เมียเก็บมาเฟีย ชุด เทพบุตรมาเฟีย - ตอนที่ 75
“ผมไม่คิดว่าคุณอาจะคิดถึงผมบ่อยขนาดนี้”
คอร์เนลเอ่ยทักทายด้วยน้ำเสียงเย็นชาทันทีที่ตัวเองก้าวเข้ามาภายในห้องรับแขก ร่างของอังเดรที่กำลังเดินกลับไปกลับมาราวกับเสือติดจั่นหันมาจ้องหน้าเขาเขม็ง
“อย่ามาทำเป็นไขสือ แกรู้ดีว่าฉันมาทำไม”
คอร์เนลหัวเราะเบาๆ ขณะเดินไปทรุดตัวนั่งไขว่ห้างบนโซฟาตัวใหญ่อย่างสบายอารมณ์ อังเดรกัดฟันข่มความเดือดดาลเอาไว้ในอก ตอนนี้ไม่มีอะไรต้องปิดบังอีกแล้ว
“เรื่องเพชรสีทองหรือครับ”
“ก็ใช่น่ะสิ แกมันเจ้าเล่ห์นักนะคอร์เนล!”
เจ้าของชื่อหัวเราะเสียงดัง กวาดสายตาเย็นชาใส่ผู้เป็นอาของตัวเองเขม็ง
“แต่ผมก็ไม่ใช่คนขี้ขโมยหรอกนะครับคุณอา”
“นี่แกกำลังว่าใคร ไอ้คอร์น!”
อังเดรผรุสวาทคำหยาบคายออกมา
คอร์เนลเหยียดยิ้มหยันขณะลุกขึ้นยืนจากโซฟาและเดินเข้าไปเผชิญหน้ากับอาของตัวเองในระยะกระชั้นชิด ความสูงที่แตกต่างกันทำให้อังเดรใจสั่นขึ้นมาโดยอัตโนมัติ
“พ่อยังไม่เคยเรียกผมแบบนี้เลย คุณอาก็แค่คนนอกของซีร์ยานอฟ อย่ามาทำให้ผมทนไม่ไหวดีกว่า เพราะคุณอาก็รู้นี่ครับว่าผมสามารถทำอะไรกับคุณอาได้บ้าง”
“นี่แกขู่ฉันอย่างนั้นหรือ!”
“ผมไม่ฆ่าคุณอาเรื่องที่บงการให้คนมาขโมยเพชรของผมไปก็ถือว่าปรานีแล้วล่ะครับ ไปซะ อย่าให้ผมต้องใช้มาตการรุนแรงกับคุณอาเลยดีกว่า เพราะถึงยังไงคุณอาก็เป็นน้องชายของพ่อ”
อังเดรจนมุมหน้าซีด แต่ก็ยังไม่คิดจะยอมแพ้ เพราะการที่เขามาหาคอร์เนลในวันนี้ไม่ได้มาฟังไอ้หลานชายอวดดีเทศนา แต่เป็นการทวงเพชรสีทองคืนต่างหากล่ะ
“อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะว่าแกใช้วิธีอะไรเพื่อให้ได้เพชรสีทองนั่นคืนมา”
เมื่อเห็นยาหยียืนนิ่งอยู่ที่ปากประตูห้องรับแขก ชายวัยกลางคนจึงเริ่มแผนการร้าย ในขณะที่คอร์เนลยืนหันหลังให้ประตูจึงไม่รู้ถึงการมาเยือนของภรรยาเลยแม้แต่นิดเดียว
“มันเป็นเรื่องส่วนตัวของผม”
“แกคงใช้ทะเบียนสมรสระหว่างแกกับเด็กยาหยีต่อรองกับไอ้ยอดชายใช่ไหมล่ะ มันถึงได้ยอมทรยศฉันแล้วนำเพชรสีทองของจริงไปมอบให้แก”
“ผมบอกแล้วไงว่ามันคือเรื่องส่วนตัว”
เมื่อเห็นคอร์เนลไม่ยอมเล่นตามแผน อังเดรจึงจำเป็นต้องเป็นฝ่ายเดินเกมเสียเอง
