัน ถ้าใจเต้นตึกตักเพราะโอสึกิคุง、แบบนั้น……ก็เท่ากับว่า……แบบนั้นนั่นแหละ。
「ถ้าเกิดเป็นแบบนั้นขึ้นมาฉัน……จะทำยังไง……」
เพราะไม่เคยชอบใครมาก่อนจนถึงตอนนี้ เลยไม่รู้ว่าควรทำยังไง
「……เอาเถอะ พอถึงตอนนั้นก็ค่อยคิดอีกทีแล้วกัน เอาเป็นว่าตอนนี้ ต้องพิสูจน์ความรู้สึกของตัวเองก่อน」
ฉันลงจากเตียงและออกจากห้องของตัวเอง ตอนนี้โอสึกิคุงน่าจะยังทำอาหารเย็นอยู่
ลงบันใดมุ่งหน้าไปยังห้องนั่งเล่น
ระยาทางไม่ได้ไกลขนาดนั้น
บ้านหลังนี้ที่ได้เกิดและโตมา โถงทางเดินที่เดินผ่านนับครั้งไม่ถ้วน แต่วันนี้กลับรู้สึกว่ามันช่างยาวไกลอย่างไม่น่าเชื่อ
ก็อยากจะรีบไปที่ห้องนั่งเล่นเพื่อพิสูจน์ความรู้สึกของตัวเองอยู่หรอกแต่ ว่าแล้วเชียวรู้สึกกลัวอยู่นิดหน่อย
เพราะความรู้สึกอันซับซ้อนนั้น ฉันจึงสุดหายใจเข้าลึกๆเพื่อให้หัวใจที่เต้นไม่เป็นจังหวะสงบลง จากนั้นก็ยืนมือไปจับลูกบิดประตูและค่อยๆดันประตูออกแล้วเข้าไปในห้องนั่งเล่น
「โอ๊ะ? อายากะเหรอ กลับมาแล้ว」
「เอ๊ะ? ป๊ะป๋า? กลับมาแล้วนี่เอง」
พอฉันเขามาในห้องนั่งเล่นผู้ที่ส่งเสียงทักเป็นคนแรกก็คือป๊ะป๋า
ปกติน่าจะกลับจากที่ทำงานช้ากว่านี้แต่ วันนี้กลับเร็วกว่าทุกทีนิดหน่อย
เพราะมัวแต่คิดเรื่องของโอสึกิคุง เลยไม่รู้ตัวว่าป๊ะป๋ากลับบ้านมาตั้งแต่เมื่อไหร่
「ก็แหม วันนี้โอสึกิคุงจากบริการรับทำงานบ้านแทนจะมาที่บ้านทั้งที เลยรีบเครียร์งานแล้วตรงกลับบ้านเลยน่ะ」
ป๊ะป๋าที่พูดแบบนั้นส่งสายตาไปมองโอสึกิคุงที่ยืนอยู่ในครัว
ครั้งก่อน ป๊ะป๋าประทับใจแฮมเบิร์กที่โอสึกิคุงทำสุดๆ ถึงขั้นบอกว่าอยากเจอสักครั้ง
พอเขาคนนั้นบอกว่าวันนี้จะมาที่บ้าน ดูเหมือนจะทำให้ป๊ะป๋ารีบกลับบ้านอย่างตั้งตารอ
「แฮมเบิร์กของครั้งก่อนก็สุดยอด พาสต้าของครั้งก็คงสุดยอดไม่แพ้กันแน่ๆตั้งตารอเลยล่ะ ว่าแต่โอสึกิคุง ท่วงท่าการทำอาหารของเธอดีจนเผลอมองตาค้างซะได้ อย่างกับได้ดูเชฟมากประสบการณ์เลยล่ะ」
「รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งครับ แค่ได้ยินเช่นนั้นก็รู้สึกดีใจแล้วครับ ทางฝั่งรสชาติก็ขอพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้ทุกท่านรู้สึกพึงพอใจครับ」
「อุมุ ไม่นึกเลยว่าเพื่อนร่วมห้องของอายากะจะมีเด็กที่วิเศษอย่างเธออยู่ด้วย」
ดูเหมือนถัดจากหม่าม้า ป๊ะป๋าเองก็ถูกใจโอสึกิคุงเหมือนกัน
เท่านี้ ทั้งหม่าม้า ป๊ะป๋า และเรียวตะ กลายเป็นว่าทุกคนในบ้านถูกใจโอสึกิคุงกันหมดแล้ว
เหลือแค่ตัวเองที่คิดยังไงกับโอสึกิคุง
ต้องรีบพิสูจน์แล้ว
เพื่อที่จะพิสูจน์ความรู้สึกตัวเองว่า ใจเต้นตึกตัก รึเปล่า ฉันจึงค่อยๆหันสายตาไปทางโอสึกิคุง
อื〜ม、ยังไงกันนะ? ใจเต้นแรงรึเปล่านะ?
