‘คอร์เนลอยู่ตรงนั้น อยู่ตรงหน้าหล่อน และก็ยังหล่อเลิศเหมือนเดิม’
เสื้อชุดสีเข้มทำให้ผู้ชายตรงหน้าดูแสนจะอันตราย แต่หล่อนจะต้องไม่กลัว จะต้องทำเป็นเหมือนแค่ลงมาคุยกับคนรู้จักเท่านั้น จะต้องทำให้ได้ด้วย
คอร์เนลเห็นท่าทางหมางเมินของยาหยีก็ยิ่งแค้นใจ ทั้งๆ ที่เป็นคนผลักไสไล่ส่งหล่อนไปเองเมื่อคืน แต่ทำไมนะ พอเห็นความไม่แยแสในดวงตาหวานๆ คู่นี้แล้ว หัวใจถึงได้เจ็บแปลบๆ ขึ้นมาอย่างรุนแรงแบบนี้
“มีอะไรก็ว่ามาค่ะ”
“ตรงนี้คนเยอะ ผมไม่ชอบให้ใครมอง”
เขาพูดเสียงไร้ความรู้สึก ก่อนจะลุกขึ้นยืนจากเก้าอี้ตรงหน้าและเดินตรงเข้ามาฉวยข้อมือหล่อนไปกุมเอาไว้ พร้อมกับดึงแล้วลากออกมายังหน้าโรงแรมที่มีรถสปอร์ตสีดำคันโปรดของเขาจอดรออยู่
“นี่คุณจะพาฉันไปไหน ปล่อยนะ!”
“หุบปากเถอะน่า แล้วขึ้นไปนั่งเงียบๆ บนรถ”
เขาผลักหล่อนให้ขึ้นไปนั่งบนรถ จากนั้นตัวเองก็เดินอ้อมรถกลับมานั่งประจำที่คนขับ รถราคาแพงระยับแล่นทะยานออกไปข้างหน้าราวกับกำลังเหาะอยู่บนฟ้า มุ่งหน้ากลับไปยังคฤหาสน์ซีร์ยานอฟ สถานที่ที่เมื่อคืนหล่อนถูกขับไล่ราวกับหมูกับหมา
“คุณพาฉันมาที่นี่อีกทำไม”
“บ้านผัวอยู่นี่ ไม่มาที่นี่แล้วจะไปอยู่ที่ไหนฮะ”
ยาหยีอ้าปากค้างกับสิ่งที่ได้ยิน
“คุณว่าอะไรนะ?”
“บอกแล้วไงว่าไม่อยากให้ใครได้ยิน ขึ้นไปพูดกันบนห้องนู่น ลงมา!” เขากระโดดลงไปจากรถทันทีที่มันจอดสนิท ยาหยีนั่งนิ่ง สมองมึนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงยังไม่ได้ขยับตัว และนั่นก็ทำให้คอร์เนลโมโห เขาเดินอ้อมรถมากระชากประตูฝั่งของหล่อนให้เปิดออก ก่อนจะจับร่างของหล่อนพาดบ่าแล้วเดินเข้าไปในตึกใหญ่ด้วยความอุกอาจ
“นี่ปล่อยนะ คุณทำบ้าอะไร ปล่อยสิ!”
