เมื่อกลับไปเป็นนักเรียนอีกครั้ง แต่ถูกปฏิเสธจากเพื่อนสมัยเด็ก จึงตัดสินใจกระโดดตึกกับสาวสวยที่สุดในโรงเรียน - ตอนที่ 31 [บทที่ 5 มิไร] ความรักที่แท้จริง
- Home
- เมื่อกลับไปเป็นนักเรียนอีกครั้ง แต่ถูกปฏิเสธจากเพื่อนสมัยเด็ก จึงตัดสินใจกระโดดตึกกับสาวสวยที่สุดในโรงเรียน
- ตอนที่ 31 [บทที่ 5 มิไร] ความรักที่แท้จริง
ตั้งแต่นั้นมา โคโยอิก็คอยช่วยเหลือผมอยู่ตลอด
ถึงแม้ส่วนใหญ่ผมจะอยู่แต่ในห้อง
โคโยอิก็มาหาผมทุกวัน
“ถ้าไม่กินอาหารที่มีประโยชน์
สุขภาพจะแย่นะ รู้ไหม?”
โคโยอิทำอาหารให้ผมทุกครั้ง
ในชีวิตนี้ ผมไม่เคยได้กินอาหารดีๆ มาก่อนเลย
แต่การทำอาหารของโคโยอิมันต่างออกไป
มันไม่ได้แค่ทำให้ผมอิ่มท้อง
แต่ยังทำให้หัวใจของผมอบอุ่น
อาจเป็นเพราะรอยยิ้มของโคโยอิที่มีให้เสมอ
เวลาเรากินข้าวด้วยกันก็ได้
ด้วยเหตุผลที่ว่าห้องของผมอยู่ใกล้มหาวิทยาลัย
ของโคโยอิมากกว่า เราจึงลงเอยด้วยการ
ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันแทบทุกวัน
ระหว่างที่โคโยอิไปเรียนมหาวิทยาลัย
ผมก็แทบไม่มีอะไรให้ทำ
แต่เรื่องเงิน ผมมีพอใช้
หุ้นที่ผมเคยซื้อไว้ด้วยเงินจากงานพาร์ทไทม์
นั้นมีมูลค่าเพิ่มขึ้นตามที่ผมคาดการณ์ไว้
ด้วยความรู้จากชีวิตก่อน
ผมขายหุ้นตอนราคาสูงสุดแล้วไปซื้อหุ้นใหม่
ที่คาดว่าจะขึ้นเกินสิบเท่าในเวลาไม่นาน
แค่นั้นเองที่ผมทำและด้วยเหตุนี้
ทรัพย์สินของผมจึงเพิ่มขึ้นเป็นหลายสิบล้าน
อยากตอบแทนความดีของโคโยอิ
ผมเลยซื้อกระเป๋าแบรนด์หรูที่นักศึกษาธรรมดา
ไม่มีทางซื้อได้มาให้เธอเป็นของขวัญ
“ขอบคุณนะ อากิระ แต่ฉันรับไว้ไม่ได้หรอก
โคโยอิพูดพร้อมสีหน้าเรียบเฉย
“ทำไมล่ะ?”
“ฉันไม่ได้อยากได้สิ่งนี้ ฉันแค่อยากได้อนาคต
ที่อากิระจะมีความสุขเท่านั้น”
พูดจบ โคโยอีก็โอบกอดผมไว้
ผมพบว่าตัวเองร้องไห้ออกมาอย่างน่าอาย
อยู่ในอ้อมแขนของเธอ
ความรู้สึกผิดกัดกินใจผม
ที่ผมทำได้เพียงพึ่งพาความใจดีของเธอ
จนถึงตอนนี้ ผมไม่เหลือความทรงจำใดๆ
เกี่ยวกับนัตสึกิอีกแล้ว
รอยร้าวใดๆ ระหว่างผมกับโคโยอิ
ก็พลันเลือนหายไปจนหมดสิ้น
***
โคโยอิจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัย
และเริ่มทำงาน แต่ผมไม่อยากให้เธอทำงาน
ผมอยากให้เธออยู่เคียงข้างผมตลอดเวลา
“เรื่องเงินก็มีมากเกินพอแล้ว
ไม่เห็นต้องไปทำงานเลย…
แค่ช่วยอยู่เคียงข้างผมก็พอนะ”
โคโยอิยิ้มเจื่อน ๆ และตอบกลับมา
“ฉันรู้ว่าอากิระมีเงินเยอะ แต่ถึงอย่างนั้น
บางครั้งตลาดหุ้นก็ผันผวนจนขาดทุนมาก
ใช่ไหม? ถ้าฉันทำงานแม้เพียงเล็กน้อย
เราก็จะไม่มีปัญหาเรื่องการกินอยู่”
โคโยอิพูดถูก
เมื่อเวลาผ่านไป ราคาหุ้นก็ไม่ได้เคลื่อนไหว
เหมือนชีวิตก่อนของผมเสมอไป
แต่อย่างน้อยจนถึงตอนนี้
ทรัพย์สินของผมก็ยังเติบโตอย่างมั่นคง
“เข้าใจแล้ว”
ผมไม่อยากบังคับความต้องการของตัวเอง
ให้เป็นภาระกับเธอ
จึงยอมรับการตัดสินใจของโคโยอิที่จะทำงาน
แต่ในใจลึก ๆ ความกังวลก็ยังคงอยู่
ผมเริ่มพาตัวเองจมอยู่กับแอลกอฮอล์
เพื่อกลบเกลื่อนความรู้สึกไม่สบายใจนั้น
***
ไม่นานนัก โคโยอิก็เริ่มปรับตัวกับงานใหม่ได้
“เมื่อเราโตขึ้น เราจะแต่งงานกันเถอะ
โคโยอิ สัญญานั้นยังใช้ได้อยู่ไหม?”
