คอร์เนลเดินกลับไปกลับมาบนห้องนอนด้วยความหงุดหงิดงุ่นง่าน แม้จะมั่นใจว่ายาหยีไม่สามารถออกไปจากอาณาจักรของตัวเองได้แน่เพราะเขาได้โทรไปสั่งยามที่หน้ารั้วเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่นี่มันครึ่งชั่วโมงกว่าแล้วนะ ครึ่งชั่วโมงที่หล่อนวิ่งหายไปต่อหน้าต่อตา
‘ยาหยีเสียใจจริงๆ หรือที่เขาไม่ได้จดทะเบียนด้วยความรัก แต่ทำไมหล่อนถึงต้องเสียใจล่ะในเมื่อหล่อนก็ไม่เคยบอกว่ารักเขาออกมาสักคำ จะมีก็แค่ยามที่เขาและหล่อนอยู่บนเตียงด้วยกันเท่านั้นแหละที่หล่อนแสดงความรักใคร่ออกมา แต่เขาก็พอจะรู้ว่าที่ยาหยีแสดงออกมาเช่นนั้นก็เพราะว่าถูกเขาปลุกเร้าจนไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ มันแค่นั้นจริงๆ’
แม้จะพยายามบอกให้ตัวเองใจเย็นๆ แค่ไหน แต่คอร์เนลก็ไม่สามารถจะทนอยู่ในห้องนอนได้อีกต่อไป คนตัวโตก้าวยาวๆ ตรงไปที่ประตูห้อง กำลังจะเปิดมันออก แต่มันก็ถูกเปิดออกซะก่อนด้วยฝีมือของผู้หญิงที่เขากำลังคะนึงหาสุดใจ
“ลูกหยี…คุณหายไปไหนมา ผมตามหาซะทั่วบ้าน…”
ชายหนุ่มรวบร่างอรชรของภรรยาเข้ามากอดแน่น ใช้เท้าเตะประตูให้มันปิดลง จากนั้นก็รั้งสาวน้อยให้เดินตรงไปยังเตียงนอน เขาดึงยาหยีให้นั่งลงข้างๆ กาย พรมจูบซับน้ำตาให้อย่างอ่อนโยน ก่อนจะพูดออกมา
“ผม…ผมรู้ว่าคุณคงเสียใจมากกับคำพูดของผม”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะคอร์เนล ในเมื่อทุกสิ่งทุกอย่างมันคือความจริง”
ยาหยีพยายามจะยิ้มแต่ก็กลับร้องไห้จ้าออกมาซะนี่ และมันก็ทำให้ผู้ชายที่เคยใจแข็งที่สุดในโลกอย่างคอร์เนลใจอ่อนยวบลงในพริบตา กำแพงป้องกันหัวใจพังครืนลงมาจนไม่เหลือชิ้นดี
“อย่าร้องไห้…ลูกหยี ได้โปรดอย่าร้องไห้เพราะผม”
น้ำเสียงของคอร์เนลอัดแน่นไปด้วยความรู้สึกผิดจนยาหยีต้องช้อนตาขึ้นมองคู่สนทนาทั้งน้ำตา ใบหน้าหล่อเหลาที่เคยมีแต่ความอวดดีหยิ่งยโสแต้มแต่งอยู่ตลอดเวลากลับเต็มไปด้วยความอ่อนล้า
“คุณไม่ได้ทำให้ฉันร้องไห้หรอกค่ะคอร์เนล ไม่ใช่คุณ…” รสชาติในปากขมปร่า หัวใจปวดร้าวอย่างรุนแรง
“เห็นชัดๆ ว่าเป็นผม”
ยาหยีส่ายหน้ายืนยัน มองผู้ชายตรงหน้าด้วยความรักใคร่ไม่คิดจะปิดบังใดๆ อีกแล้ว หล่อนรักมากแม้เขาจะไม่เคยรักหล่อนเลยก็ตาม
“เป็นเพราะฉันต่างหาก ฉันเองที่ผิดทุกอย่าง หากฉันไม่รักคุณ ฉันก็จะไม่ร้องไห้แบบนี้”
“คุณรักผมอย่างนั้นหรือ?”
