และการรอคอยก็เดินทางมาถึงจุดสิ้นสุดสักที ยาหยีเลือกชุดที่สวยที่สุดมาสวมใส่ พรมน้ำหอมตามผิวกายอย่างพิถีพิถันตามคำแนะนำแกมบังคับของลินดา จากนั้นหล่อนก็ก้าวขึ้นลีมูซีนที่อีวานขับมารับที่หน้าโรงแรมตอนบ่ายสี่โมงแก่ๆ
“วันนี้คุณยาหยีสวยมากเลยครับ นายน้อยเห็นจะต้องตกตะลึงแน่เลย”
นี่คือคำพูดของอีวานที่เอ่ยขึ้นเมื่อเห็นหล่อนที่หน้าโรงแรม หญิงสาวยิ้มเศร้าๆ ความมั่นใจเริ่มหดหายเมื่อตัวเองเข้าใกล้อาณาจักรซีร์ยานอฟทุกขณะ
“บางทีนายน้อยของอีวานอาจจะไล่ฉันราวกับหมูกับหมาก็ได้นะจ๊ะ”
“ไม่หรอกครับ นายน้อยคิดถึงคุณยาหยีจะตาย ทุกคนในบ้านมองออกกันหมด แต่ไม่มีใครกล้าพูดเท่านั้นเอง เพราะหากพูดออกมามีหวังถูกนายน้อยเตะโด่งแน่ๆ”
“นายน้อยของอีวานดุมากขึ้นกว่าเดิมอีกหรือจ๊ะ”
“โห…ดุยังกับเสือถูกพรากลูกรักไปยังไงยังงั้นเลยครับ แถมอารมณ์ก็ยังขึ้นๆ ลงๆ ยังกับพวกผู้ชายวัยทองอีก” อีวานบ่นอุบ แล้วก็อดเล่าต่อไม่ได้
“เมื่อหลายวันก่อนมารีนคนรักของผมถูกนายน้อยให้ชงกาแฟให้เกือบสิบรอบ ทั้งๆ ที่สูตรเดิมเป๊ะ แต่นายน้อยบอกว่าไม่อร่อย ขมบ้าง หวานบ้าง พวกผมงงเต๊กเลย”
ยาหยีไม่ได้ตอบอะไรออกไป ได้แต่จ้องมองคฤหาสน์ซีร์ยานอฟตรงหน้าทั้งน้ำตา ไม่คิดว่าจะได้กลับมาที่นี่อีกครั้ง
หญิงสาวรีบก้าวลงจากรถทันทีโดยไม่คิดจะรอให้อีวานมาเปิดประตูให้ เชอรี่ที่ยืนรอท่าอยู่แล้วรีบวิ่งเข้ามาสวมกอด
“คุณยาหยี โธ่! แม่หนูของป้า ในที่สุดก็มาจนได้”
แม่บ้านร่างท้วมลูบหลังลูบไหล่ของยาหยีด้วยความเอ็นดู ยาหยีระบายยิ้มบางๆ ตื้นตันกับความเป็นมิตรของทุกคนที่นี่นัก แต่กระนั้นก็ยังอดหวั่นเกรงต่ออารมณ์ของผู้ครอบครองอาณาจักรซีร์ยานอฟไม่ได้
หญิงสาวดันตัวออกจากอ้อมแขนของเชอรี่ก่อนจะเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงกล้าๆ กลัวๆ
“นายน้อย…เอ่อ…คอร์เนลกลับมาหรือยังคะ”
เชอรี่ส่ายหน้าพรืด
“ยังเลยค่ะ ปกตินายน้อยจะกลับมาถึงบ้านห้าโมงเศษๆ แต่วันนี้ไม่รู้ว่าจะกลับเร็วหรือกลับช้า เพราะเห็นเซอร์เกว่าอาละวาดซะออฟฟิศแทบแตก ไม่รู้ไปกินรังแตนที่ไหนมา นี่ถ้านายน้อยเป็นผู้หญิง ป้าคงคิดว่ากำลังจะมีรอบเดือนแหงๆ”
ยาหยียิ้มบางๆ ขณะเดินตามคนจูงมืออย่างเชอรี่เข้าไปในตึก
“ขึ้นไปรอนายน้อยบนห้องนอนนะคะ เพราะถ้ากลับมาแล้วพ่อเจ้าประคุณมาเห็นคุณตรงนี้มีหวังบ้านแตกตามออฟฟิศอีกแน่ๆ”
หญิงสาวไม่รู้จะพูดอะไรออกมาอีก ตลอดทางจึงค่อนข้างเงียบเชียบ เงียบเสียจนหล่อนได้ยินเสียงหัวใจตัวเองเต้นระรัวปะทะอกอย่างชัดเจนจนน่าตกใจ และกว่าจะสลัดความหวาดหวั่นออกไปได้ชั่วขณะก็เมื่อได้ยินเสียงเรียกเบาๆ ของแม่บ้านร่างท้วมนั่นแหละ
“ห้องนี่แหละค่ะ เข้าไปเลย”
