เมียเก็บมาเฟีย ชุด เทพบุตรมาเฟีย - ตอนที่ 89
ชายหนุ่มครางออกมาเมื่อตะโบมจูบปากอิ่มด้วยความหิวจัด ตะกรุมตะกรามราวกับอดอยากปากแห้งมาแสนนาน สองมือใหญ่ฟอนเฟ้นไปทั่วทั้งกายสาว บีบเคล้นขยำขยี้อย่างเมามัน ยิ่งแม่สาวน้อยแอ่นร่างขึ้นหาแล้วส่ายไปมา เขาก็ยิ่งแทบคลุ้มคลั่ง
“คอร์เนล…ได้โปรด”
ครวญครางด้วยความเสียวซ่านเมื่อปลายถันหายเข้าไปอุ้งปากร้อนระอุ เขาดูดดึงแรงๆ ใช้ปลายลิ้นตวัดเลีย พร้อมกับขบแรงๆ ด้วยฟันคม หญิงสาวสะท้านเยือก ดิ้นพราด คอร์เนลกระชากเสื้อคลุมออกจากตัว ก่อนจะทาบทับลงมาอีกครั้ง
สาวน้อยหอบสะท้านเฮือกเมื่อถูกครอบครองด้วยความดุดันป่าเถื่อน หลับตาพริ้มปล่อยกายให้กับคนตัวโตได้ดื่มกินตามแต่ใจต้องการ หล่อนมีความสุข มีความสุขจนแทบจะทะลักออกมาเมื่อได้กลับมาอยู่ใต้ร่างของคอร์เนลอีกครั้ง ผู้ชายที่ดิบเถื่อนแต่หวานฉ่ำไปในคราวเดียวกัน
“ลูกหยี…คุณยังหวานเหมือนเดิม”
คอร์เนลครวญครางออกมาด้วยความเสียวกระสัน หนึ่งเดือนพอดีที่ต้องแยกจากกัน หนึ่งเดือนที่เขาไม่มียาหยีอยู่ข้างกาย เขาคิดถึงหล่อน โหยหา อยากจะบินไปหาวันละไม่รู้กี่รอบ แต่ก็จำต้องข่มใจเอาไว้ และวันนี้ เมื่อเช้าหล่อนทำให้เขาเดือดพล่าน ทำงานไม่ได้ แทบยังอารมณ์บูดยาวนานอีก เพียงแค่ได้เห็นหล่อนจับมือถือแขนกับผู้ชายคนอื่นเท่านั้นเอง
ชายหนุ่มเปลี่ยนจังหวะรักให้ดุดันขึ้น แรงขึ้น จนสาวน้อยใต้ร่างร้องครางไม่หยุด แวบหนึ่งเมื่อประสานสายตากัน เขามองเห็นความแปลกใจในดวงตาหวานฉ่ำหยาดเยิ้มนั้น แต่หล่อนไม่จำเป็นต้องเข้าใจหรอก แค่เขาเข้าใจเพียงคนเดียวก็พอแล้ว
“ฉันรักคุณ…คอร์เนล”
ยาหยีคร่ำครวญแต่คอร์เนลไม่คิดจะฟังมัน เขาเลือกที่จะก้มลงปิดปากหวานฉ่ำนั้นอย่างร้อนแรง มือใหญ่ข้างหนึ่งเท้ากับที่นอนเอาไว้ ขณะที่อีกข้างหนึ่งรัดเอวบางรั้งเข้าหาแน่น การเคลื่อนไหวดุดันร้อนแรงเข้าข่ายอำมหิต แต่มันก็อบอวลไปด้วยความหวานฉ่ำ
เสียงเตียงหยุดลั่นเมื่อพายุสวาทแสนร้อนแรงยุติลง พร้อมๆ กับร่างใหญ่โตโซมเหงื่อที่พลิกออกไปจากกาย ยาหยีเบิกตากว้าง รู้สึกเสียดายนักที่คอร์เนลแยกจากเร็วเกินไป หล่อนยังนอนฟังเสียงลมหายใจของเขาไม่จุใจเลย
“ฉันรักคุณค่ะ”
หญิงสาวยิ้มหวานเมื่อพยุงกายลุกขึ้นนั่ง ไม่คิดจะปกปิดความงดงามของตัวเอง จ้องมองคนตัวโตที่ตีหน้าขรึมด้วยสายตารักใคร่
“ไปซะ!” คนตัวโตกระโดดพรวดเดียวลงไปยืนอยู่ไกลถึงกลางห้องเลยทีเดียว
“คอร์เนล…”
ความวาบหวามจากเพลิงพิศวาสหายไปจนหมดสิ้น เหลือไว้แต่เพียงความเจ็บปวด ความชอกช้ำ และความอัปยศอดสูที่เกิดจากสายตาสีเขียวจัดของเขาเพียงอย่างเดียว
“มันไม่ได้ผลหรอกที่จะใช้เซ็กส์มาล่อผมเหมือนเคยน่ะ”
เขายิ้มเยาะ ขณะเดินตรงไปที่หัวเตียง เปิดลิ้นชักและหยิบธนบัตรออกมาปึกใหญ่ ก่อนจะเดินแก้ผ้าโทงๆ กลับเข้ามาหยุดตรงหน้าหล่อน
ยาหยีน้ำตาไหลพราก พยายามวอนขอ
“คอร์เนล…ได้โปรดอย่าทำแบบนี้เลย ฉันรักคุณจริงๆ”
สิ้นคำที่เอ่ยออกไป สิ่งที่ได้กลับมาจากปากชายคนรักก็คือรอยยิ้มเยาะหยันเพียงอย่างเดียว
“รักผม? แล้วไอ้ผู้ชายที่คุณจับมือถือแขนกับมันเมื่อเช้านี้ล่ะ เอามันไปไว้ที่ไหน หรือว่ามันบริการไม่ดี โยกไม่ถึงใจคุณแบบผม คุณถึงต้องกลับมาให้ผมสนองให้น่ะ ใช่ไหม ผมเข้าใจถูกไหมยาหยี”
“ผู้ชายเมื่อเช้า?”
