เมื่อกลับไปเป็นนักเรียนอีกครั้ง แต่ถูกปฏิเสธจากเพื่อนสมัยเด็ก จึงตัดสินใจกระโดดตึกกับสาวสวยที่สุดในโรงเรียน - ตอนที่ 19 [บทที่ 4 รอบที่ 3] ความสัมพันธ์
- Home
- เมื่อกลับไปเป็นนักเรียนอีกครั้ง แต่ถูกปฏิเสธจากเพื่อนสมัยเด็ก จึงตัดสินใจกระโดดตึกกับสาวสวยที่สุดในโรงเรียน
- ตอนที่ 19 [บทที่ 4 รอบที่ 3] ความสัมพันธ์
ผมส่งอิโอริขึ้นรถไฟที่สถานีแล้วจึงกลับบ้าน
เมื่อดูโทรศัพท์ก็พบข้อความจากนัตสึกิ
[นายเอาเวลาที่ไหนไปตั้งใจเรียน?]
ดูเหมือนเธอจะสนใจที่ผมได้อันดับสองของห้อง
ทั้งที่ช่วงปิดเทอมฤดูร้อนผมยังต้องทำงาน
พาร์ทไทม์
[ก็เพราะมีสาวเก่งที่สุดในห้อง
คอยช่วยติวให้ไงล่ะ (^ω^)]
พอส่งข้อความไป เธอตอบกลับมาทันที
[น่ารำคาญ]
ไม่มีอีโมติคอน ไม่มีอิโมจิ
มีแค่สองตัวอักษร (Uza) แค่นั้นเอง
แต่ผมก็นึกภาพสีหน้าหงุดหงิดของเธอออก
[แค่โชคดีเท่านั้นเอง]
[ก็นะ ยังไงนายก็เอาชนะฉันไม่ได้อยู่ดี]
“…ยัยนี่ไม่ชอบความพ่ายแพ้สินะ”
ผมพึมพำขณะมองข้อความของนัตสึกิ
แล้วก็ได้รับข้อความจากเธออีกครั้ง
[แต่ฉันรู้นะว่านายพยายามอยู่]
[ขอบคุณนะ]
หลังจากนั้นเธอก็ไม่ได้ตอบอะไรอีก
หลังจากวันนั้น
ผมไม่ได้พยายามเข้าไปยุ่งกับนัตสึกิที่โรงเรียน
แต่บางครั้งเราก็ไปอ่านหนังสือด้วยกัน
ที่ร้านอาหาร และบางทีก็โทร
หรือส่งข้อความหากัน
พูดง่ายๆ คือความสัมพันธ์ของเรา
ก็ยังคงดำเนินไปแบบเดิม…
เหมือนกับก่อนหน้านี้
จนกระทั่งเข้าสู่เทอมสองได้ประมาณหนึ่งเดือน
“นี่… ช่วงนี้นายกับโทวะดูสนิทกันจังเลยนะ?”
เช่นเดียวกับในเทอมสองครั้งก่อน
โคโยอิอยู่ๆ ก็โผล่มาที่ห้องผมในชุดนักเรียน
เธอนั่งอยู่บนเตียงของผม
ขณะที่ผมนั่งอยู่บนเก้าอี้
“อืม ก็คงงั้น”
ผมตอบคำถามของโคโยอิไปตรงๆ
ที่โรงเรียน ผมใช้เวลาอยู่กับอิโอริมากขึ้นเรื่อยๆ
นอกจากจะคุยเล่นกันแล้ว
ผมยังช่วยเธอเรื่องเรียนในช่วงพักอีกด้วย
ทั้งหมดนี้ก็เพื่อทำให้โคโยอิหึงอิโอริ
“หืม ยอมรับตรงๆ เลยเหรอ?”
แต่ท่าทีของโคโยอิกลับต่างจากที่ผมคาดไว้
เธอดูจะสบายใจอะไรบางอย่าง
“ไม่ใช่ว่าผมอยากยอมรับอะไรหรอก…”
“แต่?”
เธอเร่งให้ผมพูดต่อ
ผมสงสัยว่าเธอจะพูดอะไรต่อ แต่ก็ตอบไป
“ก็แค่วันหยุดเรามักจะออกไปข้างนอกด้วยกัน
อย่างไปพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ
ไปคาราโอเกะอะไรพวกนั้น”
เมื่อได้ยินคำพูดของผม โคโยอิหัวเราะคิกคัก
“นายสัญญากับฉันไว้ใช่ไหมล่ะ?
