เมียเก็บมาเฟีย ชุด เทพบุตรมาเฟีย - ตอนที่ 7
หญิงสาวหมดทางเลือก จำต้องก้าวเข้าไปภายในห้องทำงานใหญ่โตของมัจจุราชผู้หล่อเหลาคนนั้น ประตูถูกปิดลงอีกครั้ง และคราวนี้หล่อนก็ได้เผชิญหน้ากับผู้ชายตาดุตามลำพังอีกครา
“นั่งก่อนสิ”
คนตัวโตที่ยืนมองออกไปนอกหน้าต่างเอ่ยขึ้นเสียงเรียบๆ แต่กระนั้นมันก็สามารถทำให้กายสาวไร้เรี่ยวแรงได้อย่างน่าใจหาย จนหล่อนต้องรีบเดินไปทิ้งตัวลงบนโซฟานุ่มราคาแพงระยับตามคำเชื้อเชิญของพ่อคนตาดุอย่างไม่มีทางเลือก
“ฉันอยากรู้ว่าคุณทำอะไรพ่อของฉัน”
เมื่อสามารถหายใจได้ปกติแล้ว ยาหยีก็เริ่มต้นเจรจาทันทีโดยไม่คิดจะรอเวลาใดๆ อีก และก็รู้ว่าตัวเองพลาดไปถนัดตาเมื่อเขาหันกลับมาหาประสานสายตาด้วยตรงๆ
พลันนั้นโลกทั้งใบของหล่อนก็หยุดหมุน ลมหายใจติดแหง็กอยู่แค่ลำคอ กายสาวร้อนผ่าวราวกับถูกสายฟ้าฟาดเข้าใส่ หัวใจเต้นแรงราวกับเพิ่งเลิกจากการวิ่งมาราธอนมา รู้สึกได้ถึงแรงดึงดูดทางเพศที่มีต่อกันชัดเจนเต็มหัวใจ เขาหล่อ หล่อจนคนมองอย่างหล่อนแทบลืมหายใจ
“ใจเย็นสิสาวน้อย”
เขาเคลื่อนกายเข้ามาหยุดยืนค้ำศีรษะอยู่เบื้องหน้า แสงไฟจากโคมไฟระย้าบนเพดานห้องที่ส่องกระทบลงมานั้นยิ่งเพิ่มเสน่ห์ให้กับเขาได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจ
‘เขานี่แหละคือเทพบุตรในฝันของสาวๆ ตัวจริง’
สาวน้อยคิดอย่างวิงเวียน ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าตัวเองจะมีความรู้สึกโหยหาต่อผู้ชายตรงหน้ารุนแรงถึงเพียงนี้ ยาหยีพยายามข่มความคิดน่าละอายใจเอาไว้ในอก ก่อนจะแข็งใจเงยหน้าขึ้นสบตากับเขาอีกครั้ง
“เชิญพูดธุระของคุณมา ฉันต้องรีบกลับหอ”
คอร์เนลหัวเราะหึๆ ในลำคอคล้ายกับกำลังถูกใจอะไรสักอย่าง ขณะทรุดตัวลงนั่งบนโซฟาตัวตรงหน้าของหญิงสาว สายตาคมกริบมองสำรวจร่างอรชรในชุดนักศึกษาสีขาวสะอาดด้วยความพึงพอใจแบบบุรุษเพศแท้ๆ
“จะรีบกลับไปทำไมล่ะ ไม่ห่วงพ่อของตัวเองแล้วหรือ”
แน่นอนคำพูดนี้ของเขาช่วยหยุดทุกความระแวดระวังในใจของยาหยีได้ทั้งหมด ดูสิ ยามเจ้าหล่อนทำหน้าตาตื่นตกใจแบบนี้ก็ยิ่งดูสวยงามไปอีกแบบ
‘น่ารักน่ามอง แล้วก็น่า…’
คอร์เนลหยุดความคิดนั้นเอาไว้เพียงแค่ในใจ กัดฟันข่มเจ้าความปรารถนาจะกระชากร่างอรชรนั้นเข้ามาฟัดให้หายคลั่งเอาไว้สุดความสามารถ แปลกใจเหลือเกินที่ตัวเองเกิดความรู้สึกหิวกระหายขึ้นมารุนแรงถึงเพียงนี้ ตั้งแต่แรกเห็นเจ้าหล่อนที่หน้าหอพักนักศึกษาเมื่อเช้านี้แล้ว
ชายหนุ่มกัดฟันข่มเจ้าความรู้สึกระยำนั้นเอาไว้เต็มที่ เขาไม่มีทางจะตกบ่วงสวาทของผู้หญิงคนไหนหรอก และยิ่งเป็นลูกสาวของไอ้คนทรยศอย่างแม่สาวตรงหน้าด้วยแล้ว ยิ่งไม่มีทางเป็นไปได้ เขาคงแค่อยากจะเปลี่ยนรสชาติบนเตียงจากสาวยุโรปมาเป็นสาวเอเชียกระมัง