ยาหยีเลิกคิ้วด้วยความแปลกในเมื่อสมองที่ยังไม่ถึงกับเลอะเลือนของตัวเองร้องบอกว่าห้องตรงหน้าไม่ใช่ห้องนอนใหญ่ของคอร์เนลนี่นา
“ห้องนี้หรือคะ? แต่ว่าห้องนี้มันไม่ใช่…”
เชอรี่รู้ว่ายาหยีกำลังจะพูดอะไรจึงรีบอธิบายขึ้น
“นายน้อยเปลี่ยนมานอนที่ห้องนี้ตั้งแต่วันที่คุณจากไปนั่นแหละค่ะ ถึงแม้เธอจะไม่ยอมบอกถึงสาเหตุว่าทำไมถึงต้องย้ายห้องนอนด้วย แต่ป้าก็พอจะทราบว่าเพราะอะไร”
“เพราะอะไรคะ”
ถามเสียงเบาหวิว หัวใจเต้นระรัว
“เพราะคุณยังไงล่ะคะ ห้องนอนเดิมคงจะมีแต่ภาพและเรื่องราวของคุณเต็มไปหมด นายน้อยก็เลยทนอยู่ไม่ได้ จึงต้องมานอนห้องนี้แหละค่ะ”
“แสดงว่านายน้อยของป้าเกลียดฉันมากสินะ” น้ำเสียงเศร้าสร้อยเสียจนเชอรี่ต้องรีบแก้ความเข้าใจผิดนั้นอย่างด่วนจี๋
“รักต่างหากล่ะคะ เอาเถอะค่ะ เข้าไปรอในนี้นะ อีกไม่นานคุณก็จะได้พิสูจน์แล้วล่ะว่านายน้อยรักหรือเกลียดคุณกันแน่”
แม่บ้านร่างท้วมรีบกุลีกุจอเปิดประตูห้องให้ จากนั้นก็ดันร่างอรชรของยาหยีให้ก้าวข้ามเข้าไปในห้องนั่น
“พวกเราเอาใจช่วยนะคะ และก็มั่นใจด้วยว่าคุณจะทำสำเร็จ นายน้อยก็ดีแต่ปากแข็งเท่านั้นแหละค่ะ แต่หัวใจคงจะอ่อนยวบตั้งแต่เห็นหน้าคุณแล้วล่ะ ขอให้โชคดีค่ะ”
เชอรี่พูดจบก็รีบปิดประตูห้อง ทิ้งยาหยีให้เดินตัวชาหนึบอยู่ภายในห้องนอนห้องใหม่ของคอร์เนลตามลำพัง
หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่เพื่อรวบรวมความกล้า ก่อนจะเดินไปหยุดที่หน้าเตียงนอนขนาดใหญ่พอๆ กับห้องเดิม สายตาหวานฉ่ำด้วยอิทธิพลของขนตายาวงอนสำรวจไปรอบๆ ห้องด้วยความสนใจ
ห้องนอนใหญ่ห้องนี้ถูกตกแต่งไม่ต่างจากห้องนอนเก่าของคอร์เนลนัก ทั้งสีสันที่เน้นโทนเข้มและเฟอร์นิเจอร์ที่ล้วนแต่ทำจากไม้ทั้งหมด จากภาพที่เห็นทำให้รู้ถึงตัวตนของเจ้าของห้องได้เป็นอย่างดี ลึกลับและอันตราย
ยาหยีระบายยิ้มบางๆ ออกมาเมื่อเดินมาทรุดนั่งลงบนเตียงขนาดใหญ่ ความนุ่มของมันทำให้แก้มสาวแดงระเรื่อออกมาเมื่อสมองจินตนาการภาพร้อนๆ ของตัวเองกับคอร์เนลที่กำลังจะเกิดขึ้นบนเตียงกว้างแห่งนี้
เลือดสาวในกายร้อนฉ่าเดือดพล่าน ความตื่นเต้นอย่างรุนแรงโจมตีเข้าใส่ช่องท้องด้วยความอำมหิต หญิงสาวพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะข่มความวาบหวิวรัญจวนให้มันอยู่แต่ในอก แต่มันก็ทำไม่สำเร็จเพราะร่างกายของหล่อนยังคงร้อนระอุและตั้งหน้าตั้งตารอคอยการครอบครองที่ดุดันของคอร์เนลจนปวดร้าวทรมาน
คอร์เนลก้าวลงจากรถและเดินเข้ามาในตึกด้วยใบหน้าที่บอกบุญไม่รับ วันนี้สมองของเขาพังพินาศย่อยยับเลยทีเดียว เมื่อมันไม่สามารถลบภาพของยาหยีกับไอ้ผู้ชายรูปหล่อคนนั้นไปได้
“ทำเป็นจับมือกันกะหนุงกะหนิงอย่างกับข้าวมันปลามัน ไม่อายฟ้าดินเลยหรือไง ทุเรศชะมัด!”
