เรียวนิ้วยาวสวยสอดแทรกเข้าไปในนวลเนื้อนุ่ม ปลายนิ้วหัวแม่มือสะกิดติ่งไตแห่งเกสรงามเบาๆ เรียวนิ้วที่ขยับสอดลึกและถอดถอนสลับไปมา ดวงหน้างามเบี่ยงหนีริมฝีปากร้อนชื้น เพื่อสูดอากาศหายใจ ชีคหนุ่มซุกไซ้ริมฝีปากและจมูกโด่งไปตามพวงแก้มนุ่มเนียน ขบเม้มติ่งหูบาง ซุกซอนเรียวลิ้นเข้าหาใบหูนุ่ม ลากไล้เลียโลมซอกหูหอมกรุ่ม สร้างความสยิวซาบซ่านรัญจวนใจให้พีรกานต์ จนขนในกายทุกเส้นลุกชัน ปลายเล็บคมจิกลงบนบ่ากว้างผ่านเสื้อผ้าเนื้อหนา
“ท่านชีค”
“เรียกข้าว่าจาฟาร์”
“จาฟาร์…” พีรกานต์เรียกชื่อชายหนุ่มเสียงแหบพร่าปนกระเส่า
จาฟาร์ขยับปลายนิ้วเรียวทรมานร่างสาว จนน้ำหวานอาบเรียวนิ้วจนเปียกชุ่ม ยิ่งเห็นความพร้อม พรักของพีรกานต์ ยิ่งทำให้ชีคหนุ่มฮึกเหิม ปลายนิ้วช่ำชองขยับเข้าออกรวดเร็วและรุนแรง ริมฝีปากร้อนชื้นลากไล้ ขบเม้มผิวเนื้อนวลเนียนบริเวณต้นคอขาวผ่อง ทิ้งร่องรอยแห่งรักตราตรึงซาบซ่านรัญจวนใจ ร่างบางกระตุกแอ่นหยัดกายเข้าหาร่างหนาเป็นครั้งสุดท้าย พีรกานต์พบความสุขสมจนหอบหายใจระรัว
“เจ้าสุขแล้ว ถึงทีของข้าบ้าง” ชีคหนุ่มรูดกางเกงของตนลง แล้วจดจ่อความแข็งแกร่งเข้าหาเนินสวาทที่แสนหฤหรรษ์ ลำแขนกำยำช้อนใต้ข้อพับขาเรียวทั้งสองข้าง และยกขึ้นสูงถึงสะโพกสอบ เบียดสะโพกเข้าหา และสอดความแข็งแกร่งเข้าลึกในความอบอุ่น
จาฟาร์กดร่างบางลง พร้อมสอดเสยตัวเองขึ้น ความอบอุ่นถูกเติมเต็มด้วยความอวบหนา ดิ่งลึกทุกอณูความรู้สึก ซาบซ่านทุกรูขุมขน บดเบียดแนบชิดสนิทสนมจนแทบจะหล่อหลอมรวมเป็นร่างเดียวกัน
พีรกานต์ครวญครางเสียงกระเส่า สยิวซ่านทั้งบนและล่าง ทรวงอกอวบถูกซุกไซ้อย่างถวิลหา สาปเสื้อสีเข้มถูกริมฝีปากได้รูปขบกัดและแยกเผยอจากกัน ความหอมหวานถูกภมรหนุ่มผู้ยิ่งใหญ่ชอนไช ปลายทรวงที่หดตัวแข็งเป็นไตชูชันรับสัมผัส ถูกดูดกลืนเข้าโพรงปากร้อนผ่าว ปลายลิ้นสากลากไล้ป้านถันสีสวย ก่อนตวัดปลายยอดถี่ระรัว และขบเม้มดูดดื่มอย่างหิวกระหาย
พายุพิศวาสโหมกระหน่ำให้ร่างหนาโจนจ้วงเข้าหาร่างบาง แผ่นหลังบอบบางครูดไถไปกับลำต้นปาล์ม พีรกานต์เริ่มแสบไปทั้งแผ่นหลัง แต่ความเจ็บทางร่างกายก็เหือดหายเมื่อความเสียวซ่านเข้าแทรกแซง ร่างบางสะท้อนขึ้นลงตามแรงรักของชีคหนุ่ม ก่อนร่างหนาจะกระโจนจ้วงเป็นครั้งสุดท้าย พีรกานต์และจาฟาร์กระตุกพร้อมกัน สวรรค์ของทั้งคู่อยู่ไม่ไกล เพียงแค่ขอบฟ้าขวางกั้น ทั้งคู่กำลังล่องลอยอยู่บนท้องฟ้า ก่อนก้าวข้ามเส้นขอบฟ้าไปยังสวรรค์ชั้นดาวดึงส์