“พ่อของฉันล่ะ คุณคงไม่ได้ทำอะไรท่านใช่ไหม”
“ถ้าคุณขัดใจ ก็ไม่แน่”
ทั้งๆ ที่ตอนแรกตั้งใจจะใช้ผู้หญิงคนนี้ล่อให้ไอ้คนทรยศมันมาติดกับเท่านั้น แต่ทำไมเขาถึงอยากได้เจ้าหล่อนบนเตียงนอนด้วยล่ะ
“คุณหมายความว่ายังไงคะ”
‘หล่อนไม่ชอบเสียงหัวเราะที่แฝงไปด้วยความเหี้ยมโหดแบบนี้ของผู้ชายตรงหน้าเลย’ ยาหยีคิดด้วยความหวาดหวั่น มองหนุ่มหล่อตรงหน้าด้วยความหวาดระแวง
คอร์เนลขยับตัวพิงกับพนักโซฟา ยกขากำยำขึ้นตวัดไขว้ทับกับขาอีกข้างด้วยท่าสบายๆ หญิงสาวเม้มปากแน่นขณะที่สายตามองตามลำขาเพรียวที่ซ่อนอยู่ภายใต้กางเกงขายาวสีดำเนื้อดีด้วยท่าทางชื่นชมจนปิดไม่มิด
เขาดูดีไปทั้งเนื้อทั้งตัว และทุกอิริยาบถ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเสื้อผ้าจะทำให้คนๆ หนึ่งดูสมบูรณ์แบบได้มากถึงเพียงนี้ แต่ผู้ชายคนนี้จำเป็นต้องพึ่งเสื้อผ้าเหรอ ความหล่อเหลาของเขาสะท้อนออกมาอย่างแรงกล้าทั้งๆ ที่ไม่ต้องอาศัยเสื้อผ้าราคาแพงพวกนี้ด้วยซ้ำ
ผู้ชายตรงหน้าทั้งหล่อเหลาและก็ดูอันตรายในเวลาเดียวกัน
“พ่อของคุณขโมยเพชรของผมไป ซึ่งมันมีความสำคัญกับผมมาก”
“ไม่จริง! ฉันไม่มีวันเชื่อคำพูดของคุณหรอก คุณใส่ร้ายพ่อของฉัน พ่อของฉันไม่ใช่ขโมยและไม่มีวันเป็นด้วย พ่อทำงานสุจริต”
สาวน้อยเถียงออกมาโดยแทบไม่ต้องคิด แน่นอน หล่อนเชื่อว่าพ่อของหล่อนไม่มีทางเป็นขโมยไปได้ ถึงแม้ว่าท่าทางของบิดาเมื่อหลายวันก่อนจะมีพิรุธมากมายก็ตามที
“จะโกหกผมหรือว่าบัญชีของคุณไม่มีเงินเข้ามาเป็นจำนวนมาก”
ยาหยีหน้าซีดเผือดกับสิ่งที่ได้ยิน ใช่…บัญชีของหล่อนมีเงินเข้ามามากมายถึงสิบล้านบาท แต่ถึงยังไงหล่อนก็ยังไม่มีทางเชื่อว่าบิดาของตัวเองเป็นขโมย พ่ออาจจะได้โบนัสจริงๆ อย่างที่พูดก็ได้
“พ่อบอกว่าเป็นโบนัส เจ้านายใจดีเลยให้หลายเดือน”
คอร์เนลเค้นเสียงหัวเราะออกมา จ้องหน้าสาวน้อยตรงหน้าเขม็ง
“ผมคงลืมแนะนำตัวเองไปสินะ ผมคอร์เนส ซีร์ยานอฟ เจ้านายของพ่อคุณไง”
คราวนี้คนฟังถึงกับอ้าปากค้าง พูดไม่ออกเอาซะดื้อๆ หล่อนจำได้ จำได้ดีเสมอว่าคนที่พ่อของหล่อนไปทำงานด้วยนั้นชื่ออะไร คอร์เนล ซีร์ยานอฟ ลูกชายของอดีตมาเฟียในกรุงมอสโก และถึงแม้ว่าเขาจะประกาศตัวว่าชัดเจนว่าไม่ใช่ ‘มาเฟีย’ อีกแล้ว แต่หล่อนมั่นใจพันเปอร์เซ็นต์เลยว่านายคอร์เนล ซีร์ยานอฟคนนี้จะต้องเหี้ยมโหดไม่แพ้ผู้เป็นพ่อของตัวเองอย่างแน่นอน หรือบางทีอาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ เอ๊ะ! ถ้าอย่างนั้น พ่อของหล่อนก็กำลังตกอยู่ในอันตรายสินะ!