“นี่แกกำลังจะทำให้ฉันคิดว่าที่แกจดทะเบียนสมรสกับเด็กยาหยีก็เพราะว่าแกรักหล่อนเข้าแล้วจริงๆ งั้นสิ”
ภายในห้องรับแขกเงียบกริบลงอย่างน่าตกใจ ยาหยีกำลังรอฟังคำตอบจากปากของคอร์เนลอย่างใจจดใจจ่อ ภาวนาให้เขาตอบว่าใช่จริงๆ เถอะ หัวใจสาวเต้นระรัวแรง ความหวังเบ่งบานอยู่ภายในอก อยากให้คนตัวโตทำทุกอย่างลงไปเพราะความรักเหลือเกิน แต่แล้วก็ต้องยืนน้ำตาท่วมหน้าเมื่อได้ยินคำตอบที่หลุดออกมาจากปากของคอร์เนล
“ที่ผมจดทะเบียนกับยาหยีก็เพราะผมไม่มีทางเลือก”
“จดทะเบียนสมรสเพื่อแลกกับเพชรสีทองใช่ไหม”
อังเดรพยายามต้อนหลานชายของตัวเอง ยิ่งเห็นชายหนุ่มกำลังหงุดหงิดงุ่นง่านแบบนี้ก็ยิ่งสะใจ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเด็กยาหยีจะมีอิทธิพลต่อคอร์เนลถึงเพียงนี้ แค่ได้ยินชื่อของหล่อน ไอ้หลานชายตัวดีก็มีท่าทางไปไม่เป็นซะแล้ว
“หากคำตอบของผมมันจะทำให้คุณอากลับไปได้ ใช่…ผมจดทะเบียนกับยาหยีก็เพื่อแลกกับการได้เพชรสีทองคืนมา พอใจแล้วใช่ไหมครับ งั้นก็ไสหัวไปซะ แล้วอย่ากลับมาให้ผมเห็นหน้าอีก เพราะไม่อย่างนั้นผมจะลากคอคุณอาเข้าคุกด้วยมือของผมเอง!”
คอร์เนลตวาดใส่อังเดรเสียงดังลั่น ใบหน้าหล่อเหลาแดงก่ำด้วยโทสะแรงกล้า เกลียดตัวเองนักที่ปล่อยให้ยาหยีเข้ามามีอิทธิพลเหนือสมองและร่างกายของตัวเอง แค่ได้ยินชื่อของหล่อน ผู้ชายที่เคยแข็งแกร่งยิ่งกว่าภูผาเช่นเขาก็อ่อนเปลี้ยจนแทบล้มทั้งยืนแล้ว ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าผู้หญิงต่ำๆ อย่างยาหยีจะทำให้เขาอ่อนแอได้ถึงเพียงนี้
และแทนที่อังเดรซึ่งได้ยินประโยคขับไล่ออกจากของหลานชายจะรู้สึกเกรี้ยวกราด กลับหัวเราะร่วนด้วยความยินดี
“ฉันพอใจแน่ๆ อยู่แล้ว แต่เห็นทีเด็กยาหยีจะไม่พอใจหรอกมั้ง”
“ยาหยี…”
คอร์เนลหัวใจชาหนึบ รีบหมุนขวับไปมองที่หน้าประตูห้องแล้วก็ทันได้เห็นร่างของยาหยีวิ่งร้องไห้หายไปต่อหน้าต่อตา ชายหนุ่มกำลังจะวิ่งตามไปแต่คำพูดหยามหยันของอังเดรก็หยุดเท้าของเขาเอาไว้เสียก่อน
“ถ้าไม่รักไม่สนใจ ก็คงไม่จะคิดตามไปใช่ไหม”
ศักดิ์ศรีทำให้คอร์เนลเลือกที่จะเดินกลับมานั่งบนโซฟาเช่นเดิม ทั้งๆ ที่ภายในอกรุ่มร้อนดั่งถูกไฟโลกันตร์แผดเผา