ฉันเอามือทาบอกเพื่อตรวจสอบอัตราการเต้นของหัวใจ
……เต้นเร็วกว่าปกตินิดหน่อย ……ละมั้ง แต่……ก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะ ……
ตกหลุมรักรึเปล่า เข้าไปดูท่าทีของโอสึกิคุงใกล้กว่านี้อีกนิดดีรึเปล่านะ
ฉันนั่งลงตรงโต๊ะอาหารข้างห้องครัวและจ้องไปที่โอสึกิคุง
ตอนนี้โอสึกิคุงกำลังถือมีดไว้ในมือและจ้องลงไปที่เขียง
อ๊ะ แบบว่าสายตาจริงจังตอนกำลังทำอาหาร แบบว่าอาจจะดูดี……
……เดี๋ยวก่อนๆตัวฉัน! คิดว่าดูดีไม่ได้=ชอบหรอกนะ?ต้องตัดสินใจให้รอบคอบกว่านี้
ทันใดนั้น เพราะฉันจ้องมากเกินไปรึเปล่าก็ไม่รู้ ดวงตาของโอสึกิคุงที่จ้องไปที่มือของตัวเองจู่ๆก็หันขึ้นและสอดประสานเข้ากับสายตาของฉัน
「――อึก!!」
จังหวะที่สบตากัน ใจก็เต้นแรง ตึกตัก! จนคิดว่าหัวใจจะหยุดเต้นซะแล้ว
「อ๊ะ ขอโทษนะครับคุณโทโจ อีกนิดเดียวก็จะเสร็จแล้ว ช่วยรอสักครู่นะครับ」
「เฮ๊ะ!? อ๊ะ、ไม่เลย ไม่เป็นไร! ไม่ต้องรีบขนาดนั้นก็ได้! อื้ม ฉันก็ไม่ได้หิวขนาดนั้นด้วยน่ะนะ」
แบบว่าทำให้โอสึกิคุงเข้าใจผิดแปลกๆไปซะแล้ว
แย่แล้ว น่าอายสุดๆเหมือนหน้าจะไหม้เลยอะ
รู้สึกอยากกลับห้องแล้วกระโจนลงเตียงตอนนี้เลยอะ
เอ๊ะ? เดี๋ยวนะ?เมื่อกี้ฉัน ตอนสบตากับโอสึกิคุง แบบว่ามัน ตึกตัก! ไม่ใช่เหรอ? เหมือนนางเอกในมังงะเลยไม่ใช่เหรอ?
หมายความว่า……ว่าแล้วเชียวฉันกับโอสึกิคุงแล้ว…………
ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่! เดี๋ยวก่อนยังไม่รู้หรอก!
เมื่อกี้แค่ตกใจเพราะจู่ๆก็สบตากันก็ได้ ไม่สิ ต้องเป็นแบบนั้นแน่ๆ
ที่ ตึกตัก! ก็เพราะตกใจเท่านั้นแหละ แค่นั้นจริงๆ
ขออีกครั้ง ถ้าสบตากันแล้วใจเต้นแรงล่ะก็ ตอนนั้น ตอนนั้นก็มีแต่ต้องยอมรับความรู้สึกของตัวเองแต่โดยดี อืม เอาเป็นแบบนั้นแล้วกัน
ฉันถอยหายใจดัง ฟู่ เพื่อให้ตัวเองใจเย็น
พอทำแบบนั้น 、ตอนนั้นเองก็รู้สึกได้ถึงสายตาจากหม่าม้า พอหันหน้าไปหา ก็เห็นหม่าม้าที่กำลังเล่นกับเรียวตะอยู่ในห้องนั่งเล่นยิ้มเล็กยิ้มน้อยให้ฉัน
คงจะเอาใจอะไรผิดอีกแน่ พอฉันจะพูดอธิบาย หม่าม้าก็หันกลับไปเป็นเพื่อนเล่นกับเรียวตะอีกครั้งซะแล้ว
อา、อีหรอบนี้คงไม่พ้นโดนหยอกล้ออีกแน่
ฉันคิดเรื่องพรรค์นั้นพร้อมก้มหน้าลงซบโต๊ะอาหาร คราวนี้ได้ยินเสียงจากฝั่งป๊ะป๋า
「อายากะ สนิทกับโอสึกิคุงรึเปล่า?」
「เอ๊ะ? เออ、ไม่ได้สนิทขนาดนั้น ละมั้ง」