“คอร์เนล ซีร์ยานอฟ…” สาวน้อยเอ่ยชื่อของผู้ชายตรงหน้าอย่างเลื่อนลอย
“ใช่ ผมคือคอร์เนล ซีร์ยานอฟ คนที่พ่อของคุณขโมยเพชรของผมไปยังไงล่ะ คราวนี้เชื่อหรือยังว่าผมไม่ได้โกหก”
แม้น้ำเสียงของผู้ชายตรงหน้าจะราบเรียบ แต่หญิงสาวรู้ดีว่าภายใต้ความนิ่งเฉยมันต้องกำลังอัดแน่นไปด้วยไฟโทสะอันแรงกล้าอย่างแน่นอน ก็นัยน์ตาสีเขียวจัดของเขาบอกอย่างนั้น
“ฉัน…ไม่เชื่อ…”
“อย่าปฏิเสธความรับผิดชอบไปหน่อยเลยสาวน้อย อยากให้พ่อตายอย่างนั้นหรือ”
ไม่เคยเลยสักครั้งที่เขาจะใช้วิธีสกปรกแบบนี้เพื่อให้ได้ผู้หญิงสักคนมาขึ้นเตียง พวกหล่อนยินดีจะกระโดดขึ้นเตียงของเขา ขอเพียงแค่เขากระดิกนิ้วเรียกเท่านั้น แต่ทำไมกับผู้หญิงคนนี้ เขาถึงต้องใช้เล่ห์เหลี่ยมถึงเพียงนี้นะ ความจริงเขาควรจะจับหล่อนไปขังเอาไว้ และรอให้พ่อของหล่อนเดินเข้ามาติดกับเท่านั้นไม่ใช่หรือ แล้วทำไมเขาถึงไม่ทำล่ะ?
คอร์เนลร้องถามตัวเองด้วยความข้องใจ แต่ก็ไม่สามารถหาคำตอบให้กับตัวเองได้ เพราะสมองที่เคยเฉียบคม ตอนนี้กลับทื่อราวกับมีดเก่าเก็บที่ถูกโยนทิ้ง
ให้ตายเถอะ ทำไมพออยู่ต่อหน้าผู้หญิงคนนี้ เขาถึงคิดอะไรไม่ออกเลยนะ สมองวนเวียนอยู่กับเรื่องบนเตียงเพียงอย่างเดียวจนน่าตกใจ
“อย่าทำพ่อนะ”
“แล้วทำไมถึงคิดว่าผมจะยอมทำตามสิ่งที่คุณต้องการล่ะ ผมเสียหายมากนะสาวน้อย”
คนตัวโตพูดเสียงนุ่มนวล ขณะโบกมือไล่สาวใช้ที่นำเครื่องดื่มเข้ามาให้ด้วยท่าทางราวกับพระราชา ยาหยีเม้มปากแน่น มือบางกำเข้าหากันแน่นด้วยความเครียดเขม็ง เสียงหัวเราะของเขาช่างไม่ต่างจากมีดโกนดีๆ นี่เอง
นี่พ่อของหล่อนทำเรื่องน่าละอายแบบนั้นจริงๆ หรือ สาวน้อยร้องถามตัวเอง แล้วก็ต้องก้มหน้ายอมรับความจริงเมื่อสมองนึกถึงเงินจำนวนสิบล้านในบัญชีของตัวเอง และยังท่าทางลุกลี้ลุกลนของบิดาในวันนั้น
‘พ่อทำจริงๆ นั่นแหละ พ่อของหล่อนเป็นหัวขโมยที่ผู้ชายตรงหน้ากำลังต้องการตัว’
ความหวาดกลัวแล่นพล่านเข้ามาจับขั้วหัวใจ กิตติศัพท์ของพวกมาเฟียเหี้ยมโหดแค่ไหนทำไมหล่อนจะไม่รู้ คนพวกนี้มักจะตัดสินกันด้วยกระสุนปืน เห็นชีวิตคนเป็นผักเป็นปลา และที่สำคัญตอนนี้พ่อของหล่อนก็กำลังถูกพวกมาเฟียไล่ล่า
หล่อนยอมไม่ได้ ยอมให้พ่อของตัวเองตกอยู่ในอันตรายไม่ได้ ไม่ว่าจะต้องทำอะไร แลกด้วยอะไร หล่อนก็จะยอมทำทั้งสิ้น ขอเพียงให้ผู้บังเกิดเกล้าปลอดภัยเท่านั้น
“คุณต้องการอะไรแลกเปลี่ยนคะ” ในที่สุดยาหยีก็ถามออกไปอย่างไม่มีทางเลือก คนฟังระบายยิ้มพึงพอใจออกมา
“ถามได้ตรงประเด็นดีนี่สาวน้อย”