“น่ารำคาญน่ะลูกหยี เก็บเสียงเอาไว้ใช้ประโยชน์อย่างอื่นดีกว่านะ”
คนตัวโตดุเสียงรำคาญจัด ขณะที่ยาหยีแก้มแดงก่ำเมื่อเข้าใจดีว่าประโยชน์อย่างอื่นที่เขาว่าน่ะมันคืออะไร แต่เขาไม่มีสิทธิ์ทำอย่างนี้กับหล่อนนี่ เขาหมดสิทธิ์นั้นตั้งแต่เมื่อคืนนี้แล้ว หญิงสาวน้ำตาไหลพราก ความน้อยใจแล่นทะลักขึ้นมาจุกอก ยิ่งถูกเขาทุ่มใส่เตียงแรงๆ ด้วยแล้วก็ยิ่งคับข้องใจ
“หยุดทำบ้าๆ สักทีเถอะค่ะ เราจบกันแล้ว”
คอร์เนลแสยะยิ้มเย็นชา ยิ่งยาหยีทำเย็นชาใส่เท่าไร เขาก็ยิ่งทนไม่ได้
“มันไม่จบง่ายๆ อย่างนี้หรอกยาหยี”
“แต่คุณเป็นคนบอกให้ฉันไป คุณเป็นคนบอกให้ฉันเลิกรักคุณ และตอนนี้ฉันก็ทำได้แล้วด้วย คุณมันก็แค่คนที่ฉันเคยรู้จัก”
คำพูดคำนี้ของยาหยีทำไมถึงทำให้หัวใจของเขาเจ็บลึกราวกับถูกฟันด้วยมีดคมๆ นักนะ จบแล้ว ตัดใจจากเขาได้แล้วอย่างนั้นหรือ ไม่มีทางหรอก เขาไม่ยอมให้มันลงเอยแบบนี้เด็ดขาด เมื่อคืนเขาก็แค่พ่ายแพ้ให้กับเจ้าสัตว์ร้ายในใจก็เท่านั้นเอง แท้จริงแล้วเขายังต้องการยาหยีไม่เคยเปลี่ยนแปลง ต้องการทุกนาที และก็จะต้องการจนวันตายด้วย
“เมื่อคืนคุณยังบอกว่ารักผมอยู่เลย แล้วทำไมวันนี้ถึงตัดใจได้เร็วนักล่ะ”
คอร์เนลกระชากเสื้อสูทออกจากตัว ปลดกระดุมข้อมือ จากนั้นก็ไล่ปลดกระดุมด้านหน้าจนหมด สาบเสื้อแยกออกจากกันจนเห็นแผงอกกว้างปุกปุยด้วยเส้นขนสีเข้ม ยาหยีกลืนน้ำลายกับภาพยวนตานั้นโดยไม่รู้เลยว่าชายหนุ่มก้าวขึ้นมาบนเตียงตั้งแต่เมื่อไร มารู้ตัวอีกทีร่างของหล่อนก็ตกอยู่ในอ้อมแขนกำยำเสียแล้ว
“ปล่อยฉันนะ ได้โปรดปล่อยฉันไป…อย่าทำร้ายฉันอีกเลย”
“ไม่! ผมจะไม่มีทางปล่อยคุณไปอีกแล้ว”
ยาหยีหัวเราะทั้งน้ำตา ยังจดจำช่วงเวลาที่คอร์เนลโยนเงินค่าตัวใส่หน้าตัวเองได้เป็นอย่างดี เขาใจร้ายได้อย่างสาหัสสากรรจ์เลยทีเดียว
“บอกมาเถอะค่ะว่าตอนนี้คุณกำลังต้องการอะไร อีตัวหรือว่านางบำเรอคะ เงินที่มีคงหาผู้หญิงที่ถูกใจไม่ได้ใช่ไหม ถึงต้องไปลากฉันมาแก้ขัด”
“ลูกหยีอย่าประชดผมแบบนี้”
“ก็ในสายตาของคุณ ฉันมันอีตัวไม่ใช่หรือไง เมื่อคืนคุณทำให้ฉันรู้ตัวว่าฉันควรทำยังไงกับตัวเอง และฉันก็ตั้งใจไว้แล้วว่าจะลืมคุณให้ได้”
น้ำตาไหลพรากออกมา ความเจ็บปวดจากความโหดร้ายของผู้ชายตรงหน้าทำให้หล่อนไม่อยากจะเสี่ยงกลับเข้าไปในลำเนาเสน่หานั้นอีก กลัวว่าจะต้องเจ็บมากกว่าเดิมอีกหลายเท่า
