เมียเก็บมาเฟีย ชุด เทพบุตรมาเฟีย - ตอนที่ 81
“เกิดอะไรขึ้นครับนายน้อย”
เซอร์เกเอ่ยถามด้วยความเป็นกังวลเมื่อได้ยินคอร์เนลสั่งให้คนขับรถเปลี่ยนเส้นทางออกไปยังเขตนอกเมืองกะทันหัน แล้วยังโทรศัพท์เมื่อครู่นี้อีก
“อาอังเดรจับยาหยีเอาไว้ แล้วบังคับให้ฉันนำเพชรสีทองของจริงไปแลกกับชีวิตของเธอ”
น้ำเสียงของคอร์เนลราบเรียบ แต่เซอร์เกรู้ดีว่านายน้อยของตัวเองกำลังรุ่มร้อนแค่ไหน ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าอังเดรจะเลวได้ถึงเพียงนี้
“พวกมันรู้แล้วหรือครับว่าเพชรสีทองเม็ดนั้นเป็นของปลอม”
คอร์เนลกัดฟันแน่น นัยน์ตาสีเขียวเข้มจัดด้วยความเดือดดาล พยายามบอกตัวเองว่าเขาไม่ควรจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้อีก ยาหยีจะตาย จะทรมานแค่ไหน มันก็ไม่เกี่ยวกับเขาอีกแล้ว ในเมื่อหล่อนเป็นฝ่ายทรยศต่อหัวใจของเขาเอง ทว่าแม้จะบอกกับตัวเช่นนั้น แต่ความเป็นจริงแล้วเขากลับทำไม่ได้…เขารักหล่อน ใช่…รักมากจนไม่สนใจว่าหล่อนจะทรยศยังไง จะเลวร้ายแค่ไหน
“อาอังเดรไม่ใช่คนโง่ แค่ครั้งเดียวก็เกินพอแล้วสำหรับการถูกหลอก ตอนนี้ยาหยีกำลังตกอยู่ในอันตราย”
“แล้วนายน้อยจะทำยังไงครับ”
“ฉันก็จะฆ่ามันน่ะสิ หากมันแตะต้องเมียของฉันแม้แต่ปลายก้อย!”
กรามแกร่งขบเข้าหากันแน่น สองมือกำเข้าหากันเป็นหมัด คอร์เนลต่อยมันลงกับเบาะข้างตัวแรงๆ ด้วยต้องการระบายอารมณ์ ไม่เคยรู้สึกว่ารถที่นั่งอยู่จะวิ่งช้าเป็นเต่าแบบนี้มาก่อนเลยในชีวิต
“เฮ้ย! อีวานขับให้มันเร็วกว่านี้หน่อยไม่ได้หรือไงวะ!”
“ผมเหยียบมิดไมล์แล้วครับนายน้อย”
อีวานตอบกลับมาเสียงสั่นเทา เซอร์เกเห็นท่าทางจะเป็นจะตายของคอร์เนลแล้วก็ถอนใจออกมาแรงๆ
“นายน้อยใจเย็นๆ ครับ ยังไงเราก็ถึงโกดังนั้นก่อนเที่ยงคืนแน่”
“แต่เมียฉันอยู่ในมือของพวกมันนะ มันอาจจะทำร้ายยาหยี ฉันทนไม่ได้ รอต่อไปแค่นาทีเดียวก็แทบจะขาดใจอยู่แล้ว”
คอร์เนลนั่งหงุดหงิดรุ่มร้อนอยู่ภายในห้องโดยสารทางตอนหลังของรถลีมูซีนคันงาม เวลาแต่ละนาทีมันช่างยาวนานชั่วกัปชั่วกัลป์เหลือเกิน ความหวาดกลัวต่อความสูญเสียทำให้ชายหนุ่มร้อนเป็นไฟราวกับอกแทบจะระเบิด