“แกคงจะถูกบังคับให้จดทะเบียนจริงๆ นั่นแหละ”
อังเดรทิ้งท้ายด้วยน้ำเสียงสะอกสะใจ ก่อนจะเดินหายไปจากห้องรับแขกที่มีคอร์เนลนั่งหน้าแดงก่ำด้วยโทสะทันที อังเดรมุ่งหน้าเดินตามยาหยีมาและก็มาทันที่ลานจอดรถ
“จะรีบไปไหนล่ะยาหยี”
หญิงสาวไม่ตอบ สองเท้ากำลังจะเดินหนีแต่ก็ถูกอังเดรขวางหน้าเอาไว้ซะก่อน ยาหยียกมือขึ้นป้ายน้ำตาแห่งความเจ็บปวดทิ้ง ก่อนจะเอ่ยออกไปด้วยน้ำเสียงเจือสะอื้น
“อย่ามาวุ่นวายกับฉันอีก”
อังเดรไหวไหล่ หัวเราะลั่น
“ได้ยินชัดเต็มสองหูแล้วสินะ ไอ้คอร์นมันไม่มีทางรักผู้หญิงแบบเธอได้หรอก ขนาดผู้หญิงชาติตระกูลดีๆ เป็นถึงเชื้อพระวงศ์ มันยังไม่แยแสเลย แล้วนับประสาอะไรกับคนต่ำๆ แบบเธอ”
ยาหยีกัดปากแน่น หัวใจแตกสลายไม่มีชิ้นดี เพราะอย่างนี้นี่เองคอร์เนลถึงไม่ยอมบอกว่าสาเหตุที่เขาจดทะเบียนกับหล่อน ทั้งๆ ที่ถูกหล่อนถามไม่รู้กี่ครั้ง
“ไอ้คอร์นมันทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เพชรสีทองของมันกลับคืนมา เธอมันก็แค่ขยะที่มันไม่สามารถขจัดออกไปจากตัวได้ก็แค่นั้นเอง…ร่วมมือกับฉันเถอะ แก้แค้นไอ้คอร์น”
“ไม่! ต่อให้เขาฆ่าฉันให้ตาย ฉันก็ไม่ยอมทรยศต่อเขาเด็ดขาด”
แม้จะเจ็บช้ำจากการกระทำของคอร์เนลมากมายแค่ไหน แต่หล่อนก็ไม่สามารถที่จะทรยศต่อผู้ชายที่เป็นเจ้าของดวงใจของตัวเองคนนี้ได้ หล่อนรักเขา ถึงแม้ว่าเขาจะไม่เหลียวแลเลยก็ตาม
“มันร้ายกับเธอขนาดนี้ ยังจะรักมันอีกหรือยาหยี”
“ฉันรักเขาโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน และทนมองเขาเจ็บปวดไม่ได้”
“เธอช่างเป็นคนดีเหลือเกิน เสียดายนะที่ไอ้คอร์นมันมองไม่เห็นค่าของเธอเลย แต่เอาเถอะ…ฉันไม่บังคับให้เธอเกลียดมันหรอก”
อังเดรหัวเราะเสียงเหยียดหยาม ขณะเปิดประตูของตัวเองหยิบซองสีน้ำตาลขนาดครึ่งเอสี่ออกมาส่งให้กับหญิงสาว
“เอาไปดูสิ แล้วเธอจะต้องเปลี่ยนใจ”
ความอยากรู้อยากเห็นทำให้ยาหยีคว้าซองเอกสารขนาดเล็กมาเปิดออก รูปถ่ายจำนวนห้าใบอยู่ในนั้น หญิงสาวหน้าซีดเผือดเมื่อได้มองภาพถ่ายเต็มๆ ตา
“พ่อ!”
สภาพของบิดาโชกเลือด ใบหน้าบอบช้ำเพราะถูกซ้อมอย่างหนัก ยาหยีกัดฟันแน่น เงยหน้าขึ้นมองอังเดรด้วยความเจ็บแค้น
“คนเลว คุณทำพ่อฉันทำไม ทำท่านทำไม!”