น้ำเสียงของคอร์เนลเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ
ยาหยีพยักหน้ารับทั้งน้ำตา รู้ดีว่าการพูดแบบนี้ออกไปจะทำให้เขาเกลียดขี้หน้าหล่อนมากขึ้น แต่หล่อนไม่มีทางเลือก หล่อนรักเขา รักจนไม่สามารถจะเก็บมันเอาไว้ในอกได้อีกแล้ว
“ฉันพยายามห้ามตัวเองแล้ว พยายามห้ามใจแล้ว แต่ฉัน…ฉันทำไม่สำเร็จ คุณทำให้ฉันหลงหัวปักหัวปำ และฉันไม่โกรธคุณหรอกนะคะ หากเราจะหย่ากันในวันนี้”
นัยน์ตาสีเขียวดุจมรกตเนื้อดีจ้องมองดวงหน้านวลของหญิงสาวที่พึ่งจะสารภาพรักต่อตัวเองนิ่งนาน มองสำรวจจนแน่ใจว่าตัวเองไม่ได้ฝัน จึงพูดออกมาด้วยน้ำเสียงนุ่มทุ้มอ่อนโยนจนคนฟังอย่างยาหยีอดแปลกใจไม่ได้
“ใครว่าผมจะหย่ากับคุณล่ะลูกหยี”
“ทำไมล่ะ ในเมื่อคุณก็ได้เพชรสีทองคืนมาแล้ว”
คอร์เนลถอนใจออกมาเบาๆ ยกร่างอรชรขึ้นมานั่งซ้อนตักเอาไว้ ก่อนจะก้มลงจูบปากอิ่มด้วยความรักใคร่ไม่บิดบัง แน่นอน…เขาไม่จำเป็นต้องเก็บกักเจ้าความพึงพอใจที่ตอนนี้มันเปลี่ยนแปลงเป็นคำว่ารักสุดใจเอาไว้อีกแล้ว ในเมื่อยาหยีก็รักเขาเช่นกัน
“อาจจะใช่ที่ผมไม่มีทางเลือกเรื่องที่เราจดทะเบียนสมรสกัน แต่ไม่ช้าก็เร็วผมก็จะต้องจดทะเบียนสมรสกับคุณอยู่ดีลูกหยี ในเมื่อคุณ…”
“เพราะฉันอาจจะท้องใช่ไหมคะ”
คอร์เนลส่ายหน้าน้อยๆ รวบรวมแรงกายแรงใจกัดฟันสารภาพในสิ่งที่ตัวเองไม่คุ้นเคยออกไป มันน่าละอาย มันน่าขายหน้า แต่เขาไม่มีทางเลือก หากต้องการยาหยีในชีวิต เขาก็ต้องทำ
“ไม่ใช่หรอกทูนหัว เพราะผมไม่อาจจะอยู่คนเดียวได้โดยไม่มีคุณข้างกายต่างหากล่ะ ผมรักคุณนะยาหยี” ในที่สุดคอร์เนลก็สามารถพูดในสิ่งที่ยากที่สุดออกมาจนได้
“รักฉัน?”
เหมือนถูกดูดด้วยไฟฟ้าสักหมื่นโวลต์ เหลือเชื่อ ไม่เชื่อ ไม่มีทางเป็นไปได้หรอก คอร์เนลนี่นะจะรักหล่อน ในเมื่อตลอดเวลาที่ผ่านมาหล่อนมีค่าแค่นางบำเรอสำหรับเขาเท่านั้นเอง
“แต่คุณทำเหมือนว่าหลงใหลเซ็กส์จากฉันเท่านั้น”
แม้กระทั่งตอนนี้หล่อนก็ยังไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคอร์เนลจะรักหล่อนจริงๆ
“ผมเองก็ไม่รู้ตัวจนกระทั่ง…รู้ว่าจะเสียคุณไป”
“คอร์เนล…”
สาวน้อยยื่นหน้าขึ้นจูบปากของคนตัวโตที่โอบกระชับร่างของหล่อนอยู่ด้วยความรักสุดใจ น้ำตาไหลพรากลงมาอาบแก้ม ยิ่งรู้ว่าเขามีใจให้แบบนี้ ความรู้สึกผิดก็ยิ่งถล่มยับอยู่ในอก หล่อนจะต้องทรยศคนที่รักหล่อนอย่างนั้นหรือ
“ทูนหัว…อย่าร้องไห้นะ ผมรักคุณจริงๆ รักจนต้องตามล่าตัวให้คุณมาอยู่ข้างๆ แม้จะรู้ว่าคุณอาจจะทรยศผมในสักวันหนึ่ง แต่ผมขาดคุณไม่ได้ และที่ผมพาคุณมาที่มอสโกก็เพราะรัก ไม่ใช่เพราะกลัวคุณท้องอย่างที่พยายามพร่ำบอกหรอกนะ”
“คอร์เนล ฉันรักคุณ…รักคุณเหลือเกิน…”