‘ลูกหยีรอผมก่อนนะ ผมกำลังไปช่วยคุณ ได้โปรดรอผมก่อน’
อังเดรก้าวลงจากรถแล้วก็ให้ลูกน้องสามสี่คนของตัวเองที่มาด้วยกันลากร่างที่อ่อนแรงของยาหยีเข้าไปในโกดังร้างเบื้องหน้า ความมืดมิดจากคืนเดือนดับยิ่งสร้างความพึงพอใจให้กับอังเดรมากขึ้นหลายเท่าตัวนัก
“โทรตามพวกเรามาอีกสักสิบยี่สิบคน”
“ครับนาย”
อังเดรแสยะยิ้มชั่วร้ายขณะเดินตามลูกน้องเข้าในโกดังร้างเบื้องหน้า
“วันนี้แกสิ้นชื่อแน่ไอ้คอร์เนล”
หัวเราะออกมาดังลั่น ขณะมองร่างของยาหยีที่ตอนนี้เริ่มดิ้นรนอีกแล้วด้วยความสะใจ
“เฮ้ย! แกะผ้าที่ปากมันออก”
เมื่อผ้าผืนใหญ่ที่พันธนาการริมฝีปากหลุดออกไป ยาหยีก็เริ่มอาละวาดอีกครั้ง
“ไอ้คนเลว ไอ้คนชั่วช้า ปล่อยฉันไปนะ ปล่อยสิ”
หญิงสาวพยายามดิ้นรนแต่ข้อมือที่ถูกมัดไพล่หลังเอาไว้มันทำให้ทางหนีรอดติดลบต่ำว่าศูนย์เสียอีก
“ปากดีไปเถอะ นี่ก็เกือบจะเที่ยงคืนอยู่แล้ว ถ้าผัวของแกมันมาไม่ทัน หรือไม่มาละก็ แกได้เพิ่มรายชื่อของไอ้พวกนี้ลงไปในบัญชีรายชื่อผัวแน่นังเด็กนรก”
ยาหยีปรายตามองลูกน้องสี่ห้าคนของอังเดรที่ยืนจ้องมองมาที่ร่างกายของหล่อนพร้อมกับเลียปากด้วยท่าทางหยาบคายอย่างหวาดกลัว ความขยะแขยงชิงชังพุ่งเข้าใส่ร่างกายจนแทบจะโก่งคออาเจียนออกมา ขณะร่นถอยหนีไปจนแผ่นหลังชนเข้ากับพาเลทไม้เก่าๆ
“พวกแกจะต้องไม่ได้ตายดีแน่ ไอ้คนชั่ว!”
“ถึงฉันจะตายไม่ดี แต่ก็ตายทีหลังแกกับผัวแน่ หุบปากซะแล้วจะไม่เจ็บตัวมากกว่าที่เป็นอยู่”
อังเดรเค้นเสียงดุกร้าวเตือน จนยาหยีต้องหุบปากสนิท แต่ไม่ใช่เพราะความกลัวตายหรอกนะ ทว่าหล่อนกำลังใช้สมองคิดหาทางรอดต่างหากล่ะ
หญิงสาวพยายามขยับมือที่ถูกมัดติดกันด้านหลังอย่างสุดความสามารถแต่มันก็แน่นเหลือเกิน ดิ้นเท่าไรก็ไม่หยุด มือบางควานสะเปะสะปะไปทั่วแล้วก็พบกันเจ้าวัตถุชิ้นเล็กๆ ชิ้นหนึ่ง นั่นก็คือเศษขวดที่แตกตกอยู่ด้านหลัง
“นายครับ มันมากันแล้ว”
เบรทรีบเข้ามารายงานทันทีเมื่อเห็นรถของคอร์เนลแล่นมาจอดที่หน้าโกดังร้าง อังเดรระบายยิ้มชั่วร้าย
“มันมากันกี่คน?”