“แต่คุณไม่มีทางลืมผมได้ และทุกอย่างจะจบได้ก็ต่อเมื่อผมเป็นฝ่ายทำให้มันจบเท่านั้น”
อวดดี โอหัง แต่หล่อนก็ยังหลงรักเขาหัวปักหัวปำ ไม่น่าเชื่อว่าหล่อนจะยังมีเยื่อใยต่อผู้ชายคนนี้อยู่อีก ทั้งๆ ที่เมื่อคืนก็ถูกเขาไล่ราวกับหมูกับหมา
“แต่ฉันเกลียดคุณ”
คนตัวโตพรมจูบไปทั่วใบหน้าที่นองน้ำตาของหล่อน ลิ้นแกร่งของเขาไล้เลียจนหยาดน้ำตาแห้งเหือด
“คุณเกลียดผมไม่ลงหรอกลูกหยี คุณไม่สามารถเกลียดผมได้ ก็เหมือนกับที่ผมไม่สามารถเกลียดคุณได้เลย แม้ว่าจะพยายามมากแค่ไหนก็ตาม”
หญิงสาวเบิกตากว้าง มองผู้ชายเจ้าของอ้อมกอดอบอุ่นทั้งน้ำตา
“คุณน่ะเหรอไม่เกลียดฉัน ในเมื่อทุกอย่างที่คุณกระทำลงไป มันเต็มไปด้วยความเกลียดชัง”
“ไม่มีความเกลียดเลยในความสัมพันธ์ของเรา มีแค่ความพยายามที่จะเกลียดเท่านั้น”
คนตัวโตดันร่างอรชรของยาหยีให้นอนลงบนที่นอน และทาบทับตามลงมา แม้จะพยายามขัดขืนแต่ก็ต่อสู้กับหัวใจของตัวเองไม่สำเร็จ เมื่อเช้าอุตส่าห์เล่นบทผู้หญิงเย็นชาได้อย่างดีเยี่ยม แต่มาตกม้าตายเอาตอนที่ถูกปากร้อนๆ มืออุ่นๆ สำรวจเนื้อตัวซะงั้น
“จำได้ไหมว่าผมเคยบอกว่ารักคุณ”
“คุณบอกว่าบางทีคุณอาจจะไม่เคยรักฉันเลย”
คอร์เนลระบายยิ้มออกมา ค่อยๆ เปลื้องผ้าออกจากกายสาว เจ้าหล่อนขัดขืนแต่เขาก็สามารถเอาชนะได้อย่างไม่ยากเย็นเลยแม้แต่นิดเดียว
“นั่นเป็นคำพูดที่ผมใช้ป้องกันหัวใจจากคุณต่างหาก แต่สุดท้ายก็ทำไม่สำเร็จ แค่เห็นคุณเย็นชาใส่เมื่อเช้า ผมก็คลั่งจนอกแทบจะระเบิดแล้ว รู้ไหมว่าผมยอมได้ทุกสิ่ง แต่ยอมให้คุณมองไม่เห็นผมอยู่ในสายตาไม่ได้”
“คุณพูดเหมือนกับว่าฉันคือคนสำคัญของคุณ ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้หรอก”
ยาหยีส่ายหน้า น้ำตายังคงไหลพราก คอร์เนลยิ้มบางๆ พร้อมกับก้มลงจูบปากอิ่มแผ่วเบา แล้วพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงสั่นเทาเล็กน้อย มันบอกให้รู้ว่าผู้ชายที่คนทั้งโลกเรียกว่าเทพบุตรผู้เหี้ยมโหดกำลังประหม่าและเขินอายอย่างที่สุด
“ตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมาผมพยายามบอกตัวเองว่าคุณทรยศ คุณไม่ได้รักผม และการที่คุณเอาตัวรับกระสุนแทนผมก็เป็นเพียงแค่ละครฉากหนึ่งที่เกิดผิดพลาดเท่านั้น แต่ผมก็เกลียดคุณไม่สำเร็จ พยายามทำงานทั้งวัน พยายามควงผู้หญิงคนอื่น”