เมื่อได้ยินคำพูดของผม
โคโยอิพยักหน้าหนักแน่น
“ตั้งแต่นี้ไป ได้โปรดอยู่กับฉันตลอดไปนะ”
ผมมอบแหวนให้เธอ
และโคโยอิแสดงสีหน้าราวกับอยู่ในฝัน
“ฉันมีความสุขนะ อากิระ”
เธอพูดด้วยความยินดี
หลังจากนั้น เราสองคนก็กลับไปบ้านเกิด
และแนะนำตัวกับครอบครัวของกันและกัน
พ่อแม่ของผมดีใจมาก โคโยอิ
ที่พวกเขาเห็นว่าเป็นเหมือนลูกสาวมาตลอด
กำลังจะกลายเป็นลูกสะใภ้ของพวกเขา
แต่พ่อแม่ของโคโยอิกลับมีสีหน้าที่ซับซ้อน
ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลก
ผมไม่มีงานที่มั่นคง และยังมีเหตุการณ์
ก่อนพิธีจบการศึกษาที่โรงเรียนมัธยมปลายอีก
แม้ผมจะอธิบายว่า
ผมไม่ได้ตั้งใจเข้าไปพัวพันในเหตุการณ์นั้น
มันก็เป็นเรื่องธรรมดาที่พวกเขาจะรู้สึกกังวล
ดังนั้นเพื่อทำให้พวกเขาสบายใจ
ผมมอบของขวัญที่พิเศษให้กับพวกเขา
“ช่วยดูแลลูกสาวของเราด้วยนะ! อากิระ”
นั่นเป็นคำพูดที่บอกว่าพ่อแม่ของโคโยอิ
ยอมรับการแต่งงานของเรา
“ขอโทษ… สำหรับทุกอย่าง”
โคโยอิพูดด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิด
บนรถไฟชินคันเซ็นขากลับ
“เพราะสิ่งที่ผมทำ มันก็สมควรแล้ว
… ขอโทษนะที่ผมเองก็ทำได้แค่นี้เอง”
“ไม่เป็นไร ขอบคุณนะ
ฉันมีความสุขมากแล้วล่ะ”
โคโยอิพูดและบีบมือของผมแน่น
ในตอนนั้นเอง
ผมสัมผัสได้ถึงความสุขอย่างแท้จริง
***
ผ่านไปอีกหลายปี การลงทุนของผม
ประสบความสำเร็จมากกว่าที่คาดไว้
ผมไม่ต้องกังวลเรื่องเงินอีกต่อไป
แถมยังมีมากพอที่จะใช้ชีวิตอย่างหรูหรา
“โคโยอิ เลิกทำงานที่นั่นเถอะนะ”
“ฉันเข้าใจความรู้สึกของอากิระนะ
แต่ฉันอยากทำงานต่อไป”
เธอตอบกลับอย่างหนักแน่น
ทำให้เราทะเลาะกันบ่อยครั้ง
ผมเริ่มคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยเมื่ออยู่บ้านคนเดียว
โคโยอิสวยขึ้นมากเมื่อเทียบกับเมื่อก่อน
แล้วผมล่ะ? ผมไม่มีอะไรเลยนอกจากเงิน
ยิ่งคิดถึงความแตกต่างระหว่างเราสองคน
ความกังวลก็ยิ่งกัดกินใจ
ที่สำคัญที่สุด ผมรู้อยู่แก่ใจ
โคโยอิเคยรักผู้ชายคนอื่นในชีวิตก่อน
และมีความสุขกับเขา
ในชีวิตนี้ ผมจะมั่นใจได้ยังไงว่าเธอจะไม่เบื่อผม
แล้วไปรักคนอื่นแทน
ความไม่ไว้วางใจและความกังวล
ทำให้ผมดื่มหนักขึ้นเรื่อย ๆ
จนวันหนึ่ง ในความมึนเมา
ผมพูดกับโคโยอิอีกครั้ง
“ผมอยากให้เธอเลิกทำงานที่นั่นจริงๆนะ
ผมสัญญาว่าเธอจะไม่ลำบากเรื่องเงินเลย”
แต่โคโยอิก็ยังยืนกรานที่จะทำงานต่อไป
ผมรู้สึกเหมือนบางอย่างในใจพังทลายลง
“ทำไมโคโยอิถึงไม่เข้าใจความรู้สึกผมบ้าง!
