เริงรักข้ามรุ่น - ตอนที่ 1
ราตรีกาลของเมืองหลวงที่เต็มไปด้วยแสงไฟระยิบระยับ เสมือนแหล่งไฟที่หลอกล่อให้แมลงเม่าบินเข้าหา ปรียา สาวสวยหุ่นดี ก็เป็นหนึ่งในนั้น
ปรียาเป็นสาวสวยต่างจังหวัดที่เพิ่งจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยชื่อดัง เธอใช้ความมีเสน่ห์ของเธอเพื่อเข้าทำงานในบริษัทแห่งหนึ่งในฐานะเลขานุการ ความเฉลียวฉลาดและมีเสน่ห์ ทำให้ปรียามีเพื่อนมาก เป็นกลุ่มเพื่อนที่มีฐานะ ซึ่งใช้จ่ายกันอย่างสนุกมือ เสื้อผ้าเครื่องใช้ มีแต่ของแบรนด์เนมที่หรูหรา มันจึงทำให้ปรียาต้องพยายามถีบตัวเองให้ทัดเทียมกับคนเหล่านั้น
ในช่วงเวลาเรียนมหาวิทยาลัย ปรียายินยอมเป็นแฟนของนักศึกษาหนุ่ม รูปไม่หล่อแต่พ่อรวย เพื่อให้ได้สิ่งของที่ต้องการ เธอมีเสื้อผ้าแพงๆ ใส่ มีกระเป๋าหรูๆ ใช้ และใช้จ่ายตามที่เธอต้องการด้วยการปรนเปรอของชายหนุ่ม เขาหลงรักเธอ เหมือนกับข้ารับใช้ จนดูเหมือนว่า ถ้าเรียนจบออกไป เธออาจจะได้ตกถังข้าวสารด้วยการแต่งงานกับเขา
ทว่า..ชีวิตมันก็ไม่ได้ง่ายดายขนาดนั้น เพราะทันทีที่เขาจบการศึกษา ครอบครัวของเขาก็แยกเขาจากเธอ ด้วยการส่งเขาไปเรียนต่อเมืองนอก ด้วยข้อหาหนีจากปลิงอย่างเธอ!
ปรียาไม่ได้เดือดร้อนกับการถูกจับแยก เพราะเธอเรียนจบแล้ว มีงานทำแล้ว ดีเสียอีกที่จะได้เลิกกับคนที่ไม่ได้รัก และหมดประโยชน์ บางทีมันก็เหมือนผลประโยชน์ต่างตอบแทน ก็ในเมื่อลูกชายของพวกเขาต้องการเธอ ก็ต้องตอบแทนเธอในสิ่งที่เธอต้องการไม่ใช่หรือ?
คืนนี้…ปรียาเมาหนักอยู่กับกลุ่มเพื่อนในบริษัท เป็นสาวโสดที่ทำงานอยู่บริษัทเดียวกัน วันหยุดสุดสัปดาห์พักผ่อนและแฮงค์เอาท์กันตามประสาสาวๆ
หลังผับเลิกสาวๆ กอดคอเดินออกมาหน้าผับ หนุ่มๆ หลายคนมองตาม เพราะทั้งสามสาวก็ล้วนแต่สวยไปคนละแบบ และมีสาวหนึ่งที่สวยจนต้องเหลียวมอง แต่ถึงอย่างนั้นในยามที่อยู่ในผับ ไม่ว่าหนุ่มคนใดก็ไม่สามารถตีสนิทกับพวกเธอได้
“เป้ แกโทร.เรียกรถอูเบอร์หน่อยสิ”
ออมเพื่อนคนหนึ่งในกลุ่มบอกด้วยเสียงอ้อแอ้
“แท็กซี่เยอะแยะ โบกเอาก็ได้”
ปรียาแย้งขึ้น เพราะเห็นแท็กซี่จอดรออยู่หน้าผับจำนวนไม่น้อย
“ไม่เอา ฉันไม่ชอบแท็กซี่ เล่นตัว นึกอยากจะรับมันก็รับ แต่ถ้าบอกเส้นทางที่มันไม่ชอบ มันก็ปฏิเสธ ฉันไม่ชอบการปฏิเสธ!”