อังเดรหัวเราะด้วยความสะใจ
“ก็เพราะมันทำให้ฉันเสียเพชรสีทองไปน่ะสิ มันสมควรโดนมากกว่านี้อีก และหากเธอไม่อยากให้มันหยุดหายใจละก็ ไปเอาเพชรสีทองมาคืนฉันให้ได้”
ยาหยีส่ายหน้าทั้งน้ำตา
“อย่าทำแบบนี้ อย่าบังคับฉัน…ให้ฉันทำอย่างอื่นเถอะ อย่าให้ฉันต้องทรยศต่อคอร์เนลเลย”
“เธอไม่มีทางเลือกหรอกยาหยี พ่อกับผัว เลือกเอาแล้วกันว่าเธอจะเลือกใคร หากเลือกไอ้คอร์น พ่อของเธอก็จะต้องตาย แต่หากเธอเลือกพ่อบังเกิดเกล้า ไอ้คอร์นก็ไม่ได้เจ็บปวดตรงไหนนี่ มันก็แค่ไม่มีเพชรสีทองเท่านั้นเอง”
“แต่ฉันทำไม่ได้…”
“ถ้าทำไม่ได้ก็รอรับหัวของไอ้ยอดชายก็แล้วกัน เออ…หัวมันตายง่ายเกินไป งั้นเอาเป็นแขนเป็นขาก่อนแล้วกัน มันจะได้ทรมานที่สุดในชีวิต”
อังเดรทิ้งระเบิดที่จุดชนวนแล้วใส่มือของยาหยี
“ไม่นะ อย่าทำร้ายท่าน ได้โปรดอย่าทำอะไรพ่อของฉันเลย”
“มันขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเธอต่างหากล่ะยาหยี ถ้าร่วมมือกับฉัน ไอ้ยอดชายก็จะอยู่บนโลกอันแสนศิวิไลซ์นี้ได้อีกนาน แต่หากเธอปฏิเสธ…”
เสียงหัวเราะที่ราวกับมาจากขุมนรกทำให้แก้วหูของหล่อนสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
“มันได้ไปเยี่ยมยมบาลแน่!”
แม้จะไม่อยากทรยศต่อคอร์เนลมากแค่ไหน แต่การอยู่รอดของบิดามันสำคัญยิ่งกว่า หล่อนทนยืนมองท่านถูกทำร้ายตายไปต่อหน้าไม่ได้ ไม่มีทางยอมได้!
“ฉันรับปาก…ฉันจะร่วมมือกับคุณ”
อังเดรระบายยิ้มพึงพอใจ ก่อนจะนำแผนที่บ้านของตนเองที่พกติดตัวมาด้วยยัดใส่มือของเด็กสาวที่ยืนหน้าซีดตัวสั่นอยู่ตรงหน้า
“ฉันมองไม่ผิดจริงๆ เธอเป็นคนดีมาก รักพ่อมากกว่ารักผัว”
“แล้วฉันจะรู้ได้ยังไงว่าคุณจะไม่ฆ่าพ่อของฉัน”
“เธอไม่มีทางเลือกอื่นหรอกยาหยี ถ้าเธอนำเพชรสีทองของแท้มาให้ฉันเร็วเท่าไร ไอ้ยอดชายก็จะพ้นจากความทุกข์ทรมานเร็วเท่านั้น อ๊ะๆ อย่าคิดตุกติกล่ะเพราะฉันจะไม่ใจดีมายื่นข้อเสนอใดๆ กับเธออีกแล้ว”
และผู้ชายที่ร้ายกาจยิ่งกว่างูพิษก็ก้าวขึ้นไปนั่งบนรถ ก่อนจะขับมันออกไปอย่างรวดเร็ว ยาหยีมองตามไปด้วยความเจ็บปวด สมองมึนงงสับสนอย่างรุนแรง หัวใจถูกบีบคั้นจนเลือดทะลักเมื่อจำต้องทรยศต่อผู้ชายที่ตัวเองรักหมดใจแม้เขาจะไม่มอบความรักตอบกลับมาเลยก็ตาม
“ฉันไม่อยากทำร้ายคุณ คอร์เนล…แต่ฉันไม่มีทางเลือก” จากที่เคยคิดจะหนีไปให้ไกลสุดขอบฟ้า ก็จำต้องมุ่งหน้ากลับเข้าไปในคฤหาสน์ซีร์ยานอฟอีกครั้ง ทุกย่างก้าวที่ย่ำลงไปบนพื้นนั้นช่างไม่แตกต่างจากการเหยียบลงไปบนเข็มแหลมเลยแม้แต่นิดเดียว