ผมทั้งกังวลและเจ็บปวดขนาดนี้…
ทำไมเธอถึงได้คิดถึงแต่ตัวเอง!”
แล้วผมก็เผลอต่อยเธอด้วยกำปั้น
โคโยอิกุมท้องด้วยความเจ็บปวด
ก่อนจะทรุดลงไป
ผมเหยียบเธอซ้ำขณะที่เธอนั่งก้มตัวอยู่
“เลิกทำงานที่นั่นเดี๋ยวนี้!
เธอไม่มีเหตุผลที่จะทำงานนั่นอีกแล้ว!
หรือเธอมีชู้ในที่ทำงานใช่ไหม!”
ผมบังคับให้เธอเงยหน้าขึ้นแล้วต่อยอีกครั้ง
โคโยอิเอามือปิดหน้า พลางพูดเบา ๆ
“ฉันขอโทษ…”
“ผมไม่ต้องการคำขอโทษ! โคโยอิ!”
ผมต่อยเธออีกครั้ง
เธอทนความเจ็บปวดโดยไม่ร้องไห้
จากนั้นเธอมองหน้าผมและพูดว่า
“ก็ได้ ฉันจะเลิกทำงาน
ฉันขอโทษนะที่ทำให้เรื่องมันเลยเถิดขนาดนี้
ฉันมันแย่จริง ๆ”
คำพูดและสีหน้าของเธอ
ทำให้ผมรู้ตัวว่าผมโง่แค่ไหน
“ผมขอโทษ โคโยอิ…
ผมไม่ได้อยากทำร้ายเธอเลย
ผมแค่… แค่อยากให้คุณอยู่ข้างๆ
ผมขอโทษจริงๆ…”
โคโยอิทนทุกอย่างโดยไม่มีน้ำตาสักหยด
ขณะที่ผมร้องไห้เหมือนเด็ก
“ไม่เป็นไรนะ อากิระ”
เธอพูดพร้อมลูบหัวผมอย่างอ่อนโยน
“ผมรักเธอนะ โคโยอิ…
ผมจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว…”
ผมกอดเธอแน่น
“ฉันก็รักอากิระนะ…”
เธอกระซิบเบา ๆ และจูบผม
ในตอนนั้นเอง ผมสัมผัสได้ถึงความรักที่แท้จริง
***
หลังจากนั้น
ผมเริ่มใช้ความรุนแรงกับโคโยอิบ่อยขึ้น
ส่วนใหญ่เกิดขึ้นตอนที่ผมดื่มจนเมา
และรู้สึกหดหู่ทุกครั้งที่เห็นความงดงาม
ของโคโยอิ ความกังวล
และความไม่ไว้วางใจเข้ามาเติมเต็มในใจ
และมันแสดงออกมาในรูปแบบที่เลวร้ายที่สุด
ขณะที่ผมลงมือทำร้ายโคโยอิ
เธอไม่เคยกรีดร้องออกมาเลย
แต่เพียงอดทนรับความเจ็บปวด
เมื่อเห็นโคโยอิทนความเจ็บปวด
ผมก็จมดิ่งสู่ความเสียใจ
และเกลียดตัวเองทุกครั้ง
—ได้โปรด อย่าเกลียดผมเลย อย่าทิ้งผมไป
คำเหล่านี้ผมตะโกนอยู่ในใจ
ขณะที่โอบกอดโคโยอิแน่น
หลังเหตุการณ์ทุกครั้ง
พร้อมกับกระซิบคำว่าผมรักเธอ
โคโยอิจะตอบกลับอย่างอ่อนโยนเสมอว่า
[ไม่เป็นไร ยังไงฉันรักอากิระเหมือนเดิม]
และมีเพียงคำพูดเหล่านั้นเท่านั้น
ที่ทำให้ผมรู้สึกเหมือนได้รับการปลอบประโลม
***
วันนี้ผมดื่มหนักกว่าปกติ
สมองของผมแทบไม่ทำงาน
แต่ผมรู้ว่าเธอกำลังร้องไห้
ผมโอบกอดเธอไว้แน่นอย่างแผ่วเบา
ในขณะที่น้ำตาของเธอไหลริน
เธอพูดเบา ๆ ข้างหูผมด้วยเสียงสั่นเครือว่า
“ฉันรักนายนะ”
ทันใดนั้น ผมรู้สึกถึงความร้อนแรง
และความเจ็บปวดที่สีข้าง
ความมึนเมาของผมพลันหายไป
ผมมองขึ้นไปเห็นเธอถือมีดในมือ
และกำลังแทงผม