ว่าถ้าเราสอบติดโรงเรียนที่อยากเข้า
เราจะคบกัน
แต่นี่อากิกลับไปสนุกกับผู้หญิงคนอื่น…
มันหมายความว่ายังไง?”
ครั้งที่แล้วเธอพูดเสียงเข้มด้วยความโกรธ
แต่วันนี้ดูเหมือนเธอจะสนุกกับคำตอบของผม
ทำไมถึงต่างออกไป…?
“ไม่ใช่ว่าผมคบกับอิโอรินะ
แค่เราคุยกันถูกคอกว่าที่คิดไว้
ก็เลยใช้เวลาอยู่ด้วยกันบ่อยขึ้นช่วงนี้”
ผมพูดออกไป
และโคโยอิก็ยิ้มพลางทำหน้า (หืม?)
แล้วมองมาที่ผม
จากนั้นเธอกวักมือเรียกผม
“มานี่ มานั่งข้างๆหน่อยสิ”
เธอขอให้ผมนั่งลงข้างๆ
ผมนั่งลงข้างเธอโดยที่ยังระแวงอยู่
“กลัวอะไรอยู่เหรอ?
คิดว่าฉันจะโวยวายนาย
เพราะคิดว่านายกำลังนอกใจฉันงั้นเหรอ?”
“ก็คงงั้นแหละ”
โคโยอิยิ้มกับคำพูดของผม
แล้วเธอก็ทำสิ่งที่คาดไม่ถึง เธอเอนหัวพิงไหล่ผม
“อากิระเปลี่ยนไปนะ
ตั้งแต่ฉันปฏิเสธนายครั้งนั้น”
“ไม่จริงหรอก”
ผมคิดว่าโคโยอิไม่รู้ว่าผมอยู่ในลูปเวลา
แต่คำพูดของเธอกลับทำให้ผมรู้สึกจุกในใจ
“ฉันรู้นะ ทุกอย่างเกี่ยวกับอากิระ
นายปิดบังอะไรจากฉันไม่ได้หรอก รู้ไหม?”
“ผมไม่ได้ปิดบังอะไรจากเธอเลยนะ”
“หมายความว่านายจะไม่ปิดบังอะไรจากฉันอีก?
อากิระ นายกำลังพยายามทำให้ฉันหึงอิโอริ
ใช่ไหมล่ะ?”
ผมสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำพูดของเธอ
ดูเหมือนโคโยอิจะเข้าใจผมได้ดีกว่าที่ผมคิดไว้
“นายคิดถูกแล้วล่ะ
ฉันรู้นะว่าอากิระกำลังคิดอะไรอยู่
นายกำลังทำให้ฉันหึงโทวะ
…เพราะนายรอวันนั้นไม่ไหวแล้ว
วันที่เราสอบติดตามที่สัญญากันไว้”
แต่ดูเหมือนว่าเธอจะเข้าใจผิดเกี่ยวกับเหตุผลที่
ผมพยายามทำให้เธอหึงโทวะ
“อากิระแค่หมดหวังจนอยากให้ฉันหันมามอง
นายใช่ไหมล่ะ?…น่ารักดีนะ”
โคโยอิบอกผม ทำให้ผมเผลอปล่อยการ์ดตก
“งั้นแค่วันนี้นะ ตกลงไหม?”
เธอพูดจบก็จับไหล่ของผม
ผลักผมลงกับเตียงอย่างแรง
บนเตียง ตอนนี้ผมนอนหงายอยู่
และโคโยอิก็ทิ้งตัวลงมาบนตัวผม
เสียงหัวใจเธอเต้นดังจนผมสัมผัสได้
ลมหายใจของเธอแตะผิวผมเบาๆ
“แค่วันนี้—ตอนนี้ สิ่งที่อากิระอยากทำ
สิ่งที่อยากให้ทำ… จะทำให้เป็นกรณีพิเศษเลย”
เธอกระซิบที่ข้างหูของผม
แล้วใช้นิ้วไล้ไปตามต้นขาของผมอย่างช้าๆ
“…!”