หญิงสาวรัดร่างกำยำเอาไว้แน่น อยากจะอยู่ในอ้อมแขนอบอุ่นนี้ไปชั่วชีวิต แต่ก็รู้ดีว่าไม่มีทางเป็นไปได้ ในเมื่ออีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้านี้หล่อนจะต้องทำในเรื่องที่คอร์เนลไม่สามารถจะให้อภัยได้ และแน่นอนว่าคอร์เนลจะต้องเกลียดหล่อนไปตลอดชีวิต
“ผมอ้างเรื่องลูกก็เพราะต้องการให้คุณอยู่ข้างกายตลอดเวลา และถ้าหากคุณจำได้ ทุกครั้งที่เราร่วมรักกัน ผมจะไม่เคยป้องกันเลยแม้แต่ครั้งเดียว ทั้งๆ ที่ผมเคยให้ความสำคัญกับพวกเรื่องนี้เป็นอย่างมาก และไม่เคยหลงลืมเลยแม้แต่ครั้งเดียว”
“ค่ะ ฉันรู้ ปากคุณบอกว่ากลัวฉันท้อง แต่ทุกครั้งที่คุณนอนกับฉัน คุณก็ยังทำเหมือนเดิม นั่นก็คือไม่ป้องกันเลย”
“เพราะผมอยากมีลูกกับคุณยังไงล่ะลูกหยี”
ความรักฉายออกมาจากทางใบหน้าและแววตา หญิงสาวจูบเขาอีกครั้งทั้งๆ ที่ตัวเองยังสะอื้นไห้ไม่หยุด จูบราวกับกำลังจะขอโทษในบางสิ่งบางอย่างที่ตัวเองกำลังจะกระทำ
“ฉันรักคุณ…คอร์เนล…”
คอร์เนลยิ้มกว้าง มองภรรยาด้วยความรักใคร่ หัวใจหนุ่มเบิกบานและอิ่มเอมเมื่อต่อไปนี้ตนเองจะสามารถแสดงความรู้สึกที่มีต่อยาหยีได้อย่างเต็มที่ ไม่ต้องหลบๆ ซ่อนๆ แสดงมันออกมาเฉพาะตอนที่อยู่บนเตียงอีกแล้ว
“รักผมตั้งแต่ตอนไหนหรือทูนหัว”
คนตัวโตดันร่างบอบบางของภรรยาให้นอนลงบนเตียงอย่างนุ่มนวล เขายิ้มกว้าง ดวงตาอัดแน่นไปด้วยแรงสิเน่หาขณะตามทาบทับลงไป ดวงตาของทั้งคู่ประสานกันนิ่ง
“ถ้าฉันบอกไปอย่าหัวเราะนะคะ”
ยาหยีว่าพลางแก้มแดงระเรื่อ
“ตกลงทูนหัว ไหนบอกมาสิว่ารักผมตั้งแต่เมื่อไร” คนพูดยิ้มร่าอย่างอารมณ์ดี
หญิงสาวเสหลบตา ขณะใช้มือปลดกระดุมเสื้อราคาแพงของสามีแก้เขิน
“ตั้งแต่แรกเห็นนั่นแหละค่ะ”
“ครั้งแรกที่เจอกันเลยหรือ?”
ยาหยีพยักหน้ารับอย่างอายๆ
“ฉันไม่เคยให้ความสนใจต่อเพศตรงข้ามมาก่อน จนกระทั่งเจอคุณ หัวใจของฉันเต้นแรงมาก และผู้คนรอบๆ ตัวคุณก็กลายเป็นต้นไม้ไปหมดเลย”
“นั่นผมพอจะรู้ ไม่อย่างนั้นผมคงไม่ใช่คนแรกของคุณหรอกลูกหยี”
ชายหนุ่มสนับสนุนความคิด ก่อนจะก้มลงดูดปากอิ่มหนักๆ อย่างอดใจไม่ไหว
“คุณทำให้ฉันแทบจะหยุดหายใจ และทำให้ฉันคิดถึงตลอดเวลา ขนาดเรียนหนังสือยังเห็นหน้าอาจารย์เป็นหน้าคุณเลย มันน่าอาย แต่มันเป็นเรื่องจริงค่ะ”
“นี่ผมเสน่ห์แรงขนาดนั้นเชียวหรือ ไม่น่าเชื่อ”
มือบางฟาดเบาๆ บนแผงอกกว้างที่เป็นหล่อนเองนั่นแหละที่ถอดเสื้อเขาออกไปจากตัว
“ทำเป็นไขสือ ฉันเห็นคุณไปที่ไหนก็มีแต่ผู้หญิงมองตาเป็นมัน หากทำได้แม่ผู้หญิงพวกนั้นคงเข้ามาลากฉันออกไปฆ่าทิ้งแล้วล่ะ”
คอร์เนลหัวเราะร่วนกับคำพูดของภรรยาสาวแสนสวย
“แล้วรู้ไหมว่าผมรักคุณตอนไหน”
ยาหยีส่ายหน้าน้อยๆ แก้มแดงระเรื่อ ไล้ฝ่ามือไปทั่วทั้งอกกว้างที่รกรุงรังไปด้วยเส้นขนหยิกหยอยอย่างซุกซน
“บอกมาสิคะ”
MANGA DISCUSSION