พอตอบกลับพร้อมมองไปที่ป๊ะป๋า ก็เห็นป๋ะป๋าทำหน้าประหลาดพร้อมมองฉันกับโอสึกิคุงสลับไปมา
ดูเหมือน ป๊ะป๋าก็เข้าใจผิดด้วยอีกคน
「พูดจริงนะ? หนูแทบไม่ได้คุยกับโอสึกิคุงเลยจนกระทั่งเขามาที่บ้านในฐานะผู้ให้บริการรับทำงานบ้านแทนน่ะ?」
「เห๋、เป็นงั้นหรอกเหรอ」
ป๊ะป๋าพูดแบบนั้นพร้อมมองไปที่โอสึกิคุง
โอสึกิคุงก็รับสายตาของป๊ะป๋า แล้วให้คำตอบแบบเดียวกับฉัน
「ครับ ที่โรงเรียนผมกับคุณโทโจแทบไม่มีโอกาสให้ได้คุยกันเลยครับ」
「เป็นงั้นหรอกเหรอ แต่ว่านะ โอสึกิคุงออกจะเป็นคนจริงจังแล้วดูเหมือนจะจริงใจด้วย หลังจากนี้ถ้าช่วยสนิทกับลูกสาวบ้านเราจะดีใจมากเลยล่ะ」
「เดี๋ยว! ป๊ะป๋า!」
อย่าพูดอะไรตามใจชอบสิ ป๊ะป๋า!!
แบบนี้ ก็เหมือนกับความสัมพันธ์ของฉันกับโอสึกิคุงได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการจากผู้ปกครองเลยไม่ใช่รึไง!!
นั่นไง โอซึกิคุงเองก็ทำหน้าเหมือนกำลังลำบากใจด้วย !
「ขอโทษนะโอสึกิคุง ป๊ะป๋าดันพูดอะไรแปลกๆซะๆได้」
「ไม่ครับๆ、ผมไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่ก็ ที่ถูกเรียกมาบ้านของคุณโทโจในฐานะผู้ให้บริการรับทำงานบ้านแทน ก็ไม่ใช่อะไรนอกจากความบังเอิญ แล้วก็ที่ท่านพ่อพูด น่าจะหมายถึงหลังจากนี้ช่วยสนิทกันในฐานะเพื่อนร่วมห้องรึเปล่าครับ」
「เอ๊ะ? อ๊ะ อื้ม! นะ นั่นสินะ!」
เป็นเพื่อนกับโอสึกิคุง นั่นมันยินดีต้อนรับเป็นอย่างยิ่งเลยค่ะ!
จนกระทั่งก่อนหน้านี้ ก็เอาแต่พูดกับฉันในฐานะลูกค้าแต่ ว่าแล้วเชียว พูดคุยกันในฐานะเพื่อนร่วมห้อง ในฐานะเพื่อน สำหรับฉันแล้วรู้สึกสบายใจมากกว่าล่ะนะ
ตอนที่ในใจของฉันรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย ป๊ะป๋าก็กระแอมในคอดัง「อะแฮ่ม」
「โอสึกิคุง ช่วยสนิทกับลูกสาวบ้านเรามันก็น่าดีใจอยู่หรอก …………แต่ก็ไม่ใช่เหตุผลที่ให้เธอเรียกฉันว่า『พ่อ』หรอกนะ!!」
เดี๋ยวーー!! พูดอะไรออกมาเนี้ยป๊ะป๋า!!
「อ๊ะ ไม่ครับ! คือว่า ต้องขอประทานอภัยครับ!」
นั่นไง! โอสึกิคุงลกใหญ่เลยไม่ใช่รึไง!! ก้มหัวสุดแรงด้วยนะนั่น! น่าส่งสารสุดๆเลยไม่ใช่รึไง!!
「อะฮ่าฮ่าฮ่า! ไม่หรอกๆ ล้อเล่นน่ะโอสึกิคุง」
「……ฮ่า ตกใจหมดเลยครับ」
ที่โอสึกิคุงเหงื่อแตกก็เพราะป๊ะป๋าพูดล้อเล่นนั่นแหละ!!
ถึงฉันจะไม่เคยอยู่ในช่วงวัยต่อต้านมาก่อนจนถึงตอนนี้แต่ ดูเหมือนตอนนี้จะได้เข้าสู่วัยต่อต้านที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตแล้วล่ะ