อั๋น เพื่อนสาวร่างสูงใหญ่กว่าใครบอกด้วยเสียงห้าวๆ นัยว่าเคยทะเลาะกับแท็กซี่มาก่อน เพราะถูกแท็กซี่ปฏิเสธบ่อยๆ หลายคนเคยอยู่ในชะตากรรมของการเรียกแท็กซี่แล้วไม่จอด หรือจอดแล้วไม่รับ ปฏิเสธเอาตามความพอใจของคนขับ มันทำให้คนจำนวนหนึ่งรู้สึกไม่ดีกับการบริการของแท็กซี่สาธารณะ เมื่อมีบริษัทที่บริการทางออนไลน์ พวกเขาจึงเลือกใช้อย่างไม่ลังเล
ปรียา กดโทรศัพท์เรียกรถแท็กซี่อูเบอร์ จนได้รับการตอบรับก็หันมามองเพื่อน
“อีก ๑๐ นาที รถจะมาถึง”
เธอบอกเพื่อนๆ ในขณะที่สองสาวพากันประคองกันไปนั่งพักที่เก้าอี้หน้าผับ
“เฮ่อ..พวกเราก็นะ เมาขนาดนี้ แท็กซี่อาจกลัวว่าพวกเราจะพาไปขืนใจ เขาเลยไม่รับ นี่ถ้าอูเบอร์เห็น เขาอาจจะปฏิเสธก็ได้” ปรียามองสภาพเพื่อนแล้วก็อดขำไม่ได้
“โอ๊ย..แม่คุณ ถ้าเรียกตอนนี้ แท็กซี่ที่ไหนมันก็ไป เพราะมันอยากเขมือบพวกเราล่ะไม่ว่า”
“ไม่เอาน่า แท็กซี่ดีๆ มีถมไป” ปรียาแย้ง
“แต่เราไม่ค่อยเจอ”
ออม เพื่อนร่างท้วมที่กอดคออยู่กับอั๋นสวนทันที ทั้งสามหัวเราะพร้อมกัน เวลาผ่านไปเพียงไม่นาน รถเก๋งคันหรูสีดำมันปลาบก็แล่นมาจอดตรงหน้าพวกเธอ
“รถที่แกเรียกหรือเปล่าเป้ ทำไมมันหรูจังวะ”
“นั่นดิ หรูเกินรถอูเบอร์เลยนะ”
ปรียาลังเลเล็กน้อย มองที่จอโทรศัพท์ก็เห็นว่ารถคันดังกล่าวถึงจุดหมายแล้ว เธอจึงเดินเข้าไปก้มลงมองกับกระจกด้านผู้โดยสารที่กำลังเลื่อนลง
“เชิญครับ คุณผู้หญิง”
ปรียายิ้มรับ พร้อมหันหน้ามามองเพื่อนสาวที่เดินตุปัดตุเป๋ตามมา หญิงสาวนั่งข้างคนขับ ขณะที่เพื่อนสองคนนั่งอยู่ด้านหลัง ซึ่งพอขึ้นรถ สองสาวก็ยังคงหัวเราะต่อกระซิกกันคิกคักด้วยอาการเมามายและมีความสุข
“พระราม ๙ กับลาดพร้าวนะครับ”
“ค่ะ ไปส่งพวกเขาที่คอนโดลาดพร้าว ๓๐ ก่อน แล้วไปส่งฉันที่ซอยศูนย์วิจัย”
“ครับ” ชายหนุ่มพยักหน้าเรียบๆ กระทั่งชั่วครู่ อั๋นที่ช่างสังเกตก็อดที่จะถามไม่ได้
“ลุงคะ ถามหน่อยเถอะ หล่อๆ อย่างลุงเนี่ยมาขับรถรับจ้างแบบนี้ทำไม?”
“อั๋น ทำไมไปเรียกเขาอย่างนั้น”
ปรียาตกใจ เมื่อเห็นเพื่อนเรียกคนขับรถว่าลุง เธอหันกลับไปส่งสายตาปรามเบาๆ แต่อั๋นกลับยิ้มเฉยๆ ส่วนชายหนุ่มยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย ก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงสุภาพ
“ไม่เป็นไรครับ จะเรียกผมว่าอะไรก็ได้”
“นั่นสิ อายุก็มากแล้ว ไม่ให้เรียกลุงจะให้เรียกอะไร”
อั้นหัวเราะกับออมเบาๆ
“แต่ลุงยังไม่บอกเลยนะคะว่าทำไมมาขับรถแบบนี้ ท่าทางอย่างลุงเนี่ย เล่นหนังได้สบายเลย”
สาวห้าวชวนคุย เพราะสังเกตดูว่าชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ ใบหน้าคมคาย ทั้งลักษณะก็ดูน่าเกรงขาม ไม่น่าจะมาทำอาชีพนี้
“บทพ่อหรือครับ หึหึ ผมชอบขับรถน่ะครับ เลยทำเป็นอาชีพเสริม”