ยาหยีทวนคำพูดของคอร์เนล และหน้าของฟรานเซเซียสผู้ชายที่พึ่งจะรู้จักกันครั้งแรกก็ปรากฏขึ้น และนั่นก็ทำให้หล่อนตั้งท่าจะปฏิเสธ แต่คนตัวโตไม่ยอมฟังเลย
“หยุดทำตัวไร้เดียงสาได้แล้ว ไปซะ ไปให้พ้นหน้าผม แล้วไม่ต้องมาเจอะมาเจอกันอีก แล้วนี่…”
เขาปาเงินใส่หน้าหล่อนเป็นสิบๆ ใบ มันฟาดใส่หน้าหล่อนจนเจ็บ แต่กระนั้นมันก็ยังเจ็บสู้หัวใจไม่ได้อยู่ดี คอร์เนลใจร้ายมาก ใจร้ายเหลือเกิน
“ผมให้เป็นค่าเสียเวลา มันคงมากพอที่คุณจะใช้เป็นค่าตั๋วเดินทางกลับกรุงเทพฯ นะยาหยี” คอร์เนลยิ้มเลือดเย็น
“ลาก่อน…”
และเขาก็เดินหายเข้าไปในห้องน้ำ ทิ้งให้หล่อนร่ำไห้อยู่เพียงลำพังบนเตียง
“คอร์เนล…ทำไมคุณใจร้ายแบบนี้”
ในที่สุดทุกอย่างก็จบลงแล้วจริงๆ คอร์เนลไม่มีทางให้อภัยหล่อนได้ พอๆ กับที่ไม่มีทางรักหล่อนได้อีกแล้วนั่นแหละ หรือบางทีเขาอาจจะไม่เคยรักหล่อนเลยเหมือนกับที่เขาพูดเมื่อครู่นี้ก็ได้ หล่อนมันโง่เอง หลงละเมอว่าทุกอย่างจะต้องจบลงอย่างสวยงามเช่นในนิยายรัก แต่ลืมไปสนิทเลยว่าตัวเองไม่ใช่นางเอก ดังนั้นต่อให้นิยายรักจะจบหวานฉ่ำแค่ไหน แต่หล่อนก็ไม่มีทางสมหวังไปได้
มือบางสั่นเทายกขึ้นปิดหน้าร่ำไห้ ทุกถ้อยคำหยามหยัน ทุกถ้อยคำดูแคลนของคอร์เนล มันช่างไม่ต่างจากใบมีดโกนคมกริบดีๆ นี่เอง มันกรีด มันผ่า มันทะลวงหัวใจของหล่อนจนเลือดทะลัก เจ็บจนแทบจะขาดใจ
“ลาก่อนค่ะ…ลาก่อนชั่วชีวิต…คอร์เนล”
ซมซานก้าวลงจากเตียงด้วยกายที่สั่นสะท้าน มือบางควานหาเสื้อผ้าที่ตัวเองเป็นคนถอดเองกับมันด้วยความชอกช้ำ รีบสวมใส่มันจนเรียบร้อย จากนั้นก็รีบรวบผมลวกๆ ก่อนจะรีบเผ่นแน่บออกไปจากห้องนอนของคอร์เนลในทันที
“คุณยาหยี!”
เซอร์เกอุทานออกมาด้วยความตกใจเมื่อเห็นยาหยีวิ่งร้องไห้ลงมาจากบันไดบ้าน อยากจะถาม แต่ดูจากสภาพของหญิงสาวแล้วคงไม่ยอมตอบแน่นอน
“ไปครับ ผมจะไปส่งที่โรงแรม”
ยาหยีไม่ได้สามารถพูดอะไรออกมาได้ นอกจากเดินตามเซอร์เกไปขึ้นรถ และรีบออกไปจากคฤหาสน์ซีร์ยานอฟให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยไม่มีโอกาสได้เห็นสายตาอาลัยอาวรณ์ของชายคนหนึ่งที่เกาะมองอยู่ที่หน้าต่างห้องแม้แต่นิดเดียว