เธอแทงผมซ้ำแล้วซ้ำเล่า
พร้อมกับน้ำตาที่ไหลไม่หยุด
“ฉันรักนายจริงๆ เราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป”
เธอพูดพร้อมกับจูบผม
จูบนั้นแฝงไปด้วยความเหงาอย่างประหลาด
“ก่อนที่ฉันจะเริ่มเกลียดนาย…
เรามาเก็บความรู้สึกนี้ไว้ชั่วนิรันดร์กันเถอะ”
“ข…ขอบคุณนะ…”
ด้วยความรู้สึกขอบคุณในใจ ผมบอกเธอ
แม้ว่าผมจะทำเรื่องเลวร้ายมากมาย
แต่สิ่งที่ผมต้องพูดในตอนนี้ไม่ใช่คำขอโทษ
การได้อยู่กับเธอทำให้ผมมีความสุข
ผมเคยคิดเสมอว่าตัวเองเป็นคนที่บกพร่อง
ไร้ความสามารถในการรักใคร
คำพูดที่ผมเคยบอกนัตสึกิ
ในวันก่อนพิธีจบการศึกษา
“ผมรักเธอ”
ช่างจืดจางเมื่อเทียบกับความรู้สึก
ที่ผมมีต่อเธอในตอนนี้
แต่ตอนนี้มันต่างออกไป
โคโยอิสอนให้ผมรู้ถึงความสุข
ของการรักใครสักคน…
เธอคือคนสำคัญของผม
“ผมรักเธอนะ”
คำพูดและความคิดของผม
มันต้องส่งไปถึงเธอแน่นอน
ความอบอุ่นในหัวใจของผมตอนนี้…
มันต้องเป็นความรักที่แท้จริง
ช่องว่างในหัวใจของผมถูกเติมเต็ม
ไม่มีความเสียใจอีกต่อไป
ด้วยจิตใจที่สงบ
ผมสามารถโอบกอดความตายได้ในที่สุด—
“ข…ขอบ…คุณ…นะ ที่รัก…”
เมื่อได้ยินคำพูดของผม
เธอร้องไห้หนักขึ้นเรื่อย ๆ
เธอแทงมีดเข้าไปในร่างผมอีกครั้ง
“ฉันก็รักนายเหมือนกัน…”
สิ่งสุดท้ายที่ผมเห็นคือใบหน้าเศร้าของเธอ
เปรอะเปื้อนไปด้วยเลือด
ถึงอย่างนั้น ผมก็ยังคิดว่าเธอยังสวยงาม
ยิ่งกว่าสิ่งใดในโลกนี้—
***
—แล้วผมก็ตื่นขึ้นมา
“อะไรกัน… ฝันไปเหรอ?”
คำพูดที่ว่างเปล่าหลุดออกมาจากปากของผม
ถึงจะรู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นคืออะไร
แต่ผมก็ไม่อยากยอมรับมัน
ผมพยายามจะกรีดร้อง
ปลดปล่อยความเกลียดชังทั้งหมดออกมา
แต่ในวินาทีนั้นเอง—
ความเจ็บปวดในหัวที่ไม่อาจทนได้
ก็โจมตีผมอย่างรุนแรง
มันทรมานจนผมไม่อาจเปล่งเสียงได้
แต่ผมกลับรู้สึกว่าความเจ็บนี้
เป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย
ขณะที่ร่างกายบิดเบี้ยวด้วยความทุกข์ทรมาน
ผมกลับต้องสิ้นหวังกับความจริงที่ว่า
จิตใจของผมยังคงอยู่ในสภาพปกติ
ผมขอร้องล่ะ
ปล่อยให้ผมเสียสติไปอย่างสมบูรณ์เถอะ—
สิ่งที่ผมทำได้มีเพียงแค่ภาวนา
ภาวนาต่อพระเจ้าผู้ไร้ความเมตตา
ใครที่มีแฟนหรือคนรัก ก็แนะนำให้พูดคุยกัน
ปรึกษากันเยอะๆนะครับเรื่องบางเรื่องเก็บ
ไว้ในใจก็ไม่มีประโยชน์ เอาออกมาคุยกันดีกว่า
ดีกว่าเครียดแล้วมาลงกับคนที่เรารักครับ