“ถึงได้มีข่าวกับผู้หญิงแทบทุกวัน”
คอร์เนลได้ยินคำพูดประชดประชันของยาหยีเต็มสองหูแต่เขาก็ไม่คิดจะโต้ตอบ ในเมื่อสิ่งที่เขาต้องการพูดยังไม่จบสิ้น
“แต่ผมก็ยังลืมคุณไม่ได้ ผมคิดถึงคุณทุกคืนจนต้องเปลี่ยนห้องนอน”
“ป้าเชอรี่บอกฉันแล้ว” เผลอระบายยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว
“และเมื่อคืน…ที่ผมทำร้ายกาจกับคุณลงไป ก็เพราะผมเกลียดตัวเอง เกลียดที่ตัวเองไม่เคยสามารถต้านทานคุณได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว แต่คงไม่เท่าคุณ…ผมขอโทษนะลูกหยี ขอโทษที่ทำให้คุณเจ็บปวด เมื่อก่อนผมรักคุณมากแค่ไหน ตอนนี้ความรักของผมก็ยังคงมีให้คุณเช่นเดิม”
“แต่ว่าฉัน…”
นิ้วแกร่งยกขึ้นจุปากของหล่อนเอาไว้ และชิงพูดเสียเอง
“คุณคงเกลียดผมเข้าไส้แล้วสินะ แต่ถึงยังไงผมก็ยอมให้คุณจากไปไม่ได้อยู่ดี ผมคงต้องตายแน่ๆ หากข้างกายไม่มีคุณอีกครั้ง มันทรมานนะที่ต้องนอนหลับไปพร้อมๆ กับความคิดที่ว่าคุณจะไม่กลับมาหาผมอีกแล้ว”
น้ำเสียงของคนตัวโตดูเศร้าสร้อยจับใจ และเมื่อเขาทำท่าจะผละออกห่าง มือบางก็รีบตวัดรัดรอบกายกำยำเอาไว้แน่น เป็นเชิงบอกว่าหล่อนเองก็เสียใจเหมือนกันที่ต้องนอนอย่างเดียวดายตามลำพังบนเตียงมาตลอดทั้งเดือน
“ฉันเสียใจมากค่ะที่ทรยศคุณวันนั้น แต่ฉันไม่มีทางเลือก”
“ผมรู้ทูนหัว ไม่ต้องพูดถึงมันอีกแล้ว”
“ไม่ค่ะ ฉันต้องพูด วันนั้นฉันเสียใจมากที่รู้ว่าคุณไม่ได้จดทะเบียนกับฉันด้วยความรัก แต่ที่ต้องจดก็เพราะว่าไม่มีทางเลือก หัวใจของฉันเจ็บปวด แต่ฉันก็ยังรักคุณอยู่ดี ฉันปฏิเสธคำขู่ของอาคุณไม่ได้ เมื่อเขาเอารูปพ่อที่นอนจมกองเลือดมาให้ดู ฉันสับสนมาก และสุดท้ายฉันก็เลือกที่จะทรยศคุณเพื่อช่วยพ่อเอาไว้ แต่มันก็ไม่สามารถช่วยพ่อเอาไว้ได้อยู่ดี พ่อตายเพราะไม่อยากให้ฉันลำบาก”
น้ำตาแห่งความอาดูรไหลพรากลงมาอาบแก้มของยาหยีอีกครั้ง คอร์เนลพรมจูบซับให้ด้วยความอ่อนโยน
“หยุดร้องไห้เถอะนะลูกหยี เรื่องมันผ่านมาแล้ว ยังไงเราก็ย้อนกลับไปแก้ไขมันไม่ได้ เรามาทำวันนี้ให้ดีที่สุดดีกว่านะ อยู่กับผม อยู่เป็นเมียคนเดียวในชีวิตของผม”
รอยยิ้มกระจ่างตาของคอร์เนลทำให้ความอิ่มเอิบแล่นเข้าไปสู่เนื้อหัวใจอย่างมหาศาล ในที่สุดก็มีวันนี้จริงๆ เหรอ วันที่คอร์เนลเอ่ยปากขอให้หล่อนเป็นผู้หญิงของเขาไปตลอดชีวิต น้ำตาทะลักเพิ่มมากขึ้นอีก แต่คราวนี้มันทะลักออกมาพร้อมๆ กับความตื้นตันใจ