จาฟาร์หายใจหอบกระเส่า ใบหน้าคมชื้นเหงื่อ ดวงตาแวววาวหรี่ปรือ ก่อนซบลงที่ซอกคอหอมกรุ่น ทรวงอกอวบยังคงแนบกับอกกว้าง รับรู้ถึงจังหวะการเต้นของหัวใจซึ่งกันและกัน ใจกลางร่างยังคงสอดประสานนิ่งอยู่เช่นนั้นอย่างไม่คิดจะถอดถอน
“จาฟาร์คะ ฉันว่าเราควร…เอ่อ…แยกจากกันได้แล้วนะคะ” พีรกานต์เตือนเสียงแผ่ว
จาฟาร์สูดลมหายใจเข้าลึก ผละใบหน้าออกจากซอกคอนุ่ม และส่งยิ้มเซียวๆ ให้พีรกานต์ ก่อนถอดถอนแก่นกายออก เขาจรดหน้าผากของตนกับหน้าผากนูนสวยของหญิงสาว จูบแผ่วๆ ที่เรียวปากนุ่ม และจัดเสื้อผ้าของหญิงสาวให้เข้าที่ จากนั้นก็จัดการกับเสื้อผ้าของตน
“ข้าไม่เคยรู้สึกต้องการใครรุนแรงเท่านี้มาก่อน มีเจ้าคนเดียวที่ทำให้ข้าเป็นแบบนี้”
“ฉันไม่เชื่อหรอกค่ะ คุณร้อนแรงแค่ไหนฉันรู้ดี ถึงแม้จะไม่ใช่ฉัน คุณก็ต้องเป็นแบบนี้”
“ใช่ ข้าไม่เถียงเจ้า เรื่องที่ว่าข้าร้อนแรง แต่ข้าขอเถียงเรื่องที่ข้าเป็นแบบนี้กับผู้หญิงคนอื่น เชื่อข้าเถอะที่รัก ว่าข้าไม่เคยเป็นแบบนี้”
พีรกานต์หัวเราะเสียงใสอย่างน่ารัก ก่อนจูงมือใหญ่เดินออกมาพ้นเงาต้นปาล์ม
“แทนที่เราจะได้มาดูพระจันทร์ กลับกลายเป็นว่าให้พระจันทร์ได้ดูเรา แถมยังมีดาวล้านดวงช่วยกันจ้องมองอีกด้วย”
“ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ คิดซะว่าวันนี้เป็นวันของพวกมันก็แล้วกัน” ชีคหนุ่มหัวเราะเสียงดัง ก่อนชี้นิ้วให้พีรกานต์มองลอนทรายเป็นคลื่นสูงต่ำ “เจ้าเห็นนั่นมั้ย”
“ค่ะ ลอนทราย สวยจังเลยนะคะ ตอนกลางวันสีของทรายเป็นสีน้ำตาลอ่อน แต่ตอนกลางคืนกลับเปลี่ยนเป็นสีทอง เหมือนที่เกร็ดทองระยิบระยับทั่วไปเลยค่ะ”
“เป็นเพราะแสงจันทร์ไง แสงนวลเย็นของดวงจันทร์ไม่ว่าจะส่องกระทบกับอะไร สิ่งนั้นก็ต้องงดงามทั้งหมด แต่พระจันทร์กลางทะเลทรายนี่สวยกว่าที่ใดในโลก เจ้าว่ามั้ย”
“ใช่ค่ะ มันมองเห็นได้ชัดเจนยิ่งกว่าที่ใด”
“แต่ความงามของดวงจันทร์กลับงามสู้สิ่งๆ หนึ่งไม่ได้”
“อะไรคะ”
จาฟาร์ก้มลงมองหน้านวลของคนข้างกาย ก่อนยิ้มกว้างจนโลกทั้งใบสดใส
“ก็เจ้าไง ฮันนี่” ชายหนุ่มเฉลยข้อข้องใจให้หญิงสาว และโอบกอดเอวบางให้แนบชิด ทั้งคู่หันมองดวงจันทราอย่างมีความสุข และอยากให้ความสุขคงอยู่แบบนี้ตลอดไป
MANGA DISCUSSION