“รถสองคันครับ น่าจะประมาณห้าหกคน”
คำพูดของลูกน้องเรียกเสียงหัวเราะลั่นจากลำคอของอังเดรได้เป็นอย่างดี คอร์เนลมีแค่ห้าหกคน ในขณะที่คนของเขากำลังจะมาสมทบอีกเป็นโขยง มันตายคามือของเขาแน่ อังเดรหัวเราะสะใจอยู่ในอก
“งั้นเราไปต้อนรับมันกันหน่อยดีกว่า”
ชายวัยกลางคนแสนชั่วร้ายพูดออกมา ก่อนจะหันมาสั่งลูกน้องร่างใหญ่โตสองคนให้ยืนเฝ้ายาหยีเอาไว้อย่าให้คลาดสายตา
“เฝ้ามันให้ดี เดี๋ยวฉันจะออกไปรับผัวของมัน”
เสียงหัวเราะของอังเดรช่างชั่วช้าเหลือเกินในความคิดของยาหยี หญิงสาวกำเศษขวดที่ทั้งคมทั้งแหลมแน่น พยายามอย่างที่สุดที่จะใช้มันตัดเชือกที่ข้อมือ แต่มันทำได้ลำบากนักเมื่อมือถูกพันธนาการไว้อย่างแน่นหนาจนขยับได้ยากยิ่ง เลือดออกเพราะถูกเศษขวดบาดเป็นแผล แต่ยาหยีก็ยังไม่หยุด หล่อนยังคงพยายามต่อไป หวังว่าตัวเองจะสามารถทำสำเร็จได้ในที่สุด
“คอร์เนล…”
“ลูกหยี…คุณเป็นอะไรหรือเปล่า”
คอร์เนลที่กำลังจะวิ่งเข้าไปหาร่างของภรรยาที่นั่งกองอยู่ข้างพาเลทไม้เก่าเก็บชะงักเมื่อถูกลูกน้องของอังเดรขวางทางเอาไว้ด้วยปืนเสียก่อน
“อย่าพึ่งสิ ส่งเพชรมาก่อน”
“แกทำร้ายเธอ ฉันจะฆ่าแกไอ้สารเลว!”
คอร์เนลตาลุกวาวเมื่อเห็นใบหน้าของยาหยีบอบช้ำอย่างรุนแรง ตั้งท่าจะเข้าไปทำร้ายอังเดรแต่ก็ถูกอาแท้ๆ ของตัวเองยกปืนขึ้นจ่อศีรษะเอาไว้เสียก่อน
“อย่าคิดสั้นๆ น่า แกสู้ฉันไม่ได้หรอก ในเมื่อแกมีแค่มือเปล่า ขณะที่ฉันมีปืน”
‘ก็ใช่สิ ในเมื่อไอ้อาสารเลวตรงหน้ามันปลดอาวุธที่เขากับลูกน้องนำติดกายมาจนหมดเกลี้ยง แถมยังจับลูกน้องของเขาทุกคนมัดไว้ที่หน้าโกดังอีก แต่ฝันไปเถอะว่าเขาจะยอมปล่อยให้มันรังแกเมียของตัวเองได้อีกแม้แต่ครั้งเดียว ฝันไปเถอะไอ้อังเดร!’
“ฉันจะฆ่าแก!”