“คุณพูดจริงหรือคะคอร์เนล รักฉันจริงๆ หรือคะ”
มือบางยกขึ้นไล้สันกรามกระด้างของผู้ชายตัวโตที่กำลังทาบทับกายสาวอยู่อย่างแผ่วเบา มองเข้าไปในดวงตาสีเขียวดุจมรกตเนื้อดีของเขาอย่างเปิดเปลือยหัวใจ
“ขอให้เชื่อผมเถอะลูกหยีว่าผมรักคุณจริงๆ รักมากกว่าชีวิตของตัวเองเสียอีก” คำยืนยันของเขาช่างหนักแน่นซะเหลือเกิน และมันก็ทำให้หัวใจของหล่อนพองโตจนคับอก
“คอร์เนล…ฉันไม่อยากเชื่อเลยว่าจะได้ยินคำนี้จากปากของคุณอีกครั้ง”
“ผมพูดแล้วไง พูดจากใจจริงซะด้วย” เขายิ้มกว้าง ใบหน้าแต่งแต้มด้วยความสุขล้นใจ ก้มลงจูบสะเปะสะปะไปทั่วใบหน้านวล
“รู้ไหมคะว่าครั้งแรกที่เห็นหน้าคุณ ฉันรู้สึกยังไง”
“ตกหลุมรักใช่ไหม” เขากระเซ้าเสียงหวาน ขณะงับเนื้อนุ่มที่ซอกคอหนักๆ
“ไม่ใช่สักหน่อย”
“ไม่ใช่แล้วยังไงล่ะครับ”
คนตัวโตถามไปงั้นแหละ ไม่ได้อยากจะฟังอะไรหรอก เพราะตอนนี้ความสนใจของเขาพุ่งเป้าไปที่ร่างอวบงามของภรรยาอย่างแน่วแน่เลยทีเดียว
“ฉันรู้สึกราวกับว่าตัวเองตายแล้วโชคดีได้ไปเกิดบนสวรรค์ต่างหาก”
คอร์เนลหัวเราะลั่น แต่กระนั้นก็ยังไม่ยอมเงยหน้าขึ้นจากร่างงามแม้แต่น้อย
“ขนาดนั้นเชียวหรือ สงสัยผมคงหล่อลากไส้น่าดู”
สาวน้อยเบ้ปากใส่ด้วยความหมั่นไส้ พลางหวนนึกไปถึงการพบกันครั้งแรกของหล่อนและสามีสุดหล่อ
“อย่าทำเป็นแกล้งไม่รู้ไปหน่อยเลยค่ะ คุณก็รู้ตัวดีไม่ใช่หรือคะว่ามีเสน่ห์มากแค่ไหน ฉันน่ะรู้สึกต่ำต้อยลงทันทีเพียงแค่เห็นคุณยืนอยู่ตรงหน้าเท่านั้นแหละ”
“ผมไม่ได้เลิศเลอขนาดนั้นหรอกนะลูกหยี ผมอาจจะโก้หรู อาจจะหล่อเหลาปานเทพบุตร แต่ผมก็ร้ายกาจพอๆ กับความดูดีของตัวเองนั่นแหละ ซึ่งคุณก็รู้ดีไม่ใช่หรือ”
คนตัวโตย้ำคำพูดของตนเองด้วยการจูบหนักหน่วง แต่สำหรับคอร์เนล แค่จูบเฉยๆ มันเพียงพอที่ไหน เขาต้องสำรวจร่างงามด้วยฝ่ามือร้อนๆ ตามไปด้วย
“อื้อ…อย่าซนสิคะ พะ…พอก่อนค่ะ”
หญิงสาวพ้อเสียงระทดระทวย กว่าจะรวบรวมสติพูดต่อได้ก็ปาเข้าไปหลายอึดใจเลยทีเดียว ก็พ่อเจ้าประคุณเล่นซุกซนซะเหลือเกินนี่ ลูบนู่น คลำนี่ จับนู่น บีบนี่ จนกายสาวชอกช้ำไปซะทั้งตัว
“อย่าขัดใจผมสิทูนหัว ผมจะคลั่งแล้วนะ”
‘นั่นไง ดูสิ คนตัวโตเอาแต่ใจอย่างน่าหมั่นไส้นักเชียว’
“อย่าดื้อสิคะ ฟังก่อน”