เสียงเล็ดลอดจากปากผมโดยไม่ตั้งใจ
เพราะความรู้สึกกะทันหันนั้น
เมื่อได้ยินแบบนั้น
ใบหน้าของโคโยอิบิดเบี้ยวไปด้วยความยั่วยวน
ไม่ใช่ใบหน้าของเด็กสาวไร้เดียงสาจากบ้าน
นอกที่ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับโลก
แต่มันคือใบหน้าของผู้หญิงที่สามารถทำให้
ผู้ชายตกหลุมพรางได้
บางที การกอดเธอไว้ตอนนี้
อาจไม่ใช่ความคิดที่เลวร้าย
ถ้าผมกอดเธอ เธอคงหลงรักผมมากขึ้นกว่าเดิม
คำว่า แค่วันนี้ จะเลือนหายไป
และเราคงใช้ชีวิตอยู่ในความลุ่มหลงนั้นด้วยกัน
และเมื่อเธอไม่สามารถอยู่ได้โดยไม่มีผม
ทั้งร่างกายและจิตใจ
การทำให้เธอทำตามที่ผมต้องการ
คงไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อ
“ถอยไป”
แต่ผมกลับผลักร่างของโคโยอิออกไป
“ขอโทษนะ ผมไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น”
ผมลุกขึ้นนั่งบนเตียง และเราสองคนมองหน้ากัน
“นายนี้ดื้อจริงๆ เลยนะ”
เธอบ่นอย่างไม่พอใจ
แล้วเอาหัวมาซบที่อกของผม
“แต่ก็น่าชื่นชมที่นายห้ามใจได้”
เธอพึมพำ แล้วเงยหน้ามองผมด้วยสายตาที่เต็ม
ไปด้วยความรู้สึกลุ่มหลง
จากนั้นเธอจูบเบาๆ ที่คอของผม…
หลังจากนั้น โคโยอิก็ลุกขึ้นยืน
เธอตบเสื้อที่ยับยู่ยี่ให้เรียบ แล้วจัดมันให้เข้าที่
ก่อนจะมองลงมาที่ผมซึ่งยังคงนั่งอยู่บนเตียง
เธอลากนิ้วเบาๆ ตรงคอที่เธอเพิ่งจูบเมื่อครู่
แล้วถามคำถามผม
“อากิระชอบฉันไหม?”
“รักเลยแหละ”
ผมตอบคำถามเธอทันที
โดยไม่ต้องคิดแม้แต่วินาทีเดียว
คำพูดลอยๆ ที่ว่างเปล่าเหลือเกินหลุดออกจาก
ปากผมอย่างไร้ซึ่งความลังเลใดๆ
โคโยอิฟังคำพูดนั้นด้วยรอยยิ้มที่ดูเย้ายวน
“ฉันก็รักนายเหมือนกัน”
พูดจบ โคโยอิก็เดินออกจากห้องไป
ผมถอนหายใจยาวก่อนจะล้มตัวลงนอน
นี่มันไม่ใช่สิ่งที่คาดคิดไว้เลย
แต่ดูเหมือนว่าโคโยอิจะไม่ได้หึงนัตสึกิในตอนนี้
ทันใดนั้น กลิ่นหอมหวานของโคโยอิที่ติดอยู่กับ
ผ้าปูเตียงลอยมาสัมผัสจมูกผมอีกครั้ง
ผมนึกถึงช่วงเวลาที่โคโยอิเพิ่งผลักผมลง
เมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้
ผมไม่มีความรู้สึกผิดในใจสำหรับสิ่งที่เกิดขึ้น
แต่จากประสบการณ์ที่ผ่านมา
ผมรู้ดีว่าการดึงผู้หญิงเข้าสู่ความสัมพันธ์แบบนั้น
มันจะนำมาซึ่งปัญหา และท้ายที่สุด มันจะจบลง
อย่างไร้ความหมาย ผมบอกตัวเองแบบนั้น
ทั้งที่รู้ดีว่าหัวใจของผมยังคงเต้นแรงไม่หยุด…
เพื่อนๆคิดว่า จุดจบของเพื่อนสมัยเด็ก
จะเป็นยังไงครับ
ที่แปลช้าเพราะผมยุ่งอะนะ
ไม่ใช่เพราะ Arcane จริ๊งๆ