“ส่งเพชรสีทองมา ก่อนที่ฉันจะให้แกได้ดูหนังสดระหว่างนังเด็กนี่กับลูกน้องของฉัน”
ไม่กล้าเสี่ยงเลยหากเรื่องนั้นมียาหยีเข้ามาเกี่ยวข้อง คอร์เนลขบกรามแน่นจนขึ้นสันนูน เนื้อข้างแก้มกระตุกเป็นริ้วด้วยโทสะแรงกล้า เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากทำตามความต้องการของไอ้อาระยำจอมโลภตรงหน้า
“ไม่นะคอร์เนล อย่าให้มัน…ฉันยอมตาย”
ร้องห้ามทั้งน้ำตา พยายามอ้อนวอนแต่คอร์เนลไม่ยอมฟังคำพูดของหล่อนเลยแม้แต่นิดเดียว หญิงสาวกัดปากจนเจ็บระบมขณะเร่งมือตัดเชือกที่พันธนาการอิสรภาพของตัวเองอย่างสุดความสามารถ ดวงตาพร่าพรางไปด้วยม่านน้ำตา แทบจะขาดใจตายเมื่อเห็นภาพที่คอร์เนลส่งกล่องเพชรสีทองให้กับไอ้คนชั่วช้าอังเดร
“คอร์เนล…ได้โปรด…อย่าให้มัน”
“คิดว่าผมจะทนเห็นคุณตายได้หรือไงลูกหยี ผมทนไม่ได้หรอกนะ”
คอร์เนลตวาดใส่หน้าหญิงสาวที่กำลังร่ำไห้จนตัวโยนด้วยความเกรี้ยวกราด
อังเดรยิ้มพึงพอใจขณะเปิดกล่องกำมะหยี่สีแดงแล้วพบกับเพชรสีทองที่เขามั่นใจว่ามันต้องเป็นของจริงตรงหน้า แสงของมันระยิบระยับฝ่าความมืดน่ามองเหลือเกิน
“แกได้เพชรไปแล้ว ปล่อยยาหยีไปซะ”
“คิดเหรอว่าฉันจะปล่อยให้พวกแกไปเสวยสุขกันอีก ฉันจะส่งพวกแกลงนรกทั้งคู่”
ในที่สุดอังเดรก็เปิดเผยความชั่วสุดขีดออกมา
“แกผิดคำพูดกับฉันอย่างนั้นเหรอ”
คอร์เนลกัดฟันแน่น จ้องมองอาแท้ๆ ของตัวเองด้วยความเกลียดชัง เขาพยายามสะบัดตัวออกจากพันธนาการของลูกน้องสองคนของอังเดรอย่างเต็มแรง และในที่สุดก็ทำสำเร็จ แต่เขายังไม่ทันได้เคลื่อนที่ไปไหน อังเดรก็เล็งมัจจุราชสีดำกลับมาที่ศีรษะของเขาอีกครั้งเสียก่อน
“ฉันจะส่งแกไปลงนรกพร้อมๆ กันทั้งสองคนนั้นแหละ”
“อย่านะ อย่าทำเขา…ไอ้คนชั่ว แน่จริงก็มาฆ่าฉันสิ มายิงฉันนี่”
ยาหยีร้องท้าทายความตายจากอังเดร เมื่อเห็นว่าคอร์เนลกำลังตกอยู่ในอันตราย อังเดรหัวเราะลั่น เลื่อนกระบอกปืนไปจ่อหัวของหญิงสาวแทน
“อย่าทำเธอนะ! ถ้าแกแตะต้องเธอ ฉันรับรองเลยว่าต่อให้เป็นผีก็จะไม่ยกโทษให้”
คอร์เนลตวาดลั่น ห่วงใยยาหยีสุดหัวใจ
“รักกันเหลือเกินนะ ฉันไม่เคยคิดเลยว่าผู้ชายที่ดูเผินๆ แล้วไม่มีหัวใจอย่างแกจะรักใครเป็นด้วย นี่คงต้องยินดีกับนังเด็กนี่แล้วสินะที่ได้รักแท้จากแก แต่เสียดายด้วยนะคงต้องไปรักกันต่อในนรกเสียแล้วล่ะ”
“อย่าทำเธอนะ อย่าทำ…คุณอาฆ่าผมเถอะ ได้โปรดอย่าทำยาหยีเลย”
อังเดรหัวเราะด้วยความสะใจ
“ในที่สุดฉันก็สามารถทำให้แกขอร้องฉันได้แล้วสินะ งั้นเข้ามากราบที่ตีนฉันหน่อยเป็นไงไอ้หลานชาย แล้วอ้อนวอนฉันให้ปล่อยเมียแกไป บางทีฉันอาจจะใจอ่อนยอมปล่อยนังเด็กนี่ไปก็ได้นะ”
“ไม่นะคอร์เนล อย่านะ อย่าทำแบบนี้ อย่าทำ…”