ในที่สุดก็ดันใบหน้าแดงก่ำด้วยฤทธิ์เดชของเพลิงสวาทออกจากซอกคอได้สำเร็จ คนตัวโตแสดงท่าทางขัดอกขัดใจออกมา
“ฟังก็ได้ครับ แต่ผมมีเวลาให้แค่หกสิบวินาทีนะ ถ้าพูดไม่จบ ผมไม่สนใจแล้วด้วย รู้ไหมว่าหิวจนตาลายไปหมดแล้ว อยากกินลูกหยี”
สาวน้อยหน้าแดงระเรื่อ คำพูดและสายตาของสามีสร้างความปั่นป่วนให้กับกายสาวได้อย่างมหาศาลเลยทีเดียว
“อยากพูดอะไรก็พูดมาครับ ก่อนจะหมดเวลา” เขาเร่งยิก มองหล่อนราวกับจะกลืนกินเข้าไปทั้งตัวอย่างไงอย่างงั้น
ยาหยียิ้มหวานฉ่ำ จ้องสามีด้วยความรักใคร่หมดหัวใจ ก่อนจะพูดถามในสิ่งที่คาใจของตนเองออกมาด้วยกลีบปากที่สั่นระริก
“ทำไมถึงรักฉันคะ ทั้งๆ ที่ฉันเป็นแค่ผู้หญิงข้างถนนแสนธรรมดา”
คอร์เนลฉีกยิ้มกว้างอีกครั้ง พร้อมๆ กับยักคิ้วข้างหนึ่งขึ้นสูง ซึ่งมันก็ทำให้เขาดูหล่อมากขึ้นอย่างเหลือเชื่อ ยาหยีมัวแต่นอนมองใบหน้าคมสันเพลินจนไม่รู้ว่าตัวเองถูกถอดชั้นในชิ้นสุดท้ายออกไปตอนไหนกันแน่ ตอนที่หล่อนมองเขายักคิ้ว หรือว่าตอนที่หล่อนแลบลิ้นไล้กลีบปากด้วยความกระหายเขากันแน่นะ
“คุณไม่ธรรมดาสักหน่อย ไม่อย่างนั้นจะมัดใจผมได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่เรา…กันหรือไง”
สาวน้อยหน้าแดงจัด กายสาวร้อนฉ่าเมื่อพ่อคนตัวโตเริ่มปฏิบัติการล่าสวาทกับเรือนร่างของหล่อนอีกครั้ง ตั้งแต่ซอกคอระหง ไล่ต่ำลงไปยังเต้างามอวบสล้าง และท่าทางจะไม่ยอมหยุดแค่นั้นซะด้วย
“ฉันแทบไม่เชื่อว่าคุณจะติดใจฉัน ทั้งๆ ที่ไม่คุ้นเคยกับความสัมพันธ์แบบนี้เท่าไรนัก”
“คุณไม่เคยเลยต่างหากยาหยี และผมก็ภูมิใจมากเหลือเกินที่ได้เป็นคนสอนทุกอย่างให้กับคุณ ทุกอย่างจริงๆ” เขางึมงำกับปลายถันสีสวยสด หญิงสาวกัดฟันข่มเสียงแห่งความรัญจวนเอาไว้ขณะพยายามพูดออกมาอีก
“ฉันนึกว่าคุณจะคิดว่าฉันจืดชืดซะอีก”
คราวนี้คนตัวโตเงยหน้าจากเต้างามขึ้นมาจ้องมองลึกเข้ามาในดวงตาของหล่อนนิ่งนาน
“หากจะให้พูดจากใจจริง ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงเลือกคุณ ทำไมถึงต้องรักคุณ ทั้งๆ ที่คุณเป็นสาวไร้ประสบการณ์ แถมเรื่องบนเตียงก็ยังไม่เอาไหนเสียเลย ตอนแรกผมคิดว่าแค่ครั้งเดียวผมก็คงจะเลิกติดต่อกับคุณอีก แต่พอได้ครอบครองคุณจริงๆ ความคิดของผมที่จะปล่อยคุณไปก็ค่อยๆ เปลี่ยนแปร ผมต้องการคุณตลอดเวลาจนแทบบ้า เซอร์เกเตือนผมอยู่บ่อยๆ แต่ผมก็ยังไม่สามารถตัดใจจากคุณได้ แค่อยู่ห่างเพียงชั่วโมงเดียวผมก็เกือบคลั่งจนต้องบุกไปหาถึงในห้องเรียนยังไงล่ะ รู้ไหมว่าผมไม่เคยทำตัวไร้สาระแบบนั้นมาก่อนเลย แต่พอได้มาเจอคุณ ผมต้องทำทุกอย่างที่ตัวเองเคยตั้งแง่รังเกียจ และทุกอย่างที่ผมทำลงไปทั้งหมดก็เพื่อให้มีคุณอยู่ข้างกายผมตลอดไปเท่านั้นเอง”