แม้จะแดกดันยาหยีด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา แต่มันก็ยังกระเด็นไปเข้าหูเซอร์เกที่เดินตามหลังมาติดๆ อยู่ดี
“นายน้อยว่าอะไรนะครับ กะหนุงกะหนิง? ไม่อายฟ้าดิน? ผมงงครับ”
“ไม่มีอะไรหรอก แล้วนายก็เลิกทำเป็นคนหูดีเกินมนุษย์มนาเสียที มันน่ารำคาญ!” คอร์เนลตะคอกใส่ ส่งกระเป๋าทำงานให้กับสาวใช้ก่อนจะก้าวยาวๆ ตรงไปยังสระว่ายน้ำ เชอรี่หันไปสบตาเซอร์เกด้วยความตกใจเพราะคอร์เนลไม่ได้เดินไปตามแผนที่พวกตนวางเอาไว้
“นายน้อยไม่ขึ้นไปพักผ่อนก่อนหรือครับ อาจจะอาบน้ำก็ได้”
คอร์เนลหยุดเดิน หันกลับมาจ้องมองคนสนิทด้วยสายตากระด้าง
“ฉันจะทำอะไรมันเกี่ยวกับนายตั้งแต่เมื่อไรกันเซอร์เก ไปให้พ้นๆ หน้าเลยไป”
ชายหนุ่มเอ็ดตะโรใส่หน้าเซอร์เกอย่างหัวเสีย ก่อนจะตะโกนสั่งเชอรี่ด้วยน้ำเสียงเดียวกัน
“เอาวอดก้าไปให้ฉันที่ขอบสระด้วย ห้ามเกินห้านาทีล่ะ”
“ค่ะนายน้อย” เชอรี่รีบก้มหน้ารับคำด้วยความเคารพสุดๆ เนื่องจากกลัวจะถูกพายุอารมณ์ของเจ้านายหนุ่มเข้าอีกคน และเมื่อลับหลังคอร์เนลแล้ว หล่อนจึงรีบหันไปพูดกับเซอร์เกที่มีสีหน้าไม่ต่างจากหล่อนนักด้วยความผิดหวัง
“ทำไมวันนี้นายน้อยเกิดอยากดื่มเหล้าขึ้นมานะ ทุกทีเห็นมาถึงบ้านก็หมกตัวอยู่แต่บนห้อง”
“เดี๋ยวเมาก็คงขึ้นไปนอนเองนั่นแหละ” เซอร์เกว่า
“ไอ้ที่กลัวก็กลัวตอนเมานี่แหละเซอร์เก เพราะยิ่งเมามากเท่าไร แม่หนูยาหยีของฉันก็คงจะเละมากขึ้นเท่านั้นน่ะสิ กลัวใจนายน้อยจริงๆ เลย”
ข้ารับใช้แสนจงรักภักดีทั้งสองคนต่างพากันถอนใจออกมาพร้อมๆ กันโดยมิได้นัดหมาย เซอร์เกเดินเลี่ยงออกไป ขณะที่เชอรี่รีบเข้าไปหยิบวอดก้าให้กับคอร์เนล เพราะหากเกินห้านาทีพ่อเจ้าประคุณต้องอาละวาดบ้านแตกแน่ๆ
MANGA DISCUSSION