“คอร์เนล…”
“สัญญาสิว่าคุณจะอยู่กับผม จะไม่เดินไปจากผมอีก”
ยาหยีระบายยิ้มกว้างออกมาทั้งน้ำตา น้ำตาแห่งความดีใจ สุขใจ และซาบซึ้งใจ ไม่เคยคิดเลยว่าผู้ชายที่ดูภายนอกแล้วแสนอำมหิต สุดร้ายกาจ และไม่มีหัวใจอย่างคอร์เนล เวลาหวานแล้วจะทำได้อย่างดีเยี่ยมแบบนี้
“ฉันจะอยู่ค่ะ และจะอยู่กับคุณตลอดไป” สาวน้อยยิ้มหวานทั้งน้ำตา
“ชั่วนิรันดร์…” ยาหยีตอกย้ำความมั่นใจให้กับสามีสุดหล่อด้วยการโขมยจุมพิตเบาๆ ที่แก้มสากของเขาฟอดใหญ่ คอร์เนลยิ้มกว้างจนแก้มแทบปริ พรมจูบดวงหน้านวลของหญิงในอ้อมแขนอย่างไม่คิดจะยอมเสียเปรียบ
“ทูนหัว…ยอดรักของผม”
อ้อมกอดของคอร์เนลแน่นขึ้น ขณะที่ริมฝีปากร้อนผ่าวของเขาก้มลงมาตักตวงความหวานฉ่ำจากกลีบปากที่เผยอรออยู่แล้วของยาหยีอย่างนุ่มนวล ปลายลิ้นใหญ่แทรกลึกเข้าไปเกี่ยวกระหวัดรัดรึงลิ้นเล็กด้วยความหิวกระหาย ฝ่ามือใหญ่ลูบไล้ไปทั่วเรือนกายสาวด้วยความหลงใหล ทุกสัมผัสอ่อนนุ่มราวกับว่าเขาต้องการจะขอโทษขอโพยในสิ่งที่ตนเองได้กระทำกับหล่อนเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา
“ผมรักคุณ… ลูกหยี”
เขาพร่ำบอกกับผิวสาวของหล่อนในทุกซอกทุกมุม ประกาศให้สาวน้อยรู้ว่าตนเองจะรักและภักดีต่อหล่อนไปตลอดชีวิต
“และจะไม่มีวันหยุดพูดคำนี้เลยตราบที่ผมยังมีลมหายใจอยู่…”
“คอร์เนล…”
ยาหยีนอนหลับตาพริ้มยิ้มรับกับความร้อนแรงของสามีที่เพิ่มทวีขึ้นเรื่อยๆ เมื่ออารมณ์ของเขาเดินหน้ามาไกลเกินกว่าที่จะควบคุมได้ นิ้วเรียวจิกลงบนหัวไหล่ทรงพลังอย่างลืมตัว เมื่อความซาบซ่านฉุดร่างของหล่อนให้ทะยานขึ้นสู่สรวงสวรรค์ เสียงร่ำร้องของเขาดังก้อง ก่อนที่คนตัวโตจะซบลงมาจุมพิตปากอิ่มของหล่อนอีกครั้งเนิ่นนาน
“ผมรักคุณเหลือเกิน แม่ลูกหยีแสนหวาน…”
คนตัวโตกระซิบคำรักข้างหูของหล่อนซ้ำแล้วซ้ำอีกอย่างไม่รู้จักหน่าย สองดวงใจถูกพันธนาการกันไว้อย่างแนบแน่นด้วยสายใยแห่งรักแท้ และแน่นอนว่ามันจะแนบสนิทเช่นนี้ไปชั่วนิจนิรันดร์
MANGA DISCUSSION